ตอนที่ 524 ตั้งใจกดดัน / ตอนที่ 525 ช่างทะเยอทะยานจริง

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 524 ตั้งใจกดดัน

 

 

เสียงอวิ๋นเซินไม่ดัง แต่ข้างหน้ามีลำโพงขยายเสียง ทุกคนในงานจึงได้ยินเสียงเขาชัดเจน จากนั้นก็พากันปรบมือ

 

 

มีเพียงฝานเจียวเจียวซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างนัก จ้องมองอีลั่วเสวี่ยด้วยสายตาชิงชัง มือสองข้างตัวกำแน่น จนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกเจ็บ

 

 

“ขอแสงความยินดีกับนายท่านผู้เฒ่าอวิ๋น เรื่องมงคลสองเรื่องพร้อมกัน ยินดีด้วย ยินดีด้วย…”

 

 

คำพูดแสดงความยินดีเช่นนี้ดังขึ้นต่อเนื่อง มีคนอาศัยโอกาสนี้หยิบของขวัญออกมามอบให้นายท่านผู้เฒ่า ทั้งยังสัญญาว่าวันหลังจะมอบของขวัญชดเชยให้อีลั่วเสวี่ย

 

 

ทุกคนมองดูเธอ สายตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้มที่ชื่นชม ดูจากหยกที่เธอมอบให้นายท่านผู้เฒ่าและนายหญิงผู้เฒ่าก็รู้ว่าเธอทุ่มเทใจ

 

 

บวกกับที่เธอพูดกับฝานเจียวเจียวเมื่อครู่ ได้แสดงบารมีในตัวออกมา ทำให้ไม่มีใครกล้าดูเบาเธอ ยิ่งกว่านั้นเธอยังเป็นที่ยอมรับของสกุลอวิ๋นแล้ว จึงเห็นได้ชัดว่าไม่ควรมีเรื่องกับเธอเด็ดขาด

 

 

ต่อไปยังจะกลายเป็นคนสำคัญอีกคนของสกุลอวิ๋น ที่สำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือในงานมีคนสำคัญมากมาย ฝ่ายนั้นมองแวบเดียวก็รู้ฐานะของอีลั่วเสวี่ย

 

 

เธอมีอิทธิพลของสำนักแพทย์โบราณและเป่าหลิงถังซึ่งเป็นแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศคอยหนุนหลัง ฐานะยังสูงด้วย ใครบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลย แค่เรื่องเหล่านี้ หยิบยกออกมาเพียงเรื่องเดียว ไม่ว่าใครก็ต้องให้เกียรติเธอ

 

 

คนสกุลฝานเห็นแล้วนึกอิจฉา แต่อยู่ในกลุ่มคนได้แต่ยิ้มคล้อยตามไปด้วย เรื่องที่ฝานเจียวเจียวทำไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาไม่มีหน้าจะทำตัวโดดเด่น

 

 

จู่ๆ เหมือนฝานเจียวเจียวตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ฝานเซิ่งหนานอยากขวางไว้แต่ไม่ทันแล้ว

 

 

“สุขสันต์วันเกิดค่ะ ปู่รอง ยินดีที่พี่ลั่วเสวี่ยได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของสกุลอวิ๋น” ฝานเจียวเจียวถือกล่องของขวัญเดินยิ้มเข้ามา ยื่นของขวัญให้นายท่านผู้เฒ่า

 

 

มีคนรับใช้มารับของขวัญทันที นำไปลงชื่อไว้ แล้ววางลงข้างๆ

 

 

อีลั่วเสวี่ยยิ้มเจื่อนๆ ผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนกันแน่ เธอนึกสงสัย สีหน้ายังคงเรียบเฉย “ขอบใจนะ”

 

 

ฝานเจียวเจียวเลิกคิ้วขึ้น แล้วคล้องแขนฝานเหม่ยหลิง ฉีกยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ย่ารองดูแลหนูเหมือนเป็นหลานแท้ๆ ต้องขอบคุณย่ารองมากค่ะ”

 

 

แม่เฒ่าไม่เข้าใจ รีบพยักหน้า “เธอเป็นหลานของย่ารอง ย่ารองไม่เอ็นดูเธอแล้วจะไปเป็นเอ็นดูใครล่ะ”

 

 

“แต่ก็เป็นแค่หลานห่างๆ จากนี้ไปมีพี่ลั่วเสวี่ยแล้ว ย่ารองย่อมไม่เอ็นดูหลานเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ฝานเจียวเจียวทั้งออดอ้อนทั้งท่าทางน้อยใจ

 

 

แม่เฒ่าพูดทันที “จะเป็นไปได้ยังไง”

 

 

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ มีพี่ลั่วเสวี่ยคอยอยู่ข้างๆ ย่ารองก็ไม่ต้องการเจียวเจียวแล้ว ต่อไปนี้หลานคงคอยมาอยู่ที่บ้านสกุลอวิ๋นแทบทุกวันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ยกเว้นหลานกับพี่ลั่วเสวี่ยจะเป็นพี่น้องกัน เป็นลูกสาวของอาอวิ๋นด้วย” ดวงตาฝานเจียวเจียวฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา

 

 

พอคนของสกุลฝานเห็นเช่นนี้ก็เข้าใจทันที รีบเดินมา ยิ้มแล้วว่า “แม้ว่าที่เจียวเจียวพูดจะเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย แต่เด็กคนนี้ ไม่เหมือนลูกหลานบ้านเรา ชอบมาขลุกที่บ้านสกุลอวิ๋น ถ้าไม่ใช่เพราะแซ่ฝาน คนอื่นคงไม่รู้ว่าเป็นลูกหลานบ้านเราหรอก น้องอวิ๋นเว่ย ดูๆ แล้ว คุณหน้าตาคล้ายเจียวเจียวยิ่งกว่าผมอีก” ฝานเฉิงพ่อของฝานเจียวเจียวพูดล้อเล่น

 

 

ถึงตอนนี้พ่อเฒ่าคนหนึ่งก็หัวเราะร่า ดูท่าทางคงเป็นปู่ของฝานเจียวเจียว “สกุลฝานกับสกุลอวิ๋นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ที่จริงให้เสี่ยวเว่ยเป็นพ่อเธอก็เหมาะดี ไม่รู้ว่าพี่อวิ๋นคิดยังไง?”

 

 

 

 

ตอนที่ 525 ช่างทะเยอทะยานจริง

 

 

คนสกุลฝานทำการกดดันสกุลอวิ๋นอย่างเปิดเผย คนสองรุ่นของสกุลฝานถึงกับเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ถ้าคนสกุลอวิ๋นไม่รับก็เท่ากับไม่เห็นแก่หน้าสกุลฝาน

 

 

แม่เฒ่าขมวดคิ้ว เข้าใจทันทีว่าเหมือนกำลังขี่บนหลังเสือ ในใจนึกไม่พอใจพี่ชายตัวเอง คนครอบครัวนางทำเกินไปจริงๆ ลงมือทั้งในทางแจ้งและทางลับ เห็นนางเป็นคนโง่หรือ

 

 

นางจัดชุดให้เข้ารูป แล้วดึงมือฝานเจียวเจียวที่เกาะแขนนางอยู่ออกไปอย่างเงียบๆ

 

 

ฝานเจียวเจียวรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ยังคงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ท่าทางดูน่ารัก ไม่เสียทีที่ใช้ชีวิตอยู่ในเขตทหารที่สิบสองสิบกว่าปี พอเกิดก็มีความสูงศักดิ์ บนตัวมีราศีจับ

 

 

แต่บนตัวอีลั่วเสวี่ยมีไอทิพย์ที่บริสุทธิ์และมีพลัง ราวกับได้รับการหล่อเลี้ยงจากฟ้าดิน ทำให้คนตกตะลึง แต่ฝานเจียวเจียวกลับเหมือนดอกไม้ที่ได้รับการดูแลอยางดี ดูสง่างาม แต่ดอกไม้ประเภทนี้ พอดูนานเขาก็ไร้ค่า ต่างจากดอกไม้ที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติที่น่าชื่นชมกว่า

 

 

อวิ๋นเซินมีท่าทางไม่พอใจชัดเจน ที่ผ่านมาตนเองเห็นแก่หน้าภรรยา ช่วยสนับสนุนสกุลฝานตลอดมา พูดได้ว่าที่สกุลฝานมีวันนี้ได้นั้น ครึ่งหนึ่งมาจากการช่วยเหลือของสกุลอวิ๋น

 

 

สกุลอวิ๋นไม่เคยหวังการตอบแทนใดๆ จากการช่วยเหลือเหล่านี้ กลับเป็นสกุลฝานที่ไม่เคยเป็นฝ่ายอาสาช่วยเหลือพวกเขา แต่พอมีเรื่องอะไรก็มักมาร้องทุกข์ด้วยตนเองหรือให้ฝานเหม่ยหลิงมาขอร้อง

 

 

แม้กระทั่งต่ออวิ๋นเว่ยก็ตาม พวกเขายังคงใช้วิธีการเดิม พอมีประโยชน์จะคิดถึงแต่ครอบครัวตัวเอง เขาคิดทบทวนแล้ว คิดไม่ถึงว่าในที่สุดสกุลฝานก็เผยความทะเยอทะยานออกมาจนได้

 

 

เป็นไปตามที่เขาคิดไว้แต่แรก คนสกุลฝานไม่ได้มีเจตนาดีที่ให้ฝานเจียวเจียวคอยมาอยู่ที่บ้านสกุลอวิ๋น ที่แท้ก็มีแผนการ

 

 

อย่าว่าไป ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กสาวคนนี้คอยเอาใจใส่แม่เฒ่า อวิ๋นเว่ยซึ่งไม่ชอบหน้าคนสกุลฝานอยู่แล้ว คงปล่อยให้สกุลฝานล่มสลายไปเองแล้ว

 

 

“เรื่องนี้ฉันตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขึ้นกับลูกชายฉัน อีกอย่าง ที่จริงก็เป็นหลานสาวอยู่แล้ว ยังจะต้องใส่ใจอะไรกับหลานแท้หรือไม่แท้ ความผูกพันนี้จะอย่างไรก็ตัดไม่ขาด ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องวุ่นวายหรอก”

 

 

ไม่เสียทีที่เป็นนายท่านผู้เฒ่า สามารถผู้ปฏิเสธได้อย่างไหลลื่น ที่จริงถือว่าเขาเห็นแก่หน้าสกุลฝานแล้ว

 

 

นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานและฝานเฉิงเบนสายตามาที่อวิ๋นเว่ยทันที “ไม่รู้ว่าเสี่ยวเว่ยมีความเห็นอย่างไร?” แม้จะเป็นการถาม แต่น้ำเสียงแฝงด้วยแรงกดดันอย่างชัดเจน

 

 

อวิ๋นเว่ยเลิกคิ้วขึ้น มือข้างหนึ่งดึงอีลั่วเสวี่ยไว้ “ถ้าลูกสาวหลายคน ผมคงดูแลไม่ไหว เสวี่ยเอ๋อมีเพียงผมคนเดียวที่เป็นพ่อ แต่เจียวเจียวมีทั้งพ่อและแม่ ผมไม่อยากทำให้เธอลำบาก ผมอวิ๋นเว่ยชีวิตนี้มีลูกสาวคนเดียวก็พอแล้ว”

 

 

“พูดได้ดี ถ้าไม่สามารถแบ่งความรักได้อย่างเสมอภาค ผมคิดว่ามีลูกคนเดียวก็พอแล้ว เดิมคิดว่าแม่ทัพอวิ๋นเป็นชายชาติทหารเลือดเหล็ก อาจไม่เข้าใจความเป็นพ่อ เวลานี้ดูแล้ว น่าจะเข้าใจดีกว่าผมด้วยซ้ำ” ชายแซ่ลี่ในกลุ่มคนพูดขึ้น

 

 

พอเขาพูดเช่นนี้เท่ากับปิดกั้นสิ่งที่คนสกุลฝานอยากพูดต่อ

 

 

คนอื่นๆ เห็นเช่นนี้ต่างทยอยกันพูดเสริม ท่าทีอวิ๋นเว่ยชัดเจนมาก เขาไม่หลงกลสกุลฝาน คนในเขตทหารที่สิบสอง ใครบ้างที่ไม่รู้ว้าคนสุลฝานมีเป้าหมายอะไร

 

 

ทุกคนไม่สนับสนุนการกระทำที่เหิมเกริมแบบนี้ พากันสนับสนุนอวิ๋นเว่ยทันที ถ้าใครๆ ต่างเอาอย่างสกุลฝาน ต่อไปญาติมิตรจะไปมาหาสู่กันอย่างไร ดีไม่ดีอาจมีกับดักรออยู่ก็ได้

 

 

ฝานเจียวเจียวตะลึงงัน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีคนช่วยอีลั่วเสวี่ย ควรรู้ว่าวันนี้เธอมาที่นี่เป็นครั้งแรก ตามเหตุผลแล้วคนอื่นไม่น่าจะช่วยเธอ