บทที่ 1067 ผู้กุมสถานการณ

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

“หึ..”
  เฉินจิ้งเทียนทำเสียงสูงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน
  “แล้วฐานะที่แท้จริงของหลิงหยุนล่ะเจ้าไปสืบมาแล้วหรือยัง?”
  “ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเด็กนั่นจะเป็นใครแต่สำคัญตรงที่ว่าเด็กนั่นใช่คนตระกูลหลิงหรือไม่ต่างหาก! เจ้าต้องสืบมาให้รู้แน่ชัดให้ได้!”
  เมื่อฟังมาถึงตรงนี้..หลิงหยุนก็ได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า ‘ฐานะที่แท้จริงของข้า คงจะเป็นที่คลางแคลงใจของใครอีกหลายคนเลยสินะ’
  จากนั้นหลิงหยุนก็ได้ยินเฉินไห่เผิงพูดถึงตัวเขาต่อ“ท่านพ่อ.. ฐานะที่แท้จริงของหลิงหยุนนั้นยังไม่เป็นที่ชัดเจน! แต่เด็กนั่นก็ผงาดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ!”
  “จากที่ข้าสืบมาได้นั้นหลายๆ ฝ่ายต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลิงหยุนผู้นี้ประกาศตนเป็นศิษย์สำนักลึกลับสำนักหนึ่งที่มีชื่อว่า.. สำนักหมอสวรรค์!”
  “ส่วนฐานะที่แท้จริงของเขานั้นหลายตระกูลในปักกิ่งต่างก็ตั้งข้อสงสัยว่าหลิงหยุนจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่จะเป็นทายาทตระกูลหลิงหรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัด!”
  เฉินไห่เผิงหยุดครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วจึงพูดต่อว่า “ข้ายังได้ข่าวมาล่าสุดว่า.. หลิงหยุนเพิ่งจะเปิดบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นอย่างยิ่งใหญ่ในเมืองจิงฉู และในวันที่ทำพิธีเปิดนั้น ทั้งฉินฉางชิง หลินหงจวิน เกาเทียนหลง แล้วก็หลิงซิ่วแห่งตระกูลหลิง ต่างก็ไปร่วมแสดงความยินดีกับหลิงหยุนด้วย!”
  เฉินจิ้งเทียนถึงกับพึมพำออกมาอย่างประหลาดใจ“ในบรรดาแปดตระกูลใหญ่ มีถึงสามตระกูลเดินทางไปร่วมงานเลยรึนี่”
  เฉินไห่เผิงขมวดคิ้วพร้อมกับยืนยันว่า“เป็นเช่นนั้นจริงๆท่านพ่อ! ทุกคนต่างก็ไปร่วมพิธีตัดริบบิ้นอย่างเปิดเผยด้วย..”   “ตระกูลหลิงกับตระกูลเการ่วมมือกันเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะทั้งตระกูลหลิงและตระกูลเกา ต่างก็เห็นตระกูลเฉินเป็นศัตรูคู่แค้นเหมือนกัน!”
  “ส่วนหลิงหยุนกับเกาเฉินเฉินนั้นทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนนักเรียนกันมา และเวลานี้ก็กำลังคบหากันฉันท์ชายหญิง ไม่เช่นนั้นหลิงหยุนคงจะไม่มาช่วยเกาเฉินเฉิน และช่วยตระกูลเกาไว้เช่นนี้!”
  “ทางด้านฉินฉางชิงนั้นคาดว่าที่มาร่วมพิธีเปิดก็เพราะหลิงหยุนเป็นลูกบุญธรรมของฉินจิวยื่อ และฉินจิวยื่อก็เป็นคนของตระกูลฉิน”
  “แต่การปรากฏตัวของหลิงซิ่วแห่งตระกูลหลิงนั้นนับว่าเป็นเรื่องแปลกที่สุด และไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับตระกูลใหญ่ในปักกิ่งอย่างไรบ้าง”
  “แต่ก็เป็นไปได้ว่าที่นางตามเกาเทียนหลงไปด้วยนั้นก็เพราะต้องการประกาศความร่วมมือระหว่างตระกูลเกากับตระกูลหลิงก็เป็นได้.. อีกทั้งหลิงซิ่วกับหลิงหยุนเองก็แซ่หลิงด้วยกันทั้งคู่ และเวลานี้หลิงหยุนก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง เป็นไปได้ว่าหลิงซิ่วอาจอาศัยโอกาสนี้ตีสนิทกับหลิงหยุน..”
  “ตอนนี้ไม่ใช่ตระกูลเฉินเพียงตระกูลเดียวที่กำลังคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างหลิงหยุนกับตระกูลหลิงแต่แทบทุกตระกูลในปักกิ่งต่างก็พากันคาดเดาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน..”
  ดวงตาคมราวกับเหยี่ยวของเฉินจิ้งเทียนนั้นหลบต่ำลงครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องคาดเดา! ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงเช่นนี้ เราจำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด และควรต้องสรุปไปก่อนว่าหลิงหยุนก็คือทายาทตระกูลหลิง!”
  หลิงหยุนที่แอบฟังอยู่ได้แต่คิดในใจว่า‘ตระกูลใหญ่ในปักกิ่งล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คนโง่!’
  เฉินไห่เผิงถามขึ้นด้วยความสงสัย“ท่านพ่อ.. หากหลิงหยุนไม่ใช่คนตระกูลหลิงก็เรื่องหนึ่ง แต่หากเขาเป็นทายาทตระกูลหลิงจริงๆ เล่า..”
  เฉินจิ้งเทียนทำเสียงเย้ยหยัน“ไห่เผิง.. เจ้าผิดแล้ว! หลิงหยุนจะเป็นทายาทตระกูลหลิงหรือไม่เป็นนั้น ถึงอย่างไรเด็กนั่นก็ยังคงเป็นศัตรูของตระกูลเฉินอยู่ดี! เพียงแต่วิธีที่จะใช้จัดการกับมันต่างหากที่จะแตกต่างไป..”
  และจู่ๆเฉินจิ้งเทียนก็ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง “เจ้าอย่าลืมว่ายอดฝีมือของตระกูลเฉินมากมายต่างก็ถูกเจ้าเด็กนั่นสังหารตาย ยอดฝีมือที่เราส่งไปจิงฉูครั้งนี้ ก็ไม่มีใครรอดกลับมาได้เลยแม้แต่คนเดียว..”
  “ยังมีเหล่าแวมไพร์นินจา แล้วก็ยอดฝีมือจากสำนักต่างๆ อีกทั้งพี่ชายของเจ้าเฉินไห่คุน น้องชายของเจ้าเฉินไห่ซาน เจี้ยนห่าว แล้วก็เจี้ยนจื่อลูกชายของเจ้า ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกหลิงหยุนสังหารตายทั้งสิ้น ส่วนเจี้ยนกุ่ยกับเฉินเซินเองก็ถูกมันจับตัวไป..”
  “เพราะมีลุงของเจ้าที่อยู่ในหน่วยนภาพวกเราจึงคาดหวังว่าสักวันหนึ่งตระกูลเฉินจะสามารถผงาดขึ้นมาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งแทนตระกูลหลงได้ แต่เวลานี้.. หลิงหยุนเพียงคนเดียวกลับทำให้ทุกอย่างพังทลายลง ต่อให้พวกเราทนได้ แต่ลุงของเจ้าจะไม่มีวันยอมแน่..”
  เวลานี้..ตระกูลหลิงกับตระกูลเกา กำลังรอคอยที่จะได้แก้แค้นตระกูลเฉิน ในขณะที่ตระกูลเฉินก็กำลังรอคอยที่จะได้แก้แค้นหลิงหยุน!
  “เวลานี้..หลิงหยุนนับเป็นศัตรูที่ตระกูลเฉินไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ และลุงของเจ้าก็จะไม่ยอมปล่อยมันไว้แน่! เพียงแต่ความสัมพันธ์ในปักกิ่งนั้นลึกลับซับซ้อน ไม่เช่นนั้นลุงของเจ้าคงจะไม่นิ่งเฉยเช่นนี้!”
  เฉินไห่เผิงโค้งคำนับพร้อมกับพูดขึ้นว่า“ลูกเข้าใจดี! ข้าคงจะกังวลใจมากจนเกินไป เพราะหลิงหยุนนั้นเก่งกาจ และแข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังไม่เคยปล่อยให้ศัตรูมีชีวิตรอดเลย ข้าจึงเกรงว่า..”
  เฉินจิ้งเทียนแสยะยิ้มพร้อมกับถามออกไปว่า“ทำไม เจ้ากลัวเด็กนั่นรึ? กลัวว่ามันจะบุกมาที่นี่ และสังหารคนตระกูลเฉินทั้งหมดสินะ?”
  เฉินไห่เผิงก้มศรีษะลงเนิ่นนานก่อนจะตัดสินใจตอบไปว่า “ครับท่านพ่อ!”
  เฉินจิ้งเทียนมีสีหน้าโกรธเกรี้ยวแต่แล้วกลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแทน “ไห่เผิง.. เจ้ามั่นใจได้ ลุงของเจ้าจะไม่มีทางปล่อยให้ตระกูลเฉินถูกทำลายแน่! หากหลิงหยุนมันกล้าบุกมาที่นี่จริง รับรองว่ามันจะไม่ได้กลับออกไปอีกอย่างแน่นอน!”
  และลุงของเฉินไห่เผิงนั้นก็คือเฉินจิ้งเฉวียนซึ่งอยู่ในหน่วยนภานั่นเอง!
  เฉินไห่เผิงส่ายหน้าแล้วถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ.. แล้วถ้าหลิงหยุนเป็นทายาทตระกูลหลิงจริงๆล่ะ”
  เฉินจิ้งเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและตอบกลับไปทันที “ข้าเองก็คิดว่าหลิงหยุนน่าจะเป็นลูกของคุณชายสามแห่งตระกูลหลิงที่ชื่อหลิงเสี่ยว ว่าแต่ตอนนี้เจ้าได้เบาะแสของหลิงเสี่ยวบ้างหรือยัง”
  เมื่อได้ยินชื่อของหลิงเสี่ยวหลิงหยุนก็หูผึ่งขึ้นมาทันที และตั้งใจฟังโดยไม่ให้พลาดแม้แต่คำเดียว..
  เฉินไห่เผิงส่ายหน้าพร้อมกับตอบไปว่า“ท่านพ่อ.. จนป่านนี้ข้าเองก็ยังไม่พบเบาะแสของหลิงเสี่ยวเลย แต่ยืนยันได้เพียงอย่างเดียวว่าหลิงเสี่ยวไม่อยู่ในปักกิ่งอย่างแน่นอน!”   เฉินจิ้งเทียนขมวดคิ้ว“หลิงเสี่ยวคงต้องถูกใครจับตัวไปแน่! ที่ข้ามาพบเจ้าวันนี้ก็เพื่อต้องการจะมาคุยเรื่องนี้!”
  “เวลานี้ทั้งตระกูลหลงตระกูลเย่ ตระกูลซัน และตระกูลอื่นๆ แม้กระทั่งหน่วยเทพอินทรีย์ ต่างก็กำลังตามหาตัวหลิงเสี่ยวกันให้วุ่น เรียกได้ว่าใครที่สามารถหาตัวหลิงเสี่ยวพบก่อน ผู้นั้นก็จะกลายเป็นผู้กุมสถานการณ์ทันที!”
  “หากหลิงหยุนเป็นทายาทตระกูลหลิงจริงมันก็ต้องเป็นลูกชายของหลิงเสี่ยวที่เกิดจากหยิงชิงเฉวียนเมื่อสิบแปดปีก่อนอย่างแน่นอน! ด้วยเหตุนี้.. ใครที่หาตัวหลิงเสี่ยวพบก่อน คนผู้นั้นก็จะสามารถควบคุมหลิงหยุนได้!”
  ‘หยิงชิงเฉวียนงั้นรึนี่แม่ของข้าชื่อว่าหยิงชิงเฉวียนหรือนี่?’ novel-lucky
  ทันทีที่หลิงหยุนได้ยินชื่อของธิดาพรรคมารคนก่อนเขาก็ถึงกับหัวใจเต้นแรง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อของแม่ผู้ให้กำเนิดตนเอง และได้แต่คิดว่าชื่อนางนั้นช่างไพเราะเหลือเกิน!
  จากการแอบฟังสองพ่อลูกตระกูลเฉินพูดคุยกันในครั้งนี้ทำให้หลิงหยุนได้รับรู้เรื่องราวมากมายหลายเรื่องเลยทีเดียว..
  เรื่องแรก..เขาได้รู้ว่าตระกูลต่างๆในปักกิ่งล้วนแล้วแต่ให้ความสนใจ และให้ความสำคัญกับหลิงหยุน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเห็นเขาเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง หรือต้องการที่จะเอาชนะตระกูลอื่นก็แล้วแต่ แต่โดยรวมแล้วหลิงหยุนก็คือบุคคลที่ทุกตระกูลอยากรู้จัก!
  เรื่องที่สอง..หลิงหยุนได้รู้ว่าตระกูลเฉินนั้นยังคงไม่เห็นตระกูลหลิง และตระกูลเกาอยู่ในสายตา แม้ว่าทั้งสองตระกูลจะร่วมมือกันก็ตาม!
  และคนที่ตระกูลเฉินนับเป็นศัตรูคนสำคัญก็คือหลิงหยนุ!
  ยิ่งไปกว่านั้น..หลิงหยุนก็ยังได้รู้ว่า ตระกูลเฉินนั้นมั่นอกมั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถจัดการกับหลิงหยุนได้ เพราะมีคนชื่อเฉินจิ้งเฉวียนซึ่งอยู่ในหน่วยนภา..
  และที่สำคัญ..หลิงหยุนยังได้รู้ว่าเวลานี้นอกจากตระกูลเกากับตระกูลหลิงแล้ว ตระกูลใหญ่อื่นๆ ในปักกิ่งนั้นได้แต่คลางแคลงใจในความสัมพันธ์ระหว่างหลิงหยุนกับตระกูลหลิง แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่นอน..
  ดังนั้น..สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับหลิงหยุนในเวลานี้ก็คือ การปกปิดฐานะของตนเองไว้เป็นความลับ..
  อีกทั้งยังได้รู้ว่าข่าวคราวเรื่องการหายตัวของหลิงเสี่ยวนั้นตระกูลใหญ่ในปักกิ่งก็ล่วงรู้กันหมดแล้ว เพียงแต่ทุกคนแอบตามหาหลิงเสี่ยวกันอย่างเงียบๆ และใครที่เป็นฝ่ายหาตัวหลิงเสี่ยวได้พบก่อน ก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ..
  และจากบทสนทนาของสองพ่อลูกตระกูลเฉินนั้นยังทำให้หลิงหยุนได้รู้ว่าหลิงเสี่ยวไม่ได้ตกอยู่ในเงื้อมือของตระกูลใดตระกูลหนึ่งในปักกกิ่ง ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะไม่ส่งคนออกตามหาเช่นนี้..
  และข้อมูลเหล่านี้ก็ทำให้ภารกิจของหลิงหยุนในการตามหาพ่อนั้นเบาขึ้นมาก!
  และเหนือสิ่งอื่นใด..การได้รู้ชื่อแม่ผู้ให้กำเนิดตนเองนั้น ทำให้หลิงหยุนทั้งตื่นเต้น ดีใจ และตกใจไปพร้อมๆกัน!   หลิงหยุนมัวแต่ครุ่นคิดจนเกือบจะพลาดบทสนทนาสำคัญต่อไปนี้..
  “ท่านพ่อ..ลูกเข้าใจแล้ว และจะพยายามใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ ตามหาหลิงเสี่ยวให้พบโดยเร็วที่สุด!” เฉินไห่เผิงรับปากด้วยน้ำเสียงขึงขัง
  เฉินจิ้งเทียนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“หากหลิงหยุนเป็นลุกชายของหลิงเสี่ยวจริง ก็ยิ่งง่าย! พวกเราก็แค่หาหลิงเสี่ยวให้พบก่อน หลังจากได้ตัวหลิงเสี่ยวมาแล้ว ก็จะสามารถจัดการกับหลิงหยุนได้ไม่ยาก..”
  “เพราะเราจะใช้หลิงเสี่ยวบีบบังคับให้หลิงหยุนทำลายวรยุทธของตนเองเสียจากนั้นค่อยทำลายตระกูลหลิงเพื่อเป็นการแก้แค้นต่อไป..”
  แต่เฉินไห่เผิงกลับกระซิบเสียงเบา“ท่านพ่อ.. แต่เท่าที่ข้ารู้มา เจ้าเด็กหลิงหยุนนั่นเป็นคนที่ไม่สนใจกฏเกณฑ์ใดๆเลย ต่อให้เราได้ตัวหลิงเสี่ยวมา ข้าเกรงว่ามันจะไม่แยแสชีวิตของหลิงเสี่ยวน่ะสิ..”
  “ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..”   เฉินจิ้งเทียนได้ฟังถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“ไห่เผิง.. เจ้าผิดอีกแล้ว! ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะหวาดกลัวเด็กหลิงหยุนมากจนเกิน..
  “ข้ายังไม่เคยได้ยินว่ามีลูกหลานคนใหนของตระกูลหลิงอกตัญญูเลยแม้แต่คนที่ทำผิดพลาดอย่างผู้นำตระกูลหลิงคนปัจจุบัน เพราะนี่เป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของคนตระกูลหลิง..”
  “เจ้าไม่ต้องกังวลใจเรื่องนี้ไป..”
  ‘แม้แต่คนที่ทำผิดพลาดอย่างผู้นำตระกูลหลิงคนปัจจุบันงั้นรึก็หมายถึงหลิงเจิ้นน่ะสิ!’
  เฉินไห่เผิงพยักหน้า“ขอบคุณท่านพ่อที่ชี้แนะ..”
  เฉินจิ้งเทียนจึงพูดต่อว่า“ตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเจี้ยนกุ่ยถูกนำตัวไปไว้ที่ใหนกันแน่ ไม่มีเจี้ยนกุ่ยสักคนพวกแวมไพร์ตะวันตกก็ใช้การอะไรไม่ได้ แม้พวกมันจะแข็งแกร่ง แต่ก็พึ่งพาอะไรไม่ได้!”
  “ส่วนชาวญี่ปุ่นเวลานี้ก็มีศัตรูคนเดียวกันกับตระกูลเฉินคาดว่าพวกเขาต้องกลับมาแก้แค้นเร็วๆนี้แน่!”
  “ทางด้านลุงของเจ้าที่อยู่ในหน่วยนภานั้นก็มีสหายมากมาย คาดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พวกเขาจะต้องออกมาช่วยตระกูลเฉินเช่นกัน!”
  “ส่วนตระกูลซันนั้นเวลานี้แทบปกป้องตัวเองไม่ได้ข้าได้ข่าวมาว่าพวกเขากำลังวิ่งวุ่นขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นไปทั่ว.. พวกเขาไปขอความช่วยเหลือทั้งจากหน่วยนภา และสำนักต่างๆมากมาย..”
  “ตระกูลซันไม่ได้พ่ายแพ้ให้แก่ตระกูลหลิงแต่พวกเขาพ่ายแพ้ให้แก่หลิงหยุน และเมื่อใดที่หลิงหยุนมาถึงปักกิ่ง ตระกูลซันคงต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมอย่างแน่นอน..”
  “พวกเราก็แค่รอให้หลิงหยุนไปถล่มตระกูลซันก่อนถึงเวลานั้นเราก็ส่งคนไปซุ่มดู และหากมีโอกาสพวกเราก็รีบลงมือสังหารหลิงหยุนเสีย แต่หากหลิงหยุนมันบุกมาที่ตระกูลเฉินก่อน เจ้าก็รีบไปขอให้ตระกูลซันมาช่วย และให้พวกเขาออกหน้าไปตายแทนก่อน..”
  “แต่ไม่ว่าอยางไร..ข้าว่าครั้งนี้ตระกูลซันคงต้องถึงคราวล่มสลายอย่างแน่นอน!”