ตอนที่ 947 ส่งกลับคืนไป

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ด้วยข้อมูลที่ได้รับรายงานทุกคนในห้องประชุมนิ่งแข็งเป็นหินกันไปหมดแล้ว ในใจกรีดร้องด้วยความสงสัยว่าเฮลิคอปเตอร์ที่ส่งเสบียงและอาวุธมาช่วยเหลือมากถึง 150 มันคืออะไร?!
  พระเจ้า!
  แล้วไหนล่ะความช่วยเหลือตอนที่ค่ายหนานตู้ถูกกองทัพซอมบี้ล้อม?เกรงว่ามีไม่ถึงครึ่งของตอนนี้เลยด้วยซ้ำ!
  แล้วดูตอนนี้เวลานี้ ค่ายเขี้ยวหมาป่าได้รับความช่วยเหลือมากมายจนล้มหลามขนาดนี้ ยิ่งกว่าที่ค่ายไหนๆในจีนเคยได้รับ
  มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ค่ายใหญ่ๆจะส่งความช่วยเหลือมาให้เพราะถึงอย่างไรนี้มันก็เป็นสงครามระหว่างเมืองอันลูกับลูกผสมและซอมบี้ตอนนี้ก็มีจำนวนสูงกว่าในตอนของค่ายหนานตู้อย่างมาก  ทว่า
  ทุกอย่างมีแต่!
  แต่ขนาดของค่ายเขี้ยวหมาป่าในขณะนี้รวมถึงการพัฒนาของเมืองอันลูนั้น เปรียบเทียบกับทั่วทั้งจีนแล้ว พวกเขายังไม่อยู่ใน 50 อันดับแรกเลยด้วยซ้ำ?
  ฟรึบ!
  สายตาของทุกคนในห้องประชุมเปลี่ยนเป้าไปที่ชูฮันแทนหน้าตาทุกคนมีแต่ความเหลือเชื่อ ก่อนหน้าที่ชูฮันจะกลับมา พวกเขาขาดแคลนทั้งกำลังคน อาวุธ อาหาร ทรัพยากรทุกอย่างจนถึงจุดที่แทบไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ค่ายทั้งหลายทั่วทั้งจีนก็เมินเฉยและเลิกที่จะทอดทิ้งพวกเขาให้พังทลายไป แต่แล้วทันทีที่ชื่อของชูฮันปรากฏขึ้นอีกครั้งบนรายชื่อเสาหิน และเพียงแค่หนึ่งวันให้หลัง ค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ได้รับความช่วยเหลือจนล้นหลาม…ช่องว่างพวกนี้เป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับได้จริงๆ
  ชูฮันคือจุดเปลี่ยนทั้งหมดของเหตุการณ์!
  ขณะนี้ชูฮันยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยน ไม่แม้แต่จะเปลี่ยนสีหน้าท่าทางเลยด้วยซ้ำ เขายังดูนิ่งเงียบและแฝงไปด้วยความน่ากลัวเหมือนเดิม
  ”พรึบ~”
  กระดาษของรายงานยังคงถูกเปิดอ่านต่อไปเรื่อยๆหลังจากกวาดสายตาอ่านเก็บทุกรายละเอียดครบแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้น สายตานิ่งเฉยสบตากับทุกคนที่กำลังรอคอยคำสั่งจากเขาอยู่ “เอาพวกเสบียงที่ค่ายทั้งหลายส่งมาช่วยเหลือเก็บไว้ ส่วนพวกทหาร…ส่งพวกเขากลับไป”
  ”หัวหน้า”หยางเทียนที่สนิทสนมกับชูฮันดี เขาเลยกล้าที่จะพูดตรงๆ “นี้ไม่ใช่ทหารธรรมดา พวกเขาคือทหารชั้นสูงที่ค่ายใหญ่ๆทั้งหลายส่งมา อย่างน้อยก็ต้องเป็นวิวัฒนาการระยะ 2 หรือ 3 ประกอบกับมีความสามารถทางการสู้รบอยู่เป็นทุนเดิม ยิ่งจากค่ายหนานตู้พวกเขาต้องการตอบแทนที่นายเคยช่วยพวกเขาเอาไว้ ครั้งนี้พวกเขาเลยส่งทหารวิวัฒนาการระยะ 3 มาหนึ่งร้อยคน นี้มันคือกำลังพลที่มีค่ามหาศาลในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ เราต้องการกำลังที่จะช่วยเราทำสงคราม! จะให้ส่งกลับไปแบบนี้ คิดดีแล้วเหรอ?”
  ”ใช่ชูฮัน” ซางจิ่วตี้ที่พึ่งได้สติกลับมาก็รีบพยายามพูดชักจูงชูฮัน แววตาของเธอมีความผิดหวัง “ไม่ต้องเอาทหารระดับสูงของค่ายอื่นๆก็ได้ แค่ทหารระดับสูงหนึ่งร้อยคนจากค่ายหนานตู้ก็สามารถช่วยพวกเราทำสงครามได้มากแล้ว ฉันคิดว่าคงเป็นฉางกวนยวีซินที่ส่งมา…ตอนนี้ทหารวิวัฒนาการของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ตายกันไปกว่าครึ่งแล้ว ถึงแม้เราจะเกณฑ์คนมาใหม่ได้อีก 3,000 คน แต่พวกเขาก็เป็นผู้ลี้ภัยธรรมดาที่ไม่มีประสบการณ์หรือฝีมือในการต่อสู้อะไร ถ้าคุณจะส่งทหารระดับสูงทั้งหมด 500 นายกลับไปทั้งหมด สงครามครั้งนี้ไม่แน่เราอาจจะพ่ายแพ้!”   ”หัวหน้าได้โปรดพิจารณาอีกครั้งเถอะครับ?” ติงซือเย้าเองก็พยายามหว่านล้อมชูฮันแม้ในใจจะหวาดกลัวมากเพียงใด
  ทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้กองทัพเขี้ยวหมาป่ากำลังอ่อนแอและเปราะบางอย่างมากจำนวนสมาชิกที่ตายไปกว่าครึ่ง อีกทั้งกองทัพลูกผสมยังไม่เปิดเผยตัวออกมาเลยสักตัว มันจึงยิ่งทำให้สงครามครั้งนี้อยู่ในสถานะที่อันตรายอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือขนาดนี้ แม้จะเป็นคำสั่งของชูฮัน แต่ครั้งนี้ทุกคนไม่สามารถยอมทำตามได้ ในสภาวะที่ย่ำแย่เช่นนี้การละทิ้งข้อได้เปรียบจุดใดก็ตามไปง่ายๆนั้นก็อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงที่ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้
  เหล่าทหารชั้นสูงที่ถูกส่งมาโดยค่ายใหญ่ๆทั้งหลายนั้นเป็นตัวช่วยยอดเยี่ยมที่มาได้ทันเวลากับการหายตัวไปของกองทัพเขี้ยวหมาป่าในช่วงเวลานี้อีกทั้งตั้งแต่เกิดการปะทุขึ้นมาเป็นเวลาสองปี จำนวนวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นนั้นยังมีไม่มากเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการได้รับทหารวิวัฒนาการ 500 คนนั้นจึงไม่ต่างอะไรกับขนมหวานที่ตกลงมาจากฟ้า
  แล้วชูฮันยังจะไม่รับอีก?!
  ”ส่งกลับไป”น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความรำคาญใจของชูฮัน นัยน์ตาสีดำสนิทเผยพลังที่แข็งแกร่งและอำนาจที่ไม่มีใครกล้าต่อกร
  เงียบกริบ—-
  ทั้งห้องประชุมพลันตกอยู่ในความเงียบสงัดหลายคนได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอช้าๆ บางคนกลัวจนขาสั่น แม้แต่หยางเทียนก็ยังไม่กล้าพูดอะไรต่อ
  ”พี่ชูฮัน?”ซงเสี่ยว เด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในห้องเองก็สัมผัสได้ถึงปัญหา แม้ว่าสุดท้ายชูฮันจะโกรธ หากเขาก็จำเป็นต้องพูด “เรื่องการเสียหน้า มันไม่คุ้มค่ากับความสูญเสีย”
  เห็นได้ชัดว่าในเวลานี้ทุกคนกำลังคิดว่าชูฮันอยากจะรักษาหน้าตัวเอง อย่างที่รู้กันว่าชื่อเสียงความแข็งแกร่งของกองทัพเขี้ยวหมาป่านั้นโด่งดังไปทั่ว และชูฮันเองก็เป็นที่เคารพนับถือของคนมากมาย ดังนั้นมันอาจจะมีผลกระทบเกี่ยวข้องกับทางจิตวิทยา
  ภาพลักษณ์ของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหนือใครแต่สุดท้ายแล้วกลับต้องยอมรับความช่วยเหลือจากค่ายอื่นๆ แน่นอนว่านี้อาจจะทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างแน่นอนและทั้งโลกคงจะไม่มีความศรัทธาในเขี้ยวหมาป่าอีก
  แต่เพื่อเห็นแก่ภาพลักษณ์ในสายตาของคนอื่นๆมันคุ้มแล้วเหรอที่เอาชีวิตทุกคนไปเสี่ยง มันไม่ใช่ทางเลือกที่ผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเขาควรจะเลือก ดังนั้นครั้งนี้ทุกคนจึงเริ่มกล้าออกปากพูดแสดงความเห็นและแม้กระทั่งต่อต้านคำสั่งของชูฮัน
  แต่แล้วชูฮันกลับยิ้มบางๆออกกมารอยยิ้มของเขามันดูแปลกมากจนไม่มีใครเข้าใจความหมาย นิ้วหนึ่งเคาะกับโต๊ะเป็นจังหวะ ถ้ามองตามทิศทางปลายนิ้วของชูฮันก็จะเห็นว่ามันชี้ไปที่รายงานสงครามบนโต๊ะ บนหน้าที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์เมืองอันลูซึ่งเดิมทีมีซอมบี้อยู่รอบๆบริเวณประมาณ 100,000 ตัว
  ”ทหารระดับสูง500 คน แล้วพวกเราไม่มีเหรอ?” ชูฮันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ
  ”เอ่อ…”ทุกคนได้ยืนงงๆ ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
  ชูฮันยิ้มออกมาอีกครั้งพร้อมกับเหลือบตาไปสบตากับหลูเหวินเฉินที่อยู่หน่วยข่าวกรองลับทันใดนั้นน้ำเสียงของชูฮันก็เปลี่ยนไป “ผลของการตรวจสอบการคัดกรองพวกคนมาใหม่เป็นยังไง?”
  ”ขออนุญาตครับท่าน!”หลูเหวินเฉงทำท่าวันทยาหัตถ์ตามระเบียบทหารทันทีก่อนจะรายงานตอบ “การตรวจสอบทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยครับ ทหารเกณฑ์ใหม่ทั้งสามพันคนถูกจัดเข้ารับการอบรมเรียบร้อยครับ คาดว่าจะพร้อมทุกอย่างภายในคืนนี้ครับ”
  ทหารเกณฑ์ใหม่สามพันคนครั้งนี้เขาจะพาทั้งหมดลงสนามรบ!   เมื่อได้ยินคำถามของชูฮันทุกคนในห้องประชุมก็ได้แต่สบตากันไปมาอีกครั้ง พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าทหารเกณฑ์ใหม่สามพันคนเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่กำลังพูดคุยกันอยู่ สามพันคนนี้ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้หรือฝีมืออะไรเลย ต่อให้มีจำนวนมากแต่เมื่อลงไปอยู่ในสนามรบก็ไม่มีประโยชน์อะไร
  ชูฮันไม่สนใจจะอธิบายเจตนาของเขาเขาเพียงแค่หลับตาลงและทันทีที่เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาสีดำสนิทของชูฮันก็มีประกายวาว มันให้ความรู้สึกขนลุกและข่มขู่แก่ผู้ที่กล้าสบตาเขา อำนาจมหาศาลแผ่กระจายไปทั่ว “ส่งทหารทั้ง 500 คนกลับไป ให้ทหารของเขี้ยวหมาป่าทุกคนกลับเข้าทีมตัวเอง พร้อมกับทหารเกณฑ์ใหม่ทั้ง 3,000 คน คืนนี้พวกเราจะลงสนามรบ!”
  ”ครับ!”หยางเทียนยืนหลังตรงตอบรับคำสั่งของชูฮันทันทีตามสัญชาตญาณ แต่แล้วทันทีที่นึกได้เขาก็กุมหัวตัวเองและเอนตัวเข้าไปกระซิบบอกชูฮันเสียงอ่อย  ”หัวหน้าผมมันสมองช้า ผมยังคิดไม่ตกเลย หัวหน้าช่วยบอกผมทีได้มั้ย? ทำไมหัวหน้าถึงต้องส่งทหาร 500 กลับคืน? แล้วซอมบี้ทั้งหมดที่เหลือละครับ จะจัดการยังไง?”
  หยางเทียนรัวคำถามเป็นชุดเพราะชูฮันไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย หยางเทียนกระตือรือร้นอยากจะรู้แผนการของชูฮันใจจะขาด เป็นเวลานานแล้วที่เขากับชูฮันไม่ได้ปรึกษาหารือด้วยกันเลย ทำให้ตอนนี้เขาตามจังหวะกระบวนความคิดของชูฮันไม่ทันแล้ว
  ชูฮันยิ้มออกมาอีกครั้งคราวนี้รอยยิ้มเขาเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย
  ”จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีวัตถุประสงค์ในรายงานซอมบี้ในเมืองอันลูนั้นไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีค่ายเขี้ยวหมาป่า พวกมันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกลูกผสม”
  ”เหตุผลเฉพาะเจาะจงสำหรับเรื่องนี้พวกนายต้องคิดวิเคราะห์กันให้ออก ถ้าคิดไม่ได้หลังจากจบสงครามนี้ฉันจะโยนทุกคนลงหลุมเอง” ขณะพูด รอยยิ้มบนหน้าชูฮันก็เริ่มเผยสัมผัสอันตรายออกมากขึ้นเรื่อยๆ “ส่วนปัญหาเรื่องทหารชั้นสูง 500 นายนั้น สำหรับค่ายหนานตู้นั้นพวกเขาต้องการตอบแทนเรา แต่สำหรับค่ายอื่นที่เหลือนั้นมันไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องส่งทหารมา ถ้าพวกคุณทั้งหลายยังหาเหตุผลไม่ได้ ก็ลองคิดดูสิว่าทำไมค่ายตวนถึงส่งความช่วยเหลือมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ถึง 30 แต่ไม่มีทหารมาเลยสักคน?”