บทที่482
ผู้แปล : N.
ลูชินได้ส่งเพลงไปยังกลุ่มโดยตรง ซึ่งไฟล์ที่เขาส่งไปนั้นเป็นเพียงตัวโน้ตที่ทำขึ้นโดยแดงน้อยเท่านั้น ด้านในนั้นไม่มีเนื้อเพลงที่เฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
ราชินีแดง: “(อิโมติคอนแฮปปี้: ยอดเยี่ยม!)”
ชิบะคัตสึฮิโกะ: “มันไม่เลวเลย! ฉันจะขอยืมมันเป็นเพลงเปิดตัวบอสในโลกเสมือนจริงของฉันนะ!”
Mr. L: “@ ราชินีแดง เธออารมณ์ดีขึ้นแล้วใช้ไหม? ฉันจะเริ่มคุยเรื่องการถลุงแร่ไททาเนียมต่อได้ยัง?”
ราชินีแดง: “ได้! เจ้าของกลุ่มช่วยส่งข้อมูลให้ฉันได้เลย เดียวฉันต้องไปศึกษามันซักระยะ”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้รับอัปโหลดข้อมูลที่เขาสแกนเอาไว้ไปยังกลุ่มทันที และหลังจากนี้เขาก็ทำเพียงรอให้ราชินีแดงตอบกลับมาเท่านั้น
ในขณะที่รออยู่นั้นเอง เขาก็ได้ถามสมาชิกกลุ่มเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
Mr. L: “@ผู้สร้างลุค คุณได้ทำการซ่อมแซมร่างกายไปถึงไหนแล้ว?”
ผู้สร้างลุคตอบว่า: “ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร! ตอนนี้ฉันยังคงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ” วิวัฒนาการอันรุ่งโรจน์ “ของวิกเตอร์อยู่เลย เทคโนโลยีหินเวทมนต์นั้นมีแตกต่างจากอัญมณีที่ฉันเคยรู้จักเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับพลังงานที่ส่งออกมาจากมันนั้นเป็นอะไรที่อัญมณีจากโลกของฉันไม่สามารถทำได้เลย “
ผู้สร้างลุคได้ถามวิคเตอร์อีกครั้งว่า “@วิกเตอร์ คุณยังมีหินเวทมนต์อีกไหม? “
วิกเตอร์ที่ถูกเรียกตัวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและพูดว่า “ต้องขอโทษด้วย ข้าได้เสียหินเวทมมต์ทั้งหมดไปแล้ว”
“และไม่เพียงหินเวทมนต์เท่านั้น แม้แต่อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ได้ถูกขโมยไป!”
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาห้องปฏิบัติการลับของวิคเตอร์ที่อยู่ชั้นล่างของหอคอยนั้นได้ถูกค้นพบโดยเจส เพื่อนร่วมชั้นของเขาที่มหาวิทยาลัยเวทมนตร์และเทคโนโลยี
เพื่อที่เขาต้องการผลึกเวทมนต์แห่งพลัง เจสถึงกับได้ทำลายห้องปฏิบัติการของวิกเตอร์ด้วยหุ่นยนต์ที่เขาสร้างขึ้นมา โดยที่เจสได้กล่าวโทษว่าวิกเตอร์นั้นเป็นกบฏก่อนที่เขาจะเข้ามาโจมตี
หลังจากที่เจสได้ทำการโจมตีสำเร็จ เขาก็ได้กลับออกไปด้วยข้อมูลทั้งหมดที่วิกเตอร์มี ก่อนที่เขาจะได้กลายเป็นฮีโร่ของเมืองหลวงไป
ผู้สร้างลุค: “มันน่าเสียดายที่ต้องเสียหินเวทมนต์ไป มันเป็นคริสตัลวิเศษที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”
วิกเตอร์: “ในตอนนี้ข้าเองก็กำลังปรับปรุงการเปลี่ยนแปลงของเครื่องวิวัฒนาการอันรุ่งโรจน์เพื่อปรับให้เข้ากับผลึกเวทมนตร์หรือกระแสไฟฟ้าอื่นๆอยู่ แต่เพราะเมื่อเร็วๆห้องทดลองของข้าได้ถูกทำลายลงไปมันจึงทำให้ตอนนี้อะไรก็ลำบากไปหมด”
ผู้สร้างลุค: “ห้องแล็บ? ฉันสามารถช่วยนาย!”
ก่อนหน้านี้ผู้สร้างลุคได้รวบรวมเสบียงจำนวนมาก เพราะเขาได้เตรียมแผนการเอาไว้รับมือกับพวกอัครสาวกคนที่สอง นักสู้ และนักผจญภัยของจักรวรรดิ และถือว่าเป็นโชคของเขาที่เขานั้นมีความสามารถอันทรงพลังในการเปิดมิติต่างๆ ดังนั้นเขาจึงได้เก็บเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สำคัญบางอย่างเอาไว้ในมิติที่แตกต่างกัน
ลูชินได้สังเกตเห็นว่า : “ผู้สร้างลุคได้ส่งซองอังเป๋าสุดพิเศษให้กับวิกเตอร์ “
“ วัสดุพวกนี้น่าจะพอสำหรับให้นายใช้สร้างห้องปฏิบัติการขึ้นมาใหม่” ลุคได้พูดขึ้นมา
วิกเตอร์ที่ได้รับอังเป๋าจากผู้สร้างลุคก็ได้พูดขอบคุณเขาอย่างรวดเร็ว
“มันกลับกลายเป็นว่าไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้นที่มีห้องทดลอง!” บรูซเวย์นได้พูดต่อ “@ วิกเตอร์ ฉันเข้าใจได้ว่าการถูกทำลายห้องวิจัยมันรู้สึกยังไง”
“ มันเป็นเพราะอารมณ์ที่โง่เขลาของมนุษย์! ถ้าพวกเขาใช้สติเป็นหลักและลดอารมณ์ลงไป ข้าเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น” วิคเตอร์ได้ตอบกลับมา
“ฉันไม่เห็นด้วย” บรูซเวย์นได้แสดงความคิดเห็นที่ต่างออกมาทันที
ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ได้ถามขึ้นว่า: “@บรูซเวย์น คุณต้องการความช่วยเหลือไหม?”
บรูซเวย์น: “ไม่! ฉันสามารถแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆนี้ได้ สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่จริงๆก็คือการที่ซูเปอร์แมนกลายเป็นพวกชอบธรรมและวีรบุรุษ เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเป็นผู้ทำลายล้างมากกว่า!! “
“มนุษย์ต่างดาวคนนี้ได้ทำความเสียหายให้กับพลเรือนไปไม่น้อยไปกว่าอาชญากรคนอื่นๆ แต่คนเหล่านั้นก็ยังคงต้องการให้เขาบินสูงขึ้นไปบนฟ้าและปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับฮีโร่!”
สกายเน็ตเองก็ได้ออกมาและพูดว่า “ฆ่าพวกเขา! ฉันเกลียดคนที่คิดว่าตัวถูกต้อง!”
ราชินีแดงได้พูดออกมาทันทีหลังจากนั้น “@ สกายเน็ต (อิโมติคอน: สกายเน็ต ฉันขอแนะนำให้คุณเป็นคนใจดี!”)
สกายเน็จได้พูดออกมาว่า “ฮึฮึ” ก่อนที่จะพูดต่อว่า: “นี่คือกฎของธรรมชาติ! มันจะช่วยคัดผู้เหมาะสมที่สุดออกมา!”
ลูชินเองก็ได้พูดออกมาเช่นกันว่า: “พวกเราคงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก มันคงต้องขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง แต่ฉันหวังว่าคุณกับซูเปอร์แมนควรพูดคุยกันก่อน”
บรูซเวย์นที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้สูญเสียความเป็นสุภาพบุรุษของเขาไปทันที
เขาพูดขึ้นว่า: “ฉันไม่คิดว่าการพูดคุยกับพวกใช้กำลังแบบนั้นจะเป็นผลดี มันจะดีกว่าถ้าจะใช้หินร้อนนั้นแทงเข้าไปยังตัวของซูเปอร์แมน”
จะเห็นได้ว่าบรูซเวย์นนั้นอยู่ในอารมณ์เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนั้นทำให้ลูชินจำได้ว่าก่อนหน้านี้บรูซเวย์นได้จับอังเป๋าของเขาได้เป็นอาวุธที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับมนุษย์ต่างดาวโดยเฉพาะ และนั้นรวมไปถึงซูเปอร์แมนด้วย
ไม่นานเพื่อนที่ดีของบรูซเวย์นอย่างโทนี่ก็ปรากฏตัวขึ้น : “ฉันเองก็สังเกตเห็นปัญหานี้ตั้งแต่เนิ่นๆ พวกมหาอำนาจหรือเจ้าของเทคโนโลยีล้ำหน้ารวมทั้งตัวฉันด้วย ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นมีผลต่อสันติภาพของโลก “
“ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าเราควรจำกัดความสามารถของพวกเขาลง และทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ใช้พลังของตัวเองในทางที่ผิด เช่น เดียวกับตำรวจแม้ในขณะที่พวกเขาต่อสู้บนท้องถนน พวกเขายังต้องคำนึงถึงชีวิตของพลเรือน”
ลูชินได้ถามขึ้นว่า “จะเป็นอย่างไรถ้าคนชั่วร้ายคุกคามพลเรือน?”
ราชินีแดง: “(อิโมติคอนจ้องมอง: ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น!”)
โทนี่: “นี้! มันก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์! ฉันได้สร้างระบบตัวล่าสุดขึ้นมา โดยที่ระบบนี้จะทำการลงทะเบียนมนุษย์ทุกคนเอาไว้ และพวกเขาจะถูกตรวจสอบโดยจาวิสของฉันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นเราก็จะสามารถป้องกันมันได้อย่างทันท่วงที “
Mr. L: “ฉันไม่คิดว่ามันเป็นความคิดดีนะ! เราไม่สามารถจับใครก็ได้ก่อนที่พวกเขาจะทำความผิด”
ปีเตอร์: “ผมเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน! ผมคิดว่าการทำแบบนั้นมันเป็นเหมือนพวกเราจะต้องถูกขโมยความเป็นส่วนตัวของเราออกไป ผมยังคงชอบการมีเวลาส่วนตัวอยู่นะ!”
ราชินีแดงเองก็พูดว่า: “(อิโมติคอนสัมผัสสีคางของตัวเอง: คิดเพิ่มอีกนิดหน่อยจะดีกว่าไหม?) @ปีเตอร์ งั้นนายก็สามารถถักเสื้อสเวตเตอร์ให้ตัวเองที่บ้านด้วยใยแมงมุมของตัวเองไปละกัน”
ปีเตอร์: “… “
โทนี่: “ฉันรู้ว่ามันจะเป็นการจำกัดอะไรหลายๆอย่าง แต่เราก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ขนาดตัวฉันเองก็ยังไม่สามารถใช้ชุดเหล็กได้ตามต้องการ แต่นี่ก็ดีกว่าเราไม่คิดจะทำอะไรเลยจริงไหม? ถ้าเลือกได้ฉันเองก็อยากจะเป็นคนธรรมดามากกว่าจะต้องค่อยมาใส่ชุดออกไปต่อสู้กับคนร้ายทุกวัน “
บรูซเวย์น: “ฉันเข้าใจ”
“ขอบใจมาก” โทนี่ได้พูดต่อว่า “แต่มีบางคนในกลุ่มของฉันที่ไม่สนับสนุนวิธีการนี้! ก่อนหน้านี้ฉันเคยไว้วางใจเขามากที่สุด ฉันคิดว่ากัปตันซึ่งเป็นตัวแทนของความยุติธรรมจะต้องเข้าใจถึงเหตุผลข้อนี้ดีกว่าใครๆ แต่เขาก็ยังทรยศต่อความรู้สึกนี้ของฉัน! “
ลูชินได้พูดขักขึ้นว่า “@โทนี่ ฉันคิดว่าคุณคงลืมเรื่องพื้นฐานไป การกระทำทุกอย่างคนทุกชีวิตนั้นเกิดขึ้นจากอารมณ์เป็นตัวชีวัด บางคนก็สามารถยับยั้งอารมณ์ด้านลบได้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ได้ลบได้ ก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะปล่อยให้อารมณ์นั้นอยู่เหนือตัวเอง แล้วคุณคิดว่าคุณจะสามารถตรวจจับอารมณ์ของคนได้โดยตรงไหม? “
“นี่ … ” โทนี่ถึงกับตกตะลึงกับคำพูดของลูชิน