ตอนที่ 682 : เปิดเผยตัวตน

Virtual World – Peerless White Emperor

ตอนที่ 682 : เปิดเผยตัวตน

 

ทุกคนตกใจมาก! “เขาเป็นจ้าวแห่งเพชร! หนึ่งในสามพี่น้องจากประเทศจีน! จักรพรรดิคําราม!”

 

“พวกคุณยืนนิ่งกันทําไม?” จางเจิ้งเฉียงหันไปดูทุกคนที่กําลังจ้องมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “เอาล่ะทุกคน! ตามฉันมา!”

 

ทันใดนั้นเขาก็อัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาออกมา – เจ้าคางคกน้อย และพุ่งเข้าหาศัตรูด้วยจ้าวสีแดงเลือดของเขา เจ้าคางคกน้อยมองซ้ายมองขวามันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อมันไม่พบเย่ฉางอยู่ที่นี่

 

เมื่อจ้องมองที่หลังของจางเจิ้งเฉียง เจย์น่าก็ครุ่นคิด “เขาปิดบังตัวตนของเขา แต่มันไม่สําคัญ! เพราะเมื่อฉันคนนี้ตัดสินใจที่จะติดตามผู้ชายคนนี้แล้ว ฉันก็ไม่สนใจว่าเขาจะเป็นใคร! เพียงแค่ตามหลังเขาไปก็พอแล้ว” จากนั้นเธอก็ชักดาบออกมาแล้วพุ่งตามไป “ฆ่า!”

 

“ฆ่าพวกเขาให้หมด! กองทัพผู้กล้า!” อีแวนส์กลับมารู้สึกตัว “ใช่แล้ว! เฉพาะผู้ชายประเภทนี้ เท่านั้นที่สมควรเป็นจักรพรรดิ!”

 

“ฆ่า! กองทัพผู้กล้านั้นเก่งที่สุด!”

 

เมื่อดวงจันทร์ส่องแสงบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ทุ่งหญ้าก็กลายเป็นแม่น้ำสีเลือด ทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียอย่างหนัก มาร์โจจ้องมองผู้ชายที่เขาไม่สามารถฆ่าได้ “จํานวนคนของเรานั้นมากกว่าพวกเขาถึงสิบเท่า แต่ตอนนี้เราเหลือเพียงแค่นี้เอง? เดี๋ยวก่อน! นี่เรากําลังเสียเปรียบอยู่!” เขามองซ้ายมองขวา และเห็นพวกผู้เล่นที่อยู่ข้างๆเขาสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามกลับสึกเหิมมากยิ่งขึ้น ออร่าของเขาทําให้เราลําบากจริงๆ โชคดีที่จักรพรรดิแห่งโชคและจักรพรรดิขาวไม่ได้อยู่ที่นี้ด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ด้วยความสามารถด้านกลยุทธ์ของเขา ฉันเชื่อว่าพวกเขาสามารถเอาชนะเราได้อย่างง่ายดาย” ในเวลาเดียวกันข่าวของพวกกบฏที่โจมตีเมืองมังกรเงินก็ทําให้สถานการณ์แย่ลง “ทีมที่สี่ให้กันพวกเขาเอาไว้ก่อน ส่วนคนที่เหลือรีบถอยทัพให้หมด! เมืองมังกรเงินต้องการกองกําลังสนับสนุน! พวกกบฎอยู่ที่นั่น!”

 

เมื่อเห็นมาร์โจและคนอื่นๆที่กําลังถอยห่างออกไป จางเจิ้งเฉียงก็สับสน สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง! แม้ว่าเราจะต่อสู้กันจนจบ แต่เราก็อาจชนะอย่างฉิวเฉียด! และโอกาสที่พวกเขาจะชนะก็มีพอๆกับเรา แต่ว่าทําไมพวกเขาถึงล่าถอยที่แย่กว่านั้นคือพวกเขาส่งคนโง่มาป้องกันเรา”

 

“ตอนนี้พวกกบฏกําลังโจมตีเมืองมังกรเงิน แต่พวกเขาส่งสมาชิกแกนหลักมากกว่าครึ่งเพื่อมา ปิดล้อมเรา ดังนั้นพวกเขาจึงรีบกลับไปช่วยเมืองมังกรเงิน” อีแวนส์ยิ้มเยาะ

 

จางเจิ้งเฉียงพยักหน้า แล้วเขาก็ติดต่อหลินหลี่ทันที “หลินหลี่ นายกําลังทําอะไรอยู่?”

 

“พี่ใหญ่เฉียง ตอนนี้ฉันไม่ว่างคุย! ฉัน… ฉัน ฉันกําลังทําอะไรอยู่งั้นหรอ! เฮ้ นายคนนั้นมานี่ก่อน!”

 

“มีอะไรครับหัวหน้า”

 

“เรามาที่นี่ทําไมกัน?”

 

“ก่อกบฏ”

 

“พี่ใหญ่เฉียง ฉันกําลังก่อกบฏ! ตายซะเอ็ง!”

 

“หัวหน้า! ยั้งมือก่อน! เขาเป็นพวกเดียวกับเรา!”

 

“นายแน่ใจหรอ?! แต่เขาดูน่าสงสัยนะ! บอกมาซะดีๆ! แกเป็นสายลับของศัตรูใช่ไหม!?”

 

“…” จางเจิ้งเฉียงพูดอะไรไม่ออกและถอนหายใจ “เฮ้อ! หลินหลี่ นายสามารถเปิดเผยตัวตนได้เลย เปลี่ยนกลับเป็นอุปกรณ์สวมใส่ดั้งเดิมของนายซะ มีกองทัพขนาดใหญ่กําลังกลับไปที่เมืองมังกรเงินเพื่อสนับสนุน แต่ฉันก็กําลังไปช่วยนายด้วยเช่นกัน”

 

“ได้เลยพี่ใหญ่เฉียง!” หลินหลี่ถอดเสื้อคลุมนักเวทออกทันที พร้อมกับดึงขวานสงครามยักษ์ออกมา และพาดดาบยักษ์ไว้บนหลังของเขา

 

“เชี่ยแล้ว! นายพล Hubby กลายร่างแล้ว! ทุกคนยืนห่างๆเขาเข้าไว้!”

 

หลังจากที่เขายกเลิกการโทร จางเจิ้งเฉียงก็ออกคําสั่งให้เจย์น่า “สั่งให้บางคนอยู่เคลียร์สนามรบที่นี่ ส่วนคนที่เหลือให้ตามฉันมาเพื่อไปสนับสนุนพวกกบฏ! ไปกันเถอะ!”

 

“พวกโลจิสติกส์ให้อยู่เคลียร์ที่นี่! ส่วนคนอื่นๆนั้นตามมา! เป้าหมายของเราคือเมืองมังกรเงิน!” เจย์น่าเช็ดคราบเลือดที่แก้มของเธอ

 

เมืองเพิร์ท

 

หัวหน้าทีมรับสมัครกําลังพลในเมืองเพิร์ท – เอ็กตรีมสไปค์ ซึ่งเป็นแอสซาซินแกนหลักในอัศวินโต๊ะกลมกําลังจ้องมองทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า “นักธนูคนนี้เป็นมือดีคนหนึ่ง! ท่าทางของเขาอาจดูสบายๆก็จริง แต่เมื่ออยู่ในการต่อสู้ มือของเขาจะจับอาวุธตัวเองไว้เสมอ ไม่เลวเลย! สําหรับนักบวช? ไม่มีใครจะปฏิเสธนักบวชที่สวมใส่อุปกรณ์ที่ดี”

 

เจย์ลิสรู้สึกประหม่า “แอสซาซินหญิงคนนี้คือเอ็กตรีมสไปค์! แอสซาซินแกนหลักในอัศวินโต๊ะกลม! ฉันเป็นหนึ่งในแฟนคลับของเธอ!”

 

“ฉันได้ยินไอย์ซ่าบอกว่าพวกคุณต้องการเข้าร่วมอัศวินโต๊ะกลม และเข้าร่วมทีมโจมตีศาลเจ้า” ทันใดนั้นเอ็กตรีมสไปค์ตะโกนด้วยความโกรธ “บอกมาซะดีๆ! จุดประสงค์จริงๆของพวกคุณคืออะไร!?”

 

เจย์ลิสตื่นตระหนก กลิ่นอายของเอ็กตรีมสไปค์ทําให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่เย่ฉางกลับส่งเสียง “ฮีม” ออกอย่างเยือกเย็น “ฉันแค่ต้องการของรางวัลเท่านั้น! แต่เนื่องจากพวกคุณไม่ได้ต้อนรับเรา งั้นเราก็ไม่จําเป็นต้องอยู่ที่นี่ไปกันเถอะ!”

 

ทั้งคู่ต่างจ้องมองอย่างเย็นชา ครู่ต่อมาเย่ฉางหันกลับและเดินจากไปทันที พร้อมกับบังคับให้เจย์ลิสตามไปด้วย

 

“ช้าก่อน! พวกคุณสามารถเริ่มจากทีมมือใหม่ได้” เอ็กตรีมสไปค์พูดเบาๆ

 

“มันไม่มีอะไรน่าสนใจ ทีมมือใหม่งั้นหรอ? อิ่ม! ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรับรางวัลเล็กๆน้อยๆ ฉันต้องการเข้าร่วมทีมหลักและรับรางวัลที่มากขึ้น” เย่ฉางพูดโดยไม่หันกลับ

 

“แกมีคุณสมบัติอะไร! แกคิดว่าแกเป็น…” แอสซาซินข้างๆเอ็กตรีมสไปค์พูดจาเยาะเย้ย อย่างไรก็ตามเย่ฉางยิงธนูใส่เธอไปหนึ่งดอก ก่อนที่เธอจะสามารถพูดจบประโยคได้ เอ็กตรีมสไปค์รีบเหวี่ยงกริชตัดลูกศรที่พุ่งเข้ามาทันที ในขณะเดียวกันแอสซาซินก็อ้าปากค้าง ฉันไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เมื่อรู้ตัวลูกศรก็อยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ยิ่งกว่านั้นเขายังยิงโดยไม่มองทักษะการยิงธนูของ เขาเกือบจะเทียบเท่ากับนักล่าปีศาจ – แซก

 

เอ็กตรีมสไปค์จ้องที่มือของเยฉางด้วยความประหลาดใจ “รวดเร็วและลื่นไหล คนๆนี้ไม่ธรรมดาเลย จากนั้นเธอก็นั่งลงและพูดว่า “เอาล่ะ! ฉันยอมรับพวกคุณ! จงมารวมตัวที่จัตุรัสในวันพรุ่งนี้ คุณจะอยู่ภายใต้กองกําลังของแซก ฉันจะคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ คืนนี้พวกคุณสามารถพักที่เมืองนี้ได้”

 

“หัวหน้า คุณจะปล่อยให้พวกเขาเข้าร่วมทีมหลักง่ายๆงั้นหรอ?” แอสซาซินจ้องที่ทั้งสอง

 

“พวกเราก็เห็นแล้วนี่ นักธนูคนนั้นมีความสามารถจริงๆ และเราก็ต้องการคนอย่างเขาอยู่ในทีม สําหรับนักบวชนั้น เธออาจดูเป็นคนธรรมดาก็จริง แต่เธอกลับมีอุปกรณ์ที่ดีมาก เราต้องการนักบวชที่พัฒนาได้ด้วยตนเองแบบนี้” เอ็กตรีมสไปค์ครุ่นคิด “มันยากแค่ไหนที่จะฟูมฟักนักบวชให้มีอุปกรณ์ที่ดีได้

 

เมื่อเห็นเจย์ลิสยังคงตื่นตระหนกอยู่ เย่ฉางก็ตบหลังศีรษะเธอ “เหตุการณ์เล็กๆแค่นี้เอง! แต่คุณก็กลัวแล้ว! ไร้ประโยชน์จริงๆ”

 

เจย์ลิสทําอะไรไม่ถูก “พี่ชาย! คุณและฉันนั้นแตกต่างกัน ฉันเป็นเพียงเม็ดทรายเล็กๆในทะเลเท่านั้น เย่ฉางยิ้มอย่างเฉยเมยและลูบหัวเธอ “ไปเที่ยวกันเถอะ เราบรรลุเป้าหมายของเราแล้ว”

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เจย์ลิสรู้สึกอบอุ่นราวกับว่าเย่ฉางห่วงใยเธออย่างแท้จริง จากนั้นเธอหันกลับมา และเห็นรอยยิ้มที่ใจดีของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย และการลูบหัวของเธอก็เริ่มรุนแรงขึ้น “อีกไม่ช้าพวกแกก็จะตายแล้ว ฮี่ฮี่”

 

“แม่จ๋า! ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ!” ทันใดนั้นเจย์ลิสนึกถึงหางม้าทั้งสองข้างของเธอ เขาจะคืนผมหางม้าให้ฉันจริงๆหรือ?

 

เมืองมังกรเงิน

 

หลังจากที่หลินหลี่เปลี่ยนอุปกรณ์แล้ว พลังการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มขึ้นสองสามเท่า หัวใจของอลิสซ่าดิ่งลง เมื่อเธอไม่เห็นพันธมิตรของเธออยู่ในระยะ 10 เมตรจากหลินหลี่เลย “เขาคือจักรพรรดิแห่งโชค! ส่วนผู้นํากองทัพผู้กล้าก็คือจักรพรรดิคําราม! ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าจักรพรรดิขาวก็ต้องอยู่ที่นี้ด้วย!” เมื่อเธอยังอยู่ในอาการตกใจ ดาบยักษ์เล่มหนึ่งก็บินมาหาเธอและฆ่าเธอทันที หลินหลี่รีบพุ่งเข้ามารับดาบยักษ์ และเสียบไว้บนหลังอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เหวี่ยงขวานยักษ์อย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขาเป็นเครื่องบดเนื้อ ดวงตาสีแดงที่ดุร้ายและบ้าคลั่งของเขา ทําให้คนอื่นๆ หนาวสั่นลงไปตามกระดูกสันหลัง!

 

“เขาคือจักรพรรดิแห่งโชค!”

 

“ปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่ง?”

 

“เขาไม่อยู่ในประเทศจีนหรอกหรือ?”

 

“ฉันเดาว่าเขาคงใช้ม้วนเทเลพอร์ตทางไกล! ฮ่า ฮ่า ดูพวกสหภาพพันธมิตรที่ตายอย่างน่าสังเวชพวกนั้นสิ โชคดีที่ฉันวางตัวเป็นกลาง ใครจะชนะก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน! เฮ้ย! ท่านลอร์ดหลี่! ฉันเป็นกลางนะ!”

 

“เป็นกลางคืออะไร!? สําหรับฉันแล้ว ผู้ที่ไม่ใช่พันธมิตรของฉันนั้นก็คือศัตรูของฉัน!”