Kill the Hero 003
เมื่อค้นพบว่ามีแค่ผู้เล่นเท่านั้นที่สามารถทำลายดันเจี้ยนได้ แต่ละรัฐบาลก็เริ่มรวบรวมกองกำลังผู้เล่น ตอนแรกรัฐบาลกับกองทัพถูกนำไปใช้ อย่างไรก็ตาม มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่านั่นไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นผู้เล่นที่เตรียมจะแทงข้างหลัง
ด้วยเหตุนั้นสมาคมที่ประกอบด้วยผู้เล่นได้ถือกำเนิดขึ้น
มันเป็นวิธีที่ผู้เล่นจะปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา สำหรับพวกเขาสมาคมก็เหมือนกับเหรียญสองด้าน มีข้อยกเว้นเดียวสำหรับการปฏิบัติ และแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
สมาคมเมสสิอาห์ พวกเขาไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ แต่แสวงหาคุณค่าอันสูงส่งแทน การมีอยู่ของสมาคมเมสสิอาห์ทำให้สมาคมอื่นเป็นเหมือนกองขยะ กลุ่มผู้เล่นที่ตื่นขึ้นมาด้วยความโชคดีตาบอดด้วยสิ่งที่พวกเขาสนใจ ในบรรดาสมาคมเหล่านั้น สมาคมฟีนิกซ์มีชื่อเสียงแย่ที่สุด และสถานะของพวกเขาในเกาหลีเป็นรองแค่สมาคมเมสสิอาห์เท่านั้น
‘บรรยากาศที่นี่เหมือนเดิมตลอด’
ก่อนอื่น สำนักงานของสมาคมฟีนิกซ์มีบรรยากาศที่แปลกมาก ด้านหน้าอาคาร 25 ชั้นในซัมซองดง ซึ่งเป็นสำนักงานของสมาคมฟีนิกซ์ มีคนห้าคนยืนอยู่พร้อมกับร้องตะโกน
“สมาคมฟีนิกซ์ เห็นแก่ตัว!”
“ตื่น ตื่นได้แล้ว! “
“สมาคมฟีนิกซ์ ชดใช้เรื่องที่มอนสเตอร์อาละวาดมา!”
‘ดูจากสถานการณ์แล้ว มีมอนสเตอร์หลบหนีออกจากดันเจี้ยน หลังจากที่ถูกทำลายโดยสมาคมฟีนิกซ์ และทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดอย่างมากของสมาคม และประชาชน’
ปี 2023 เป็นช่วงเวลาที่มีผู้เคราะห์ร้ายจากมอนสเตอร์ดันเจี้ยนเป็นจำนวนมาก ในโซล ไม่รวมถึงพื้นที่รอบแม่น้ำฮัน และเขตกังนัม ที่มีนักการเมืองผู้มั่งคั่ง ผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ และผู้เล่นอาศัยอยู่ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยพอสำหรับจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน
‘ผ่านไปสองปี ก็ยังไม่มีการป้องกัน’
การประท้วงเหล่านี้ยากที่จะส่งผลได้ในสองปี
‘…มันเป็นช่วงเวลานับจากที่คุณโชคดีที่รอดมาได้’
สองปีต่อมา ผู้คนจะต้องขอบคุณสมาคมที่ปล่อยให้พวกเขาออกไปพร้อมกับแขนขาของพวกเขาได้ ถ้าหากพวกเขาได้รับค่าชดเชยดังที่กล่าวมา
‘มันไม่ใช่สถานการณ์ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยแค่สมาคมฟีนิกซ์เท่านั้น’
ความจริง ในอีกแง่หนึ่ง ความเสียหายที่เกิดจากสมาคมฟีนิกซ์นั้นไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย ตรงกันข้าม สมาคมฟีนิกซ์มีสถิติการเคลียร์ดันเจี้ยนดีที่สุดในบรรดาสมาคมผู้ใช้ในเกาหลี แต่นั่นไม่รวมสมาคมเมสสิอาห์ การร้องเรียนพวกเขาที่ทำให้เกิดความผิดพลาดนั้นเป็นที่ถกเถียงกัน เมื่อคุณเปรียบเทียบกับความผิดพลาดที่เกิดจากสมาคมระดับปานกลาง และไม่สามัคคีกัน อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของการประท้วงเช่นนี้เป็นสมาคมฟีนิกซ์มาโดยตลอด มันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นการประท้วงเช่นนี้หน้าสำนักงานใหญ่ของสมาคมอื่น
เหตุผลนั้นง่ายมาก
‘มันเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับผู้ที่ได้เป็นอันดับสอง’
ความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นสมาคมอันดับสองในเกาหลี ถ้าผู้คนจะประณาม และโทษใครสักคน ก็มักจะเป็นหนึ่งในสิบสมาคมอันดับแรก การประท้วงสมาคมใน 50 อันดับแรกนั้น ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไร
‘สมาชิกของสมาคมฟีนิกซ์ก็เลยซวยแบบนี้’
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าสมาคมฟีนิกซ์เป็นแพะรับบาปที่บริสุทธิ์ เมื่อพิจารณาถึงความผิดจากความผิดพลาดที่สมาคมฟีนิกซ์ได้ทำไป และความผิดที่พวกเขาจะทำในอนาคต มันไม่แปลกเลยที่จะเห็นผู้ประท้วงโยนระเบิดใส่สำนักงานใหญ่สมาคมฟีนิกซ์
‘ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของสมาคมอย่างสมาคมฟีนิกซ์ ก็จะไม่มีเหตุผลให้กลุ่มคนอย่างสมาคมเมสสิอาห์เกิดขึ้น’
จากจุดเริ่มต้น มันไม่ใช่เพราะทักษะ และความสามารถที่ทำให้สมาคมฟีนิกซ์กลายเป็นสมาคมอันดับที่สองในเกาหลี เกาหลีมีคำพูดที่ว่า “ถ้าคุณไม่ใช่ผู้มีอำนาจ มันก็หมายความว่าคุณไม่มีคุณสมบัติพอที่สมาคมฟีนิกซ์จะให้ความสนใจ” เพียงแค่คำพูดนี้ก็พอจะจินตนาการได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมฟีนิกซ์กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นอย่างไร นอกจากนี้ผู้เล่นเกาหลีส่วนใหญ่อยู่ฝั่งสมาคมฟีนิกซ์ ตรงกันข้าม สมาคมเมสสิอาห์มีผู้เล่นสนับสนุนน้อยมาก
‘หากไม่มีการสนับสนุนจากกลุ่มฮันซอง สมาคมเมสสิอาห์คงจะหายไปนานแล้ว’
หากไม่ได้รับการคุ้มครองจากกลุ่มฮันซอง สมาคมเมสสิอาห์ต้องถูกสมาคมฟีนิกซ์เหยียบแน่นอน
‘ไม่ มันอาจเป็นเพราะแบบนั้น’
ในการเปิดเผยครั้งนี้ คิมวูจินได้รู้อะไรบางอย่าง
‘ดูเหมือนเป็นกลุ่มฮันซองที่ฉวยโอกาสจากสมาคมฟีนิกซ์’
แม้แต่พวกเขาก็เป็นเพียงเครื่องมือ เป็นหมากในแผนการของกลุ่มฮันซอง และสมาคมเมสสิอาห์
‘โดยใช้สมาคมฟีนิกซ์ พวกเขาจะเพิ่มชื่อเสียงให้กับสมาคมเมสสิอาห์’
โดยการใช้สมาคมฟีนิกซ์เป็นกระจกแห่งความชั่วที่สะท้านด้านตรงข้ามอย่างสมาคมเมสสิอาห์ พวกเขาทำให้ภาพลักษณ์ของสมาคมเมสสิอาห์เปล่งประกายยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่ายังไง รัฐบาลเกาหลี และบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้การสนับสนุนสมาคมฟีนิกซ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าสมาคมอื่น ๆ และการสนับสนุนดังกล่าวยังคงรักษาผู้เล่นที่เป็นสมาชิกของสมาคมฟีนิกซ์เอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่คิมวูจินต้องการจะสูบเลือดสูบเนื้อจากสมาคมฟีนิกซ์
‘สมาคมฟินิกซ์นั้นเลวร้าย แต่สมาคมเมสสิอาห์ก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าฉันจะทำลายพวกเขาทั้งคู่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร’
ในทางกลับกัน การรู้เรื่องนี้ทำให้เขาหัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ไม่มีใครให้รู้สึกผิด ไม่ว่าเขาจะฆ่าใครก็ตาม
‘แม่ง…’
เป็นโลกที่เชี่ยฉิบหาย
คิมวูจินเข้าไปในสำนักงานใหญ่สมาคมฟีนิกซ์ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ
ปี 2020 จำนวนของดันเจี้ยนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกมเริ่มในต้นปีนั้น ในเวลาเดียวกัน จำนวนชั้นในดันเจี้ยนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในปี 2020 จำนวนชั้นสูงสุดในดันเจี้ยนที่ปรากฏคือ 4 ชั้น แต่ชั้นสูงสุดของดันเจี้ยนที่ปรากฏในปี 2023 คือชั้นที่ 6
นับประสาอะไรกับการลดความเสียหายที่เกิดจากดันเจี้ยน และมอนสเตอร์ มันจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ วันต่อวัน เกมได้เริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง เมื่อทุกอย่างถูกประเมินเป็นมูลค่าในโลกของผู้เล่น
“นี่คือเงื่อนไขของสมาคมฟีนิกซ์”
หลักฐานนั้นอยู่ในมือของคิมวูจินแล้วตอนนี้ สัญญา ข้อเสนอที่เสนอไว้ภายใต้ชื่อของเขานั้นไม่ธรรมดา มันเป็นสิ่งที่เกินความคาดคิดของคนทั่วไป
ก่อนอื่น เงินเดือนอยู่คนละระดับกันเลย
‘สำหรับการเซ็นสัญญาสองปี โบนัสลงนามคือหกร้อยล้านวอน’
สัญญามาตรฐานสองปีมาพร้อมกับโบนัสลงนามหกร้อยล้านวอน มาตรฐานสำหรับสามปีคือหนึ่งพันล้านวอน ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นแค่โบนัสลงนาม
‘การเคลียร์ดันเจี้ยนหนึ่งชั้น จะได้รับรางวัลเพิ่มอีกสามสิบล้านวอนต่อครั้ง’
เมื่อชั้นแรกของดันเจี้ยนถูกเคลียร์แล้ว ผู้เล่นจะได้รับรางวัลขึ้นอยู่กับผลงาน และในสถานการณ์ที่ชั้นสองของดันเจี้ยนเคลียร์ ก็จะได้รับรางวัลเพื่ออีกครั้ง เป็นร้อยล้านวอน
‘ไอเท็มทั้งหมดที่ได้รับจากดันเจี้ยนจะมอบให้กับคนที่พบ อย่างไรก็ตาม การขายไอเท็ม จะต้องขายผ่านทางสมาคมเท่านั้น’
แน่นอนว่าไอเท็มที่ได้จากดันเจี้ยนเป็นของผู้เล่นเอง แม้ผู้เล่นจะขายไอเท็มผ่านทางสมาคมก็ตาม แต่สมาคมอย่างสมาคมฟีนิกซ์จะให้ผู้เล่นมากกว่าที่พวกเขาควรได้เสมอ โดยจะไม่กดราคาสินค้าของพวกเขา ในหลาย ๆ ทาง มันเป็นเงื่อนไขที่ไม่ธรรมดา
‘พวกเขาก็ยังดีกว่าไร้ค่า’
อย่างไรก็ตามคิมวูจินไม่สนใจเงื่อนไขดังกล่าวแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ว่าเงินมันไร้ประโยชน์ ไม่เลย ตรงกันข้าม ตอนนี้คิมวูจินต้องการเงินมากกว่าเมื่อก่อนอีก
‘ด้วยจำนวนเงินที่น้อยขนาดนี้ การจะซื้อไอเท็มที่ฉันต้องการ แค่ชิ้นเดียวก็ยังซื้อไม่ได้เลย’
ปัญหาคือคิมวูจินต้องการเงินจำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่แม้เขาจะย้อนเวลากลับมาในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลแชบอลก็ยังไม่พอเลย
“นี่มันน่าตกใจมากครับ”
แน่นอนว่าสิ่งที่คิมวูจินต้องการนั้นไม่มีอยู่ในสัญญานี้แน่นอน
“ตามที่คาดไว้ เงื่อนไขพวกนี้เทียบไม่ได้กับเงื่อนไขจากสมาคมเมสสิอาห์”
“แน่นอน เงื่อนไขเหล่านี้ไม่อาจเทียบได้กับของสมาคมเมสสิอาห์ งั้นคุณยังต้องการเซ็นสัญญากับสมาคมฟีนิกซ์รึเปล่าละครับ? ”
“ผมไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้ แล้วผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมเป็นผู้เล่นได้ยังไงครับ? ถึงผมจะเปิดหน้าต่างสถานะขึ้นมาที่นี่ คนอื่นก็มองไม่เห็นอยู่ดี”
เมื่อถูกคิมวูจินถาม หัวหน้าทีมของทีมสรรหาของสมาคมฟีนิกซ์ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ก็ดึงซองหนังหรูหราออกมา และส่งไปให้คิมวูจิน
“นี่เป็นหน้าทักษะพิเศษสำหรับทูตแห่งนรกครับ”
หน้าทักษะ ตรงตามชื่อ มันเป็นกระดาษที่ใช้เรียนทักษะ ผู้เล่นจะได้รับทักษะโดยการฉีกหน้าทักษะ แต่มันจะไม่เกิดอะไรขึ้น เมื่อคนธรรมดาทั่วไปฉีกหน้าทักษะ
ความหมายว่า จะสามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้เล่นหรือไม่ แค่ให้พวกเขาฉีกหน้าทักษะก็พอ
แน่นอนว่าพวกเขามีวิธีอื่นอีกมากมายที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้เล่น แค่ให้พวกเขาใช้ช่องเก็บของก็พอแล้ว เพราะผู้เล่นสามารถนำไอเท็มออกจากดันเจี้ยน และสามารถเก็บสิ่งต่าง ๆ เช่น ชิ้นส่วนของมอนสเตอร์ไว้ในช่องเก็บของของพวกเขาได้
‘เจ้าเล่ห์มาก’
เหตุผลเดียวที่สมาคมฟีนิกซ์ใช้วิธีการนี้ เพื่อตัดสินว่าใครเป็นผู้เล่น ก็เพื่อแสดงความอำนาจของสมาคม ‘พวกเราแตกต่างจากสมาคมอื่นมาก’ ทำนองนั้น
‘ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องขอบคุณมัน’
สำหรับคิมวูจินเขารู้สึกขอบคุณสถานการณ์แบบนี้
“เลือกมาหนึ่ง แล้วกรุณาฉีกมันครับ”
คิมวูจินไม่ปฏิเสธเรื่องดี ๆ นี้แน่นอน เขายิ้ม คิมวูจินตรวจสอบหน้าทักษะแผ่นที่ 5
‘นี่คืออะไร? ‘
รอยยิ้มบนปากของคิมวูจินหายไป เขาจริงจังอย่างมาก
[เลือดพิษ (Blood Poisoning)]
– ข้อกำหนดที่ต้องการ : ทูตแห่งยมโลก
– เลเวลที่ต้องการ : สูงกว่า Lv 1
– เอฟเฟกต์สกิล : เปลี่ยนเลือดให้เป็นพิษ ความรุนแรงของพิษ จะเพิ่มขึ้นตามระดับของผู้ใช้ และระดับของทักษะ
เลือดพิษ การคิดถึงหมอนั่น ทำให้คิมวูจินต้องจริงจังขึ้นมา มันเป็นทักษะที่ไม่ได้ดูแข็งแกร่งเลย ถ้ามองในแง่ของประสิทธิภาพโดยรวม นั่นเป็นเพราะมนุษย์ไม่ใช่สัตว์ที่มีเลือดเยอะนัก
ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม มีเลือดประมาณ 5 ลิตร และเมื่อเลือดออกเกิน 2 ลิตร คนก็จะตาย นอกจากนี้เลือดที่มีพิษก็อาจทำให้เกิดปัญหากับคนรอบข้างได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเลือดกระจายออกมาในระหว่างการต่อสู้?
หรือเมื่อมีคนต้องการรักษาบาดแผลของตัวเอง? ยิ่งเป็นพิษมากเท่าไรก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงมีคนไม่มากที่สนใจเลือดพิษ มีผู้เล่นแค่ไม่กี่คนที่มีรัศมีทูตแห่งนรกแล้วเริ่มต้นด้วยสิ่งนี้ ทั้งที่ยังมีทักษะที่ดีกว่านับไม่ถ้วนที่ทูตแห่งนรกสามารถเรียนรู้ได้
ทุกคนคิดแบบนั้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวขึ้น
‘พอคิดว่าฉันจะได้เรียนรู้ทักษะเฉพาะตัวของราชาแห่งพิษมรณะแบบนี้’
ราชาแห่งพิษมรณะ แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาช้ามาก แต่เขาก็ยังเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพล เขากลายเป็นผู้มีอิทธิพลด้วยพิษของเขาเพียงอย่างเดียว! ทักษะเลือดพิษนี้ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขามีชื่อเสียง
‘ด้วยการใช้ทักษะดูดเลือด เขาจึงกำจัดข้อจำกัดเรื่องปริมาณเลือดของเขาได้ จากนั้นเขาก็สร้างโกเล็มเลือดด้วยเลือดทั้งหมดที่เขาได้รับมาจากทักษะดูดเลือด… มันเป็นฝันร้ายที่แท้จริง’
เลือดพิษ ดูดเลือด (Bloodsucking) และโกเล็มเลือด (Blood Golem) ความแข็งแกร่งของการรวมกันทั้งสามทักษะนี้ เป็นภัยคุกคามแม้กระทั่งกับลีเซจุน แม้แต่เขาก็ยังต้องถอยหลังไป ลีเซจุนทำอะไรไม่ได้ นอกจากถอย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาแห่งพิษมรณะที่ได้รับการคุ้มกันจากโกเล็มเลือดของเขา
ทักษะที่ว่านั้นตกมาอยู่ในมือของคิมวูจินแล้ว
“ผมจะใช้หน้าทักษะนี้”
แล้วคิมวูจินก็ฉีกหน้าทักษะทันที
แคว่ก*!*
จากนั้นหน้าทักษะเลือดพิษที่ถูกฉีกด้วยมือของคิมวูจินก็กลายเป็นความมืด และถูกดูดกลืนเข้าสู่ร่างของคิมวูจิน
[คุณได้เรียนรู้พิษเลือด]
นี่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าคิมวูจินเป็นผู้เล่นที่มีรัศมีทูตแห่งนรกจริง ๆ หลังจากยืนยันแล้ว หัวหน้าทีมสรรหาของสมาคมฟีนิกซ์ก็ยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า
“ขอบคุณที่เข้าร่วมกับสมาคมฟีนิกซ์ครับ” เขากล่าว
คิมวูจินจับมือกับเขา จากนั้นหัวหน้าทีมสรรหาของสมาคมฟีนิกซ์ก็ถามคำถาม
“ด้วยเหตุนี้ คุณต้องการอะไรไหมครับ? ”
คำถามนี้ คิมวูจินตอบทันทีราวกับว่าเขารออยู่
“ผมสามารถกู้เงินจากบริษัทได้มากแค่ไหนครับ? ”
$1 = 1,135.92 วอน โดยประมาณ