ถังซีลุกขึ้นมองเซียวจิ่งอย่างอ่อนแรง เมื่อเห็นว่าทุกคนมาอยู่รวมกันที่นี่ทั้งหมด เธอก็วิ่งออกจากสนามราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต และกล่าวอย่างมีความสุขว่า “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันกำลังออกกำลังกาย! นี่ทุกคนกำลังจะ…” ถังซีมองไปที่ผักและเนื้อที่พวกเขาหิ้วมาด้วย เธอกลืนน้ำลาย “ทานหม้อไฟกันใช่ไหม”
เซียวจิ่งพยักหน้า “พวกเราไปรอเฉียวเหลียงที่บ้านเขา เตรียมจะทำหม้อไฟกับเขา แต่ว่า…” แต่ทำไมสองคนนี้ถึงมาอยู่ในบ้านข้างๆ บ้านครอบครัวเขาล่ะ! เขามองหน้าเฉียวเหลียง แล้วคำรามใส่ “ไอ้บ้าเอ๊ย! ปรากฏว่านายเป็นคนซื้อบ้านหลังนี้เหรอ ทำไมนายถึงต้องรีบตกแต่งต่อเติมอะไรขนาดนี้ คนงานทำงานกันแม้กระทั่งวันหยุดสุดสัปดาห์! เสียงดังหนวกหูมาก!”
เฉียวเหลียงมองหน้าเซียวจิ่ง ยังคงไม่พูดอะไร “ฮึ”
เซียวจิ่งรู้ดีว่าคำพูดของเขาทำให้ใครบางคนขุ่นเคือง ใครคนนั้นหรี่ตาลง เขาจึงรีบยกมือปิดปากและส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว “เราซื้อผักและเนื้อมา เข้าไปทานหม้อไฟกันในบ้านเถอะ จัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่กันเสียเลย”
เฉียวเหลียงกำลังจะปฏิเสธเมื่อถังซีตอบตกลงอย่างมีความสุข “จริงเหรอ เยี่ยมมากเลย! ฉันยังไม่ได้ทานอาหารค่ำเลย! ฉันชอบหม้อไฟ!”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาทำทานกันเลย!” เฮ่อหว่านโจวหัวเราะ แล้วเดินนำเข้าไปในบ้าน ขณะเดินผ่านเฉียวเหลียงเขาก็ตบไหล่เฉียวเหลียง “คุณนี่ยอดเยี่ยมมาก! เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด ใช้ประโยชน์จากความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์เอาชนะใจเธอ”
เฉียวเหลียงขยับตัวหลีกทางให้คนอื่นเข้าไปในบ้าน ถังซีหัวเราะเบาๆ ขณะเดินผ่านเขา เฉียวเหลียงจับมือเธอไว้ แล้วขมวดคิ้วถาม “คุณยังไม่ได้ทานอาหารค่ำเลยเหรอ”
ถังซีพยักหน้าอย่างน่าสงสาร “ใช่ ฉันหิวแล้วด้วย”
เมื่อเห็นเฉียวเหลียงขมวดคิ้ว ถังซีก็บ่นทันที “คุณต้องโทษตัวเอง ถ้าคุณไม่บอกฉันว่าคุณกำลังกลับมา ทำให้ฉันตื่นเต้นมาก ฉันก็จะไม่ลืมทานอาหารค่ำ แล้วหลังจากที่เรากลับถึงบ้าน คุณก็ยังให้ฉันออกกำลังกายไปเรื่อยๆ อีก ทำให้ฉันไม่มีโอกาสได้ทานอาหารเลย…” ถังซีกล่าว แล้วผละไปจากเขา
เฉียวเหลียงมองตามหลังถังซีแล้วส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ จากนั้นก็เดินไปปิดประตูรั้ว แล้วหันหลังเดินเข้าบ้าน
แม้เฉียวเหลียงจะเข้ามาพักที่บ้านหลังใหม่เป็นครั้งแรก แต่ก็มีเครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารพร้อมให้บริการ รวมทั้งมีหม้อไฟทองแดงด้วย หนิงเหยี่ยนตกใจเมื่อเห็นหม้อไฟทองแดงในครัว เขาวางหม้อไฟทองแดงลงบนโต๊ะ “โอ้โห ที่นี่มีทุกอย่างจริงๆ ดูสิ มีแม้กระทั่งหม้อไฟทองแดง”
“เหมาะสำหรับเนื้อแกะที่พร้อมลงหม้อได้ทันที” เฉียวเหลียงกล่าว มองหน้าเซียวจิ่ง “ไปเอาถ่านมาจากบ้านนาย ที่นี่ฉันไม่มีถ่าน”
ชายหนุ่มทั้งหลายขอให้สองสาวล้างผัก ถังซีนอนลงบนโซฟาทันทีและร้องคร่ำครวญ “ฉันหมดแรง ฉันไม่อยากทำงาน” เธอผลักเฮ่อหว่านอีออกไป “ให้พี่หว่านอีทำเถอะนะ”
“ไม่มีทาง!” เฮ่อหว่านอีนั่งลงบนโซฟา “ฉันมีประจำเดือน ฉันสัมผัสน้ำเย็นไม่ได้ กรุณาล้างผักเองนะคะ คุณสุภาพบุรุษ”
ท้ายที่สุดเฮ่อหว่านหนิงกับเฮ่อหว่านโจวก็เป็นคนล้างผัก
หนิงเหยี่ยนกวักมือเรียกเฉียวเหลียงให้มาหั่นเนื้อ เฉียวเหลียงมองเขาและชี้ไปที่ห้องครัว “ทำเองเลย ที่นี่มีมีดทำครัวและเขียงให้แล้ว”
“นี่เป็นงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของคุณนะ จะมาให้เราเตรียมอาหารให้ได้ยังไง”
เฉียวเหลียงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “เป็นงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของผม เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ต้องเป็นคนเตรียมอาหาร”
หนิงเหยี่ยนกล่าวว่า “คุณสองคนนี่เป็นคู่สามีภรรยาที่รอให้แขกมาบริการคุณอย่างนั้นใช่ไหม!”
“คู่สามีภรรยาเหรอ” เฉียวเหลียงเลิกคิ้ว
“ทำไมล่ะ ฉันพูดอะไรผิดเหรอ” หนิงเหยี่ยนเบิกตาโพลง อย่างไม่ยอมแพ้
“เปล่า ไม่ผิด” เฉียวเหลียงลุกขึ้น “คุณจุดประเด็นให้ผม เดี๋ยวผมจะไปหยิบมีดทำครัวกับเขียงมาให้”
หนิงเหยี่ยนอึ้ง “…”
หนิงเหยี่ยนไม่เคยทำอาหารมาก่อน ดังนั้นในที่สุดเนื้อก็ยังไม่ได้หั่นเสียที
ในไม่ช้าเซียวจิ่งก็กลับมาพร้อมกับตะกร้าถ่าน ตามด้วยเซียวส่าที่หิ้วเบียร์มาหนึ่งลัง “ฮัลโหล ผมเอาเบียร์สำหรับงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่มาด้วย”
ถังซีมองดูก้อนเนื้อที่ยังไม่ได้หั่น แล้วหันไปมองเซียวจิ่งกับเซียวส่า “พี่จิ่ง พี่ส่า ได้เวลาแสดงฝีมือทำอาหารแล้ว”
“โหรวโหรว ดูเหมือนว่าน้ำหนักเธอจะลดลงนะ!” เซียวส่าไม่ได้เจอเธอมานาน เขาอยากไปเยี่ยมเธอตลอดเวลา แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขายุ่งมาก เพราะธุรกิจของบริษัทกำลังขยายตัว
ถังซีพยักหน้าด้วยท่าทางเศร้าใจ และบ่นหนิงเหยี่ยน “อาหารที่ผู้กำกับหนิงจัดให้แย่มาก!”
จริงๆ แล้วน้ำหนักเธอไม่ได้ลด เธอดูผอมลงเพราะออกกำลังกายมาตลอด และตอนนี้เธอก็สวมชุดกีฬาหลวมๆ เธอจึงดูผอม
“มาค่ะ พี่ส่า พี่มาหั่นเนื้อให้ที ฉันต้องทานเนื้อเยอะๆ หน่อย”
เซียวส่าวางเบียร์ลงบนโต๊ะ ล้างมือ และเริ่มหั่นเนื้ออย่างเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันเขาก็บอกเซียวจิ่งว่า “ไปทำน้ำซุปสิ แล้วก็มีหอยเป๋าฮื้อสดอยู่ที่บ้าน คุณแม่เอามาให้เราเมื่อวาน เอามาย่างบนตะแกรงให้โหรวโหรวทานรองท้องไปก่อน”
คนอื่นๆ ตกใจกับเทคนิคการหั่นเนื้ออันเยี่ยมยอดของเซียวส่า เฉียวเหลียงเลิกคิ้ว มองหน้าเซียวส่า หนิงเหยี่ยนถามว่า “นายไปฝึกทักษะนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฉันเรียนรู้เพื่อมาบริการน้องสาวที่รักของเรา” เซียวส่ามองถังซีด้วยรอยยิ้ม ขณะหยิบเนื้อแกะขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วเขย่า “ความหนาเท่านี้ใช้ได้ไหม”
ถังซีพยักหน้าอย่างแรง พร้อมกับชมเชยเขา “ได้เลยค่ะ พี่ส่า พี่นี่ฝีมือไม่เป็นสองรองใครจริงๆ ในเรื่องการใช้มีด!”
เฉียวเหลียงเลิกคิ้ว มองหน้าถังซี แต่เธอกำลังจ้องมองเซียวส่าอย่างชื่นชม และไม่ยอมหันมามองเขา!
“เธอนี่เยี่ยมมาก!” เฮ่อหว่านอีกล่าว “เหยากับจิ่งล่ะ ทำอาหารเก่งด้วยไหม”
เซียวส่าตอบว่า “พี่เหยาไม่ค่อยทำอาหาร แต่เขาจะทำถ้ามีแค่เขากับโหรวโหรวอยู่บ้าน แต่ถ้าอยู่บ้านคนเดียว เขามักจะสั่งซื้อให้มาส่ง”
เซียวจิ่งซึ่งกำลังปรุงซุปอยู่ในครัวตะโกนขึ้นมา “โหรวโหรวอยากทานสปาเกตตีทะเลก่อนไหม พี่เห็นมีล็อบสเตอร์ที่เธอชอบอยู่ในตู้เย็น!”
“แน่นอนค่ะ!” ถังซีกำลังหิวโหย ที่สำคัญเธอไม่ได้ทานอาหารทะเลมานานแล้ว… เธอคิดถึงล็อบสเตอร์มาก!
จากนั้นทุกคนก็หันไปมองถังซี หนิงเหยี่ยนเลิกคิ้ว “นี่แปลว่าพวกเขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนเธอเป็นเจ้าหญิงเลยเหรอ เวลาที่เธออยู่บ้าน…” เขาชี้ไปที่เซียวส่ากับเซียวจิ่งซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารในครัว “พวกเขาทำให้เธอด้วยตัวเองเลยเหรอ”
ถังซีพยักหน้า “ใช่ค่ะ เวลาที่มามี๊ไม่อยู่บ้าน” จากนั้นเธอก็หันไปมองหน้าเฉียวเหลียงและยิ้ม “คุณก็รู้ ว่าฉันทำอาหารไม่เป็น ใช่ไหม”
เฉียวเหลียงพยักหน้า “ใช่”
“ถ้าอย่างนั้นนายต้องเรียนรู้วิธีทำอาหารจากพวกเรา ไม่อย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่เราไม่ยอมยกโหรวโหรวให้แต่งงานกับนายแน่” เซียวส่ามองหน้าเฉียวเหลียง “นายจะมาเรียนทำอาหารจากฉันไหม”