ตอนที่ 591
ข่าวไม่สู้ดี
“เจ้าว่าอะไรนะ”รองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ตนเองก็พอได้ยินข่าวแว่วๆมาเหมือนกันว่าท่านจิ๋นจี้หลงมีแร่ที่สามารถสร้างอาวุธที่ทำร้ายท่านแม่ทัพเจี่ยหุนได้อยู่ แต่มันยังไม่ถูกสร้างเป็นอาวุธเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าหลินเฟยผู้นี้จะมาเสนอมันด้วยตนเอง
“ถูกแล้วขอรับ ข้ามาเสนอโอกาสสร้างผลงานให้กับท่าน แต่หากท่านไม่สนใจข้าก็คงต้องไปหาผู้อื่นแล้ว”หลินเฟยยิ้มด้วยท่าทีสบายๆเพราะต่อให้อีกฝ่ายไม่ทำตนเองก็ทำได้อยู่แล้ว
“มะ แม่นางใจเย็นก่อน”รองเจ้าสำนักได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้ามาห้ามหลินเฟยเอาไว้ทันที เพียงแต่คำเรียกแม่นางนั้นออกจะขัดหูหลินเฟยไปสักหน่อย ก่อนหน้านี้เพราะคนที่เรียกมีแต่คนใหญ่คนโตหลินเฟยเลยปล่อยผ่าน แต่คราวนี้หลินเฟยถือไพ่เหนือกว่าคงไม่อาจยอมได้
“ท่านรองเจ้าสำนักสายตาไม่ค่อยดีนักถึงได้มองข้าเป็นสตรี คำเรียกแม่นางนั้นคงเสียมารยาทไปสักหน่อยนะขอรับ”หลินเฟยพูดด้วยท่าทีจริงจังอย่างมากทำเอาชุนถังที่อยู่ใกล้ๆก็พึ่งนึกได้ว่าหลินเฟยกำลังปลอมตัวเป็นบุรุษอยู่
“ท่านรองเจ้าสำนัก สหายข้าท่านนี้เป็นชายของรับมิใช่หญิงแต่อย่างไร”คุณชายชุนถังแก้ต่างให้ทั้งๆที่ในใจไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย แต่ตัวรองเจ้าสำนักก็แสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบขอโทษหลินเฟยอย่างถ่อมตน ตอนนี้ตัวมันอยากได้โอกาสที่หลินเฟยมอบให้อย่างมาก
“น้องชาย เจ้าใจเย็นก่อน ในอาณาจักรซานแห่งนี้ผู้ใช้วิชาอัคคีได้ดีที่สุดไม่มีใครเหนือไปกว่าข้าแล้ว หากเจ้าอยากได้ช่างทำอาวุธระดับผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณละก็ไม่มีใครเหมาะไปกว่าข้าแล้วล่ะ”รองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายตอบด้วยท่าทีอ้อมแอ้ม ก่อนจะรีบพาหลินเฟยไปนั่งด้วยกันพร้อมรินชาให้ทั้งสองเรียบร้อยราวกับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองไม่มีผิด
“แน่นอนขอรับ หากท่านรองเจ้าสำนักสนใจข้าเองก็อยากให้ท่านได้ลองทำดู เพียงแต่ข้ายังไม่เคยเห็นฝีมือของท่านรองเจ้าสำนักมาก่อน ไม่ทราบว่าท่านรองเจ้าสำนักช่วยแสดงฝีมือให้ข้าน้อยได้เห็นเสียหน่อยจะได้หรือไม่ขอรับ”หลินเฟยถามพลางปรายตามองเหล่าอาวุธที่วางอยู่โดยรอบ แม้จะเป็นอาวุธชั้นดีมากกว่าที่เห็นในร้านขายอาวุธก่อนหน้านี้ แต่ฝีมือก็ยังหยาบอยู่มาก บางทีวิชาควบคุมไฟของท่านรองเจ้าสำนักจะยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ บางทีหลินเฟยอาจจะต้องชี้แนะเพิ่มเติมเล็กน้อย
“แน่นอน พวกเจ้ารีบเข้ามาเร็วข้าจะแสดงฝีมือให้พวกเจ้าดู”รองเจ้าสำนักได้ยินเช่นนั้นก็รีบลุกพรวดโดยไม่สนใจชาที่พึ่งรินเสร็จแต่อย่างไร ตัวมันรีบพาพวกหลินเฟยเดินทะลุตัวอาคารเข้าไปยังโรงหลอมส่วนตัวที่อยู่หลังอาคารทันที
.
.
หลังจากทดลองสร้างอาวุธชิ้นหนึ่งให้หลินเฟยดู หลินเฟยก็พบว่าวิชาควบคุมไฟของท่านรองเจ้าสำนักนั้นแย่กว่าที่คิดเสียอีก แต่พรสวรรค์ด้านการสร้างอาวุธนับว่ายอดเยี่ยมทีเดียว หากสอนวิชาควบคุมไฟที่ดีกว่านี้ท่านรองเจ้าสำนักต้องเป็นช่างทำอาวุธเลื่องชื่อได้แน่ๆ
“ท่านรองเจ้าสำนัก ข้าได้เห็นฝีมือของท่านแล้ว เพียงแต่…..”หลินเฟยพูดพลางนำกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากช่องมิติ พริบตานั้นชุนถังและรองเจ้าสำนักก็มีท่าทีประหลาดใจทันทีเพราะตัวหลินเฟยไร้พลังวิญญาณเหตุใดถึงใช้ช่องมิติได้ แถมยังไม่มีแหวนมิติที่นิ้วอีกต่างหาก
“ฝีมือของท่านรองเจ้าสำนักดีมากขอรับ เพียงแต่วิชาควบคุมไฟนั้นยังไม่ดีเท่าไหร่ ข้าอยากจะให้ท่านฝึกฝนวิชาที่ข้าจะเขียนต่อไปนี้ให้สำเร็จภายใน 3 เดือนขอรับ”หลินเฟยพูดจบก็นำพู่กันที่อยู่แถวๆนั้นออกมาเขียนรายละเอียดลงบนกระดาษทันที
“นองชายล้อเล่นแล้ว วิชาควบคุมไฟของข้านั้นร้ายกาจที่สุดในแผ่นดิน แม้แต่เจ้าอัคคีของอาณาจักรทางใต้ก็ยังไม่ใช่คู่ปรับของข้า”รองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายตอบพลางขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัย
“เอาไว้ท่านลองดูแล้วจะรู้เอง”หลินเฟยไม่ได้ต่อความอะไรเพราะหากได้ลองฝึกดูแล้วก็จะทราบเอง
“น้องชาย นี่มัน..”รองเจ้าสำนักมองวิชาฝึกฝนที่หลินเฟยพึ่งเขียนเสร็จด้วยท่าทีตกใจ เพียงไม่ย่อหน้าตัวรองเจ้าสำนักก็เข้าใจทันทีว่าวิชานี้เหนือกว่าวิชาที่ตนเองฝึกมาก ทำเอาตัวรองเจ้าสำนักถึงกับยืนนิ่งไม่กล้าขยับไปไหน
“ข้าอยากให้ท่านฝึกฝนให้เร็วที่สุดนะขอรับ เมื่อทางเรารวบรวมแร่ที่ต้องใช้จนครบแล้วข้าจะนำมันมาให้ท่านสร้างอาวุธให้อย่างที่ท่านต้องการ”หลินเฟยเขียนเคล็ดวิชาจบก็ยื่นกระดาษหลายสิบแผ่นให้รองเจ้าสำนัก
“แน่นอน ข้าจะฝึกฝนอย่างเต็มที่”รองเจ้าสำนักรับแผ่นกระดาษมาด้วยมือที่สั่นเทา ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงด้านการทำอาวุธเท่านั้น แต่ยามนี้หลินเฟยยังมอบวิชาที่น่าเหลือเชื่อมาให้ตนเองอีกด้วย ยามนี้รองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายรู้สึกเหมือนบุญหล่นทับเต็มรักเลยก็ว่าได้
.
.
.
“ท่าทางจะแย่เสียแล้ว”หลังจากกลับมาจากสำนักเหยี่ยวทะเลทราย ที่ร้านตระกูลชุนก็เกิดปัญหาขึ้นเสียก่อนทำเอาชุนเจ๋อถึงกับแสดงสีหน้าเครียดออกมาเลยทีเดียว
“มีอะไรหรือขอรับนายท่าน”หลินเฟยถามด้วยท่าทีสงสัย หลังจากชุนเจ๋ออ่านจดหมายที่พึ่งส่งมาก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนักทันที
“พวกผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่ทำงานให้ข้าโดนอสูรสังหารตายไปทั้งกลุ่ม เกรงว่าสินค้าที่สั่งเอาไว้จะไม่ได้เสียแล้ว”ชุนเจ๋อตอบพลางกุมขมับด้วยท่าทีปวดหัว กลุ่มผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่สามารถลอบเข้าไปในเขตอสูรและนำของออกมาได้นั้นมีจำนวนน้อย เสียไปทั้งกลุ่มแบบนี้เรียกได้ว่าเสียหายหนักเลยทีเดียว
“อย่าบอกนะขอรับว่าของที่พวกนั้นหามาจะเป็น….”หลินเฟยเห็นนายท่านทำท่าเครียดแบบนั้นก็นึกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดทันที
“ใช่..แร่ที่เจ้าบอกว่าต้องใช้ก็เป็นของที่กลุ่มนี้หามาด้วย”ชุนเจ๋อตอบพลางถอนหายใจออกมา แร่ที่หลินเฟยเขียนเอาไว้นอกจากจะบอกว่าต้องการแร่อะไรมาบ้างหลินเฟยยังเขียนแร่ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนได้ลงไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแร่บางตัวที่ต้องใช้โดยนำแร่ชนิดอื่นมาทดแทนไม่ได้อยู่
“แร่ที่ท่านว่าคือทรายดำสินะขอรับ”หลินเฟยถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีหนักใจ ทรายดำนั้นอยู่ในเขตอสูรบริเวณทะเลทางตะวันออก
“ถูกแล้ว ถึงมันจะอยู่รอบนอกเขตอสูรก็เถอะ แต่คนที่กล้าเข้าไปก็แทบจะไม่มี หลินเฟยไม่มีแร่อะไรเอามาแทนได้เลยงั้นหรือ”ชุนเจ๋อถามด้วยท่าทีสงสัย ไม่ทราบว่าหลินเฟยเอาสูตรทำอาวุธพวกนี้มาจากไหนหรอก แต่ของที่หามาไม่ได้ก็มีแต่ต้องหาทางแก้เท่านั้น
“ไม่ได้เลยขอรับ….”หลินเฟยตอบด้วยท่าทีครุ่นคิด แต่น่าเสียดายการสร้างอาวุธที่หลินเฟยพูดเอาไว้จำเป็นต้องใช้ทรายดำหรือไม่ก็แร่ที่สูงกว่านั้น เพียงแต่ในอาณาจักรซานแห่งนี้ไม่มีข่าวคราวของแร่ระดับสูงพวกนั้นเลย เกรงว่าหากพูดออกไปจะหายากเสียยิ่งกว่าทรายดำอีกกระมัง
“ข้าจะลองไปสำรวจในตลาดดูว่ายังมีทรายดำเหลือที่เมืองไหนบ้าง”ชุนเจ๋อตอบพลางเขียนจดหมายหลายฉบับเพื่อส่งไปยังเมืองต่างๆเพื่อสอบถามข่าวคราวจากเมืองทุกเมืองที่มันค้าขายด้วย หากยังมีทรายดำเหลือก็นับว่าแก้ปัญหาได้แล้ว
“นายท่าน เขตอสูรที่ท่านว่าอยู่เมืองไหนหรือขอรับ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีสงบกว่าชุนเจ๋อหลายเท่าเพราะต่อให้ไม่มีสินค้าในตลาด แต่หลินเฟยตัวคนเดียวก็มีวิธีนำทรายดำมาได้อยู่ แม้จะใช้พลังดึงดูดเหล่าอสูรไม่ได้ แต่หลินเฟยก็อยู่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 และเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 แค่เข้าไปในเขตอสูรนั้นไม่ใช่เรื่องลำบากเลย
“เขตอสูรตรงนั้นต้องเดินทางลงมาจากเมืองท่าจิ๋วชินลงมา 2 วัน ทำไมงั้นหรือ”ชุนเจ๋อถามพลางเงยหน้าขึ้นมาจากการเขียนจดหมาย
“ข้าจะลองไปที่เมืองนั้นดูขอรับ บางทีอาจจะหากลุ่มผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่สามารถเข้าไปเอาทรายดำมาได้ขอรับ”หลินเฟยตอบพลางเสนอทางออกให้ชุนเจ๋อ แน่นอนว่าหลินเฟยไม่คิดจะไปจ้างใครหรอก เพียงแต่จะเข้าไปนำทรายดำมาแล้วบอกว่าจ้างผู้อื่นเอาเท่านั้นเอง
“งั้นก็ดี เช่นนั้นข้าจะให้ชุนถังพาเจ้าไปที่นั่นก็แล้วกัน”ชุนเจ๋อตอบพลางลงไปเรียกชุนถังมาช่วยพาหลินเฟยเดินทางไปเมืองท่าจิ๋วชิน แน่นอนว่าชุนเจ๋อสามารถใช้ใครก็ได้เดินพาหลินเฟยไปส่งที่นั่น แต่เพราะบุตรชายมาขอร้องเอาไว้กับตนเองว่าหากหลินเฟยต้องการไปไหนให้บอกกับตนเองก่อนเป็นคนแรกชุนเจ๋อเลยได้แต่มอบโอกาสนี้ให้บุตรชายเท่านั้น เพราะหากได้หลินเฟยมาเป็นลูกสะใภ้คงไม่มีใครดีใจเท่าชุนเจ๋ออีกแล้วเพราะนอกจากนางจะงดงามแล้วยังฉลาดและรอบรู้ และที่สำคัญนางสามารถสานต่อกิจการของชุนเจ๋อได้แน่ๆนั่นเอง
.
.
“ได้ข่าวว่าท่านกำลังรวบรวมแร่โลหะหายากไปทั่ว ท่าทางข่าวอาวุธชิ้นนั้นจะเป็นความจริงสินะขอรับ”หลังจากหลินเฟยเดินทางไปยังเมืองจิ๋วชินแล้ว ตัวชุนเจ๋อก็ได้จัดการเรื่องแร่ชิ้นอื่นๆจนหมด น่าเสียดายที่ทรายดำไม่มีเหลือในตลาดเลยคงต้องฝากความหวังเอาไว้กับหลินเฟยเสียแล้ว
“ขอรับท่านหัวหน้าผู้ตรวจการ”ชุนเจ๋อตอบพลางเดินเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านของท่านหัวหน้าผู้ตรวจการนั่นเอง
“ว่าแต่ท่านชุนเจ๋อ ท่านมาหาข้าวันนี้มีเรื่องอะไรงั้นหรือ”หัวหน้าผู้ตรวจการถามพลางเลิกคิ้วสงสัย แม้จะเรียกกันห่างเหินเช่นนี้แต่แท้จริงแล้วชุนเจ๋อเป็นน้องเขยของท่านหัวหน้าผู้ตรวจการท่านนี้นั่นเอง
“ข้าพึ่งจัดการเรื่องแร่เสร็จก็เลยพึ่งจะมีเวลาว่างขอรับ ข้าเลยเอาตำราเล่มนี้มาให้ท่านพี่ช่วยตรวจสอบ”
“ตำรา…ไปได้มาจากไหนกัน”หัวหน้าผู้ตรวจการถามพลางรับตำราที่ชุนเจ๋อยื่นมาให้ ปกติชุนเจ๋อไม่ค่อยได้ขายตำรายุทธเท่าไหร่เพราะชุนเจ๋อไม่สามารถประเมิณวิชายุทธด้วยตนเองได้ พอได้มาก็ต้องให้หัวหน้าผู้ตรวจการช่วยดูทุกที
“เป็นของที่ลูกน้องคนหนึ่งของข้ามอบให้แทนการขอบคุณขอรับ ท่านพี่พอจะทราบหรือไม่ว่าเป็นวิชาแบบไหน”ชุนเจ๋อถามด้วยท่าทีสงสัย วิชาที่หลินเฟยมอบมาให้เป็นวิชาทวนที่แปลกมาก ชุนเจ๋ออ่านไปก็ไม่เข้าใจสักนิด
“วิชาทวนดาวตก….”หัวหน้าผู้ตรวจการขมวดคิ้วพลางเริ่มอ่านเนื้อหาตำราทีละน้อย แต่ยิ่งเปิดอ่านหัวหน้าผู้ตรวจการก็ยิ่งนั่งไม่ติด ตัวมันนั้นเป็นถึงหัวหน้าผู้ตรวจการมีวิชาความสามารถมากมาย ด้านวิชาการต่อสู้เกรงว่าจะเป็นรองแต่เพียงพวกแม่ทัพเท่านั้น แต่วิชาทวนที่กำลังอ่านอยู่นี้กลับล้ำลึกอย่างมาก บางทีอาจจะเหนือกว่าวิชาที่พวกแม่ทัพฝึกกันเสียอีก
“น้องเขย เจ้าได้วิชานี้มาจากใคร”หัวหน้าผู้ตรวจการถามพลางพุ่งตัวเข้ามาคว้าไหล่ของชุนเจ๋อแน่น
“ท่านพี่ มีอะไรหรือขอรับ”ชุนเจ๋องงเป็นไก่ตาแตกเมื่อได้เห็นท่าทีของพี่ภรรยาของตนเอง มันเคยเอาวิชาตั้งมากมายมาให้พี่ภรรยาดู แต่ไม่เคยเห็นมันออกท่าทางเช่นนี้มาก่อน
“ไม่สิ จากใครไม่สำคัญ เจ้าขายตำราเล่มนี้ให้ข้าเถอะ ข้ายินดีจะจ่ายให้เจ้าไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่”หัวหน้าผู้ตรวจการว่าพลางเขย่าร่างของชุนเจ๋ออย่างลืมตัว แต่ทางด้านชุนเจ๋อนั้นกลับอยู่ในอาการงุนงง วิชาที่หลินเฟยมอบให้มาเล่มนี้ยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้นเลยงั้นหรือ แต่หลินเฟยบอกว่าวิชาเล่มนี้เป็นสิ่งที่ครอบครัวของมันเก็บรักษาเอาไว้ งั้นครอบครัวของหลินเฟยเป็นใครกันแน่ถึงได้มีวิชาระดับที่ทำให้หัวหน้าผู้ตรวจการอยู่ไม่สุขได้ ไหนจะสูตรอาวุธพวกนั้นอีก….