ภาคที่ 4 บทที่ 149 ละโมบ

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 149 ละโมบ

ขบวนสัตว์อสูรรุกล้ำผ่านแดนเผ่าคนเถื่อนเหมือนโรคระบาดที่รุมเร้า

ป้อมมู่หลิว เมืองฝนทมิฬ เมืองเหล็ก เผ่าโลหิตเวียน…… สถานที่มากหลายถูกเผ่าสัตว์อสูรบุกโจมตี เปลี่ยนพื้นที่พวกนั้นเป็นเหมือนเกาะกลางสมุทรที่เมื่อคลื่นซัด ก็มีแต่ถูกคลื่นกลืนกิน

มหันตภัยร้ายนี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของซูเฉินและคนอื่น ๆ ที่ใช้เรือเหาะจันทราเงินสังหารทหารยามตามด่านชายแดน ดังนั้นรายงานข้อมูลจึงไปช้ามาก เผ่าคนเถื่อนหาเวลาถอยไม่ทัน ทำให้การทำลายล้างของขบวนสัตว์อสูรสร้างความหายนะอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนประวัติศาสตร์เผ่าคนเถื่อน

3 วันก่อนขบวนสัตว์อสูรจะมาถึงทหารยามเฝ้าหอส่งสัญญาณทั้งหมด 26 คนถูกลอบสังหาร พบชะตาเลวร้าย จนกระทั่ง 3 วันให้หลังที่เผ่าคนเถื่อนไม่กี่คนหลบรอดมาได้และส่งข่าวแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับชนเผ่าคนเถื่อนในแถบนั้น ให้ทั้งหมดได้รู้ว่ากำลังมีพายุโหมขึ้นมา

ในตอนนี้ หลายชนเผ่าใกล้ชายแดนเริ่มล่าถอยแล้ว ชาวบ้านเผ่าคนเถื่อนหนีตายข้ามทุ่งหญ้ากันอย่างจนตรอก ทุ่งหว้างที่เคยเงียบสงัด ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้แดนกลางของเผ่าคนเถื่อนก็ไร้คนแล้ว” หลี่ฉงซานว่าพลางจ้องลงมองจากเรือเหาะจันทราเงิน

“พอขบวนสัตว์อสูรผ่านไปเมื่อไหร่ พวกเขาก็กลับ” จวินโม่เสียหัวเราะเย็นชา

“หากรู้ว่าเผ่าคนเถื่อนจะหนีกันเช่นนี้ ก็คงทิ้งกำลังไว้ปล้นหมู่บ้านสักหน่อย” เฉิงเถียนไห่กล่าว

ไม่ว่าจะวางแผนคำนวณกันอย่างไร เมื่อเห็นพวกเผ่าคนเถื่อนหนีเอาชีวิตรอดเช่นนั้น เฉิงเถียนไห่ก็ยังเหมือนเห็นฝูงแกะตัวอ้วนกำลังวิ่งหนีและเขากำลังไล่ฆ่ามันเท่านั้น

ฉู่อิงหว่านหัวเราะหยัน “เจ้านี่ไร้สมอง การปล้นสะดมพวกคนลี้ภัยมันจะได้อะไรกัน ?”

เฉิงเถียนไห่เอ่ยเสียงมั่น “ข้ามาจากบ้านยากจน ไม่เหมือนกับเจ้านะแม่นางฉู่ เวลาใช้เหรียญยังแบ่งครึ่งด้วยซ้ำ”

“มีแค่พื้นที่แถบตะวันตกกลางหรือที่ว่างเปล่า ?” ซูเฉินพลันเอยขัด

พอเขาพูด ทุกคนก็เงียบแล้วหันมองทันที

ฉือไคฮวงตอบ “ขบวนสัตว์อสูรไม่ใช่เรื่องแปลกในหมู่เผ่าคนเถื่อน หลายปีมานี้ พวกที่อยู่ใกล้ชายแดนเคยเจอมันมาบ้าง รู้ทิศทางขบวนสัตว์อสูรดีว่าจะไปทางใด ทำอันตรายมากแค่ไหน ดังนั้นจึงพอรู้ว่าควรหนีไปทางใดแม้ไม่มีใครคอยสั่ง”

“แต่การตอบสนองเหล่านั้นเกิดขึ้นภายใต้สมมติฐานที่ว่ามนุษย์เราไม่ได้เข้าไปยุ่งใช่หรือไม่ ?” ซูเฉินโต้

ทุกคนนิ่งไป

ใช่แล้ว ผู้อพยพเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดทำเช่นนั้นเพราะคิดว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นคนบงการอยู่หลังม่าน

หากแต่แท้จริงแล้ว เป็นกองทัพกำลังสวรรค์ที่กระตุ้นขบวนสัตว์อสูร เพิ่มขนาดของมัน และก็เพราะกองทัพกำลังสวรรค์ที่ทำให้ระบบเตือนภัยเผ่าคนเถื่อนไร้ประสิทธิภาพ ต้องสูญเสียไม่ใช่น้อย

ทุกอย่างเปลี่ยนผันเพราะกองทัพกำลังสวรรค์ แล้วจะทำอย่างไรได้อีก ?

ซูเฉินเอ่ย “ข้าอยากขยายพื้นที่ที่ขบวนสัตว์อสูรจะส่งผลกระทบถึง”

“มากเท่าไหร่ ?” หลี่ฉงซานถาม

“มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ซูเฉินตอบ

ทุกคนเหลือบมองกัน

ความคิดของซูเฉินทั้งบ้าบิ่นและน่ากลัว แต่มีคำถามหนึ่งในหัวของทุกคนขึ้นมาว่า แล้วต้องทำอย่างไร ?”

“ย่อมต้องทำให้พวกมันโกรธยิ่งขึ้น”

ขบวนสัตว์อสูรนี้เกิดขึ้นมา เป็นเพราะกองทัพกำลังสวรรค์ยั่วโมโหเผ่าสัตว์อสูร และที่ขบวนเพิ่มขนาดขึ้นก็เป็นเพราะเหตุนี้เช่นกัน ดังนั้นหากคิดจะเพิ่มระยะส่งผลกระทบของมัน วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือยั่วโมโหมันอีกอย่างไรเล่า

“ฆ่าทีละตัวคงยั่วมันให้โมโหไม่ได้” กัวเหวินฉางเอ่ย

หากเป็นช่วงสงบสุข ฆ่าสักคนคงเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในช่วงสงคราม กระทั่งความตายนับพันนับหมื่นยังนับเป็นเรื่องปกติได้

ในเมื่อขบวนสัตว์อสูรก่อขึ้นมาและลงมือแล้ว หากมีการโต้กลับจากเผ่าคนเถื่อนก็เป็นเรื่องมีเหตุผล กระทั่งเผ่าสัตว์อสูรยังไม่คิดว่าเผ่าคนเถื่อนจะสู้กลับเพื่อยั่วโมโหพวกมัน ดังนั้นการสังหารอสูรต่อไปจึงไม่ใช่วิธีที่ดี อาจใช้ยาล่อสัตว์อสูรได้ แต่ก็คงล่อพวกมันมาได้ไม่มาก อีกทั้งยังได้ไม่นาน

“ถึงได้ต้องหาวิธีใหม่ไงเล่า” ซูเฉินว่า

“วิธีอะไร ?” ทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน

ซูเฉินคิดอยู่ชั่วครู่ “เผ่าสัตว์อสูรเดินหน้าเต็มกำลัง ดังนั้นคงเหลืออสูรกายที่ต้านพวกเผ่าคนเถื่อนอยู่ที่ถิ่นมันไม่มากกระมัง ? พวกท่านคิดว่าแอบเข้าแดนเผ่าสัตว์อสูรไปตอนนี้เป็นอย่างไร ?”

แอบเข้าแดนเผ่าสัตว์อสูรเนี่ยนะ ?

ทุกคนสะดุ้งโดยแรง

ฉู่อิงหว่านกล่าว “คิดจะแอบเข้าแดนเผ่าสัตว์อสูรไม่ง่าย เพราะแผนเดิมเราก็แค่คิดตีป้อมถ่าลาเท่านั้น”

“แผนตีป้อมถ่าลายังไม่เปลี่ยน เพียงแต่ให้กองทัพกำลังสวรรค์มุ่งหน้าต่อโดยมีพวกท่านนำทัพไปทั้งหมด ส่วนการปิดล้อมและโต้กลัยพวกสัตว์อสูร ข้าจัดการเอง”

“ให้เจ้าจัดการหรือ ?” ทุกคนชะงัก

“ใช่ ให้ข้าจัดการ ข้าเปลี่ยนรูปร่าง แทรกซึมเข้าแดนเผ่าสัตว์อสูรได้ง่าย ทั้งข้ายังมีเรือเหาะจันทราเงินไว้ใช้หนีได้ง่ายดาย มีเรือเหาะตะวันกรุ่นที่ทนทานทรงพลังยิ่งนัก อีกทั้งข้าเป็นคนเสนอแผน ก็ควรเป็นคนดำเนินแผนด้วย ทั้งการทำเช่นนี้อาจทำให้ตานปาหันเหไปสนใจพวกเผ่าสัตว์อสูร ทำให้เรามีโอกาสหนีมากขึ้นได้”

ได้ยินคำเขาแล้วทุกคนก็พูดไม่ออก

ต้องกล่าวว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนคราอื่น มีความเสี่ยงสูงมาก แม้ซูเฉินจะสร้างความดีความชอบให้กองทัพกำลังสวรรค์มากมาย พลิกสถานการณ์จากร้ายเป็นดี แต่ก็ไม่เคยเอาชีวิตตนมาเสี่ยง

หากแต่การเดินทางไปคนเดียวเช่นนี้ย่อมต้องเสี่ยงชีวิตสูง การที่เขาเต็มใจอาสาไปทำให้ทุกคนเคารพเขามาก

เงียบไปพักหนึ่ง หลี่ฉงซานจึงเอ่ย “ซูเฉินเต็มใจสละชีพเพื่อกองทัพกำลังสวรรค์ ข้า หลี่ฉงซาน ซาบซึ้งในบุญคุณนัก”

พูดแล้วเขาก็คุกเข่าคำนับซูเฉิน

ซูเฉินตกใจมาก รีบพยุงให้หลี่ฉงซานลุกขึ้นยืนทันที

ทว่าคนอื่น ๆ ณ ที่นั้นต่างก็คุกเข่าคำนับเขาเช่นเดียวกัน มีเพียงฉือไคฮวงที่ยืนยิ้มน้อย ๆ ในฐานะอาจารย์ของซูเฉิน เขาไม่จำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อศิษย์ตนเอง

ซูเฉินถูกทุกคนคุกเข่าให้เช่นนี้จึงไม่สบายใจ จริง ๆ แล้วเขาเข้าแดนพวกสัตว์อสูรไปครั้งนี้ก็มีจุดมุ่งหมายส่วนตน แต่เขาบอกความจริงไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่รับบทพ่อพระไป

หลังปรึกษากันอยู่นาน ทุกคนก็ตัดสินใจไม่เปลี่ยนแผน ยังคงเดินหน้าโจมตีป้อมถ่าลา แต่ในเมื่อต้องคิดเรื่องอันตรายจากขบวนสัตว์อสูรแล้ว ดังนั้นหลังจากตีป้อมถ่าลาได้ พวกเขาก็จะถอยทัพไปตะวันออกทันที

หลังจากตัดสินใจเลือกแผนแล้ว ทุกคนก็จากไป

ร่องรอยของความตื่นเต้นวาบไปทั่วนัยน์ตาซูเฉินเมื่อทุกคนจากไป “แดนเผ่าสัตว์อสูรนั้นมีคนมากมายอยากไป ในที่สุดข้าก็ได้ไปแล้ว”

ดินแดนเผ่าสัตว์อสูรนั้น เผ่าอัจฉริยะทั้งหลายไม่อาจเอื้อมมานับสิบล้านปี คนจำนวนมากคิดอยากจะเข้าไปสำรวจ หากแต่ก็ล้มเหลวทุกครา

แน่นอนว่าที่นั่นย่อมเต็มไปด้วยทรัพยากรล้ำค่าที่ไม่เคยมีใครแตะต้องมาก่อน ทั้งยังมียาวิญญาณมากหลาย ซึ่งไม่มีในแดนมนุษย์ ไม่มีใครเคยคิดฝันถึง

ซูเฉินมีเงินมาก แต่ไม่อาจใช้เงินซื้อของที่ไร้ป้ายราคาได้

ดินแดนเผ่าสัตว์อสูรนั้นมีสมบัติล้ำค่ามากมายที่ไม่อาจประเมินค่าด้วยป้ายราคา

พยายามเท่าไหร่ แต่ของเหล่านั้นก็ไม่อาจใช้เงินซื้อหาได้

ดินแดนเผ่าสัตว์อสูรมีทรัพยากรสมบูรณ์ คนมากมายจินตนาการฝันหา แต่มีเพียงไม่เท่าไหร่ที่กล้าพอจะฝ่าภัยเข้าไปถึงที่

ใครก็ตามที่เข้าไปและออกมาได้ย่อมได้ผลประโยชน์มากมาย

ซูเฉินย่อมกระหายอยากในโอกาสเช่นนั้น

และตอนนี้โอกาสนั้นก็มาถึงแล้ว

เผ่าสัตว์อสูรพากันออกมาเต็มกำลัง ซูเฉินมีวิชาแปลงกาย มีความสามารถหลบหนีในพริบตา อีกทั้งยังมีแหวนพลังว่างเปล่าอยู่อีกเป็นกอง… มันเป็นแหวนพลังที่ต้องหาของมาใส่…

และชายหนุ่มก็กะจะเติมมันให้เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมายนับไม่ถ้วน จากทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของสัตว์อสูรนั่นเอง !!!