ตอนที่ 681 : ก่อกบฏในเมืองมังกรเงิน

Virtual World – Peerless White Emperor

ตอนที่ 681 : ก่อกบฏในเมืองมังกรเงิน

 

ด้วยการมีเจย์น่าอยู่ทางซ้ายและอลิก้าอยู่ทางขวา จางเจิ้งเฉียงเดินไปที่ใจกลางสนามรบอย่างไม่สะทกสะท้าน เขาตะโกน “โจมตีให้เร็วขึ้น! เร็วขึ้นอีก! ฉันเกือบจะถึงจุดศูนย์กลางอยู่แล้ว แต่พวกคุณยังต่อสู้กันไม่เสร็จเลยเหรอ! พวกคุณอยากให้ฉันไปสายหรือไงกัน!”

 

เมื่อพูดจบ จางเจิ้งเฉียงก็เปิดใช้ออร่าที่เพิ่มค่าสถานะ และเปิดใช้งาน [Warsong Aura] ทันใดนั้นทุกคนมีความกระตือรือร้นขึ้น ราวกับว่าพวกเขาถูกฉีดด้วยสารสเตียรอยด์ พวกเขากวาดล้างสถานที่อย่างรวดเร็ว ผู้คนที่อยู่ด้านหลังหยิบอุปกรณ์ใดๆที่พวกเขาพบเจอ และรีบติดตามจางเจิ้งเฉียงไปอย่างใกล้ชิด และมันก็เป็นเช่นนี้มาตลอดทาง พวกเขาเคลียร์พื้นที่ฝึกซ้อมสองสามแห่งซึ่งยึดครองโดยบางกิลด์ และชื่อของกองทัพผู้กล้าก็ค่อยๆได้รับความนิยมขึ้นมา ในขณะที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งหัวหน้ากองพันที่สี่ซึ่งเป็นนักเวทที่จัดการเรื่องการบริหาร – เคโลซ่าก็สัมภาษณ์และคัดเลือกคนจํานวนมากเข้าร่วมกองทัพ ทําให้ขนาดของกองทัพใหญ่ขึ้นเหมือนก้อนหิมะที่กลิ้งลงมาจากเนินเขา พวกกิลด์ที่ต้องการแก้แค้นจึงเริ่มจริงจังที่จะตอบโต้ และในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจจัดตั้งพันธมิตรขึ้นมา ซึ่งสมาชิกแกนหลักคือสองทีมจากสหภาพพันธมิตร และสองทีมจากอัศวินโต๊ะกลม

 

ใต้ดินในเมืองมังกรเงิน

 

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหลินหลี่ทั้งดื่ม และพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตที่พวกเขาต้องการหลังจากการปฏิวัติกับพี่น้องหลายๆคน ครู่ต่อมาเขาถูกลากไปโดยหัวหน้ากลุ่ม

 

หลินหลี่และคนอื่นๆนอนในบ้านที่พุพัง ในเวลานี้คําถามสามข้อที่อยู่ในใจของเขากลับเปลี่ยนเป็น เอ๊ะ ทําไมฉันถึงยังอยู่ที่นี้? พรุ่งนี้พวกเขาจะทําอะไรต่อ? แล้วทําไมฉันถึงนอนกับพวกเขา? และเมื่อไหร่ที่พี่ใหญ่ขาวกับพี่ใหญ่เฉียง คนโกหกทั้งสองจะมาที่นี่เพื่อมารวมตัวกัน?”

 

ในวันที่สอง หลินหลี่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมทีมซุ่มโจมตี พวกเขาได้รับมอบหมายให้โจมตีจากปีกซ้ายและขวา เพื่อสนับสนุนทีมหลักในการซุ่มโจมตีคฤหาสน์ของนายกเทศมนตรีเมืองมังกรเงิน หลินหลิ่ไม่รู้ว่าตัวเองมาเป็นหัวหน้าทีมซุ่มโจมตีปีกขวาได้อย่างไร แต่งานของเขาก็คือการลอบวางเพลิงเพื่อทําให้สถานที่วุ่นวาย “ฉันคิดว่าคนที่ลากฉันมาที่นี่คงแนะนําให้ฉันเป็นหัวหน้าทีม ตอนนี้ทุกคนประจําตําแหน่งแล้วพวกเราแค่รอให้ถึงเวลาตอนกลางคืนเท่านั้น”

 

ถนนในเมืองมังกรเงิน

 

อลิสซ่าขมวดคิ้ว ขณะที่เธอรู้สึกว่าอาจมีบางสิ่งไม่ดีกําลังจะเกิดขึ้น “เราได้ส่งคนจํานวนมากไปกําจัดกองกําลังที่เรียกตัวเองว่ากองทัพผู้กล้า แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นที่นี่ แล้วเราจะทํายังไงดี? กองทัพกบฏได้หยุดนิ่งมาซักพักแล้ว และมันยากมากที่จะปลดล็อคเควสกบฏขึ้นมาอีก มันไม่มีข้อกําหนดและเงื่อนไขที่ชัดเจนสําหรับปลดล็อคเควส และไม่มีใครรู้เกี่ยวกับข้อกําหนดของพวกเขาสําหรับการสรรหาสมาชิกของพวกกบฏ สิ่งที่เรารู้ก็คือมันมีพลังซ่อนเร้นอยู่ในเมืองเก่าแห่งนี้ พวกเขาดูเหมือนจะเป็นพลเมืองของอันซาส ก่อนหน้านี้นายกเทศมนตรีเมืองมังกรเงินเคยนํากองกําลังไปบุกโจมตีพวกเขาตั้งหลายครั้ง แต่ต้องกลับมาโดยมือเปล่าทุกที่ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจ มันอีก แต่ภูมิทัศน์ใต้ดินนั้นซับซ้อนเกินไป และทําให้หลงทางได้ง่ายๆ ก่อนหน้านี้เราเคยส่งทีมไปสองสามทีม และพวกเขาบังเอิญประสบความสําเร็จในการเข้าร่วมกับพวกกบฏ แต่พวกเขาไม่สามารถมีอิทธิพลต่อพวกกบฏได้มากนัก”

 

เธอถอนหายใจ และเดินมาที่ถนนด้านขวาของคฤหาสน์นายกเทศมนตรี ทันใดนั้นฝาท่อระบายน้ำก็เปิดออก และเงาที่คุ้นเคยก็พุ่งออกมา เธอรีบชักดาบทันที “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?!”

 

สิ่งแรกที่หลินหลี่เห็นคือนักดาบสาวผมแดงนมโต “เอ๊ะ ทําไมเธอดูคุ้นๆจัง? ใครจะไปสนใจ! ฉันจะฆ่าเธอ!” หลังจากหลบการโจมตีสามครั้งติดต่อกันของอลิสซ่าแล้ว เขาก็รีบกดเธอลงกับพื้นและทุบเธอจนตายขณะที่เอามือปิดปากเธอ จากนั้นเขาก็กระโดดไปตามท้องถนนและขว้างขวดระเบิดเพลิงระดับสูงทั้งหมดพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมของเขาที่อยู่ข้างหลัง “ระเบิดเพลิง! ระเบิดเ ลิง! ระเบิดเพลิง!”

 

เนื่องจากหลินหลี่ได้แจกจ่ายขวดระเบิดเพลิงระดับสูงบางส่วนให้กับเพื่อนร่วมทีมด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงขว้างมันไปทั่วทุกที่ในไม่ช้าประตูด้านขวาก็ติดไฟ

 

ทันที่ที่สงครามในเมืองมังกรเงินเริ่มต้นขึ้น ทีมหลักก็พุ่งโจมตีประตูหลักทันที ในขณะที่เกลลอนโจมตีลานหน้าคฤหาสน์จากปีกซ้ายพร้อมกับทีม เขาต่อสู้กับนายกเทศมนตรีอย่างหนักหน่วง ด้วยความช่วยเหลือของหลินหลี่ บ้านหลายหลังก็ถูกไฟไหม้ สถานการณ์ตอนนี้นั้นแย่มาก ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เพราะกลัวโดนลูกหลงจากดาบของเกลลอนและนายกเทศมนตรี – อาร์คาสที่ปะทะกัน

 

หลินหลี่คํารามพร้อมกับดึงคทาออกมา และบดขยี้เหรียญทองไปจํานวนหนึ่ง “เวทเสริมแกร่งร่างกาย!”

 

ครู่ต่อมาเขาพุ่งเข้าไปในฝูงชนและเริ่มสังหารหมู่ ตามปกติแล้วเขาจะเผลอทําร้ายพันธมิตรของเขาโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้นพวกกบฏจึงรีบวิ่งหรือกระโดดหนีอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาเห็นหลินหลี่กําลังพุ่งเข้ามา

 

“นายพล Hubby จากทีมซุ่มโจมตีปีกขวานั้นบ้าคลั่งมาก ราวกับว่าเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา”

 

“เขากําลังมาแล้ว! ทุกคนรีบหลบเร็วๆ! เวลานายพล Hubby บ้าคลั่ง เขาจะฆ่าทุกคนโดยที่ไม่สนว่าใครจะเป็นมิตรหรือศัตรู!”

 

เมื่ออลิสซ่าฟื้นคืนชีพที่จุดเกิด เธอก็นํากําลังคนมาช่วยในการต่อสู้ อย่างไรก็ตามการมาถึงของพวกเขานั้นไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เมื่อนึกถึงฉากที่เธอถูก Hubby ฆ่าอีกครั้ง อลิสซ่าจึงรู้สึกเศร้า สมาชิกของกิลด์อื่นๆที่อยู่ในเมืองมังกรเงินก็มาที่นี่เช่นกัน แต่คนเหล่านั้นกลับอยู่ห่างๆเพื่อเฝ้าสังเกตสถานการณ์แทน ในทะเลแห่งเปลวเพลิง แม้จะเห็นหลินหลี่ฆ่าพันธมิตรของเธอเหมือนผักปลา แต่เธอก็ทําได้เพียงกระชับดาบแน่น “ฉันต้องฆ่าเขาให้ได้!

 

ณ.ทุ่งหญ้าอะลาแคนซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมังกรเงิน

 

จางเจิ้งเฉียงถอนหายใจ เมื่อเขาเห็นกองทัพใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า

 

“ท่านผู้บัญชาการ เราถูกล้อมไว้หมดแล้ว” เจย์น่าพูด ขณะที่เธอเห็นจางเจิ้งเฉียงถอนหายใจ “นอกจากนี้ผู้นําของพวกเขาคือสมาชิกหลักของสหภาพพันธมิตรราชาพิษ – มาร์โจ และ นักดาบแสง – แจ๊ส”

 

“เกิดบ้าอะไรขึ้นฟะ! ทําไมถึงมีคนขวางทางฉันอยู่เรื่อย ในเมื่อฉันต้องการเพียงแค่ไปที่เมืองมังกรเงินเท่านั้นเอง!” จางเจิ้งเฉียงปล่อยมือที่โอบสาวๆ และโยนเกราะหนักลงบนพื้น จากนั้นเขาก็เปลี่ยนชุดเกราะของเขา และถือค้อนยักษ์ ครู่ต่อมาเขายิ้มอย่างชั่วร้าย และหันไปจ้องสมาชิกในทีมที่กําลังหวาดกลัวคู่ต่อสู้ “ฉันต้องการให้พวกคุณฆ่าศัตรูทั้งหมด พวกคุณทําได้ไหม?”

 

“ได้ครับ!” อีแวนส์ตะโกน

 

“แค่คนเดียวเองหรอ!? คนอื่นๆเป็นเต่าหัวหดไปหมดแล้วงั้นหรอ!? สโลแกนของกองทัพผู้กล้าคืออะไร!?”

 

“แล้วมันคืออะไร?” อลิก้าอยากรู้อยากเห็น “เรามีสโลแกนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ฉันแน่ใจว่าคุณไม่เคยพูดถึงมันมาก่อน

 

“การพุ่งโจมตีศัตรูอย่างกล้าหาญนั้นดีที่สุด!” ด้วยเสียงคําราม จางเจิ้งเฉียงหันกลับ และพุ่งเข้าไปหาศัตรูเพียงลําพัง

 

เสียงคํารามดังสนั่นไปทั่ว ปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมา และพวกเขาก็เลือดพล่านขึ้นมาทันที เมื่อเห็นกองทัพที่ใหญ่กว่าตัวเองสิบเท่า พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาเป็น 300 นักรบสปาร์ตันที่ต่อสู้กับกองกําลังเปอร์เซีย ใช่แล้ว! พวกเขามีคนมากกว่าแล้วไงว่ะ! เราจะกลัวไปทําไมกัน! พวกเรานั้นดีที่สุด!” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน “การพุ่งโจมตีศัตรูอย่างกล้าหาญนั้นดีที่สุด!”

 

“ดีที่สุด?”

 

มาร์โจจ้องจางเจิ้งเฉียง และคนอื่นๆที่กําลังพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง “ชายคนนั้นน่ากลัวเกินไป! ความสามารถในการปลุกเร้านั้นเป็นอาวุธที่น่ากลัวที่สุด แต่ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนคนที่ฉันรู้จักคนหนึ่ง…”

 

แจ๊สชักดาบยาวออกมา และพุ่งตรงไปที่จางเจิ้งเฉียง “ฉันจะต่อสู้กับผู้นําของกองทัพผู้กล้าเอง! เขาจะต้องเก่งมากแน่ๆ เพราะเขาสามารถเอาชนะคาสนัทได้!”

 

เมื่อเห็นว่าแจ๊สสนใจเขาเพียงคนเดียว จางเจิ้งเฉียงก็ยิ้มอย่างเย็นชา “แกกล้าที่จะมาคนเดียวเหรอ?”

 

ในขณะที่ทั้งสองปะทะกัน จางเจิ้งเฉียงหลบดาบของแจ๊สอย่างสมบูรณ์แบบ และเหวี่ยงค้อนสงครามกระแทกเขาออกไป จากนั้นเขาก็เปิดใช้ [Thunder Strike] โจมตีแจ๊สอย่างรวดเร็วและฆ่าเขาตายทันทีด้วย [Holy Judgement]! ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งภายใต้ฮูดจ้องไปที่มาร์โจและคนอื่นๆ “พวกแกประเมินฉันต่ําไปไหม? แกกล้าส่งคนๆเดียวมาต่อสู้กับฉันได้ยังไง! ไอ้พวกโง่เอ้ย

 

“นั่นมันเขาจริงๆด้วย!” เมื่อเห็นการต่อสู้ระหว่างจางเจิ้งเฉียงและแจ๊สมาร์โจก็จําเขาขึ้นมาได้ทันที เขาตะโกน “จักรพรรดิคําราม! ทําไมคุณทําเช่นนี้?!”

 

จางเจิ้งเฉียงถอดตู้ดออก และเช็ดเครื่องสําอางออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นชุดเกราะหรูหรา, สวมหมวกเหล็ก และถุงมือประดับเพชรที่เป็นสัญลักษณ์ของเขา เขายังเอาง้าวสีแดงเลือดออกมา และพาดไว้บนไหล่ “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันแค่มาที่นี่เพื่อพักร้อน เท่านั้นเอง แต่กลับมีแต่คนขวางทางฉัน…นั่นคือทั้งหมด”