บทที่ 500 คุณต้องการหย่ากับฉัน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“ผมผิดไปแล้ว คุณชาย ผมผิดไปแล้วจริงๆ!” คุณหมอไอแซ็คอ้อนวอนขอความเมตตาในทันที ขาดเพียงแต่ยังไม่คุกเข่าลงกับพื้น

“ไปให้พ้น! ไปให้พ้นสายตาผมเดี๋ยวนี้! และก็ถ้าอยาดจะพูดอะไรเกี่ยวกับผมก็เชิญตามสบาย แล้วมาดูกันว่าสุดท้ายจะมีคนเชื่อคุณไหม…”

ประโยคนี้มีความหมายแฝงอยู่เล็กน้อย คุณหมอไอแซ็คพอจะฟังออก เขาไม่กล้าที่จะอยู่ในคฤหาสน์ภูษาธรอีกต่อไป และจากไปทันทีโดยไม่ได้รับเงินสักแดงเดียว

ตามความเข้าใจของเขา หัสดินนั้นแตกต่างจากการเผชิญหน้ากับเรนนี่ เขาไม่เคยพูดอะไรที่โหดร้ายสักคำตั้งแต่ต้นจนจบ

สำหรับหัสดินแล้วเขาไม่สนใจเลยว่าคุณหมอไอแซ็คจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ หรือว่าเขาจะบอกกับนักข่าวหรือเปล่า หัสดินไม่ใส่ใจกับมันเลยแม้แต่น้อย

คุณหมอไอแซ็คคิดว่าเมื่อเขาจะจัดการกับเรื่องนี้นั้น เขามั่นใจเต็มเปี่ยมว่า การทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นอีก ไม่เป็นประโยชน์ต่อเขาเลยแม้แต่น้อย แต่จะยิ่งทำให้หัสดินโกรธมากยิ่งขึ้น

สำหรับตอนนี้นั้น เขาควรหยุดเสียจะดีกว่า

ณ คฤหาสน์ภูษาธร

ที่หัสดินไม่เผชิญหน้ากับเรนนี่ เพราะพวกเขายู่ต่อหน้าคุณหมอไอแซ็ค เขาจึงไม่ทะเลาะกับเธออยู่แล้ว มิฉะนั้นจะถูกคุณหมอไอแซ็คมองว่ามันเป็นเรื่องตลกได้

อีกทั้งหัสดินก็ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะทะเลาะกับเธอเลย

เขาได้คิดทบทวนและชั่งน้ำหนักในใจแล้ว การทะเลาะกับเธอมีแต่จะทำให้รู้สึกเกลียดชังและหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น ทำไมเขาจะต้องไปจมอยู่ในสถานการณ์นั้นแทนเพื่อคนที่ไม่สำคัญด้วย?

หลังจากที่คุณหมอไอแซ็คจากไป หัสดินก็ไม่สนใจเรนนี่อีก หันหลังกลับและเดินขึ้นไปชั้นบน

เกี่ยวกับการกระทำและท่าทางของหัสดินแบบนี้นั้น เรนนี่ไม่สามารถเข้าใจหรือคาดเดาได้ ตามหลักการแล้ว หากคุณหมอไอแซ็คกล่าวเช่นนั้นกับเขา เขาจะโกรธ หงุดหงิด และอารมณ์เสียใส่เธออย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าจะลงมือกับเธอแบบนั้นเหมือนครั้งก่อน

แต่คราวนี้กลับดูนิ่งเฉยจนผิดปกติ เขาไม่ได้พูดอะไรกับเธอ และแน่นอนว่าไม่ได้ทำอะไรเธอ ราวกับว่าเขาไม่เคยได้ยินคำพูดเมื่อสักครู่นี้มาก่อน เขามองเธอประหนึ่งอากาศธาตุ ถึงขนาดไม่ได้เหลือบมองเธอด้วยซ้ำ

เรนนี่รู้สึกว่าความรู้สึกแบบนี้มันแย่มาก ในใจราวกับมีหลุมลึกซึ่งไม่มีก้นหลุม ไร้ขอบเขต ไม่มีความมั่นคง รู้สึกไม่สงบ

พูดตามตรง เธอหวังว่าเขาจะดุด่าเธอหรือลงไม้ลงมือทำอะไรสักอย่าง แบบนี้ถึงจะเป็นเขาจริงๆ ขึ้นมาสักหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เธอกลัวขนาดนี้

หัสดินขึ้นบันไดไปแล้ว เธอเดินตามเขาไปติดๆ เมื่อเขากำลังจะเดินเข้าไปในห้องหนังสือ เรนนี่ก็เบี่ยงกายมายืนอยู่ข้างหน้าเขา โดยให้หลังพิงประตู หยุดเขาไม่ให้ก้าวต่อไป

“คุณอยากกินอะไร? ฉันจะไปทำให้คุณเดี๋ยวนี้” เธอกล่าว

“ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น” หัสดินตอบสนองอย่างเย็นชากับการกระทำของเธอ

เรนนี่ใกล้จะถูกบีบจนบ้าแล้วจริงๆ คุณหมอไอแซ็คพูดเรื่ิองแบบนั้นไปแล้ว แต่เขากลับไม่พูดอะไรหรือทำอะไรเลย เธอจะบ้าตายอยู่แล้ว!

เธอทนไม่ได้อีกต่อไป เปิดปากพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณอยากจะทะเลาะกับฉันไหม”

หลังจากที่มีท่าทีสงบท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวาย หัสดินก็ชายตามองเธอแบบนั้น และขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะ?”

ฟันเล็กคมขบลึกเข้าไปในริมฝีปากบาง เรนนี่ตอบกลับเสียงดัง “เรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของฉันจริงๆ! ทั้งหมดเป็นเพราะคุณหมอไอแซ็ค เขาจงใจใช้เหล้าทำให้ฉันเมา แล้วพาฉันไปที่โรงแรม ฉันดื่มจนเมาจนไม่รู้อะไรเลย วันรุ่งขึ้นตื่นมาถึงรู้ว่าถูกเขาทำให้เสื่อมเสียแล้ว ฉันในตอนนั้นหมดหวังจนถึงขนาดอยากตาย แต่พอคิดถึงคุณอีกครั้ง ก็รู้สึกว่าตัวเองจะตายไม่ได้ เพราะเขาทำกับฉันแบบนั้น ดังนั้นฉันเลยข่มขู่เขา ให้เขาหลอกคุณ!”

หัสดินไม่พูดอะไร ยังคงรักษาท่าทางแบบนั้นไว้เช่นเดิม

“ฉันรู้ว่าคุณคิดว่าฉันสกปรก! แม้แต่ตัวฉันเองก็คิดอย่างนั้น! แต่เรื่องนี้ทั้งหมดสามารถทำให้มันง่ายขึ้นได้ คุณเคยนอนกับยู่ยี่มาก่อน แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งสองครั้ง ส่วนฉันไม่ระวังเผลอนอนกับเขาแค่ครั้งเดียว แบบนี้ดูเหมือนว่าจะยุติธรรมดี! ”

“…” ดวงตาของหัสดินดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเล็กน้อย และฉายแววเยาะเย้ย

“นอกจากนี้ คุณไม่สามารถหย่ากับฉันได้ แม้วจะเป็นเพราะเรื่องนี้ แต่ฉันก็จะไม่หย่ากับคุณแน่นอน! หลังจากเมาฉันที่สติไม่แจ่มชัดถูกบังคับให้นอนกับคุณหมอไอแซ็คจริงๆ แต่ตอนนั้นมันเป็นตอนก่อนจะแต่งงาน และตอนนั้นคุณกับฉันก็เลิกกันแล้ว ดังนั้นฉันก็เลยไม่นับว่ามันเป็นการนอกใจ!”

ครั้งนี้หัสดินเปิดปากกล่าวว่า “พูดเสร็จแล้วหรือยัง?”

“ทำไมคุณไม่พูดอะไรเลย! ฉันพูดไปมากขนาดนี้ แต่คุณกลับไม่พูดอะไรเลยสักคำ นี่มันหมายความว่าไงกันแน่?”เรนนี่ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

“สิ่งที่คุณพูดนั้นถูกต้องและสมเหตุสมผล ยังอยากจะให้ผมพูดอะไรอีก?” หัสดินตอบกลับอย่างเฉยเมย

เรนนี่หมดคำจะพูด เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก และก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร

หลังจากครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน เธอก็พูดว่า “แล้วคุณยกโทษให้ฉันไหม?”

หัสดินทิ้งคำตอบที่คลุมเครือให้กับเธอ “คุณคิดว่าไงล่ะ?”

ไม่ว่าจะการแสดงออกหรือหน้าของเขานั้นลึกลับเกินไป ทำให้คนเดาไม่ออกเลยสักนิด เรนนี่รู้สึกใจหวิวๆอย่างไม่รู้ตัวและพูดว่า “คุณต้องการหย่ากับฉันเหรอ?”

“ใช่” หัสดินตอบตรงไปตรงมาทันทีทันใด ไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย

“แต่ฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะหย่ากับคุณ! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ฉันกำลังท้อง คุณไม่สามารถหย่ากับฉันได้” อารมณ์ของเธอถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง

“คุณพูดถูก…” หัสดินเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำพูดของเธอ “ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคำพูดของผม ขอเพียงแค่กินให้อิ่มและนอนหลับให้สบาย ดูแลร่างกายของตัวเองให้ดีก็พอ ผมต้องไปบริษัทเดี๋ยวนี้ หลีกไป”

“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”เรนนี่ไม่เข้าใจ ยังคงขวางอยู่หน้าประตูเหมือนเดิม ไม่ยอมถอย “คืนนี้คุณไม่ต้องทำงานแล้ว กลับไปที่ห้องพักผ่อนกับฉันเถอะ เราจะคุยกันให้ละเอียด”

ความอดทนแทบจะหมดลงในตอนนี้ ในที่สุดหัสดินก็โกรธและอารมณ์เสีย “หลีกไป!”

ขาของเธอทั้งสองข้างอ่อนแรงขึ้นมาทันที เรนนี่อีกนิดก็เกือบจะคุกเข่าลงกับพื้นแล้ว เมื่อนึกถึงความรุนแรงของหัสดินสองครั้งในก่อนหน้านี้ เธอก็ขยับออกไปในทันทีโดยอัตโนมัติ

ประตูห้องปิดลงต่อหน้าเธอ ยามที่เสียงนั้นดังปัง ก็ทำให้หูเธอนั้นเกิดเสียงอื้ออึง และปวดแก้วหู

หลังจากกลับมาที่ห้อง เรนนี่ยังคงหายใจแรง หน้าอกสั่นกระเพื่อมไม่มั่นคง สถานการณ์ยิ่งพัฒนาไปในทางคาดไม่ถึงมากขึ้น

ตอนนี้หัสดินตั้งใจจะหย่ากับเธอแล้ว เธอสามารถมองมันออกได้

เรนนี่นั่งอยู่บนโซฟากำลังคิดอย่างรอบคอบอีกครั้ง นึกถึงคำพูดเหล่านั้นของหัสดินที่เพิ่งพูดไป

——ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคำพูดของผม ขอเพียงแค่กินให้อิ่มและนอนหลับให้สบาย ดูแลร่างกายของตัวเองให้ดีก็พอ

ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้?

ตามอารมณ์ของเขาในเวลานี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพูดประโยคนี้ เธอรู้สึกว่ามันจะต้องเต็มไปด้วยความหมายแฝงแน่ๆ

เธอนั่งอยู่ตรงนั้น คิดไปมากมาย คิดไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกำลังคาดเดาเจตนาในใจของหัสดิน!

ทันใดนั้นเธอคิดถึงเด็กในท้องของเธอ เรนนี่สั่นไปทั้งตัว ความหมายของเขาที่หมายถึงอะไรบางอย่างคงไม่ใช่เด็กในท้องของเธอหรอกนะ?

ยิ่งคิด เรนนี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ ความหมายที่เขาเอ่ยออกมาแบบนั้นคือต้องการหย่ากับเธอหลังจากรอเด็กเกิด หรือเขาสงสัยว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขา?

เด็กคนนี้แท้จริงจะเป็นลูกของเขาหรือรัดเกล้า แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่แน่ใจ

ถ้าหัสดินคิดจริงๆ ว่านี่ไม่ใช่ลูกของเขา ถึงเวลานั้นเธอควรทำอย่างไรเมื่อเขาต้องการจะตรวจสอบ?

หากผลการตรวจคือลูกของเขา สถานการณ์ก็คงจะสงบลงชั่วขณะหนึ่ง และหลังจากช่วงให้นมลูกผ่านไป เขาก็คงจะขอหย่า!

ถ้าไม่ใช่เพราะลูกของเขา เธอคงไม่มีที่ไป

ตอนนี้เธอควรทำอย่างไรดี?

เรนนี่ถูกบีบจนใกล้จะบ้าอยู่แล้ว สองมือทุบศีรษะตัวเองอย่างหนักหน่วง รู้สึกปวดศีรษะเป็นอย่างมาก!

แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ ว่าทำไมเธอถึงผลักตัวเองให้มาถึงจุดนี้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยู่ไม่สู้ตาย ไม่สิ ทรมานเสียยิ่งกว่าตายอีก

………

ในเช้าตรู่ของวันถัดไป เรนนี่ลงไปรับประทานอาหารเช้าที่ชั้นล่าง ชฎารัตน์ทำเป็นมองไม่เห็นเธอ หัสดินก็เช่นกัน

สำหรับชฎารัตน์การหย่าร้างเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ แต่ตอนนี้ก็เป็นเพราะว่าการตั้งครรภ์ของเรนนี่ ดังนั้นเธอจึงต้องอดทน รอวันนั้นที่จะมาถึง

ความโกรธในอกของเรนนี่เพิ่มขึ้น และท้องของเธอก็ปวดไม่หาย แต่เธอจะทำอะไรได้อีก?

เธอบอกหัสดินว่า เธอต้องการบัตรเครดิตใบหนึ่ง ตอนนี้มีของมากมายที่ต้องการซื้อ เธออยากซื้อของให้ลูกน้อยสักหน่อย

นับจากนี้ไป เธอจำเป็นต้องวางแผนเพื่อตัวเอง จะกอบโกยจากเขาได้มากเท่าไรก็กอบโกยให้มากเท่านั้น

หัสดินตอบเธอว่า หลังจากที่ไปห้างสรรพสินค้าซื้อของให้ลูกแล้ว ต้องเซ็นใบเสร็จเป็นชื่อเขา แต่ต้องจำไว้ว่า ทุกครั้งที่มีการเซ็นใบเสร็จ โทรศัพท์มือถือของเขาจะได้รับข้อความรอการตอบกลับและต้องได้รับความยินยอมจากเขา

จบประโยคนี้ เขาก็จากไป เรนนี่กลับไปที่ห้อง ถ้วยชาและเครื่องสำอางทั้งหมดล้วนถูกกวาดลงที่พื้น

หัสดินเริ่มควบคุมการเงินของเธอแล้ว ไม่ให้บัตรเครดิตกับเธอ ขนาดจะซื้ออะไรก็ต้องรอให้เขาอ่านและอนุมัติให้เซ็นชื่อ

แล้วแบบนี้เธอจะลงเอยอย่างไร?

เวลาผ่านไปในพริบตา ท้องของยู่ยี่ก็ค่อยๆ โตขึ้น และตอนนี้เธอไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวได้อีกต่อไปแล้ว ต้องใส่เสื้อผ้าที่หลวมและสวมใส่สบาย

ฉันทัชไปที่ห้างสรรพสินค้าช่วยเธอซื้อเสื้อผ้ากลับมาจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนั้นหลวมใส่สบาย แต่สไตล์และเนื้อผ้ายังดูดีอยู่มาก ทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์ดัง ราคาแน่นอนว่าไม่ถูก

เมื่อเห็นเช่นนี้ ยู่ยี่ก็บ่นเล็กน้อยว่า “เสื้อผ้าก็ใส่ได้แค่ระหว่างท้อง ทำไมต้องซื้อแพงขนาดนี้ด้วย?”

ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มบางๆ เม้มปากไม่พูดอะไร จากนั้นสายตาลุ่มลึกของเขาก็จ้องไปที่ท้องของเธอซึ่งอย่างเร่าร้อน

นี่เป็นวิธีที่เขาตอบสนองอยู่ทุกวัน ตั้งแต่ท้องของเธอโตขึ้นเล็กน้อย

“ถ้าคุณยังจ้องแบบนี้ ฉันคิดว่าท้องของฉันใกล้จะสุกแล้ว” ยู่ยี่ รู้สึกว่าเขาจะกระตือรือร้นเกินไปแล้ว

“ผมคิดว่ามันวิเศษมากเลย ที่เขาเติบโตขึ้นมาในท้องของคุณทุกวัน…” ฉันทัชอุ้มเธอขึ้น แล้ววางเธอลงบนตัก

“คุณก็เลยเอาแต่จ้องเขาแบบนี้ทุกวัน?”

เขาเอ่ยปาก “ผมไม่เคยเบื่อที่จะดูมัน ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เคยเบื่อ เพียงแต่รู้สึกมีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ คุณก็นับว่านี่เป็นงานอดิเรกของผมเถอะ…”

“มีงานอดิเรกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ฉันคิดว่าบางทีแม้แต่ท้องของฉันก็จำคุณได้อย่างชัดเจนในสักวันหนึ่ง” เธอลูบใบหน้าที่มีเครื่องหน้าชัดของเขาและจูบคางที่เซ็กซี่ของเขา

ฉันทัชกอดเธอแน่น นัยน์ตาเข้มลง จ้องมาที่เธอ และพูดว่า “ผมก็อยากให้ทุกส่วนของร่างกายคุณจำผมไว้…”

“ทำไมแต่ก่อนฉันถึงไม่รู้ว่าคุณเป็นคนขี้โกงขนาดนี้มาก่อนนะ?” ยู่ยี่ยิ้มและถอยหนี แต่ริมฝีปากบางของฉันทัชขยับเข้ามาใกล้ขึ้นจูบเธออย่างดูดดื่ม บดเบียดริมฝีปากเธอ ลมหายใจอุ่นๆ รดรินอยู่เหนือริมฝีปากสีแดงของเธอ “มันหมายความว่าผมซ่อนมันได้อย่างดี คุณเป็นปีศาจกระดูกขาว ผมคือซุนหงอคงแปลงกายได้เจ็ดสิบสองร่าง…”