บทที่ 1261 เจอทั้งศึกภายนอกภายใน / บทที่ 1262 เบาะแสทุกอย่างชี้ไปในทิศทางเดียว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1261 เจอทั้งศึกภายนอกภายใน

ในห้องรับแขก เยี่ยหวันหวั่นเทน้ำให้สวี่อี้หนึ่งแก้ว จากนั้นพูดเปิดประเด็นทันที “ตอนนี้ตระกูลซือเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อได้ยินคำถาม สวี่อี้วางแก้วน้ำในมือลงแล้วมองเยี่ยหวันหวั่น ถอนหายใจบอกว่า “คุณหนูหวันหวั่น บอกตามตรงนะครับ…ตั้งแต่ที่คุณชายเก้าหายตัวไป ผมก็รู้แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่กับตระกูลซือแน่ หลายคนยังไม่ยอมรับในตัวคุณชายเก้า ตอนคุณชายเก้าอยู่ยังไม่กล้าต่อต้าน คลื่นลมจึงสงบดี แต่พอคุณชายเก้าหายตัวไป…ก็เหมือนกับภูเขาไฟปะทุ ไม่มีทางรับมือได้เลย”

เยี่ยหวันหวั่นรู้ชัดดีแก่ใจว่าสวี่อี้พูดถึงอะไร

เบื้องบนของตระกูลซือหลายคนกลัวซือเยี่ยหานมาก หากซือเยี่ยหานอยู่ต้องกำราบพวกเขาได้แน่

แต่ครั้งนี้ซือเยี่ยหานหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าว จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย อย่างกับหายไปจากโลกใบนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ตระกูลซือใช้กำลังคนและกำลังทรัพย์จำนวนมากตามหาซือเยี่ยหาน ทว่าไม่ได้อะไรเลย

ตอนนี้ คนเบื้องบนในตระกูลซือหลายคนต่างคิดว่าเกิดเรื่องกับซือเยี่ยหาน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะไร้ข่าวคราวนานขนาดนี้…

“ก่อนหน้านี้ไม่นาน ครอบครัวซือหมิงหลี่กลับมา…คนระดับสูงในตระกูลหลายคนสนับสนุนให้ซือหมิงหลี่ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล…มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย พวกเขามีจุดจบที่ไม่ค่อยดีนักครับ” สวี่อี้ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด

กับเรื่องนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่แปลกใจเลย ก่อนหน้านี้ซือหมิงหลี่หนีออกจากประเทศจีนไปเพราะกลัวซือเยี่ยหาน แต่ตอนนี้ซือเยี่ยหานหายตัวไปไม่รู้เป็นหรือตาย ซือหมิงหลี่ไม่มีอะไรให้กลัวอีก จึงฉวยโอกาสดีๆ แบบนี้กลับมาอีกครั้งเพื่อโค่นตระกูลซือ…

“คุณย่าเป็นยังไงบ้าง?” เยี่ยหวันหวั่นถามอีก

ถึงแม้ตระกูลซือจะไม่มีซือเยี่ยหานอยู่ แต่คุณย่ามีอำนาจไม่น้อย น่าจะยังพอคุมคนระดับสูงพวกนั้นได้ชั่วคราว

“เฮ้อ…” เมื่อพูดถึงคุณย่า สวี่อี้ก็ถอนหายใจ “สถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยครับ ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย”

เยี่ยหวันหวั่นได้ฟังแล้ว สีหน้ายิ่งตึงเครียดกว่าเดิม

จากที่สวี่อี้บอก ตระกูลซือในตอนนี้เจอทั้งศึกภายนอกและภายใน แต่ที่ร้ายแรงอย่างที่สุด กลับเป็นเรื่องการเปลี่ยนขั้วอำนาจภายในของตระกูลซือ

คนระดับสูงที่เคยยืนอยู่ข้างเดียวกับซือเยี่ยหานถูกกำจัดแทบทั้งหมดแล้ว

หลังจากซือหมิงหลี่กลับมา เขาก็ได้รับแรงสนับสนุนจากพวกคนระดับสูงส่วนใหญ่ แถมยังยื่นเงื่อนไขล่อใจให้พวกเขาด้วย

ส่วนพวกฝ่ายค้านที่จงรักภักดีกับซือเยี่ยหาน และฝ่ายค้านที่มีท่าทีกระด้างกระเดื่อง ต่อต้านซือหมิงหลี่อย่างที่สุด ต่างก็หายตัวไปในชั่วข้ามคืน ไม่รู้เป็นหรือตาย

แต่สวี่อี้กลับรู้ชัดดีว่า พวกฝ่ายค้านที่จงรักภักดีกับซือเยี่ยหาน รวมถึงคนระดับสูงบางคนที่คิดจะชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ต่างก็โดนซือหมิงหลี่จัดการอย่างลับๆ กันหมดแล้ว…

“คุณหนูหวันหวั่น ตอนนี้ตระกูลซืออันตรายเกินไป…ผมคิดว่าจะหาโอกาสพาคุณนายใหญ่ออกจากตระกูลซือ…” สวี่อี้ถอนหายใจก่อนบอก

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว พูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะกลับกับนายไปด้วย แล้วรับคุณย่ามาอยู่กับฉันที่นี่”

เมื่อใดที่ซือหมิงหลี่กุมอำนาจในตระกูลซือสำเร็จ คุณย่าต้องตกอยู่ในอันตรายแน่…

หลังได้ยิน สวี่อี้รีบส่ายหน้า “คุณหนูหวันหวั่น ไม่ได้นะครับ…ไม่ได้เด็ดขาด! ซือหมิงหลี่เกลียดคุณหนูเข้ากระดูกดำ ตอนนี้ซือหมิงหลี่กุมอำนาจไว้ในมือ เสี่ยงเกินไป พอถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่พาคุณนายใหญ่ออกมาเลย แม้แต่ตัวคุณหนูเอง…ก็อาจจะหนีออกมาไม่ได้!”

เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้คัดค้านความเห็นของสวี่อี้ ความแค้นระหว่างเธอกับซือหมิงหลี่ เธอย่อมรู้ดีกว่าใคร

สำหรับซือหมิงหลี่ เขาคงโกรธเกลียดเคียดแค้นเธอมากแล้ว

————————————————————————————-

บทที่ 1262 เบาะแสทุกอย่างชี้ไปในทิศทางเดียว

อย่าว่าแต่ตอนนี้ที่ซือเยี่ยหานหายตัวไป เป็นตายไม่อาจคาดเดา ขนาดตอนที่ซือเยี่ยหานยังอยู่ ซือหมิงหลี่ยังคิดจะกำจัดเธอไม่รู้กี่ครั้งแล้ว…

“นายเป็นคนสนิทของคุณเก้า ถ้ากลับไปต้องมีอันตรายด้วยแน่ๆ” เยี่ยหวันหวั่นมองสวี่อี้ เปิดปากเอ่ย

แต่สวี่อี้กลับยิ้มอย่างจนใจ แล้วบอกว่า “คุณหนูหวันหวั่นไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ…พ่อผมทนแบกรับความอัปยศไว้ ตอนซือหมิงหลี่เพิ่งกลับมา เขาก็เดาไว้แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ พ่อผมกับตระกูลสวี่จึงเป็นคนแรกที่หันไปสนับสนุนซือหมิงหลี่…

ผมเองก็ถูกสถานการณ์บังคับให้สาบานว่าจะภักดีกับซือหมิงหลี่ ตอนนี้ซือหมิงหลี่ถือว่าทำดีกับตระกูลสวี่ไม่เลว ไม่ได้ลำบากอะไร”

เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเขา เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าเล็กน้อย ความจริงนี่ก็เป็นทางเลือกที่ฉลาดทางหนึ่งเหมือนกัน ในเมื่อซือหมิงหลี่กลับมา ก็แสดงว่าต้องมีการเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว

“ตอนนี้ ซือหมิงหลี่ร่วมมือกับตระกูลฉิน กุมอำนาจในตระกูลซือสำเร็จแล้ว…อำนาจในการตัดสินใจตอนนี้อยู่ในมือซือหมิงหลี่กับฉินรั่วซีทั้งหมด…มีเพียงคุณชายเก้าต้องกลับมา ถึงจะแก้ไขสถานการณ์ที่แทบจะเปลี่ยนแปลงได้ยากในตอนนี้ได้” สวี่อี้ถอนหายใจ

พูดนั้นง่าย แต่ซือเยี่ยหานหายตัวไปแล้วหลายวัน ถ้าหาเจอได้ก็คงหาเจอไปนานแล้ว แม้แต่สวี่อี้ก็ยังแอบสงสัยว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นกับซือเยี่ยหาน จนตอนนี้จากโลกนี้ไปแล้วหรือเปล่า…

“ฉันเข้าใจแล้ว ระหว่างนี้ต้องลำบากนายแล้ว อยู่ตระกูลซืออย่าประมาทเด็ดขาด ถ้ามีโอกาสก็พาคุณย่าออกมาดีที่สุด…ทางคุณเก้า ฉันจะรับหน้าที่ตามหาเขาเอง” เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดแล้วจึงบอก

ไม่ว่าจะเพื่อเรื่องชาติกำเนิดของเธอก็ดี สถานการณ์ในตระกูลซือตอนนี้ก็ดี หรือกระทั่งเพื่อตัวเธอเอง…เธอก็ต้องตามหาซือเยี่ยหานให้เจอ

“คุณหนูหวันหวั่น ตอนนี้ซือหมิงหลี่กำลังเก็บกวาดสถานการณ์ในตระกูลซือ ตอนนี้เขาน่าจะยังไม่มีเวลามาสนใจคุณหนู…” สวี่อี้มองเยี่ยหวันหวั่น “แต่ถ้าหากซือหมิงหลี่จัดการเรื่องในตระกูลซือเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะไม่ปล่อยคุณหนูไปแน่ คุณหนูไปจากที่นี่แล้วหาที่ซ่อนตัวดีกว่านะครับ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันจะระวังตัว” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบางๆ รับความหวังดีของสวี่อี้

หึ มีคนอยากได้ชีวิตเธอตั้งมากมาย มีเขาเพิ่มมาคนเดียวจะเป็นไรไป

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมต้องกลับก่อน ไม่งั้นพวกซือหมิงหลี่กับฉินรั่วซีจะสงสัยเอา” สวี่อี้บอก

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า ลุกขึ้นมาแล้วเดินไปส่งสวี่อี้ข้างนอกคฤหาสน์กุหลาบ

หลังจากสวี่อี้กลับไป เยี่ยหวันหวั่นก็จมอยู่ในห้วงความคิด

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เธอต้องตามหาซือเยี่ยหานให้เจอ และตอนนี้เบาะแสทุกอย่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน…รัฐอิสระ…

เยี่ยหวันหวั่นกอดความหวังเสี้ยวสุดท้ายโทรไปหาเซี่ยเจ๋อจือ

ปรากฏว่าปลายสายยังคงไม่มีคนรับ

หลังจากรู้เรื่องที่ซือเยี่ยหานหายตัวไป เธอก็เคยติดต่อเซี่ยเจ๋อจือกับหลินเชวีย แต่บังเอิญที่สองคนนี้ไม่อยู่ในประเทศพอดี ติดต่อไม่ได้เลย

ราวกับภายในชั่วข้ามคืน การติดต่อทุกช่องทางระหว่างเธอกับซือเยี่ยหานก็ถูกตัดขาดทั้งหมด…

หากต้องการตามหาซือเยี่ย ดูเหมือนจะเหลือแค่วิธีเดียวเท่านั้น…

……

ขณะเดียวกัน รัฐอิสระ ในเมืองที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายซึ่งแยกจากโลกภายนอกแห่งหนึ่ง

ชายหนุ่มสวมสูทสีขาวหรูหรา บนใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มจางๆ ราวสายลมฤดูใบไม้ผลิของเด็กชายข้างบ้าน ตอนนี้เขากำลังเท้าคางเอียงหัว นั่งอยู่บนที่นั่งสูงสุดของห้องโถงใหญ่

ด้านล่าง กลางห้องโถงใหญ่ที่มีแสงสลัว มีเสียงถกเถียงดังขึ้นเป็นระยะ