ตอนที่ 589 ท้าพิสูจน์

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 589

ท้าพิสูจน์

“หินก้อนนี้เรียกว่าเศษนภาขอรับ แร่ชนิดนี้สามารถเปลี่ยนสีตัวเองได้สามสีนั่นคือสีฟ้าส้มและดำเหมือนกับสภาพอากาศบนท้องฟ้าเราจึงเรียกมันเหมือนเป็นเศษชิ้นส่วนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าขอรับ”หลินเฟยตอบพลางผายมือไปทางหินสีดำที่อยู่ในกล่อง

“อ่อ งั้นมันก็เอามาทำเครื่องประดับสินะ”ชายที่ใช้หมัดตอบด้วยท่าทีสนใจ หินเปลี่ยนสีได้งั้นก็คงสวยดีละมั้งแบบนั้นพวกผู้หญิงน่าจะชอบ

“เปล่าขอรับ แร่ชนิดนี้นิยมนำมาทำอาวุธขอรับ สาเหตุที่มันเปลี่ยนสีได้เพราะในแร่ชนิดนี้มีพลังธาตุไฟความมืดและน้ำผสมอยู่ด้วยกัน ทำให้สามารถสร้างอาวุธที่ส่งเสริมพลังของผู้ใช้ธาตุเหล่านี้ได้ขอรับ”หลินเฟยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง แต่ชายผู้ใช้หมัดตรงหน้ากลับแสดงสีหน้าไม่ค่อยชอบใจออกมาเสียอย่างนั้น

“อาวุธ….ไร้สาระผู้แข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธหรอก”ชายผู้ใช้หมัดตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ แน่นอนเรื่องนี้หลินเฟยเข้าใจดีเพราะตัวไป๋จูเหวินตาของมันนั้นก็ใช้วิชามือเปล่าเช่นกัน แต่ตอนนี้หินล้ำค่าชิ้นนี้เป็นสินค้าของเจ้านายตนเอง จะปล่อยให้มันดูไร้ค่าได้อย่างไร

“แน่นอนขอรับ ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นแข็งแกร่งได้โดยไม่ต้องพึ่งอาวุธ หากฝึกจนบรรลุแล้วแม้แต่อาวุธใดก็ฟันแทงไม่เข้า”หลินเฟยพูดพลางใช้ดวงตาสีม่วงตรวจสอบร่างกายของชายที่ใช้หมัด พลังที่มันใช้เหมือนจะเป็นพลังคุ้มกายบางอย่าง ดูท่าผิวหนังคงจะแข็งจนอาวุธธรรมดาทำอะไรไม่ได้แน่ๆ แต่หากเป็นอาวุธระดับสูงหน่อยก็คงสามารถฝากรอยแผลเอาไว้ได้อยู่

“แน่นอน ไม่ว่าอาวุธใดก็ทำอะไรข้าไม่ได้ทั้งนั้น”ชายที่ใช้หมัดตอบด้วยท่าทีโอ้อวด

“แต่..นั่นก็จำกัดอยู่แค่อาวุธธรรมดาเท่านั้นขอรับ”หลินเฟยพูดตัดบทพลางมองไปทางชุนเจ๋อครู่หนึ่ง มันพูดขัดกับอีกฝ่ายเช่นนี้แต่ชุนเจ๋อยังไม่มีท่าทีจะห้ามแสดงว่ามันสามารถเสียมารยาทได้เล็กน้อยสินะ

“หากเป็นอาวุธที่สร้างจากแร่ชนิดนี้ บางทีผิวหนังของท่านก็อาจจะต้านรับไม่ไหว”หลินเฟยพูดจบก็ยิ้มออกมาน้อยๆด้วยท่าทีมั่นใจ แม้จะสร้างอาวุธระดับเดียวกับกระบี่ของหลินเฟยหรือทวนของท่านน้าจูล่งไม่ได้ แต่หินชิ้นนี้ก็เป็นของล้ำค่าที่สุดเท่าที่หลินเฟยเคยเห็นในอาณาจักรซานแห่งนี้ หากมีช่างทำอาวุธฝีมือดีคงสร้างอาวุธวิเศษดีๆได้แน่ และหลินเฟยก็เชื่อว่าอาวุธที่ออกมานั้นต้องเจาะพลังคุ้มกันของชายตรงหน้าได้อย่างแน่นอน

“เหลวไหล เด็กหญิงอย่างเจ้าคงไม่เข้าใจสินะว่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน”ได้ยินเช่นนั้นชายผู้ใช้หมัดก็มีท่าทีโมโหออกมาทันที แต่คำเรียกเด็กหญิงของอีกฝ่ายก็ทำให้หลินเฟยมีน้ำโหไม่น้อย แต่เพราะเป็นงานหลินเฟยก็คงแสดงท่าทีโกรธออกมาไม่ได้เหมือนอีกฝ่าย

“ข้าพอจะรู้เรื่องผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณอยู่บ้างขอรับ ส่วนเรื่องที่ข้าพูดก่อนหน้านี้จะจริงหรือไม่นั้น….”หลินเฟยยิ้มเย็นยะเยียบก่อนจะมองไปทางชุนเจ๋อและจิ๋นจี้หลงพริบตาหนึ่ง นอกจากพวกมันจะไม่มีท่าทีขุ่นเคืองแล้วทั้งสองยังยิ้มน้อยๆออกมาอีกต่างหาก ท่าทางทั้งสองจะมองแผนของหลินเฟยออกสินะ

“เกรงว่านายท่านต้องพิสูจน์ด้วยตนเองแล้วขอรับ”หลินเฟยยิ้มกว้างก่อนจะถอยหลังออกมาให้ชายที่ใช้หมัดสามารถเดินเข้าไปดูสินค้าได้ตามต้องการ

“พิสูจน์ พิสูจน์อย่างไร”ชายที่ใช้หมัดถามพลางมองแร่ในหีบไม้ด้วยความสงสัย จะให้เอาแร่ชิ้นนี้มากรีดบนตัวมันงั้นหรือ

“แน่นอนว่าวิธีที่ง่ายที่สุดนั้นจะต้องเอาแร่ชิ้นนี้ไปสร้างอาวุธเสียก่อนขอรับ ส่วนเรื่องพิสูจน์นั้นก็ต้องให้ท่านเป็นผู้ทดสอบด้วยตนเอง”น่าเสียดายแม้แร่ชิ้นนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษที่ดี แต่เอาแร่เปล่าๆมากรีดผิวหนังอีกฝ่ายก็คงไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องทำเป็นอาวุธขึ้นมาเสียก่อน

“งั้นรออะไรอยู่ละ ไปตามช่างทำอาวุธมา”ชายที่ใช้หมัดสั่งพลางชี้ไปทางพ่อบ้านหมงที่ยืนอยู่ตรงประตู

“ท่านแม่ทัพเจี่ยหุนใจเย็นก่อน หินเศษนภาชิ้นนี้เป็นสินค้าที่ข้านำมาขายให้ท่านจิ๋นจี้หลง เกรงว่าจะให้ท่านนำไปสร้างอาวุธไม่ได้หรอกขอรับ”ชุนเจ๋อปรามชายที่ใช้หมัดเสียก่อนที่พ่อบ้านหมงจะออกไปตามช่างทำอาวุธมาจริงๆ

“เจ้ายังไม่ได้ซื้อขายกันไม่ใช่หรือไง งั้นเจ้าก็มาขายให้ข้าซะ”เจี่ยหุนพูดตอบได้ห้วนดีไม่น้อย ที่แท้เจี่ยหุนผู้นี้ก็เป็นถึงแม่ทัพนี่เอง แต่พลังระดับเสินเซียนยังได้เป็นถึงแม่ทัพ หลินเฟยก็ไม่แปลกใจแล้วที่เมืองฮัวกิงถึงได้โดนกลุ่มโจรพวกนั้นยึดเมืองได้

“ไม่ได้หรอกขอรับท่านแม่ทัพ ข้าเป็นพ่อค้าถือมั่นในคำสัตย์เป็นที่สุด สินค้าชิ้นนี้ท่านจิ๋นจี้หลงได้สั่งจองเอาไว้แล้วตราบใดที่ท่านจ่ายเงินก่อนระยะสัญญาจะหมดข้าก็ไม่อาจขายให้ท่านได้”ชุนเจ๋อตอบด้วยท่าทีลื่นไหลไม่น้อย เท่านี้เจี่ยหุนก็ต้องไปตกลงกับจิ๋นจี้หลงที่เหมือนจะตำแหน่งใหญ่พอๆกันเอาเอง

“ท่านจิ๋น เช่นนั้นข้าจะไม่พูดมากข้าขอซื้อต่อแร่ชิ้นนี้เลยก็แล้วกัน”เจี่ยหุนว่าพลางชี้ไปที่แร่เศษนภาทันที

“ท่านเจี่ย อย่าใจร้อนเลย แร่ชิ้นนี้ข้าจะใช้เป็นของรางวัลให้กับผู้ชนะการประลองที่ข้าจะจัดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า เกรงว่าจะขายให้ท่านไม่ได้จริงๆ”จิ๋นจี้หลงตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ น่าเสียดายตำแหน่งของมันไม่ต้องกลัวเจี่ยหุน และมันก็มีสิ่งที่ต้องการมากกว่าเงินด้วย “งานประลองของเจ้า….”เจี่ยหุนได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่ง หากผู้ชนะจะได้แร่ชนิดนี้เป็นรางวัลก็เท่ากับว่าขอแค่มันชนะในการประลองครั้งนี้ก็พอสินะ

“ดี งั้นงานประลองอีก 3 เดือนข้างหน้าข้าจะร่วมประลองด้วย”เจี่ยหุนพูดตอบด้วยท่าทีมั่นใจทันที

“โอ้ เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย แม่ทัพเจี่ยร่วมลงประลองด้วยเช่นนี้ต้องสนุกแน่ๆ”จิ๋นจี้หลงว่าพลางยิ้มอย่างดีใจ การประลองที่มันจัดนั้นเป็นงานประลองใหญ่ประจำปี มียอดฝีมือจากทั่วแดนมาร่วมประลองมากมาย หากท่านแม่ทัพลงคงเอาชนะได้อย่างง่ายดาย แต่…. คู่แข่งที่มีระดับฝีมือสูงพอๆกับท่านแม่ทำก็ใช่ว่าจะไม่มี หากได้เห็นพวกมันสู้กันละก็ผู้ชมต้องแทบคลั่งเป็นแน่

“ท่านจิ๋น เอาชื่อข้าลงไปในผู้ร่วมประลองด้วยได้หรือไม่”ขณะกำลังคุยอยู่นั้น อยู่ๆชายที่ใช้พลองก็เอ่ยปากขึ้นหลังจากยืนฟังอยู่นาน

“แม่ทัพจิ้ง ท่านเองก็จะร่วมสนุกด้วยงั้นหรือ”จิ๋นจี้หลงถามพลางมองไปทางชายหนุ่มผู้ใช้พลอง การประลองเมื่อครู่นั้นทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าตัวมันนั้นมีฝีมือแทบไม่ต่างจากเจี่ยหุนเลย

“อาวุธที่สามารถทะลุร่างเหล็กไหลของท่านเจี่ยหุนได้ ของแบบนั้นมันล่อตาล่อใจดีไม่ใช่หรือ”แม่ทัพจิ้งหรือจิ้งอ้าวฉานพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสนใจ หากมีอาวุธเช่นนั้นในครอบครองตัวมันต้องเหนือกว่าเจี่ยหุนขึ้นไปอีกแน่ๆ

“ก็ถ้าเจ้าเอาชนะข้าในงานประลองได้ละนะ”เจี่ยหุนว่าพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมาด้วยท่าทีดุดัน

“งานประลองของข้าขึ้นชื่อว่าใครก็สามารถลงได้ แน่นอนว่าพวกท่านเองก็เช่นกัน”จิ๋นจี้หลงยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ไม่นึกว่างานนี้จะได้แม่ทัพถึง 2 คนมาร่วมงาน ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ

.

.

“หึหึ ไม่เลวเลยเจ้าปั่นหัวเจี่ยหุนแบบนั้นเพื่อให้ข้าพึงพอใจสินะ”หลังจากเจี่ยหุนและจิ้งอ้าวฉานเดินทางกลับไปแล้ว จิ๋นจี้หลงก็กลับมาพูดคุยกับหลินเฟยทันที

“ข้าเพียงอธิบายตามหน้าที่เท่านั้นขอรับ”หลินเฟยตอบพลางก้มหัวลงน้อยๆด้วยความถ่อมตัว

“มิน่าเล่าท่านชุนเจ๋อถึงได้พาเจ้ามาด้วย ว่าแต่แร่ชนิดนี้สามารถสร้างอาวุธที่โจมตีท่านเจี่ยหุนเข้าได้จริงๆงั้นหรือ”จิ๋นจี้หลงถามพลางมองไปที่แร่เศษนภา ก่อนหน้านี้ตัวมันแค่ฝากให้ชุนเจ๋อหาของดีๆมาเป็นของรางวัลให้กับผู้ชนะประลองเท่านั้น ไม่ได้สนใจเลยว่าจะเป็นอะไร

“ไม่ขอรับ”หลินเฟยตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ

“แบบนั้น….เจ้าก็แค่หลอกลวงเจี่ยหุนงั้นหรือ”จิ๋นจี้หลงถามพลางเลิกคิ้วสงสัย ตอนนี้ไม่ว่าแร่ชิ้นนี้นะสร้างอาวุธที่สามารถทำร้ายเจี่ยหุนได้หรือไม่ก็ไม่สำคัญหรอก เพราะตอนนี้มันเป็นรางวัลที่เจี่ยหุนอยากได้มากไปแล้ว

“เปล่าขอรับ แร่ชิ้นนี้สามารถนำไปสร้างอาวุธที่สามารถทำร้ายท่านเจี่ยหุนได้ก็จริง แต่แค่แร่ชิ้นนี้ชิ้นเดียวยังไม่พอขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาน้อยๆ

“เจ้า…เจ้าชื่ออะไรนะ”จิ๋นจี้หลงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามชื่อหลินเฟยออกมา สมแล้วที่เป็นขุนนางของอาณาจักรซาน เพียงพูดออกไปนิดเดียวก็เข้าใจทันทีว่าหลินเฟยต้องการอะไร เห็นได้ชัดเลยว่าอาวุธที่สามารถทำร้ายเจี่ยหุนได้นั้นเป็นสิ่งล่อตาล่อใจอย่างมากสำหรับผู้ลงประลอง แม้แต่แม่ทัพอีกคนอย่างจิ้งอ้าวฉานยังอยากร่วมประลองด้วยเพื่อชิงแร่ชิ้นนี้ หากป่าวประกาศออกไปว่าของรางวัลในครั้งนี้คือแร่ที่สามารถทำอาวุธที่สามารถทำร้ายเจี่ยหุนได้ละก็ ยอดฝีมือที่ปกติไม่สนใจเข้าประลองคงพากันมาร่วมสมัครแน่ๆ แบบนั้นไม่ใช่ว่าเจี่ยหุนจะชนะเสมอไป เพราะหากเจี่ยหุนชนะแล้วพิสูจน์ได้ว่าแร่เศษนภาไม่สามารถสร้างอาวุธที่ทำร้ายตัวมันได้จริงก็คงได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองและกลับมาตอกหน้าหลินเฟยเท่านั้น แต่…หากผู้อื่นชนะได้ไปแล้วไม่สามารถสร้างอาวุธที่ทำร้ายเจี่ยหุนออกมาได้ก็เท่ากับว่าจิ๋นจี้หลงหลอกลวงแล้ว นั่นเท่ากับว่าจิ๋นจี้หลงมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง นั่นคืออธิบายเรื่องนี้กับจิ้งอ้าวฉานและปิดเรื่องอาวุธที่จะสร้างจากแร่ชิ้นนี้เอาไว้เป็นความลับ แล้วให้การประลองเป็นแบบเดิม หรือไม่ก็ซื้อแร่ที่จำเป็นชิ้นอื่นๆจากชุนเจ๋อเพื่อให้สร้างอาวุธอย่างที่หลินเฟยบอกได้จริงๆ และใช้ข่าวนี้เรียกผู้ประลองจำนวนมากเข้ามาและสร้างงานประลองที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยขึ้นมาเสีย แน่นอนว่าจิ๋นจี้หลงย่อมต้องเลือกทางหลังอยู่แล้ว

“ข้ามีนามว่าหลินเฟยขอรับ”หลินเฟยตอบพลางประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม

“งั้นหลินเฟย เจ้าไปจัดเตรียมแร่ที่จะใช้ทำอาวุธที่เจ้าบอกมาซะ ข้าจะซื้อเพิ่ม”ได้ยินเช่นนั้นทั้งหลินเฟยทั้งชุนเจ๋อต่างยิ้มกว้างออกมาทันที คราวนี้นับว่าชุนเจ๋อเลือกคนไม่ผิดจริงๆ นอกจากจะช่วยเพิ่มความอยากได้ของแร่เศษนภาแล้วยังทำให้จิ๋นจี้หลงซื้อของเพิ่มได้อีกด้วย

.

.

“นายท่านขอรับ”หลังจากออกมาจากบ้านตระกูลจิ๋น ชุนเจ๋อยังไม่ทันได้กล่าวชื่นชมหลินเฟยตัวหลินเฟยก็กลับเป็นฝ่ายหันมาหามันเองเสียก่อน

“มีอะไรงั้นหรือ”ชุนเจ๋อถามพลางเลิกคิ้วสงสัย น้ำเสียงของหลินเฟยนั้นดูจริงจังไม่น้อยเลย

“ท่านมีช่างทำอาวุธที่รู้จักหรือไม่ขอรับ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีสงสัย มันกลัวว่าช่างทำอาวุธธรรมดาจะสร้างอาวุธที่มันคิดคำนวณเอาไว้ไม่ได้ คงต้องขอให้ท่านชุนเจ๋อช่วยแนะนำช่างทำอาวุธดีๆให้ด้วยเสียแล้ว