TQF:บทที่ 675 ให้อภัย (4)

 

“ท่านพ่อ น้ำยามีขายที่ตึกจงหยวนไม่ใช่เหรอ พวกนางอาจจะซื้อมาจากตึกจงหยวนก็ได้” ฟางหมิงผิงถามด้วยความคลางแคลงใจ

 

“เจ้าโง่ เจ้าเคยเห็นคนที่สามารถซื้อน้ำยาทีเดียว 10 กว่าขวดจากตึกจงหยวนได้รึ”

 

ฟางเต๋อซิวอดว่าไม่ได้ ก่อนจะพูดต่อ “เราไม่ต้องสนหรอกว่าของนี้เป็นของพวกนางเองหรือซื้อมาจากตึกจงหยวน เอาเป็นว่าครั้งนี้พวกนางให้ของขวัญเรามาชิ้นใหญ่ พวกเจ้าจำไว้ด้วยล่ะ”

 

“ขอรับ ท่านพ่อ”

 

“พวกเราเข้าใจแล้วท่านปู่”

 

“จะจำไว้ท่านปู่ทวด”

 

……..

 

เด็กๆทุกคนมีขวดหยกอยู่ในมือด้วยสีหน้ายินดี จริงๆแล้วพวกเขาทุกคนต่างอยากได้น้ำยาในตึกจงหยวนทั้งนั้นแหละ แต่การจะซื้อนั้นยากเกินไป ต่อให้ไปต่อแถวทันก็ซื้อได้แค่ไม่เกิน 2 ขวดเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่มีใครสามารถมอบให้คนอื่นทีเดียว 10 กว่าขวดได้

 

“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปเก็บตัวฝึกฝนเถอะ ไม่ว่าที่บ้านจะเกิดอะไรก็ไม่ต้องสนใจ และอย่าออกนอกประตูบ้านด้วย ได้ยินมั้ย”

 

“ขอรับ”

 

“เข้าใจ”

 

เห็นหลานๆเหลนๆออกไปด้วยท่าทางมีความสุข ฟางเต๋อซิวแอบถอนหายใจเบาๆ มีความยินดีอยู่ในแววตา

 

ตกกลางคืน ฟางซูหยุนเข้าไปในมิติกับหลานสาว

 

ฟางซูหยุนถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อมองไปยังหลานสาว “เสี่ยวเสี่ยว ทำไมเจ้าต้องให้ของขวัญกับคนบ้านรองด้วย

 

“ท่านย่า เมื่อก่อนพวกเขาทำไม่ดีก็จริง แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็สำนึกผิดแล้ว และก็ตั้งใจจริงๆที่จะปล่อยวางเรื่องในอดีตกับท่านปู่ทวด แค่นี้ก็พอแล้ว”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวสามารถรู้ได้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่จากความสั่นไหวในจิตใจ บวกกับสิ่งที่หยูเฮงน้อยไปแอบฟังมา จึงตัดสินใจให้โอกาสบ้านรองสักครั้ง

 

แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่ทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยอมรับคือบ้านรองตัดสินใจยกตำแหน่งเจ้าบ้านให้กับฟางหมิงเห้อ นี่เป็นเหตุผลที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวล้มเลิกการลงโทษพวกเขา เมื่อก่อนพวกเขาทำเกินไปก็จริง แต่ก็เป็นแค่ผู้สมรู้ร่วมคิดเท่านั้น โทษไม่ถึงตาย

 

อีกอย่างนางก็ต้องคิดเผื่อสายเลือดของท่านปู่ทวดด้วย ซื้อใจคนได้ก็ต้องซื้อ ดีกว่าต้องห้ำหั่นกัน

 

ฟางซูหยุนไม่รู้เรื่อง ย่อมไม่เข้าใจการกระทำของนาง หยูเฮงน้อยนั่งบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่นางรู้ในช่วงนี้ให้นางฟังอย่างสนุกปาก

 

เห็นพวกนางคุยกันมีความสุข เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็กลับห้องตัวเองไป นอนลงบนเตียง อดนึกไปถึงคนๆนั้นไม่ได้

 

ยังไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน มีผู้หญิงมาพัวพันรึเปล่า มีผู้หญิงมาสารภาพรักบ้างมั้ย แล้วเขาจะตอบตกลงรึเปล่า

 

ในหัวของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเกิดอารมณ์ต่างๆขึ้นมากมาย การสารภาพรักอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของหวงฝู่เส้าจวินวันนี้ ทำให้นางว้าวุ่นใจจนได้

 

“ข้ากำลังจะจากเจ้าไป โปรดเช็ดน้ำตาที่รื้น ในวันคืนมากมายข้างหน้าที่รักเจ้าโปรดอย่าร่ำไห้เพราะข้า หนทางข้างหน้าสับสนมากมาย โปรดยิ้มอวยพรให้กับข้า แม้จะต้องท้าลมท้าฝน ข้าก็จะคิดถึงเจ้าท่ามกลางฝนฟ้า….”

 

จู่ๆก็มีเสียงร้องเพลงเบาๆดังมาจากชั้น 2 หญิงสาวทั้ง 2 ที่คุยกันอยู่ต้องหยุดลง มองหน้ากันก่อนจะนั่งเงียบๆคอยฟังเสียงที่ดังมาจากข้างบนต่อ

 

“ในวันที่ไม่มีเจ้า ข้าจะดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ในวันเวลาที่ไม่มีข้า เจ้าก็ต้องรักษาตัวด้วย เจ้าถามว่าเมื่อไหร่ข้าจะกลับไป ข้าก็เฝ้าถามตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไม่รู้ว่าตอนไหน ข้าคิดว่าอาจจะเป็นฤดูหนาวก็ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไม่รู้ว่าตอนไหน ข้าคิดว่าอาจจะเป็นฤดูหนาวก็ได้….”

 

ฟังมาถึงตรงนี้หยูเฮงน้อยจับแก้มตัวเอง พูดอย่างไม่มีความสุข “คุณหนูคิดถึงท่านเขยอีกแล้ว ไม่รู้ว่าท่านเขยไปไหน ข้าก็คิดถึงเขาเหมือนกัน เมื่อไหร่ท่านเขยจะกลับมา”

 

“เขาต้องกลับมา เขาต้องกลับมาอยู่แล้ว” ฟางซูหยุนพึมพำเบาๆ ชั่วขณะนั้น ฟางซูหยุนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและทำอะไรไม่ได้ในใจของหลานสาว

 

 

 

 

 

 

 

—————————-