“ลู่ฝานกลับมาแล้วเหรอ กลับมาก็จะสู้กับเอี๋ยนชิงเลย ฉันต้องดูการต่อสู้ครั้งนี้ รีบไปตอนนี้เลย”

ที่คณะฟ้าร้อง หลัวตานรอยยิ้มเต็มใบหน้า ไม่เห็นความเศร้าซึมสักนิด เขายิ้มแล้วเดินออกไป สวมชุดคลุมยาวทั้งตัว เท้าเปล่า หลัวตานดูเก๋และไม่เหมือนใคร

ขณะเดียวกัน นักเรียนคณะฟ้าร้องที่ได้ยินว่าลู่ฝานจะสู้กับเอี๋ยนชิงอีกครั้ง ต่างพากันออกไปข้างนอก เพื่อไปคณะหยินหยางก่อนพระอาทิตย์ตก

คณะกระบี่

เสวียนเฟิงเก็บกระบี่ยาวที่สะบัดไปมา กระบี่เพิ่งเข้ามาในมือ ก็กลายเป็นผุยผง

“ลู่ฝานเชิญเอี๋ยนชิงต่อสู้เหรอ เขาคงไม่รู้ว่าตอนนี้เอี๋ยนชิงฝึกวิชาชั่วร้ายสินะ อืม เบื่อๆ อยู่พอดี ไปดูดีกว่า ก่อนฉันกลับมาค่อยแลกกระบี่ที่ดีกว่ากลับมา”

เสวียนเฟิงเดินออกจากประตูห้อง คนใช้สิบกว่าคนถือกระบี่เดินตามหลังเขา

คนพวกนี้เป็นนักกระบี่ที่เขาเพิ่งเรียกมาใหม่ ประโยชน์อย่างเดียวคือรักษากระบี่ เสวียนเฟิงอยากรู้ว่าผ่านเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีไป วิทยายุทธของลู่ฝานจะพัฒนาขึ้นหรือเปล่า

คณะกำแหง

เมื่อเฉียวเซวียนได้ยินข่าว ก็กระโดดลงจากเตียงทันที สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ ถึงกับสะดุ้งโหยง

“อะไรนะ ลู่ฝานไปคณะหยินหยางอีกแล้วเหรอ รีบเอาเสื้อผ้าฉันมา ฉันจะไปคณะหยินหยาง ถ้าเขาสองคนสู้กันอีก ต้องมีเป็นตายกันไปข้างแน่นอน พลาดการต่อสู้แบบนี้ไม่ได้”

เฉียวเซวียนเดินออกมาอย่างรีบร้อน

สาวใช้ข้างๆ ตะโกนว่า “เจ้านายยังไม่ได้ใส่กางเกงเลยค่ะ”

คณะสงบใจ

หมิงจูกำลังรดน้ำต้นไม้ หลิงเหยาที่อยู่ข้างๆ ได้ยินนักเรียนรายงาน ก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ไอ้หมอนี่กลับมาก็หาเรื่องแล้ว”

หมิงจูหัวเราะแล้วพูดว่า “ลู่ฝานไม่เคยหยุดเลยนะ ตั้งแต่เขาเข้าสถาบันสอนวิชาบู๊มา ต้องมีเรื่องทุกช่วงเวลา ถ้าสู้กับเอี๋ยนชิงอีก การต่อสู้แบบนี้น่าเบื่อ ไม่ต้องไปก็ได้ ศิษย์น้องหลิงเหยา ถ้าเธอกังวลก็ไปดูสิ”

หลิงเหยาส่ายหน้าพูดว่า “ฉันไม่กังวลเลยค่ะ ฉันอยู่นี่รดน้ำเป็นเพื่อนศิษย์พี่ดีกว่า”

หมิงจูพูดอย่างตกใจเล็กน้อย “มั่นใจในตัวเขาขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันจะเตือนเธอไว้ก่อน ตอนนี้พละกำลังของเอี๋ยนชิงยกระดับขึ้นมาก ก่อนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี เขามาคณะสงบใจ ฉันสู้กับเขาแค่สามกระบวนท่าก็แพ้แล้ว”

สีหน้าของหลิงเหยายังนิ่ง “ถึงเขายกระดับขึ้นอีกก็สู้ลู่ฝานไม่ได้”

หมิงจูเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ เธอฟังความแน่ใจแบบตอบอย่างไม่ต้องคิด จากน้ำเสียงของหลิงเหยา หมิงจูไม่รู้ว่าหลิงเหยาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ส่วนหลิงเหยาแอบคิดในใจ ถึงเป็นมารทั้งสี่นั่นแล้วไง อย่าบอกนะว่าตอนนี้เอี๋ยนชิงเทียบกับมารทั้งสี่ได้แล้ว

หลิงเหยาเงียบไป แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด “ศิษย์พี่ ตอนนี้พี่คงไม่ได้แค่สู้กับเขาสามกระบวนท่าหรอก ฉันรู้สึกว่าวิทยายุทธของพี่ยกระดับขึ้นมาก”

หมิงจูยิ้มแล้วพูดว่า “ยกระดับขึ้นนิดหน่อย ได้จากการรดน้ำต้นไม้น่ะ”

หลิงเหยาพูดอย่างตกใจ “รดน้ำก็ยกระดับวิทยายุทธได้เหรอ”

หมิงจูพยักหน้าพูดว่า “ได้สิ แค่ใจเธอสงบพอ ก็สามารถทำได้ เธอมาลองไหมล่ะ”

หลิงเหยาพยักหน้าแล้วเดินเข้ามา

คณะนานา คณะศิงขร และคณะบังเหิน ได้รับข่าวกันแล้ว

ไม่มีอะไรผิดคาด ทุกคนต่างฮือฮากับข่าวนี้ พากันมาที่คณะหยินหยาง

ความคิดของคนส่วนใหญ่เหมือนกับเฉียวเซวียน ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับความแค้นระหว่างคณะหยินหยางกับคณะหนึ่งเดียวต่างเข้าใจ การต่อสู้ของลู่ฝานกับเอี๋ยนชิงครั้งนี้ เป็นไปได้สูงว่าจะตายกันไปข้าง

ช่วยไม่ได้ ได้ยินว่าอาจารย์ของคณะหนึ่งเดียวกับอาจารย์ของคณะหยินหยาง โดนท่านผอ.ขังไว้เพราะทะเลาะกัน