ตอนที่ 707 จิตวิญญาณอันตราย

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

จิ่วเยี่ยกล่าว “อีกชิ้นหนึ่งอยู่ในมือของข้า! หากข้าไม่ตกลง แม้ว่าสุ่ยจิงอิ๋งจะควบคุมมิติ แต่ก็ไม่สามารถส่งข้าออกไปได้”

“เจ้า…”

“ถ้าซีไม่พอใจ คงต้องโทษตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บ!”

“ครั้งหน้าห้ามเด็ดขาด! ดังนั้นข้าจึงจะสร้างความประทับใจให้กับเจ้า เพื่อที่ซีจะได้ไม่ปล่อยให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอีก”

การลงโทษเหมือนจะรักใคร่เอ็นดู แต่อย่างไรเสียผลลัพธ์ก็คือมู่เฉียนซีแทบจะสลายอยู่แล้ว

เมื่อมู่เฉียนซีตื่นขึ้นมา จิ่วเยี่ยก็จากไปแล้ว

ดูเหมือนว่าเขาจะมีเรื่องสําคัญที่ต้องทำทางนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ แน่

จิ่วเยี่ยในระหว่างการรักษามู่เฉียนซี หลายวันมานี้ไม่พบแขก!

ตอนนี้จิ่วเยี่ยกลับไปแล้ว อาการบาดเจ็บของมู่เฉียนซีก็หายดีแล้วจึงไปได้

หลังจากสงครามครั้งใหญ่นั้น สถานการณ์ที่พังพินาศก็ได้ถูกเก็บกวาดเรียบร้อย

จิ่วเยี่ยและอาถิงออกอุบายแบบนั้น ต่อให้มอบความกล้าหาญให้หุบเขาหมอเทวดาหมื่นครั้ง ช่วงนี้ก็คงไม่กล้ามาจัดการนางและสํานักศึกษาซวนเสียอย่างเปิดเผย

อาจารย์ใหญ่หวงฝู่ ซวนอี้ และอาจารย์ใหญ่ซวนได้มาเยี่ยมนาง

เมื่อเห็นอาจารย์ใหญ่ซวน มู่เฉียนซีก็คว้าตัวเขาไว้และกล่าวว่า “อาจารย์ใหญ่ซวน ในที่สุดข้าก็จับท่านไว้ได้แล้ว”

อาจารย์ใหญ่ซวนถอยหลังและกล่าว “สาวน้อย เจ้าอย่าแตะต้องข้านะ! ถ้าหมอนั่นหึงขึ้นมาแล้วเปลี่ยนข้าให้เป็นกระดูกขาว ข้าจะทำเช่นไร? ”

ต้องบอกเลยว่าวิธีการของจิ่วเยี่ย ทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจากส่วนลึกของจิตวิญญาณจริง ๆ

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ต้องกลัว! เขาไปแล้ว”

“ข้ามีเรื่องสําคัญจึงตามหาท่าน ข้าตามหาท่านมานานมากแล้ว แต่อาจารย์ใหญ่หลบซ่อนตัวเก่งมาก จนกระทั่งท่านปรากฏตัวขึ้นข้าถึงได้พบท่าน”

อาจารย์ใหญ่ซวนถาม “สาวน้อย เจ้าตามหาข้าทําไมรึ?”

ซวนอี้กล่าว “ท่านอาจารย์ เฉียนซีต้องการให้ท่านสร้างกระบี่เล่มหนึ่ง”

“กระบี่! มันง่ายมาก ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะให้รางวัลเจ้า! อย่างไรเสียผู้ที่สามารถสังหารศิษย์สายตรงของหุบเขาหมอเทวดาได้ ทั้งสํานักศึกษาซวนเสียของพวกเราก็มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ทําได้”

“อย่าว่าแต่กระบี่เล่มหนึ่งเลย แม้แต่หนึ่งร้อยเล่มก็ย่อมได้ ตอนนี้เจ้ามีความแข็งแกร่งระดับจักรพรรดิแห่งภูต กระบี่วิญญาณระดับปฐพีขั้นที่สาม เจ้าว่าอย่างไร?” อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าว

ซวนอี้กล่าว “อาจารย์ ไม่ใช่อย่างนั้น สถานการณ์ของเฉียนซีค่อนข้างพิเศษ!”

“พิเศษอะไร? หรือว่านางสามารถควบคุมขั้นที่เก้าได้ ต่อให้เป็นขั้นที่เก้า ข้าก็ให้ได้ ข้าไม่ตระหนี่ถี่เหนียวอยู่แล้ว”

มู่เฉียนซีกล่าว “ที่จริงแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการหลอมกระบี่เล่มใหม่ เพียงแต่ต้องการให้อาจารย์ใหญ่ช่วยข้าสร้างตัวกระบี่ขึ้นมาเท่านั้นเอง”

มู่เฉียนซีหยิบปลายกระบี่มังกรเพลิงออกมา มันเป็นปลายกระบี่ที่มองไม่เห็นถึงความแปลกประหลาดใดๆ

แต่อาจารย์ใหญ่ซวนกลับพุ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น และคว้าปลายกระบี่นั่นไป

มู่เฉียนซีเชื่อใจอาจารย์ใหญ่ซวน แม้ว่าจะพึ่งเจอกันเพียงครั้งเดียว แต่นางเชื่อว่าเขาไม่มีทางที่จะแย่งสมบัติมีค่าไป แม้ว่าเขาจะดูออกว่าปลายกระบี่ของกระบี่มังกรเพลิงนี้ไม่ธรรมดา

อาจารย์ใหญ่เบิกตากว้างใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ซวนอี้ขมวดคิ้วแน่น “ท่านอาจารย์!”

ในที่สุดอาจารย์ใหญ่ก็ได้สติกลับมาและกล่าวว่า “ซวนอี้ เจ้าออกไปก่อน! ข้ามีเรื่องจะคุยกับสาวน้อย!”

ซวนอี้ตะลึงงัน เรื่องสําคัญแค่ไหนกันที่แม้แต่เขาก็ยังฟังไม่ได้!

เพราะปลายกระบี่อันน่าพิศวงนี่รึ?

“เพื่อปกป้องความปลอดภัยของสาวน้อย ยิ่งรู้น้อยคนยิ่งดี ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเจ้า” อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าว

ซวนอี้พยักหน้า “ท่านอาจารย์ ข้ารู้! ข้าก็ไม่อยากให้เฉียนซีตกอยู่ในอันตราย”

การต่อสู้ครั้งนี้ มันน่าหวาดกลัวมาก เขาไม่อยากให้เฉียนซีต้องประสบมันอีกครั้ง

อาจารย์ใหญ่ถามว่า “สาวน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าปลายกระบี่นี้คือปลายกระบี่ของอะไร? ”

มู่เฉียนซีกล่าว “มันเรียกว่ากระบี่มังกรเพลิง!”

อาจารย์ใหญ่ส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่ใช่กระบี่มังกรเพลิง มันเป็นกระบี่นิรันดร์ กระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต! ”

มู่เฉียนซีถามขึ้น “อาจารย์ใหญ่ ท่านแน่ใจหรือ?”

“ข้าแน่ใจ ข้าตามหากระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตมานานมากแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดเป็นแน่! ข้าเคยหาข้อมูลไว้เยอะมาก ดังนั้นเมื่อเห็นปลายกระบี่นี้ก็รู้สึกได้ทันที” อาจารย์ใหญ่กล่าว

“ท่านลองบอกหน่อย ว่ากระบี่เล่มนี้มีความพิเศษอันใดกัน!”

“ธาตุไฟ กลืนกินวิญญาณ!” อาจารย์ใหญ่กล่าวอย่างช้า ๆ

อาจารย์ใหญ่มองไปที่มู่เฉียนซีและยิ้ม “สาวน้อย ไม่ต้องสงสัยแล้ว นี่ก็คือกระบี่นิรันดร์กระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต ในโลกนี้ ไม่มีทางมีกระบี่ที่พิเศษเช่นนี้เล่มที่สองแน่!”

“ในที่สุดข้าก็พบมันแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเพียงปลายกระบี่ ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต แต่ข้าก็พอใจแล้ว” อาจารย์ใหญ่ยิ้มราวกับเด็กคนหนึ่ง

มู่เฉียนซีกล่าว “อย่างที่อาจารย์ใหญ่ซวนได้ยินมา มันคือกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต ตอนนี้มีเพียงปลายกระบี่แต่ไม่มีตัวกระบี่ ข้าจึงไม่สามารถใช้มันได้เลย”

“นอกจากนี้ผู้สร้างอาวุธทั่วไปหลอมตัวกระบี่เข้าไป แต่ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวมันก็มิอาจทนได้อีกต่อไป แม้แต่ปรมาจารย์ผู้สร้างอาวุธเองก็สามารถใช้ได้เพียงสิบครั้งเท่านั้น”

“แม้สิบครั้งก็ยังดีกว่าครั้งต่อครั้ง ดังนั้นข้าจึงอยากให้อาจารย์ใหญ่ซวนสร้างตัวกระบี่ที่รับกันกับกระบี่มังกรเพลิงได้”

อาจารย์ใหญ่กล่าวด้วยความปวดใจว่า “ฝีมือของข้า จะให้หลอมตัวกระบี่ให้กับปลายกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต ข้ารู้สึกคับข้องใจยิ่งนัก”

มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “อาจารย์ใหญ่ซวน ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่เรื่องความคับข้องใจไม่คับข้องใจ แต่ข้าต้องการทำให้กระบี่เล่มนั้นสมบูรณ์ หากข้าสามารถหาตัวกระบี่เล่มเดิมของมันพบได้ ข้าก็ไม่จําเป็นต้องลําบากขนาดนั้น”

อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าว “สาวน้อย เจ้าอยากได้กระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตที่สมบูรณ์หรือไม่”

มู่เฉียนซีกล่าว “แน่นอน ใครบ้างที่ไม่อยากได้กระบี่นิรันดร์ อาจารย์ใหญ่ซวนก็รู้ว่าข้าเป็นนักปรุงยา! แต่ข้ากลับไม่ใช่ผู้บำเพ็ญภูติธาตุไฟ การได้รับกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตเป็นประโยชน์ต่อข้ามาก ตอนนี้ข้าก็กําลังหาวิธีหาตัวกระบี่ให้พบอยู่เหมือนกัน”

“สาวน้อย กระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตไม่ได้มีแค่ปลายกระบี่และตัวกระบี่เท่านั้น แม้ว่าเจ้าจะได้ตัวกระบี่มามันก็ไม่ใช่กระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตที่สมบูรณ์ มันแตกออกเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่ามีปลายกระบี่ ตัวกระบี่ วิญญาณกระบี่ จิตวิญญาณกระบี่ และฝักกระบี่เหล่านี้ต่างกระจัดกระจายไปจนหมดสิ้น หากเจ้าอยากได้กระบี่ที่สมบูรณ์สักเล่ม ก็ต้องหาสี่สิ่งที่เหลือนั่นให้พบ”

มู่เฉียนซีตะลึงงัน “ไม่ใช่แค่ตัวกระบี่เท่านั้น แต่ยังมีฝักกระบี่และวิญญาณกระบี่อีกด้วย!”

เสียงของอาถิงดังขึ้น “สาวน้อย ชายชราผู้นี้พูดถูก ข้าสงสัยมาตลอดว่าปลายกระบี่นี้ต้องไม่ใช่ปลายกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต เพราะไม่ว่าอย่างไรข้าก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าโหดเหี้ยมนั่นจะตกอยู่ในสภาพแตกเป็นเสี่ยง ๆ เช่นนี้ ไม่ได้ดีไปกว่าพี่สาวข้าเท่าไหร่เลย”

“นอกจากนี้ ข้าก็ไม่ต้องการให้เจ้าหามันจนครบ หาอาวุธที่สมบูรณ์อีกสักเล่มก็ได้แล้ว เรื่องอื่นเจ้าอย่าไปคิดเลย” อาถิงกล่าวต่อ

“ทําไมล่ะ?” มู่เฉียนซีถาม

นางยังจําได้ว่าตอนที่จิ่วเยี่ยมอบแหวนนิรันดร์ให้ เขาบังคับให้นางรับมันไว้แทบตาย

เมื่อต้องตามหาหม้อนิรันดร์อาถิงนั้นก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง

แต่ตอนนี้อาถิงกลับไม่ต้องการให้นางได้รับกระบี่นิรันดร์!

อาถิงกล่าว “กระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต แม้ว่าจะไม่ใช่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็เป็นอันตรายที่สุด พี่สาวเป็นคนอ่อนโยน นิรันดร์นั่นก็แสนดี มังกรวารีเมื่อยอมรับผู้เป็นนายก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่วิญญาณพิฆาตนั่นไม่รู้ว่าได้กลืนกินวิญญาณของผู้เป็นนายไปแล้วกี่ดวง เจ้ารู้หรือไม่ ?”

“ตอนนี้มันกลายเป็นเช่นนี้ ข้าบอกได้เพียงว่าสมควร! เจ้าอย่าไปยุ่งกับเขา ไม่เช่นนั้นวิญญาณของเจ้าจะถูกเขากลืนกินและข้าก็ไม่อยากจะฝังศพเจ้า”

อาถิงกับกระบี่นิรันดร์นั้นไม่ถูกกันอย่างมาก กระบี่นิรันดร์ที่สามารถทําให้อาถิงหวาดกลัวได้ นั่นหมายความว่ามันนั้นอันตรายมากจริง ๆ

มู่เฉียนซีถามว่า “หากไม่ทำให้สมบูรณ์ นั่นก็หมายความว่าข้าจะไม่สามารถครอบครองพลังวิญญาณธาตุไฟได้ใช่หรือไม่”