“ช้าก่อน!”
ในตอนที่โยวเอ๋อร์กำลังเดินออกไปนั้น จู่ๆ หนานกงเช่อก็เปลี่ยนใจ
“เจ้ารอสักครู่ ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็กลับมา…”
หนานกงเช่อไปที่คุกใต้ดินเพื่อพบซย่าจื่ออวี้ ซึ่งก่อนจะไปพบกับนางนั้น เขาตั้งใจดึงทึ้งตนเองจนมีสภาพสะบักสะบอมอ่อนล้าอย่างหนัก
เมื่อเข้าไปถึงคุกใต้ดิน ซย่าจื่ออวี้ได้เห็นสภาพของหนานกงเช่อ ที่ดวงตากลวงโบ๋ ใบหน้าซีดขาว ก็ไม่สนใจอีกแล้วว่าตนเองกำลังถูกกักขังอยู่ในคุก นางรีบเดินไปที่ด้านหน้าของกรงขังทันที
“เช่อเอ๋อร์ ท่านพ่อทรมานเจ้าอีกแล้วใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่”
“เปล่าเลยครับท่านแม่”
หนานกงเช่อส่ายหน้าเบาๆ ฉับพลันเขาก็ไอออกมาอย่างหนัก จนต้องยกมือขึ้นปิดปาก จนตัวงุ้มราวกับกุ้งก็ไม่ปานเห็นเช่นนั้นทำให้ซย่าจื่ออวี้ตกใจจนแทบจะเป็นบ้า
“เช่อเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”
ซย่าจื่ออวี้ถูกกักขังอยู่ในคุกใต้ดิน ระหว่างแม่ลูกถูกขั้นกลางเอาไว้ด้วยลูกกรงเหล็กแน่นหนา ซึ่งถึงแม้ว่าซย่าจื่ออวี้จะเป็นห่วงเป็นใยบุตรชายทว่านางกลับทำอะไรไม่ได้เลย
“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร!”
จนกระทั่งหนานกงเช่อลดมือลง ซย่าจื่ออวี้จึงมองเห็นชัดเจนว่ามีเลือดสดๆ ติดออกมาบนฝ่ามือของเขาด้วย
“เจ้าไอเป็นเลือด”
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ซย่าจื่ออวี้ตกใจจนต้องร้องเรียกให้คนช่วย ทว่าหนานกงเช่อกลับจังมือห้ามปรามนางเอาไว้
“ท่านแม่ เกรงว่าข้าจะอยู่ได้อีกไม่นาน!”
หนานกงเช่อแค่นยิ้มขมขื่น
“ไม่รู้ว่าข้าจะอยู่รอดไปถึงเทศกาลปีใหม่ในปีนี้หรือไม่…”
“ไม่! ไม่หรอก!”
ซย่าจื่ออวี้ดึงทึ้งผมเผ้าของตนเอง
ต้องรีบตามหาเจ้าปีศาจน้อย เอาหัวใจของเขามาเปลี่ยนให้กับหนานกงเช่อโดยเร็ว!
แต่จะไปหาเขาได้ที่ไหนกัน!
“ท่านแม่ ท่านว่าขึ้นปีใหม่ปีนี้ เจ้าปีศาจน้อยจะกลับมาหรือไม่ หากว่าเขาไม่กลับมา ข้าจะทำอย่างไรดี”
หนานกงเช่อเงยหน้าขึ้น ดวงตาอันเศร้าสร้อยของเขาจ้องมองซย่าจื่ออวี้นิ่ง
“เขาจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!”
ซย่าจื่ออวี้กัดริมฝีปากแน่น
หลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่านางจะใช้วาจาทำร้ายจิตใจเจ้าปีศาจน้อยมากมายเพียงใด เขาก็ยังคงกลับมาที่สกุลหนานกงอยู่ทุกปีทั้งไม่เพียงเท่านั้นยังพำนักอยู่สองสามวันอีกด้วย
นั่นก็เป็นการบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ในใจของเจ้าปีศาจน้อยนั้นยังนับนางเป็นแม่อยู่ เขายังรอคอยความรักจากผู้เป็นแม่!
“ก็ไม่แน่! ตอนนี้หลิงเอ๋อร์จะต้องอยู่กับเจ้าปีศาจน้อยอย่างแน่นอน ไม่แน่นะว่าหลิงเอ๋อร์อาจลืมไปแล้วก็ได้ว่าข้าคือพี่ชายของนาง! พวกเขาได้ฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุขมีอิสรเสรี แต่ข้ากลับไม่ทันได้เห็นวันพรุ่งนี้แห่งฤดูใบไม้ผลิ!”
คำพูดหนานกงเช่อ กระตุกหัวใจของซย่าจื่ออวี้อย่างต่อเนื่อง
เพราะเทียบกันแล้ว สำหรับซย่าจื่ออวี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าปีศาจน้อยหรือหนานกงจื่อหลิงไม่มีใครสำคัญเทียบเท่าหนานกงเช่ออีกแล้ว
หลิงเอ๋อร์ออกจากบ้านไปตั้งนาน ป่านนี้ยังไม่ยอมกลับมา นางหมายความว่าอย่างไรกัน
นางต้องการให้เช่อเอ๋อร์ตายอย่างนั้นหรือ
ใจร้ายนัก!
ซย่าจื่ออวี้กำลังต่อว่าต่อขานหนานกงจื่อหลิงอยู่ในใจ
เจ้าปีศาจน้อยสนิทสนมกับหนานกงจื่อหลิงยิ่งนัก หากว่าหนานกงจื่อหลิงกลับมา เจ้าปีศาจน้อยก็จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน
จะทำอย่างไรจึงจะหลอกหนานกงจื่อหลิงให้กลับมาได้กันนะ
ในตอนแรกซย่าจื่ออวี้ยังคิดหาวิธีไม่ออก
“ไม่เช่นนั้น ข้าจะเขียนจดหมายหาหลิงเอ๋อร์! บอกให้นางกลับมาโดยเร็ว!”
ซย่าจื่ออวี้ไต่ถามความคิดเห็นของหนานกงเช่อ
“เจ้าปีศาจน้อยก็ไม่ได้โง่เท่าไหร่นัก!”
เลือดสีแดงสดฉาบเอาไว้ที่ริมฝีปากของหนานกงเช่อ เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
“ท่านแม่ วิธีเดียวในตอนนี้เห็นทีคงมีเพียงการยอมเจ็บตัวสักหน่อยจึงจะได้ผล! หลิงเอ๋อร์กตัญญูที่สุด หากนางรู้ว่าท่านแม่ถูกท่านพ่อจับขังเอาไว้ นางจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!”
“ทำเช่นนี้จะได้ผลหรือ”
ซย่าจื่ออวี้ขมวดคิ้ว ส่ายหน้าเบาๆ
“ปกติเจ้าปีศาจน้อยระมัดระวังตัวเป็นที่สุด ไม่แน่ว่าเขาจะติดกลับ”
เอ่ยถึงตรงนี้ ซย่าจื่ออวี้ก็เหลือบไปเห็นมีดเล่มน้อยที่เหน็บอยู่ที่เอวของหนานกงเช่อ
ฉับพลันนางก็คิดถึงแผนแกล้งเจ็บตัวที่หนานกงเช่อเอ่ยขึ้นมาเมื่อครู่
หากไม่ยอมเฉือนเนื้อตนเองก็คงจะล่อหมาป่าให้มาติดกับไม่ได้!
ซย่าจื่ออวี้ชักมีดออกมาจากฝักอย่างแรง แล้วกัดฟันตัดนิ้วชี้ของตนเองออกมา
“ท่านแม่ นี่ท่านแม่ทำอะไรกัน!”
หนานกงเช่อเห็นเช่นนั้นก็ร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว ทันใดนั้นเขาก็ไอเป็นเลือดออกมาอีกกองใหญ่
“เช่อเอ๋อร์ แม่ไม่เจ็บ!”
ถึงแม้จะเจ็บปวดจนเหงื่อซึมออกมาทั่วร่าง แต่ด้วยเกรงว่าหนานกงเช่อจะเป็นห่วง ซย่าจื่ออวี้จึงเอ่ยปากออกไปว่าไม่เจ็บปวด
นางฉีกชายเสื้อออกมาส่วนหนึ่ง พันแผลให้กับตนเองอย่างง่ายๆ จากนั้นจึงส่งนิ้วที่ตัดออกมาให้กับหนานกงเช่อ
“เช่อเอ๋อร์ เจ้าให้คนส่งนิ้วแม่ไปให้กับหลิงเอ๋อร์ เมื่อนางเห็นมันแล้วจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ให้ท่านพ่อของเจ้าหว่านแหล้อมจับปลาเสียเลย! จะต้องจับเจ้าปีศาจน้อยนั่นมาเปลี่ยนหัวใจให้กับเจ้าให้จงได้!”
รับเอานิ้วที่ถูกตัดของซย่าจื่ออวี้มา หนานกงเช่อรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก เขาหยิบขวดยาที่เตรียมมาออกมาจากเสื้อ
“ท่านแม่ ทายาเสียหน่อยนะเถอะครับ! ท่านพ่อยังโกรธเคืองอยู่ เห็นทีคงจะไม่ยอมปล่อยท่านแม่ออกมาในตอนนี้ แต่ท่านแม่วางใจ ข้าจะไปขอร้องท่านพ่อเอง!”
ซย่าจื่ออวี้มือกำขวดยาสมานแผลชั้นดีเอาไว้แน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ยิ่งรู้สึกว่าการที่นางตัดนิ้วของตนเองเพื่อหนานกงเช่อในครั้งนี้ ควรค่ายิ่งนัก
ยังมีลูกคนนี้ดีกับนาง!
เช่อเอ๋อร์ เจ้าจะต้องปลอดภัย!
ทว่าเมื่อหนานกงเช่อเดินออกจากคุกใต้ดิน ก็รีบใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดที่มุมปากทันที
จนกระทั่งหนานกงเช่อนำกล่องใส่นิ้วของซย่าจื่ออวี้ส่งให้กับโยวเอ๋อร์ เมื่อโยวเอ๋อร์เห็นชิ้นนิ้วกับแหวนสีเขียวมรกต บนนิ้วนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีด
“นี่คือนิ้วของ…!”
โยวเอ๋อร์ไม่ได้เอ่ยต่อ
นางปรนนิบัติฮูหยินมานาน แน่นอนว่าย่อมรุ้ดีว่าแหวนมรกตวงนี้ เป็นแหวนที่ฮูหยินโปรดปรานมากที่สุด ซึ่งฮูหยินจะสวมติดนิ้วไว้ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลานอนก็ยังมิยอมถอดมันออกเลยทีเดียว
ตอนนี้ฮูหยินถึงกับยอมตัดนิ้วของตัวเอง นี่นางกำลังจะทำอะไร
“เจ้ามอบกล่องใบนี้ให้กับคุณหนูใหญ่ ส่วนที่เหลือเจ้าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น!”
หนานกงเช่อกล่าวพร้อมๆ กับจิบน้ำไปด้วย
เขาคิดตกแล้ว เขาจะไม่โกรธเคืองน้องสาวเพียงเพราะคนนอก
ก่อนหน้าที่เจ้าปีศาจน้อยจะมา ความสัมพันธ์ของเขากับน้องสาวเป็นไปอย่างราบรื่น หนานกงจื่อหลิงตัวติดกับเขาราวกับตังเม วันๆ เอาแต่เรียก พี่ชาย จวบจนกระทั่งเจ้าปีศาจน้อยกลับมา
พูดไปพูดมา คนที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาพี่น้องก็คือเจ้าปีศาจน้อยนั่นเอง
ในเมื่อหนานกงจื่อหลิงคิดว่าเจ้าปีศาจน้อยนั่นดีหนักหนา เขาก็จะหลอกล่อมันกลับมาแล้วฆ่ามันเสีย!
ต่อไปน้องสาวก็จะมีเขาเป็นพี่ชายเพียงคนเดียว นางก็จะรู้เองว่าใครกันแน่คือคนในครอบครัว!
อีกอย่าง นี่ถือเป็นโอกาส หนานกงจื่อหลิงคิดมาตลอดว่าเจ้าปีศาจน้อยนั่นจริงใจกับนาง หากนางเกิดเรื่อง เจ้าปีศาจน้อยจะต้องกลับมาที่สกุลหนานกงเป็นแน่
หากว่ามันกลับมา ก็อาศัยกำลังจากยอดฝีมือที่มีอยู่มากมายในสกุลหนานกง จะต้องสามารถเด็ดหัวเจ้าปีศาจน้อยนั่นได้อย่างแน่นอน
แต่หากเจ้าปีศาจน้อยไม่มา ความสัมพันธ์ของมันกับหนานกงจื่อหลิงจะต้องเป็นอันตัดขาดกันในคราวนี้นี่แหละ
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ล้วนแต่เป็นผลดีกับเขาทั้งสิ้น
“คุณชายโปรดวางใจ โยวเอ๋อร์จะทำงานให้สำเร็จ!”
อาณาจักรต้าโจว
หากนับจากวันนี้ห่างจากวันที่แปดเดือนสิบสองอีกไม่นาน จวนหลินเจียงอ๋องจึงเริ่มประดับประดาโคมไฟและกระดาษสีแดงตัดลวดลายต่างๆ ไปทั่ว จนแทบจะกลายเป็นจวนใหม่ไปในทันที
ฮ่องเต้ทรงเห็นว่าคนของจวนหลินเจียงอ๋องไม่เพียงพอ จะทรงมีพระบัญชาจะส่งคนมาเพิ่ม ทว่ากลับถูกซย่าโหวฉิงเทียนปฏิเสธไป
เขาเกลียดที่สุดก็คือกาที่มีใครก็ไม่รู้มาเดินไปเดินมาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา แต่สุดท้ายซย่าโหวฉิงเทียนก็ต้องยินยอมหยิบยืมคนจำนวนสามร้อยคนมา แล้วจะส่งคืนหลังงานแต่งงาน
ซึ่งซย่าโหวจวินอวี่คิดว่ากระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
มีอย่างที่ไหนแต่งงาน มีครอบครัว แล้วยังทำราวกับเป็นบ้านเรือนของชายโสดก็ไม่ปาน!
“อย่างไรก็ต้องมีคนคอยปรนนิบัติเฟยเยียน!”
ด้วยรู้ดีว่าบุตรชายนิสัยหัวรั้นแข็งกร้าว ดังนั้นซย่าโหวจวินอวี่จึงเบนเข็ม
“ลูกเอ๋ย เจ้าไม่สงสารตัวเอง ก็ต้องสงสารเมียของเจ้าบ้าง!”
“ไม่ต้อง ข้าทำเองก็เพียงพอ!”
ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเกล้าผม แต่งตัว หรือว่าจัดเตรียมเครื่องประดับ ซย่าโหวฉิงเทียนทำได้ถูกใจอวี้เฟยเยียนมากที่สุด จึงไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาแทรกแซงเลยด้วยซ้ำ!
“เจ้าจะทำได้อย่างไร หรือว่าเจ้าที่เป็นผู้ชายอกสามศอก จะมาปรนนิบัติพัดวี เกล้าผมแต่งตัวให้ผู้หญิงหรืออย่างไร”
“ได้สิ! ข้าทำมาตั้งหลายเดือนแล้วด้วย!”
ซย่าโหวฉิงเทียนไม่พูดเปล่ายังแสดงท่าทีราวกับว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำอยู่แล้วอีกด้วย
อึก…
ทำเอาฮ่องเต้แทบทรงกระอักเลือด ยังไม่ทันแต่งงานก็กลายเป็นทาสเมียเสียแล้ว
มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือนี่