บทที่ 1265 จะไม่อยู่สักช่วงหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ที่ประเทศจีน
เยี่ยหวันหวั่นให้พวกไฮดี้ไปสืบข่าวเยี่ยมู่ฝานกับพ่อของเธอเยี่ยเส่าอัน
โลลิน้อยกับไฮดี้ออกจากคฤหาสน์กุหลาบตั้งแต่เช้า กระทั่งตอนเที่ยงทั้งสองถึงจะกลับมา
“เจ้านาย ได้เรื่องแล้วครับ!”
ไฮดี้ดื่มน้ำก่อน จากนั้นก็เดินเข้ามาบอกเยี่ยหวันหวั่น
“เป็นยังไงบ้าง?” เยี่ยหวันหวั่นถามไฮดี้
“เจ้านาย คนที่เจ้านายให้ผมไปสืบมามีข่าวแล้วครับ ช่วงนี้ผมได้เพื่อนที่นี่หลายคน เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเขาบังเอิญรับผิดชอบคดีนี้อยู่พอดี ถึงหลักฐานจะชัดเจนมาก แต่เพราะเยี่ยหงเวยกับถานอี้หลาน บวกกับคดีนี้ยังมีจุดน่าสงสัยอยู่อีกนิดหน่อย ทำให้คดีล่าช้าลงในตอนนี้ อย่างน้อยก็อาจจะอีกครึ่งปีกว่าจะขึ้นศาลกัน” ไฮดี้บอก
หลังจากได้ฟัง เยี่ยหวันหวั่นเหมือนครุ่นคิดอะไร
เหมือนอย่างที่ไฮดี้บอก ถึงภาพจากกล้องวงจรปิดจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐาน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกขั้นหนึ่ง ส่วนคุณปู่กับคุณย่าย่อมไม่อยากให้เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงมีปัญหาอยู่แล้ว จึงน่าจะเจรจากับเหลียงเหม่ยเซวียนด้วย แม้จะไม่รู้ว่าตกลงกันด้วยเงื่อนไขใด แต่ก็ยังเหลือเวลาให้เธอมากพออยู่
นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเยี่ยหวันหวั่น
ความจริง ถ้าเริ่มลงมือจากพ่อบ้านหวงกับเหลียงเหม่ยเซวียน ไม่ว่าใช้วิธีไหนก็น่าจะหาหลักฐานที่มากพอจะปล่อยตัวเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงได้
ทว่า เหลียงเหม่ยเซวียนกับพ่อบ้านหวงระวังตัวมาก แม้แต่เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังข้างนอกก็ยังไม่ยอมหลุดปากเลยสักนิด ถ้าหากจะใช้วิธีทั่วไป ทำให้พ่อบ้านหวงกับเหลียงเหม่ยเซวียนยอมรับว่าพวกเขาต่างหากเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และจ้างคนร้ายมาฆ่าคน ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นภายนอก
โชคดีที่คดีนี้ถูกตัดสินให้ยืดเวลาออกไปอีกครึ่งปี เธอเลยยังมีเวลา
ตอนนี้ ไม่เป็นการดีที่จะสะกดรอยตามเหลียงเหม่ยเซวียนกับพ่อบ้านหวงอีก ถ้าแหวกหญ้าให้งูตื่น เกรงว่าจะหาช่องโหว่ได้ยากอีก ทำได้แค่รอให้สองคนนั้นตายใจจริงๆ เท่านั้น
เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลซือก็ดี ตระกูลเยี่ยก็ดี ต่างไม่มีที่สำหรับเธอแล้ว การอยู่ประเทศจีนต่อไปไม่ใช่ความคิดที่ฉลาด ไม่อย่างนั้นถ้าหากซือหมิงหลี่เตรียมตัวจะเล่นงานเธอ อาจจะทำให้แม่เธอเหลียงหว่านจวินพลอยเดือดร้อนไปด้วย ไปจากที่นี่สักพัก น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
หากเธออยากรู้เรื่องชาติกำเนิดของตัวเอง แก้ไขปัญหาในตระกูลซือและตระกูลเยี่ย ก็ต้องตามหาซือเยี่ยหานให้เจอเท่านั้น
และเบาะแสทั้งหมดก็ชี้ไปยังสถานที่เดียว…รัฐอิสระ!
“เจ้านาย เจ้านายจะจัดการเรื่องนี้ยังไงครับ จะให้พวกเราทำอะไรอีกดี?” เหล่าเจียงหันไปถามเยี่ยหวันหวั่น
“ตอนนี้ยัง” เยี่ยหวันหวั่นเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นบอกว่า “ฉันอาจจะไม่อยู่สักช่วงหนึ่ง”
“ไม่อยู่?!”
เมื่อได้ยิน โลลิน้อยดวงตาวาบประกาย “เจ้านาย…เจ้านายจะไปไหนเหรอคะ?”
“รัฐอิสระ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยแววตามุ่งมั่น
สถานการณ์ในตอนนี้ เยี่ยเส่าถิงกับเยี่ยมู่ฝานโดนใส่ร้าย ตระกูลซือโดนซือหมิงหลี่กับฉินรั่วซียึดอำนาจ ซือเยี่ยหานหายตัวไป ถึงเธอจะอยู่ในประเทศต่อไปลำพัง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
ถ้าต้องการแก้ไขทุกอย่าง ทางที่ดีที่สุดก็คือออกจากประเทศจีนไปสักระยะ แล้วมุ่งหน้าไปรัฐอิสระเพื่อตามหาซือเยี่ยหาน
ทางคุณพ่อกับเยี่ยมู่ฝาน มีคุณปู่คุณย่าให้พึ่งพาอยู่ ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นจึงไม่เป็นห่วงมาก พักนี้จำเป็นต้องลำบากพวกเขาไปก่อน
ถ้าเธอหาตัวซือเยี่ยหานเจอแล้วกลับจากรัฐอิสระเมื่อไร เธอจะกลับมาจัดการพ่อบ้านหวงกับเหลียงเหม่ยเซวียน แล้วคืนอิสระให้เยี่ยเส่าถิงกับเยี่ยมู่ฝานอย่างแน่นอน
ตอนนี้ ขนาดเธอเองยังเอาตัวไม่รอด ยิ่งไม่สามารถปกป้องคนอื่นได้
————————————————————————————-
บทที่ 1266 สถานที่พิเศษเฉพาะ
“รัฐอิสระ…”
พวกไฮดี้กับโลลิน้อยอึ้งไปทันทีที่ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นบอก
พวกเขารู้จักรัฐอิสระอยู่แล้ว สถานที่ที่เป็นเหมือนสวรรค์ของทหารรับจ้าง ศิลปะการต่อสู้เฟื่องฟูมาก…
“เจ้านาย พวกเราอยากไปรัฐอิสระมาตลอดเลย แต่ก็ไม่เคยกล้าไปเลยสักครั้งครับ…” ไฮดี้พูดยิ้มบอก
รัฐอิสระต่อต้านคนนอกมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าคนนอกเข้าไปในรัฐอิสระโดยไม่มีเอกสารรับรอง จะต้องพบกับจุดจบอันเลวร้าย และถึงมีเอกสารรับรอง แต่หากไม่ระวังตัว ก็อาจเอาชีวิตไปทิ้งไว้ในสถานที่แห่งนั้นได้ง่ายๆ
ที่นั่นเป็นสถานที่ที่แทบจะไม่มีกฎหมายเลยก็ว่าได้…
ตลอดมา กฎเกณฑ์ทั้งหมดสร้างขึ้นโดยสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระ รวมถึงสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์
ได้ยินมาว่ากฎหมายข้อหนึ่งระบุว่ารัฐอิสระไม่อนุญาตให้ใครก็ตามพกพาอาวุธสมัยใหม่เช่นปืน ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ หากถูกจับได้ ทุกคนที่อาศัยอยู่ในรัฐอิสระมีสิทธิ์ซ้อมคนคนนั้นจนตาย
สำหรับรัฐอิสระแล้ว การพกอาวุธถือเป็นเรื่องน่าอัปยศ
นี่ก็เป็นเหตุผลที่หลายประเทศไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับรัฐอิสระ
รัฐอิสระถือเป็นโลกที่ตัดขาดจากภายนอก มีกฎเกณฑ์ของตัวเอง ไม่อนุญาตให้พกปืนและผลิตอาวุธร้อน ไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศใดในโลก ดังนั้นจึงไม่มีประเทศมหาอำนาจใดที่คิดร้ายกับรัฐอิสระ
ยกตัวอย่างเช่น หากมีประเทศมหาอำนาจต้องการกำจัดรัฐอิสระ ทันทีที่รัฐอิสระล่มสลาย สุดยอดนักสู้หรือตระกูลสายยุทธ์ทั้งหมดก็จะกระจายไปยังประเทศต่างๆ
เมื่อถึงตอนนั้น ไม่มีกฎเกณฑ์ของรัฐอิสระคอยควบคุม…ไม่ว่าจะสำหรับประเทศใดก็ตาม การที่ต้องเผชิญหน้ากับตระกูลที่เก่งด้านศิลปะการต่อสู้โบราณล้วนไม่ใช่เรื่องดี
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ พวกตระกูลผู้สืบทอดวิชาต่อสู้แบบโบราณไม่จำเป็นต้องทำตามกฎหมายของรัฐอิสระอีก หากเมื่อใดพวกเขาได้ใช้อาวุธปืน…จะต้องเกิดหายนะอย่างแน่นอน
รัฐอิสระไม่ขึ้นตรงกับประเทศใด ก็ยังอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้ แถมยังไม่มีประเทศไหนกล้าหาเรื่องอีก ย่อมต้องมีกฎเกณฑ์และระบอบการปกครองตนเองที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว
“เจ้านาย ให้พวกฉันไปด้วยไหมคะ?” โลลิน้อยถามเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิด ไม่นานก็ส่ายหน้า “ครั้งนี้ไม่ต้องละ”
แม้ไฮดี้กับเหล่าเจียงจะรู้จักรัฐอิสระอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เคยไป เธอไม่รู้สักนิดว่าตอนนี้รัฐอิสระเป็นสถานที่แบบไหน คนเยอะจะยิ่งเกะกะมือเท้า
พอรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นไม่คิดจะพาพวกเขาไปด้วย พวกเขาก็ไม่พูดอะไรมากอีก
รัฐอิสระเป็นสถานที่ที่พิเศษมาก แตกต่างจากประเทศอื่นในโลก
ได้ยินมาว่าศิลปะการต่อสู้ของรัฐอิสระรุ่งเรืองมาก แต่เรื่องอื่นนอกจากศิลปะการต่อสู้กลับค่อนข้างล้าหลัง
อย่างเช่นมายากลของรัฐอิสระ เทียบกับประเทศจีนแล้วล้าหลังกว่าอย่างน้อยสิบปีทีเดียว นักมายากลที่มีทักษะการเล่นมายากลยอดเยี่ยมสามารถทำเงินในรัฐอิสระได้อย่างมหาศาล และได้รับการยกย่องด้วย
แน่นอนว่าเงื่อนไขก็คือ นักมายากลที่กล้าเดินทางไปรัฐอิสระจะต้องไม่ถูกคนในประเทศจับได้ว่าเป็นคนนอก และมีเอกสารรับรอง ไม่อย่างนั้น ถึงหาเงินได้ก็ไม่มีชีวิตให้ใช้เงินอยู่ดี…
นอกเหนือจากนี้ วัฒนธรรมการพนันในรัฐอิสระแทบไม่ด้อยไปกว่าเมืองใหญ่ในประเทศมหาอำนาจอย่างลาสเวกัสเลย
แถมการแข่งต่อยมวยใต้ดินก็ยังเป็นที่นิยมมาก นอกจากแข่งมวยระหว่างคนแล้ว ยังมีการแข่งระหว่างคนกับสัตว์ที่ดุร้ายด้วย