เนื้อส่วนใหญ่นั้นถังซีเป็นคนทาน ทำไมน่ะหรือ
ก็เพราะเธอมีพี่ชายที่คอยเอาอกเอาใจเธออย่างมาก เซียวส่าเอาแต่คีบเนื้อใส่ลงในชามของเธอ ขณะกล่าวกับคนอื่นๆ ว่า “ทุกคนควรขอบคุณโหรวโหรว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันก็คงไม่เตรียมอาหารให้พวกนายแบบนี้หรอก เหลือเนื้อน้อยหน่อยนะ ฉันเองก็ไม่ได้ทานมากนัก”
จากนั้นถังซีก็ทานเอาทานเอาอย่างมีความสุข
เฉียวเหลียงขอให้เธอทานช้าๆ จะได้ไม่สำลัก
เฮ่อหว่านอีอยากดื่มเบียร์นิดหน่อย แต่เฮ่อหว่านโจวรีบห้ามเธอ “อย่าดื่มเบียร์เลย เธอไม่ค่อยสบาย”
“ใครบอกว่าฉันไม่ค่อยสบาย” เฮ่อหว่านอีสะบัดมือออก รินเบียร์ให้ตัวเองแก้วหนึ่ง ดื่มเข้าไปอึกใหญ่ แล้วร้องอุทาน “รสชาติดีจัง”
เฮ่อหว่านโจวพูดไม่ออก หางตาเขาหรี่ลง “หมูก็พูดอย่างนี้เหมือนกัน!”
พวกเขาทานหม้อไฟกันกว่าจะเสร็จก็ตีสอง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับ เฉียวเหลียงบังคับให้พวกเขาทำความสะอาดบ้าน พวกผู้ชายต้องเก็บเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ทำความสะอาดห้อง ล้างจานใส่ลงในเครื่อง ก่อนที่พวกเขาจะออกไป…
และถังซีถูกเซียวจิ่งกับเซียวส่าลากกลับบ้าน ทั้งสองขู่เฉียวเหลียงก่อนจะจากไป “คุณพ่อคุณแม่เราเกลียดการอยู่ร่วมกันโดยไม่ได้แต่งงาน ถ้านายทำแบบนั้น ท่านจะไม่ลังเลเลยที่จะไล่นายให้ไปให้พ้นจากโหรวโหรว”
ท้ายที่สุดเฉียวเหลียงก็ทำได้เพียงเฝ้าดูพี่ชายทั้งสองพรากแฟนเขาจากไป
ถังซีอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังของเฉียวเหลียง
…
เช้าวันรุ่งขึ้นถังซีตื่นขึ้นมาและออกไปออกกำลังกายที่สนาม แล้วทันใดนั้นเธอก็เห็นเฉียวเหลียงออกมาจากบ้าน อย่างไรก็ตามเขาไม่มองเธอเลย และยังเดินไปขึ้นรถหน้าตาเฉยอีก
ถังซีอึ้ง “…” ทำไมเขาถึงไม่สนใจเธอเลย
เป็นเพราะเขามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปทำหรือเปล่า
เมื่อคิดเช่นนี้ ถังซีก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ แต่ดูเหมือนเฉียวเหลียงจะไม่อยากบอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากลังเลอยู่หลายวินาที เธอก็ตัดสินใจว่าเธอไปบริษัทของเธอดีกว่า
เธอไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเดอะควีน มีคนดังมากมายมาร่วมงาน และหญิงสาวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักหลายคนก็มาเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ให้เดอะควีนฟรีๆ เดอะควีนมีคำสั่งซื้อมากมายจนกระทั่งโรงงานแทบจะผลิตไม่ไหว
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เฉียวเหลียงก็มายืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ตระกูลเซียว เขาขมวดคิ้ว หายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไป
ในห้องนั่งเล่น
เซียวเจี้ยนสยงมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอยู่เงียบๆ ถังเจิ้นหวาไม่แปลกใจ เพราะท่านทราบมานานแล้วในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างซีซีกับเฉียวเหลียง
ในเวลานี้ถังหยา เซียวหงอี้ หยางจิ้งเสียน และเซียวหงลี่ ก็มากันพร้อมหน้า พวกเขาล้วนประหลาดใจขณะมองเฉียวเหลียงซึ่งยืนอยู่ในห้องนั้นด้วยท่าทางเรียบร้อย หยางจิ้งเสียนทักทายเขา “สวัสดี อาเหลียง”
“สวัสดีครับ คุณน้าหยาง” เฉียวเหลียงทักทายเธอ และกล่าวสวัสดีคนอื่นๆ
แน่นอนว่าเขาได้ทักทายคุณปู่ทั้งสองแล้ว ก่อนที่คนอื่นจะมา
ถังหยามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเฉียวเหลียง และสงสัยว่าเธอฝันไปหรือเปล่า เจ้าชายเฉียวเจ้าเสน่ห์เป็นแฟนลูกสาวเธอจริงๆ หรือ!
“ผมต้องขอโทษที่มาเยี่ยมทุกท่านช้าเกินไป” เฉียวเหลียงยิ้มอย่างสุภาพ “ผมเลือกมาที่นี่ก่อนที่คุณน้าหงอี้และคุณน้าหงลี่จะไปทำงาน หวังว่าผมคงไม่ได้มารบกวนนะครับ”
…
หลังจากได้รับโทรศัพท์จากคฤหาสน์ตระกูลเซียว ถังซีก็รีบตรงกลับบ้าน เธอรู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน เมื่อเห็นเฉียวเหลียงกำลังเรียนรู้การทำอาหารจากคุณแม่ทั้งสอง!
เธอจำได้ว่าเฉียวเหลียงทำอาหารเป็นอยู่แล้วนี่!
ทำไมเขายังมาเรียนรู้การทำอาหารจากมารดาของเธออีก
เธอแอบออกจากห้องครัวไปถามเซียวหงลี่ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แดดดี๊คะ ทำไมเฉียวเหลียงถึงมาเรียนทำอาหารจากคุณแม่แล้วก็มามี๊ล่ะคะ”
“เราจะปล่อยให้เขาแต่งงานกับลูกได้ยังไง ถ้าเขาไม่รู้วิธีดูแลลูก” เซียวหงลี่ขยิบตาให้เธอ “คุณแม่ทั้งสองของลูกเกลี้ยกล่อมง่ายเหลือเกิน พ่อหนุ่มคนนั้นไม่ต้องยุ่งยากอะไรเลยในการโน้มน้าวแม่ๆ ให้ยกลูกให้แต่งงานกับเขา”
หลังจากช่วงเช้าผ่านไป ยกเว้นเซียวหงลี่คนเดียว เฉียวเหลียงสามารถโน้มน้าวทุกคนให้เชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นสามีที่ดีของเซียวโหรวได้
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ถังซีก็ออกจากคฤหาสน์ตระกูลเซียวไปกับเฉียวเหลียง เธอมองเฉียวเหลียงด้วยความรัก “จริงๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้”
“ไม่ ผมต้องทำ” เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี “ผมจะแต่งงานกับคุณไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการอนุมัติจากครอบครัวคุณ ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะแต่งงานกับคุณ โหรวโหรว คุณจะแต่งงานกับผมไหม”
“โหรวโหรวเหรอ” ถังซีเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง ยิ้มหวาน และพยักหน้าในที่สุด “ค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”
…
หนึ่งเดือนต่อมาเฉียวอวี่ซินก็ไปเยี่ยมตระกูลเซียวอย่างเป็นทางการ ทั้งสองครอบครัวตกลงให้ทั้งสองแต่งงานกัน
ถังซีไปเยี่ยมลู่หลี แม้ว่าความทรงจำจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ตอนนี้เขาพูดได้แล้ว แม้แต่ลั่วเฟิงก็ยังบอกว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นั่นต้องขอบคุณเหวินนิ่ง ที่ดูแลลู่หลีเป็นอย่างดี
แล้วในที่สุดทุกคนก็ได้ข่าวจากเซียวเหยา ซึ่งจับตัววิลเลียมได้แล้ว และนำตัวพวกคนทรยศกลับมาพร้อมกับคนของเขา หลินหย่วนเป็นผู้ตัดสินประหารคนทรยศ เฉียวเหลียงต้องการมอบคนทรยศเหล่านั้นให้เหวินนิ่งจัดการ แต่เธอปฏิเสธที่จะประหารชีวิตพวกเขา
เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันตัดสินใจจะปล่อยให้อดีตเป็นอดีตไป เพียงพอแล้ว ตราบใดที่ลู่หลีอยู่เคียงข้างฉัน ยกคนทรยศให้หลินหย่วนจัดการเถอะ”
ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ถังซีพอใจกับชีวิตในปัจจุบันมาก อย่างไรก็ตาม… วันหนึ่งหั่วอวิ๋นก็เข้ามาขอคุยกับเธอ
ถังซีมองหน้าหั่วอวิ๋น เม้มริมฝีปาก แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “เธออยากพบฉันเรื่องอะไร”
“มาต่อสู้กัน” หั่วอวิ๋นจ้องมองถังซีอย่างเย็นชา “ถ้าฉันเอาชนะคุณได้ คุณต้องไปจากนายน้อย”
โดยไม่ให้คำตอบ ถังซีกระโจนเข้าใส่เธอ ครึ่งชั่วโมงต่อมาถังซีก็เหลือบตามองลงไปที่หั่วอวิ๋นซึ่งนอนอยู่บนพื้น และเลิกคิ้ว “ตอนนี้เธอคิดว่าฉันมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะยืนเคียงข้างเขาหรือยัง”
หั่วอวิ๋นเบือนหน้าไปมองทางอื่น กล่าวอย่างเย็นชา “ฉันขอโทษ สำหรับสิ่งที่ฉันเคยพูดกับคุณ โปรดดูแลนายน้อยด้วย”
ถังซีมองกลับมาที่เธอ ขยับยิ้มมุมปาก “นั่นไม่ใช่เรื่องของเธอ”
…
สามเดือนต่อมาเมื่อภาพยนตร์เรื่องใหม่ของถังซีเปิดตัวแถลงข่าว เธอก็กลายเป็นดาวรุ่งของประเทศจีนทันที ในไม่ช้าเธอก็กลายเป็นดาราที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของประเทศ และในวันที่ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอออกฉาย เธอกับเฉียวเหลียงก็ได้จัดงานแต่งงาน
ในงานแต่งงาน ทันทีที่ถังซีกล่าวว่า “ฉันยอมรับค่ะ” กับบาทหลวง เธอก็กระโดดตัวลอยโผเข้ากอดเฉียวเหลียง พร้อมกับอุทานอย่างมีความสุข “ฉันทำได้แล้ว! เทพธิดาแห่งชาติ! ในที่สุดฉันก็ได้เป็นเทพธิดาแห่งชาติ!”
เฉียวเหลียงกอดเธออย่างรักใคร่ ยิ้มให้เธออย่างแสนรัก “ภรรยาเทพธิดาแห่งชาติของผม คุณควรสวมแหวนเดี๋ยวนี้”
ถังซียื่นมือไปหาเฉียวเหลียงด้วยรอยยิ้ม
หลังจากทั้งคู่สวมแหวนให้กันและกันตามลำดับแล้ว เฉียวเหลียงก็จูบถังซีที่ระหว่างคิ้ว ถังซียิ้มหวานหันไปมองเซียวเหยาและลู่หลีที่นั่งอยู่ข้างล่าง แล้วถามเฉียวเหลียงว่า “ฉันควรโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวให้ใครดี”
“ให้ผม! ให้ผม! ผมยังไม่มีแฟน!” หลินหย่วนผู้ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นในทันที
ถังซีหัวเราะและส่ายศีรษะ “ไม่เอา ฉันจะโยนช่อดอกไม้เจ้าสาวให้… เฮ้ หลินหย่วนคืนช่อดอกไม้เจ้าสาวให้ฉัน!”
หลินหย่วนหอบช่อดอกไม้เจ้าสาวไว้ในอ้อมแขน และวิ่งไปที่ประตูโบสถ์ ฉันจะมอบช่อดอกไม้ให้กับผู้หญิงคนแรกที่ฉันพบ!
ในเวลานั้นประตูโบสถ์ก็ถูกผลักเปิดออก และมีสาวสวยชาวตะวันตกปรากฏตัวขึ้น จู่ๆ หลินหย่วนก็หยุดชะงัก มองหญิงสาวคนนั้นด้วยความตกใจ
“คุณไม่รู้หรือว่าทำไมฉันถึงมาที่นี่!” อลิซจ้องหน้าหลินหย่วนเขม็ง ดึงตัวเด็กชายตัวน้อยออกมาจากด้านหลัง และกล่าวกับหนูน้อยอย่างอ่อนโยนว่า “ลูกรัก นี่ไงพ่อผู้ไร้ความรับผิดชอบของลูก”
เด็กชายมีใบหน้าแบบชาวตะวันออกทุกกระเบียดนิ้ว แต่ดวงตาเขาเป็นสีเขียวเหมือนกับอลิซ หนูน้อยเงยหน้าขึ้นมองหลินหย่วนแล้วขมวดคิ้ว มีแววสงสัยในดวงตา เขาถามหลินหย่วนอย่างเฉยเมยว่า “คุณคือพ่อของผมเหรอ”
ทุกคนรู้สึกสนุกเพลิดเพลินกับฉากที่เห็นตรงหน้า
เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวซึ่งถูกทุกคนเพิกเฉย สบตากันและกันอย่างรวดเร็ว เฉียวเหลียงอธิบายกับถังซีว่า “ดูเหมือนเธอจะเป็นแฟนคนที่ร้อยของหลินหย่วน”
หลินหย่วนหันกลับไปมองถังซีด้วยสายตาว่างเปล่า พร้อมกับกลืนน้ำลาย “ผมขอคืนช่อดอกไม้ให้คุณได้ไหม”
ถังซีมองเฉียวเหลียงด้วยความตกใจ “แฟนคนที่ร้อยเลยเหรอ!”
“สองคนนี้อยู่ด้วยกันประมาณหนึ่งสัปดาห์” ลู่หลีกระซิบกับเหวินนิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา
เหวินนิ่งอ้าปากค้าง “แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ให้กำเนิดลูกของเขาอย่างนั้นเหรอ”
“คุณควรเชื่อในความสามารถของอาหย่วน” ลู่หลียิ้ม แล้วรินน้ำผลไม้ให้เหวินนิ่ง “ผมคิดว่ายังต้องมีเรื่องน่าประหลาดใจมากกว่านี้อีก”
เหวินนิ่งเลิกคิ้ว และวินาทีถัดมาเธอก็เห็นอลิซดึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ออกมาจากด้านหลัง เด็กผู้หญิงคนนี้หน้าตาเหมือนอลิซ แต่ดวงตาดำขลับเช่นเดียวกับหลินหย่วน หลินหย่วนรู้สึกว่าหัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาสะดุดถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ฝาแฝดเหรอ!”
อลิซพยักหน้า “ใช่ เด็กๆ อายุห้าขวบครึ่ง พวกเขาเป็นลูกคุณ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” หลินหย่วนหัวเราะออกมาเสียงดัง
ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียง “เขาบ้าคลั่งไปแล้วเพราะความตื่นเต้นหรือเปล่า”
เฉียวเหลียงส่ายศีรษะ “ไม่ เขาไม่ได้บ้าหรอก”
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินน้ำเสียงเบิกบานใจของหลินหย่วน “เฉียวเหลียง ลู่หลี พวกคุณขี้แพ้! คุณใช้เวลาและพลังงานไปกับคนรักมากมาย แต่คุณคนหนึ่งเพิ่งได้แต่งงาน และอีกคนยังไม่ได้แต่งเสียที ดูผมสิ ผมมีลูกชายหนึ่ง ลูกสาวหนึ่งแล้ว! ผมเก่งกว่าพวกคุณหลายขุม ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
“ถ้าอย่างนั้นก็แต่งงานกับเธอเลย!” ผู้คนที่มุงดูอยู่ช่วยกันร้องตะโกน
หลินหย่วนอึ้ง “…”
เงียบๆ สิ! พวกคุณนี่ไม่รู้อะไรเสียเลย พวกโง่เอ๊ย!
เจ้าบ่าวเจ้าสาวมองหน้ากัน ถังซียิ้ม “วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่ดีมากๆ เลยนะคะ”
เฉียวเหลียงลูบผมเธอเบาๆ “ได้อยู่กับคุณ ทุกวันเป็นวันที่ดี”
“อย่าปากหวานนักเลยค่ะ” ถังซีเหลือบมองเฉียวเหลียงอย่างเขินอาย
บาทหลวงผู้ไม่มีใครสนใจแอบกลอกตา “ณ เวลานี้ พ่อขอประกาศว่าคุณทั้งสองเป็นสามีภรรยากันแล้ว ขอเชิญทั้งสองจุมพิตซึ่งกันและกัน”
นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านได้ประกอบพิธีแต่งงานอันงดงามน่าทึ่งเช่นนี้!