มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 581
เทพธิดาหานยู่ได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มพ่นลมหายใจออกมา ไม่ว่าใครก็สามารถฟังออกว่าต้วนฉือเทียนคนนี้กำลังจงใจหาเรื่อง แต่นางก็รู้ดี คนผู้นี้กับเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว ไม่ถูกกัน

ส่วนเจ้ายุทธจักรมรณาเซียวโป๋ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างเฉยเมย ด้วยสีหน้าสงบและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

แต่ว่าเทพธิดาหานยู่ก็รู้ดีว่าในบรรดาสี่เจ้ายุทธจักร คนที่น่ากลัวที่สุดคือชายชราคนนี้ที่มักจะยิ้มอยู่เสมอ อย่ามองแค่เพียงรอยยิ้มที่ใจดีของเขา เพราะเวลาฆ่าคนเขาเลือดเย็นเสียยิ่งกว่าใคร มิเช่นนั้นคงไม่ได้รับฉายาเจ้ายุทธจักรมรณา

สี่อาณาจักรใหญ่แห่งโลกแสงดาว ด้วยจำนวนที่มากของกองกำลังวิชามารของอาณาจักรตะวันตก ในบรรดาวิชามารคนส่วนมากฝึกตนวิชามารพิฆาต ก็มีเพียงเจ้ายุทธจักรมรณาเซียวโป๋คนนี้เท่านั้นที่ครองบัลลังก์อาณาจักรตะวันตก จึงไม่มีใครกล้าก่อเรื่องอะไรโดยไม่คิด

เผชิญหน้ากับคำสบประมาทของต้วนฉือเทียน สีหน้าของเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวก็ยังคงผ่อนคลาย “เจ้ายุทธจักรพลานุภาพคิดว่า คนที่ข้าเลือกมานี้แย่มากหรือ?”

เจ้ายุทธจักรพลานุภาพต้วนฉือเทียนคนนี้ร่างกายกำยำ คิ้วเข้มตากลม ได้ยินคำพูดนั้นอยู่ดี ๆ ก็เผยรอยยิ้มออกมา “ไม่เพียงแค่แย่ แต่แย่จนถึงที่สุดเลยต่างหาก!”

ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังยิ้มอยู่ คำพูดนั้นเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและประชดประชัน

อย่างไรก็ตามเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร พูดตอบพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้ายุทธจักรพลานุภาพรู้สึกว่าคนที่ข้าเลือกนั้นไม่ดีพอ เช่นนั้นพวกเรามาเดิมพันกันดูดีหรือไม่?”

“เดิมพันหรือ?” เจ้ายุทธจักรพลานุภาพเมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วหนา ๆ ของเขาก็เลิกขึ้นทันที

ระหว่างพวกเขาสี่เจ้ายุทธจักร ต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี เจ้ายุทธจักรพลานุภาพเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าหนุ่มหวูชิวคนนี้ไม่ได้มีเจตนาดีอย่างแน่นอน

หากพูดถึงความร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ ก็คงไม่พ้นเจ้ายุทธจักรมรณา แต่หากพูดถึงความฉลาดและไหวพริบ ในบรรดาทั้งสี่คน กลับไม่มีใครสามารถเทียบกับเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวได้เลย

ไหวพริบของเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว ไม่ว่าอย่างไรก็ดูไม่เหมือนคนที่ฝึกตนวรยุทธ์ธาตุไฟแม้แต่น้อย เพราะคนส่วนมากที่ฝึกตนวรยุทธ์ธาตุไฟ อารมณ์จะค่อนข้างร้อน ควบคุมตัวเองไม่ได้

“ท่านอยากเดิมพันอย่างไร?” ต้วนฉือเทียนฝืนใจถามกลับ

ทั้งที่รู้ว่าตัวเองอาจตกหลุมพรางของอีกฝ่าย แต่ต้วนฉือเทียนกลับยังคงต้องการรักษาหน้าตัวเอง ไม่เช่นนั้นถ้าหากไม่เดิมพัน ก็คงจะหนีไม่พ้นว่าตนนั้นกลัวเจ้าหวูชิวคนนี้?

หวูชิวยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อเจ้ายุทธจักรพลานุภาพคิดว่าข้าเลือกคนมาได้ไม่ดี เห็นได้ชัดว่าท่านคงจะมั่นใจในคนที่ท่านเลือกไม่เช่นนั้นก็ลองดูว่าพวกเขาทั้งสอง ใครจะได้อันดับในการประลองยุทธ์สูงกว่ากัน ท่านเห็นว่าเช่นไร?”

“ท่านแน่ใจหรือ?” ต้วนฉือเทียนรี่ตาลง เมื่อครู่เขาได้ใช้ตัวสำนึกตรวจสอบเด็กหนุ่มคนนั้นที่กำลังเดินขึ้นบันไดอยู่นอกตำหนัก เห็นได้ชัด ๆ ว่ามีเพียงแค่ผลการฝึกตนแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น7

เขาไม่รู้ว่าหวูชิวไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แค่เจ้าหนูจักรพรรดิยุทธ์ขั้น7คนหนึ่ง จะแข็งแกร่งไปกว่าพลังของผลการฝึกตนแดนมกุฎยุทธ์ขั้นสี่ได้งั้นหรือ?

ด้านหลังของต้วนฉือเทียน มีชายร่างกำยำยืนอยู่ตรงนั้นเช่นเดียวกัน เป็นชายผู้แข็งแกร่งที่มีความสูงเก้าศอก ผู้นี้คือลูกศิษย์ที่ได้รับการฝึกฝนจากเขาโดยตรง อย่ามองแค่เพียงผลการฝึกตนมกุฎยุทธ์ขั้นสี่ ความจริงแล้วพลังของเขานั้นเมื่อเทียบกับมกุฎยุทธ์ขั้นหกแล้ว ยังแข็งแกร่งเสียมากกว่า

ช่องว่างระหว่างคนทั้งสอง มันไม่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย

เทพธิดาหานยู่ก็มองไปทางเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ด้วยไหวพริบของหวูชิว ความจริงแล้วไม่ควรจะทำเรื่องอะไรที่ไม่ฉลาดเช่นนี้ถึงจะถูก

ไม่มีใครคิดว่า จักรพรรดิยุทธ์ขั้น7 จะสามารถสู้กับพลังของผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์ขั้นหกได้

ต่อให้คนที่หวูชิวเลือกมาจะมีพรสวรรค์มากมายเพียงใด สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ แต่คนอื่นก็มีพรสวรรค์ที่สูงมากเช่นกัน สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้เหมือนกัน ต่างกันราว ๆ หนึ่งแดนใหญ่ ช่องว่างระหว่างระดับนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเชื่อมได้

ในบรรดาสี่เจ้ายุทธจักร มีเพียงเจ้ายุทธจักรมรณาเซียวโป๋เท่านั้นที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่สามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเขาได้แม้แต่น้อย

“เจ้ายุทธจักรพลานุภาพไม่กล้าเดิมพันหรือ?” หวูชิวพูดพร้อมรอยยิ้ม

“ตลกหรือ! ข้ามีอะไรให้ต้องกลัวหรือไร?” ต้วนฉือเทียนเสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง สะเทือนไปทั้งโซนทั้งสี่ทิศเกิดเป็นระลอกคลื่นกระเพื่อมออกไป

ในความเห็นของเขา ไม่รู้ว่าหวูชิวกินยาอะไรผิดไป เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการพนันที่ต้องแพ้แน่ ๆ แต่กลับกล้ายกขึ้นมาเดิมพันกับตน?