หลินหว่านมองดูคนตรงหน้า ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นทั้งคนคุ้นเคยและคนแปลกหน้า เธอไม่เข้าใจเลย ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งนานขนาดนี้ แต่ในชั่ววูบนี้เธอรู้สึกไม่เข้าใจเซียวจิ่งสือเอาเสียเลย หลินหว่านรู้สึกท้อใจมาก เธอคิดว่าเซียวจิ่งสือคนเดิมจะยังกลับมาอีกไหมนะ?

 

 

หลินหว่านพูดเสียงเย็น “เซียวจิ่งสือ คุณเองก็บอกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจแล้ว งั้นก็น่าจะทำในสิ่งที่นักธุรกิจเขาทำกัน พวกคุณเห็นแก่ผลประโยชน์มาเป็นอันดับหนึ่งเสมอไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น ฉันอยากจะบอกคุณว่า ตัวฉันไม่มีผลประโยชน์อะไรที่คุณอยากจะได้หรอกนะ”

 

 

เซียวจิ่งสือรู้สึกว่างเปล่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมความรู้สึกของพวกเขาตอนนี้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ เป็นเพราะเขาทำผิดไปแล้วจริงๆ หรือเพียงแค่ก่อนหน้านี้เขาไม่เข้มแข็งพอ ไม่อาจให้ในสิ่งที่หลินหว่านต้องการ ก่อนหน้านี้เขาแค่อยากจะหาเวลามาทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นเพื่อจะกลับมาหาหลินหว่านทีหลัง แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว หลินหว่านเข้าใจเขาผิดอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ซะแล้ว

 

 

เซียวจิ่งสือคิดในใจว่าเขายังต้องสงบจิตใจมาพูดกับหลินหว่านให้เข้าใจ เพราะเขาต้องยอมรับกับตัวเองว่าที่ผ่านมาใจเขามีเพียงหลินหว่านเท่านั้น

 

 

เซียวจิ่งสือพูดอ้ำอึ้ง “หลินหว่าน พวกเราอย่าเพิ่งใช้อารมณ์กันได้ไหม ปล่อยวางเรื่องเมื่อก่อนไปเถอะ”

 

 

ยังไม่ทันที่เซียวจิ่งสือจะพูดจบ หลินหว่านก็โพล่งขึ้นอย่างโมโห “อย่ามาเสียเวลาเปล่ากับฉันอีกเลย ฉันไม่มีผลประโยชน์อะไรให้คุณทั้งนั้น ฉันว่าคุณน่าจะไปหาคนที่คุณจะแต่งงานด้วยนะ แทนที่จะมาหาฉัน คนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ”

 

 

อาการหึงหวงของหลินหว่านแสดงออกทางสีหน้า เซียวจิ่งสือเห็นแล้วรู้สึกว่าเธอน่ารักเป็นบ้าเลย

 

 

“เซียวจิ่งสือ อย่าคิดว่าจะได้ผลประโยชน์อะไรจากตัวฉัน เมื่อก่อนฉันมองคุณผิดไป ปล่อยให้ความรู้สึกในตอนนั้นผ่านไปเถอะ พวกเราจะได้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ฉันไม่อยากได้ความรักที่เจือปนกับอะไรอย่างอื่น ฉันแค่อยากจะได้ความรักที่บริสุทธิ์สะอาดเท่านั้น” หลินหว่านพูดสีหน้าจริงจัง

 

 

คราวนี้เซียวจิ่งสือรู้สึกอับจนของจริง เขาคิดไม่ถึงว่าหลินหว่านเข้าใจเขาผิดไปมากมายใหญ่โต แต่ตอนนี้จะอธิบายอย่างไรจึงจะให้หลินหว่านรู้ว่าเขามีความจำเป็นจริงๆ

 

 

เซียวจิ่งสือลูบศีรษะตัวเอง มองดูหลินหว่าน เขาอยากจะบอกหลินหว่านมากมายหลายเรื่อง แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เซียวจิ่งสือรู้ว่าเรื่องที่เขาทำก่อนหน้านี้จะทำให้หลินหว่านเข้าใจเขาผิดอย่างแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าจะมากไปขนาดนี้

 

 

“หลินหว่าน คุณฟังผมอธิบายหน่อยได้ไหม ผมไม่ได้ต้องการผลประโยชน์อะไรจากคุณเลยจริงๆ นะ แล้วผมก็หวังว่าคุณจะไม่เห็นผมเป็นคนแปลกหน้าด้วยเหตุนี้ ผมกับเซียวจิ่งสือคนก่อนเป็นเหมือนกัน แค่ผมมีเหตุให้พูดออกมาไม่ได้ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะ” เซียวจิ่งสือมองหลินหว่านอย่างคาดหวัง

 

 

หลินหว่านไม่ได้พูดอะไร ยังหันมองไปทางอื่นอย่างดื้อดึง ใจเธอพลุ่งพล่านด้วยความรู้สึกที่อยากจะกอดเซียวจิ่งสือไว้ แต่ส่วนลึกของเธอรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะทำตัวเฉยชา หลินหว่านรู้สึกได้ว่าเซียวจิ่งสือคนนี้กับคนก่อนมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่กลับพูดไม่ออกว่าเปลี่ยนไปตรงไหน ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ส่วนลึกในใจของหลินหว่านก็ยังคิดถึงเซียวจิ่งสืออยู่ดี หลินหว่านอยากจะควบคุมความคิดแบบนี้ของเธอ แต่ก็ทำไม่ได้

 

 

“คุณไปซะเถอะ แล้วอย่ามาหาฉันอีก ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์จะได้รับความดูแลเอาใจใส่จากคุณ พวกเราจะกลับไปเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว คืนดีกันแม้จะง่ายแต่จะให้เหมือนเมื่อก่อนนั้นยากเกิน ต่อไปคุณก็อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ให้เราสองจากกันด้วยดีเถอะ”

 

 

หลินหว่านพูดความในใจจนจบแล้วกลับรู้สึกโดดเดี่ยวมาก เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงพูดออกไปแบบนั้น บางทีมีแต่ทำแบบนี้หลินหว่านจึงจะรู้สึกหลุดพ้น แต่พอพูดจบกลับรู้สึกเครียดยิ่งกว่าเดิม หลินหว่านว้าวุ่นใจขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าเซียวจิ่งสือจะทำอะไรต่อไป

 

 

เซียวจิ่งสือฟังคำพูดของหลินหว่านจนจบแล้วรู้สึกช็อกไปเลย ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะชดเชยอย่างไรก็เปล่าประโยชน์ แม้แต่คำอธิบายยังไม่มีโอกาสพูดออกจากปากด้วยซ้ำ หลินหว่านในตอนนี้เข้าใจเขาผิดอย่างมาก แต่ที่ทำให้เซียวจิ่งสือรู้สึกเสียดายอยู่บ้างก็คือ หลินหว่านไม่ให้โอกาสเขาอธิบายเลยด้วยซ้ำ เซียวจิ่งสือคิดว่าน่าจะให้หลินหว่านสงบจิตใจก่อนสักระยะ และให้เวลาตัวเขาได้ตั้งสติระยะหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจว่าจะไปจากหลินหว่านชั่วคราวก่อน เขาคิดว่าอีกสักระยะก็ยังมีโอกาสอีก ขอเพียงเขาไม่ยอมปล่อยเธอไป จะไม่ยอมไปจากเธอเด็ดขาด

 

 

เซียวจิ่งสือดูเหมือนเดินออกไปจากห้องเงียบๆ หลินหว่านได้ยินเสียงประตูปิด จึงหันไปมองออกนอกหน้าต่าง เธออยากจะเห็นเงาหลังของเซียวจิ่งสือ แต่พบว่าไม่มีโอกาสนั้น หลินหว่านคิดในใจว่าทำไมเธอต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย เธอรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจตัวเองมาก ในส่วนลึกของจิตใจหลินหว่านเธอยังชอบเซียวจิ่งสือ แต่ศักดิ์ศรีทำให้เธอต้องเลือกที่จะจากไป

 

 

หลินหว่านคิดถึงว่าเซียวจิ่งสือยังต้องเติบโตขึ้นอีก บางทีเขาในตอนนี้จำเป็นต้องให้ตัวเองเติบโตขึ้น หลินหว่านไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างน้อยการตัดสินใจของเธอในตอนนี้ทำให้เซียวจิ่งสือไปจากเธอก่อน

 

 

เซียวจิ่งสือจากไปแล้วแต่ใจยังคิดถึงแต่คำพูดของหลินหว่านอยู่ตลอด ส่วนลึกของจิตใจเขารู้ว่าเขาขาดหลินหว่านไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเป็นคนที่รักกันขนาดนั้น แต่ทำไมตอนนี้จึงเหมือนกับเป็นคนแปลกหน้า

 

 

เซียวจิ่งสือกลับถึงบริษัท เขาไม่สามารถสงบใจได้ ในหัวของเขายังหวนนึกถึงแต่เรื่องดีๆ ของเขากับหลินหว่านตลอด สุดท้ายกลับกลายเป็นอย่างในตอนนี้ เขาก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นใจ

 

 

วันรุ่งขึ้น เซียวจิ่งสือมาถึงที่บริษัท เขายังสงบใจไม่ได้ และเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับ ทำให้ดูแล้วเหนื่อยล้ามากๆ

 

 

“ท่านประธานเซียว หลายวันมานี้คุณดูเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงเอาเลย ทั้งยังดูไม่พร้อมจะทำงานเลย กลางคืนคงจะไม่ได้พักผ่อนละสิ! เรื่องนี้น่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าท่านประธานเซียวครับ เมื่อครู่ที่ให้ท่านเซ็นชื่อ ท่านเซ็นเป็นชื่อของคุณหลินหว่าน ท่านประธานเป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ” ผู้ช่วยจางพูดอย่างนอบน้อม ในมือยังถือเอกสารที่เมื่อครู่ให้เซียวจิ่งสือเซ็นชื่ออยู่เลย

 

 

เซียวจิ่งสือนิ่งอึ้งไป แล้วจึงเห็นว่าเขาเซ็นเป็นชื่อของหลินหว่าน

 

 

“อ้อ ขอโทษ เมื่อครู่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เลยเขียนผิดไปน่ะ คุณไปพิมพ์มาให้ผมเซ็นใหม่ก็แล้วกัน” เซียวจิ่งสือยิ้มแล้วพูดขึ้น

 

 

ผู้ช่วยจางยิ้มเล็กน้อยแล้วออกไปจัดการตามสั่ง

 

 

เซียวจิ่งสือยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ เขาหยิบเสื้อนอกมาพาดบ่าแล้วเดินออกไป

 

 

เซียวจิ่งสือเดินอยู่ข้างนอกเป็นครู่ใหญ่ สุดท้ายตัดสินใจว่าจะไปหาหลินหว่าน เขาปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้ คอยแต่จะคิดถึงหลินหว่านโดยไม่รู้ตัว

 

 

เซียวจิ่งสือเดินมาถึงหน้าห้องหลินหว่าน เขาเคาะประตู แต่ข้างในห้องไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย เซียวจิ่งสือโทรหาหลินหว่าน ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากมือถือของเธอดังขึ้น เซียวจิ่งสือรู้ว่าหลินหว่านตั้งใจจะหลบหน้าเขา