ประตูติดอยู่ในร่าง

“คุณมองอะไรน่ะ?” รยางค์หนาขยับชี้มาทางเฉินเกอแล้วหยุดตรงหน้าเขา เด็กชายดูเหมือนจะไม่ชอบที่ถูกมองเหมือนเป็นอะไรสักอย่างที่น่าอัศจรรย์

“ฉันขอโทษที ฉันเสียมารยาทแล้ว” เฉินเกอดึงสายตากลับจากส่วนที่เป็นท้องของเด็กชายที่เชื่อมกับร่างกายของแมงมุม ต่อให้ ‘ประตู’ ของอุโมงค์ถ้ำมังกรขาวนั้นอยู่บนร่างของเด็กชายจริง เขาก็คงไม่บอกเฉินเกอหรอก ต่อให้จ้องมองไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้น เฉินเกอจึงจบหัวข้อนี้อย่างรวดเร็ว “ถ้าเธอไม่อยากพูดเรื่องนั้น งั้นพวกเราก็พูดเรื่องอื่นกัน”

จู่ ๆ เฉินเกอก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง “นี่เป็นคำถามสุดท้ายของฉันและมันก็เกี่ยวพันกับความปลอดภัยของพวกเราทั้งหมด ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะไม่ปิดบังอะไรจากฉันเกี่ยวกับคำถามนี้”

“ว่าไปสิ” เด็กชายดึงรยางค์น่ากลัวของตัวเองกลับ

“ตอนเที่ยงคืนเมื่อหลายวันก่อน เธอเห็นเงาหนึ่งเข้ามาในอุโมงค์ถ้ำมังกรขาวไหม?”

การพูดถึงเงานั่นทำให้สีหน้าของเด็กชายเปลี่ยนไปทันที “คุณมาที่นี่เพราะเขาเหรอ?”

“ดูเหมือนเธอจะรู้บางอย่าง” เฉินเกอตื่นเต้น ในที่สุดเขาก็มีใครบางคนที่บอกเขาเกี่ยวกับเงานั่นได้ อุณหภูมิในอุโมงค์จู่ ๆ ก็ลดลง และสายลมเย็น ๆ ก็พัดออกมาจากส่วนที่ลึกเข้าไปในอุโมงค์ ทั้งเด็กชายและแม่ของเขาต่างก็ไม่พูด พวกเขาเงียบไปนาน จนกระทั่งเด็กชายกระโดดลงมาจากผนัง รยางค์แข็งแรงของเขาพยุงร่างใหญ่โตของเขาเอาไว้ เด็กชายมองลงมาที่เฉินเกอ

สัตว์ประหลาดตัวนี้ตัวใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ และพอเขายืนอย่างนี้ ก็ทำให้เฉินเกอกดดันมาก

“กลับบ้านไปซะ ยิ่งคุณรู้เยอะ คุณก็ยิ่งจมลงไปในห้วงความสิ้นหวัง” ตอนที่เด็กชายพูดอย่างนั้น เสียงของเขาก็สั่นเล็กน้อย

“เธอกลัวเหรอ?”

“ไม่ได้กลัว!” จู่ ๆ เด็กชายก็สูญเสียการควบคุมอารมณ์และเขาก็ยกรยางค์หน้าขึ้นปัดไปที่หน้าอกของเฉินเกอ ใบหน้ามนุษย์บนรยางค์นั่นกรีดร้องโหยหวนแต่ก็หยุดลงในวินาทีสุดท้าย

“พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน ดังนั้นฉันสามารถช่วยเธอได้ไม่ว่าเธอจะต้องการให้ฉันทำอะไร” เฉินเกอมองรยางค์ที่ตรงหน้าเขาและลดแขนลงช้า ๆ ถ้าเด็กชายต้องการทำร้ายเขา เขาก็คงปลิวไปแล้ว

หลังจากนั้นเป็นนาน เด็กชายก็ถอยจากเฉินเกอช้า ๆ แล้วลดตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกับเฉินเกอ “ผู้ชายคนนั้นบ้าไปแล้ว นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาที่ถ้ำมังกรขาว”

“เขาเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้? หลายปีก่อนใช่ไหม?” เฉินเกอคิดกลับไปถึง ‘ความทรงจำ’ ประหลาดที่เขาเห็นในอุโมงค์นี้ เกี่ยวกับที่ตัวเขาสมัยเด็กถูกฆ่า

“คุณรู้ไหมว่าทำไมแม่ผมกับผมถึงดึงดันจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ไม่ยอมก้าวเท้าออกจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว?” ความไม่แน่ใจกวาดผ่านใบหน้าของเด็กชาย

“เป็นเพราะเงานั่น? เขาต้องการทำร้ายเธอ?”

“ใครจะรู้ล่ะ? เงานั่นมาที่นี่ทุกปี และทุกครั้ง เขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าครั้งก่อนหน้า ผมได้แต่ทำให้เขาถอยกลับไปทุกครั้ง” เด็กชายไม่รู้สึกถึงอันตรายอะไรจากเฉินเกอ แต่เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาดจากเงาของชายคนนั้น “ผมเกลียดเงานั่น”

“ฉันเจอเงานั่นเมื่อไม่นานมานี้ และแค่อาทิตย์เดียว เขาก็แข็งแกร่งขึ้นอีก ฉันไม่รู้เลยว่าเขาทำอย่างนั้นได้ยังไง” บางทีข้อมูลที่เฉินเกอบอกอาจจะทำให้พวกเขาไม่สบายใจมากขึ้น หลังจากมองสบตากับแม่ของเขาแล้ว เด็กชายก็บอกเฉินเกอ “ผมบอกคุณทุกอย่างที่ผมรู้ก็ได้ แต่คุณต้องสัญญากับผมอย่างหนึ่ง”

“ไม่มีปัญหา” เฉินเกอให้สัญญาโดยไม่ถามว่าสัญญานั่นคืออะไร นิสัยง่าย ๆ ของเขาทำให้เด็กชายรู้สึกไม่ดี

“ผมต้องการให้คุณคล้องใยแมงมุมนี่เอาไว้รอบคอคุณ” รยางค์หนึ่งจากร่างแมงมุมยื่นออกมาแล้วช่องว่างหนึ่งก็ค่อย ๆ เปิดตรงที่ลำตัวของเด็กชายติดอยู่กับร่างแมงมุม กลิ่นเลือดรุนแรงลอยเต็มอากาศ และเลือดก็หยดลงมาจากร่างของเขา เมื่อช่องว่างใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของเด็กชายก็เปลี่ยนเป็นน่ากลัวขึ้น เขายื่นมือไปที่ช่องว่างนั้น และมันก็ดูเหมือนเขากำลังเอื้อมมือเข้าไปในท้องของตัวเอง

“บอกตัวเลือกของคุณมา” เด็กชายดึงมือของเขาเพื่อดึงเอาใยแมงมุมสีแดงหลายเส้นออกจากช่องว่างนั่น พวกมันพันเข้าหากันและเมื่อเด็กชายดึงมัน มันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นห่วงสีแดงเส้นบาง

ไม่มีความกลัวอยู่ในดวงตาของเฉินเกอขณะที่เขามองไปยังใยแมงมุมชุ่มเลือด คำตอบของเขายังเหมือนเดิม “ไม่มีปัญหา”

เฉินเกอก้าวเท้าเข้าไปที่ด้านข้างเด็กชายอย่างไม่ลังเล

ความเฉยเมยของเขาทำให้เด็กชายเริ่มสงสัย เขามองเฉินเกออย่างละเอียด และครู่หนึ่ง เขาก็คิดว่าชายหนุ่มที่ดูใจดีตรงหน้าเขานี้คงซ่อนปิศาจที่เต็มไปด้วยความอยากทำลายล้างเอาไว้ลึกในใจตัวเอง

เข้าไปใกล้ ๆ เด็กชายแล้วในที่สุดเฉินเกอก็มีโอกาสได้มองช่องว่างบนร่างของเด็กชาย

เลือดสด ใยแมงมุมที่ดูเหมือนหลอดเลือด กลิ่นเลือดรุนแรง– ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เข้ากันได้กับการเป็น ‘ประตูสีเลือด’

เฉินเกอรับใยแมงมุมเอาไว้ด้วยสองมือ เขายิ้มให้เด็กชาย เขาเรียกชื่อจางหยาอยู่ข้างใน ต้องการให้จางหยาดูว่าใยแมงมุมนี้จะเป็นอันตรายต่อเขาหรือไม่ แต่ว่าจางหยาไม่ตอบ

ใยแมงมุมเข้าใกล้คอของเฉินเกอช้า ๆ มันสายเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว ในตอนนี้ใยแมงมุมกำลังจะพันรอบคอของเขานั้น ผู้หญิงในอุโมงค์ก็ก้าวเข้ามาแล้วผลักใยแมงมุมนั่นไปทางอื่น บางทีเฉินเกอคงจะมอบความประทับใจดี ๆ ให้เธอตอนครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกัน ดังนั้นครั้งนี้ เธอจึงช่วยเขา

“คุณไม่กลัวจริง ๆ น่ะเหรอ?” ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นของเด็กชาย จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ “ตามผมมา ผมรู้เรื่องเงานั่นหลายอย่าง บางทีพวกเราอาจจะร่วมมือกันได้ในครั้งนี้”

เฉินเกอไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เด็กชายถึงเปลี่ยนใจ เขาตามเด็กชายไป และบางอย่างก็ปัดผ่านศีรษะเขาไป เขาเงยหน้าขึ้นมอง และดวงตาของเฉินเกอก็กระตุก ที่กลางอุโมงค์ ที่บนเพดานมืด ๆ นั่นมี ‘ร่าง’ แขวนเอาไว้มากมาย

คอของพวกเขาล้วนถูกใยแมงมุมรัดพันเอาไว้ และพวกเขาก็ถูกแขวนห้อยลงมาจากเพดานเหมือนเหยื่อแขวนคอ

“ถ้าคุณพันใยแมงมุมนั่นรอบคอของคุณ ปลายทางเดียวของคุณก็คือความตาย ผมไม่รู้ว่าทำไมแม่จู่ ๆ ก็ตัดสินใจเข้ามาขวาง แต่ว่าผมเคารพการตัดสินใจของเธอ” หัวใจของเด็กชายนั้นจมอยู่ในความเกลียดชังและโกรธเกรี้ยว สิ่งเดียวที่หยุดเขาได้ในโลกนี้ก็คือแม่ของเขา

เด็กชายคลานไปตามผนัง– ‘ป่าซากศพ’ นี้เป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ตามปกติ “ผมเจอเงานั่นเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้น เขายังไม่ทรงพลังเหมือนที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ เขาเป็นแค่เด็กที่อายุมากกว่าผมแค่เล็กน้อยเท่านั้น

“ผมไม่รู้ว่าเขามาจากที่ไหนหรือว่าถือกำเนิดขึ้นจากอะไร ผมรู้แค่ว่าเขากำลังมองหาเด็กมากมาย และถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เขาต้องเอาเด็กเหล่านั้นไปป้อนให้กับบางอย่างที่เรียกว่า ผีทารก

“เขาบอกผมว่าเขาต้องการสร้างประตูที่เมืองหลี่ว่าน ตอนแรก ผมไม่รู้เลยว่าเขาหมายถึงอะไร แต่หลังจากนั้น ผมเข้าใจแล้วว่าประตูที่เขาพูดถึงคือสิ่งนี้”

เด็กชายขยับร่าง เลือดสาดกระจายออกมา ช่องโพรงใหญ่เปิดออกระหว่างร่างแมงมุมและลำตัวของร่างมนุษย์ของเขา ความกดดันที่แทบจะมองเห็นได้ด้วยตา “ผมมีประตูที่บิดเบี้ยว และประตูนั่นก็ติดอยู่ในตัวผม มันเป็นสิ่งที่ผมเปิดออกทีละนิดตอนที่ไฟเริ่มลุกลาม”