ตอนที่ 4

Kill the Hero

Kill the Hero 004

“ทำไมฉายาของพี่วูจินถึงเป็น ‘หมาล่าเนื้อ’ ละ? ”

จากคำถาม ทุกคนยกเว้นคิมวูจินหันไปมองสาวน้อยวัย 20 ต้น ๆ ผมของเธอมีสีขาวเหมือนหิมะ คิมวูจินยิ้มเยาะตัวเอง

“มันไม่แปลกหรอกเหรอ? คนอย่างพี่วูจินแข็งแกร่งพอ ๆ กับเจ็ดอันดับแรกเลยนะ อย่างพวก ราชาแห่งพิษมรณะ ราชาแห่งอันเดด แต่ทำไมถึงมี ‘หมา’ ในฉายาของเขาละ? ไม่ใช่ว่าเขาควรจะถูกเรียกว่า ราชานักล่า หรืออะไรทำนองนั้นเหรอ? ”

ชายคนที่อยู่ใกล้ ๆ ตัดสินใจตอบคำถามนั้นแทนคิมวูจิน

“เธอเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ได้มีฉายา ‘หมาล่าเนื้อ’ เพราะว่าสไตล์การล่าของเขาเหมือนสุนัขล่าสัตว์”

“หืม?”

“เพราะเขาคล้ายกับหมาไง”

เขาเหมือนหมา ทุกคนยกเว้นคนที่ถามคำถามพยักหน้าเล็กน้อยหลังจากนึกถึงสิ่งที่คิมวูจินทำ ในทางกลับกันผู้หญิงที่ถามยังคงสับสน และตัดสินใจที่จะถามเพิ่ม

“เหมือนหมา? หมายความว่าไง?”

“อย่างที่ฉันบอกไปน่ะแหละ บางทีเธออาจจะเข้าใจ ถ้าเธอกลายเป็นเหยื่อของคิมวูจิน ไอ้นี่มันเหมือนหมาบ้า….”

“การล่าของเราเริ่มแล้ว”

นั่นคือจุดสิ้นสุดของการสนทนา

“เตรียมตัวล่าได้”

หลังจากคำสั่งนั้น แววตาของคิมวูจินก็เปลี่ยนไป นั่นคือจุดสิ้นสุดของการระลึกความทรงจำของเขา

 

‘นั่นเป็นความฝัน’

คิมวูจินลืมตาหลังจากระลึกความทรงจำ

ติ้ง! ติ้ง! ติ้ง!

ขณะนั้นนาฬิกาปลุกเก่า ๆ ที่วางอยู่บนหัวเตียงของคิมวูจินก็ดังสนั่น

‘รู้สึกเหมือนกับเดจาวูเลย’

คิมวูจินปิดเสียงเตือน และลุกขึ้นจากเตียง หลังจากนั้นเขาก็พร้อมทำงานอย่างรวดเร็ว

‘การล่าครั้งแรกวันนี้ไม่ใช่ปัญหา’

นี่เป็นครั้งที่สองของเขา ที่ได้เคลียร์ดันเจี้ยนครั้งแรก

ดันเจี้ยนเกท มันเป็นประตูที่เชื่อมต่อดันเจี้ยนกับโลกแห่งความจริง ถ้าดันเจี้ยนเกทถูกทิ้งไว้โดยที่ไม่มีใครดูแล มอนสเตอร์ข้างในก็จะออกมา ดังนั้นดันเจี้ยนเกทจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบโดยเร็วที่สุดหลังจากที่ค้นพบ เมื่อมีการค้นพบดันเจี้ยนเกท ทหารรับจ้างหรือทหารที่ทำสัญญากับรัฐบาลจะควบคุมพื้นที่รอบ ๆ ดันเจี้ยนเกท

“ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นพื้นที่หวงห้ามแล้ว”

แน่นอนว่าห้ามพลเรือนธรรมดาเข้าไป เพื่อความปลอดภัย มีแค่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปในสวนสาธารณะในเมืองกวานนัมดง จังหวัดกวาชอนได้

“น่า ฉันแค่อยากมาเอารถที่จอดไว้!”

“การกระทำดังกล่าวเป็นข้อห้ามตามกฎข้อบังคับครับ”

“แต่ไม่ใช่ว่ามันจะมีมอนสเตอร์จะออกมาตอนที่ฉันเข้าไปซะหน่อยนี่?”

“ก็ยังไม่สามารถอนุญาตได้ครับ”

กฎระเบียบที่นี่นั้นเข้มงวดมาก

“นายมาจากกลุ่มไหน? นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ”

“ถ้าคุณไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ คุณจะถูกจับกุมหรือควบคุมตัว”

กฎระเบียบไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือหลบเลี่ยงได้ด้วยการคุกคามง่อย ๆ แบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบ้างกฎระเบียบดังกล่าวถูกมองข้ามไป เฟอร์รารี่สีแดงที่เพิ่งเข้ามาจากประตูตรงไปที่ลานจอดรถของสวน เป็นตัวอย่างถึงกรณีที่กล่าวมา ไม่จำเป็นต้องออกจากรถหรือตรวจสอบตัวตน รถเฟอร์รารี่เข้าไปในเขตหวงห้ามราวกับว่า มันกำลังเข้าสู่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า

“ฉันสงสัยว่านั่นเป็นผู้เล่นหรือเปล่า?”

“อาจจะใช่ จะมีใครนอกจากผู้เล่นที่จะเข้ามาในที่แบบนี้อีก ขับรถเล่นรึไง?”

ผู้เล่นเป็นคนเดียวที่สามารถขับรถต่างประเทศราคาแพงได้อย่างอิสระ ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นติดลบอย่างต่อเนื่อง เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และการว่างงานสูง เป็นอย่างที่คิด มีรถยนต์ราคาแพงสามคันจอดอยู่ในลานจอดรถ มันมีมูลค่าถึงพันล้านวอน

ในไม่ช้าชายหนุ่มคนหนึ่งก็ออกมาจากเฟอร์รารี่ที่จอดอยู่ เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม แสดงให้เห็นว่าเขาออกกำลังกายค่อนข้างบ่อย

“เฮ้ จูซอบ! ”

ชายหญิงสามคนโบกมือให้เขา

“ทุกคนมาเร็วไปไหม?”

ทุกคนเป็นผู้เล่นที่เป็นสมาชิกของสมาคมฟีนิกซ์ พวกเขารวมตัวกัน เพื่อเคลียร์ดันเจี้ยนที่อยู่ในสวนสาธารณะเมืองกวางมู

“คิดดูสิ นี่มันปาร์ตี้ในการล่าครั้งแรกของเราไม่ใช่เหรอ?”

“ถูกต้อง เราต้องมาก่อน เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เราล่า”

นอกจากนี้ สำหรับพวกเขาทั้งสี่คนนั้น การรันดันเจี้ยนในวันนี้ เป็นการล่าแบบกลุ่มครั้งแรก ไม่มีอะไรพิเศษ ดันเจี้ยนที่พวกเขาจะเข้าไปในวันนี้ อนุญาตให้ผู้เล่นเข้าได้พร้อมกันสูงสุด 5 คน ต้องมีเลเวลน้อยกว่า Lv10 นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นดันเจี้ยนระดับ E เท่านั้น

“มันอาจจะเป็นการรันดันเจี้ยนครั้งแรกของพวกนาย แต่มันเป็นครั้งที่สี่แล้วที่ฉันเคลียร์ดันเจี้ยน”

ยิ่งไปกว่านั้นคือชายที่ชื่อว่า บังจูซอบ ที่เป็นผู้นำพวกเขา เขาเคยเคลียร์ดันเจี้ยนสามแห่งกับคนอื่นมาแล้ว เทียบได้กับทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์มาก

“ฉันได้เลื่อนระดับขึ้นมาสองเลเวลแล้ว”

เขา Lv3 แล้ว

“ผมจะเชื่อฟังพี่จูซอบครับ”

“ฉันก็จะเชื่อฟังแค่พี่จูซอบค่ะ~”

“โย่ จูซอบ ดูแลฉันด้วยนะ”

สำหรับทั้งสามคนที่รวมตัวกันภายใต้การนำของบังจูซอบ พวกเขาไม่กลัวเรื่องการเคลียร์ดันเจี้ยนครั้งแรกของตัวเอง

“ว่าแต่ นี่เฟอร์รารี่รุ่นใหม่ไม่ใช่เหรอครับ? มันแพงมากเลยนี่นา?”

หลังจากที่เขาคำนวณรายได้ของตัวเองแล้ว เขาก็ตระหนักว่าเขาก็ซื้อได้เหมือนกัน แค่ต้องรอค่าตอบแทนที่เขาจะได้รับก่อน

“เอาน่า การเคลียร์ดันเจี้ยน แม้ว่าจะหลังจากแบ่งของแล้ว ก็ยังได้เงินเกือบ 10 ล้านวอน นอกจากนี้ถ้ามีไอเท็มหายากดรอป …”

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาคิดว่าความคาดหวังของพวกเขานั้นไม่ได้ไร้เหตุผล และแน่นอน เพราะพวกเขาคือผู้ที่ถูกเลือก

“ไม่ใช่ว่ามีอีกคนจะมากับเราเหรอ? ”

“ใช่ จากที่ได้ยินมา เขาเป็นผู้เล่นที่พึ่งตื่นขึ้นมาเมื่อวานนี้เอง”

“เมื่อวาน? แปลกมาก ฉันได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการล่าดันเจี้ยนก็หลังจากที่ฉันเข้าร่วมสมาคมมาหนึ่งเดือนแล้ว”

“เห็นได้ชัดว่าเขาเคยเป็นทหารรับจ้าง”

“อ่า เขาเป็นทหารรับจ้าง เดี๋ยว อะไรนะ? “

ความเย็นไหลผ่านความคิดของเขา

“นั่นอะไรน่ะ? ”

“มันคืออะไร? ”

รถที่ลานจอดรถที่พวกเขายืนอยู่ แน่นอนว่ามันไม่แปลกสำหรับรถที่จะเข้ามาในลานจอดรถ

‘ไลท์คาร์? ’

 

ปัญหาคือมันเป็นรถเล็ก ไม่ใช่รุ่นใหม่ แต่เป็นรุ่นเก่ามากจนเลิกผลิตไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รถยนต์ขนาดเล็กกะทัดรัดที่ปรากฏขึ้น จอดอยู่ในช่องว่างระหว่างเฟอร์รารี่กับเบนท์ลีย์ ในที่สุดชายหนุ่มคนหนึ่งก็ออกมาจากรถ เขาเป็นสมาชิกคนที่ 5 ของทีมดันเจี้ยนสวนสาธารณะเมืองกวางมู

อย่างที่คิด ความประทับใจแรกของคิมวูจินต่อทั้งสี่คนนั้นไม่ดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบังจูซอบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้

‘ไอ้บ้านั่นคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่? ‘

‘เขาเรียกเศษขยะนั่นว่ารถ และขับมาที่นี่เนี่ยนะ? ‘

สาธารณรัฐเกาหลีไม่ใช่สถานที่ที่จะตัดสินคนด้วยราคารถยนต์ใช่ไหม? ไม่ใช่ว่าผู้คนชอบนั่งรถราคาแพง เพื่ออวดสถานะของพวกเขาหรอกเหรอ?

นอกจากนี้ผู้เล่นทุกคนคิดว่าพวกเขาเป็นผู้ถูกเลือก เป็นชนชั้นสูง พวกเขาตัดสินว่าการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานของพวกเขานั้นแตกต่างจากคนทั่วไป ในที่สุดทุกวันนี้ก็คือการแสดงความฟุ่มเฟือยของผู้เล่นนั่นเอง การกระทำของทั้งสี่คนรวมถึงบังจูซอบเป็นหลักฐานของเรื่องนี้ แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นทุกคนแล่นจะขับรถราคาแพง แต่ก็ไม่มีผู้เล่นคนใดในเกาหลีใต้เคยขับรถยนต์ขนาดเล็กที่เลิกผลิตไป 10 ปีแล้ว มันไม่มีแม้กระทั่งในสมาคมเมสสิอาห์ที่มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการช่วยโลก

ตอนนี้ ในหัวของบังจูซอบ และปาร์ตี้ของเขาต่างก็คิดคล้าย ๆ กัน

‘เขาต้องมีหนี้จำนวนมากแน่ ถ้าเขาต้องนั่งรถแบบนี้ เพราะเงินที่ได้จากสมาคมฟีนิกซ์นั้นเยอะมาก’

พวกเขาคิดว่าคิมวูจินคงไม่ใช่คนประหยัด แต่เป็นคนที่ยากจนเกินไป

‘พวกเขาบอกว่าเขาเริ่มจากเป็นทหารรับจ้างใช่ไหม? ‘

‘ใครจะเป็นทหารรับจ้าง ถ้าพวกเขาไม่ได้ต้องการเงิน? ‘

นอกจากนี้ ความจริงที่ว่าคิมวูจินเคยเป็นทหารรับจ้างยังเป็นเหตุผลที่สนับสนุนสิ่งที่พวกเขาคิด ในที่สุดบังจูซอบ และทีมที่เหลือก็มาถึงข้อสรุป

‘เขาเป็นคนขอทานหรือเปล่า? ‘

‘เขาอาจจะยากจนมากใช่มั้ย? ‘

‘ด้วยรถยนต์แบบนั้นเขาอาจจะมีแค่ไอเท็มสนับสนุนเท่านั้น’

ไม่จำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับชายที่ชื่อคิมวูจินตรงหน้าของพวกเขา คิมวูจินที่ลงจากรถทำราวกับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ แนะนำตัวกับบังจูซอบ และปาร์ตี้ด้วยรอยยิ้ม

“ฉัน คิมวูจิน”

ในขณะที่แนะนำตัวเองเขายื่นมือออกไปหาบังจูซอบ บังจูซอบจับมือกับคิมวูจินอย่างดูถูก และแนะนำตัวเอง

“ฉัน บังจูซอบ”

เสียงของบังจูซอบที่พูดออกมานั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ชอบอีกฝ่าย บังจูซอบไม่ใช่คนเดียว แต่เพื่อนร่วมทีมของบังจูซอบก็เหมือนกัน อย่างไรก็ตามคิมวูจินยิ้มให้พวกเขา จับมือ ยิ้ม และทักทายพวกเขาพร้อมกับสบตา

“ฉัน ลีฮุนจุง”

“ฉัน ปาร์คซังมุน”

“ฉัน คังฮุนอิน”

เขาฟังเสียงของพวกเขา เอาใจใส่ชื่อของพวกเขา และคิดว่า

‘ฉันไม่รู้จักชื่อของพวกเขาเลย ฉันจำหน้าของพวกเขาไม่ได้ด้วย’

เขากำลังตรวจสอบว่าพวกเขาเป็นคนที่สำคัญพอจะจำได้ชัดเจนหรือใครเคยเป็นเหยื่อของเขาบ้าง

‘ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันยังไม่ต้องฆ่าใคร’

ในบรรดา 4 คนนี้ ไม่มีใครที่ขวางทางคิมวูจิน หลังจากคิดไปสักพัก คิมวูจินก็เลิกสนใจพวกเขา นี่เป็นช่วงเวลาที่ทั้ง 4 คนรอดชีวิตมาได้นั่นเอง

‘เขาทำตัวแปลก ๆ ยังกับว่าเราสนิทกันงั้นแหละ’

‘เขาคงไม่ยืมเงินใช่ไหม? ’

‘ฉันควรอยู่ห่าง ๆ เขา’

เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่มีวันรู้ความจริง และจะไม่มีโอกาสได้รู้

“อ่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ฉันชื่อคูซังฮุน สมาชิกทีมสนับสนุน ฉันจะเริ่มบรรยายสรุปดันเจี้ยนแล้ว”

จากนั้นก็เริ่มการรันดันเจี้ยนทันที

 

[รังก็อบลิน]

– ความลึกของดันเจี้ยน : 1 ชั้น

– ความยากของดันเจี้ยน : E Rank

– เข้าได้สูงสุด : 5 คน

– เงื่อนไขในการเข้า : ต่ำกว่า Lv10

– เงื่อนไขการเคลียร์ : กำจัดก็อบลินทั้งหมดในดันเจี้ยน

 

คิมวูจินตรวจสอบข้อมูลดันเจี้ยนอย่างระมัดระวังผ่านหน้าต่างโฮโลแกรมที่มีแต่ผู้เล่นเท่านั้นที่มองเห็นได้ อย่างไรก็ตาม บังจูซอบ และปาร์ตี้ของเขานั้นต่างกัน

“ในที่สุดก็ได้เข้าดันเจี้ยนแล้ว”

“ทุกอย่างจะเรียบร้อยดีใช่ไหม? จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? ”

“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราแค่ต้องจัดการกับมัน เหมือนกับที่เราฝึกมา”

ความประหม่าของพวกเขานั้น เห็นได้อย่างชัดเจน บนใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยความคาดหวังต่อดันเจี้ยนเมื่อไม่นานมานี้

“ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้ฉันใช้เงินไปมาก และซื้อดาบยาวหายาก ราคา 50 ล้านวอนมา  ฉันมั่นใจว่ามอนสเตอร์อย่างก็อบลินต้องถูกหั่นเป็นชิ้นแน่นอน แค่เชื่อใจฉัน”

‘ถึงฉันต้องซื้อมันด้วยเครดิตก็เถอะ เพราะฉันเหลือเงินไม่มากหลังจากซื้อรถ…’

บังจูซอบที่โม้เรื่องไอเท็มใหม่ของเขาก็ตื่นเต้นเหมือนกัน มันเป็นการตอบสนองที่สมเหตุสมผล

“ถ้ามีปัญหาก็บอกฉันได้ตลอดเวลา! อย่ากดดันตัวเองในดันเจี้ยน!”

ผู้เล่นเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในดันเจี้ยนได้ หมายความว่าภายในดันเจี้ยน ผู้เล่นต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง พวกเขาต้องกำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดในดันเจี้ยนด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างเมื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน

“ทุกคนตรวจสอบช่องเก็บของของคุณอีกครั้ง!”

ข้อจำกัดที่ใหญ่ที่สุดคือช่องเก็บของ มีแค่ไอเทมที่ได้จากดันเจี้ยนหรือไอเทมที่สร้างขึ้นโดยใช้วัสดุที่พบในดันเจี้ยนเท่านั้น ที่นำเข้าสู่ดันเจี้ยนได้ นอกจากนี้ ช่องในช่องเก็บของสามารถใส่ไอเทมได้แค่ชิ้นเดียว

กระเป๋าไอเทมพื้นฐานที่สุด บรรจุของได้ 20 ชิ้น น้ำหนักสูงสุดรวมแล้ว 20 kg ให้แน่นอนก็คือ ผู้เล่นได้รับช่องเก็บของ 20 ช่องทันทีที่เปิด และสามารถใส่ไอเทมได้ 1 kg ต่อ 1 ช่อง ถ้าน้ำหนักเกิน 1 kg มันจะใช้ช่องเพิ่มขึ้น ดาบขนาด 3.4 kg ใช้ช่องเก็บของ 4 ช่อง

นอกจากนี้ ไอเทมสวมใส่ยังใช้ช่องเก็บเช่นกัน การสวมใส่ไอเทมพื้นฐาน อย่าง หมวก, เกราะ, ถุงมือ, รองเท้า, อาวุธ และโล่ ต้องมีช่องเก็บของอย่างน้อย 7 ช่อง

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรดตรวจสอบทรัพยากร (Supplies) ด้วย”

แน่นอนว่า มีการจำกัดจำนวนทรัพยากรที่พกพาได้ นั่นคือเหตุผลที่ผู้เล่นต้องจัดไอเทมในช่องเก็บของอย่างระมัดระวัง คิมวูจินตรวจสอบช่องเก็บของอีกครั้ง อย่างช้า ๆ เขาตรวจสอบไอเท็มของเขา เริ่มจากทรัพยากร ไม่นาน คิมวูจินก็ตรวจสอบไอเทมสุดท้ายของเขา

 

[แส้ของก็อบลินแชมเปียน]

– ไอเทมเกรด : ยูนีค

– โจมตีกายภาพ : 19

– ต้องการเลเวลสูงกว่า Lv1 เพื่อใช้งาน

– คำอธิบายไอเทม : มันเป็นแส้ที่ก็อบลินแชมเปียนใช้เพื่อควบคุมก็อบลิน มันจะใช้เอฟเฟกต์ความกลัวกับก็อบลิน

– เมื่อสวมใส่ กายภาพ +5

– เพิ่มความเสียหายเบื้องต้น 10% เมื่อโจมตี

– เพิ่มความเสียหาย 30% เมื่อโจมตีก็อบลิน

 

แส้ นั่นคืออาวุธที่คิมวูจินเลือกใช้สำหรับดันเจี้ยนนี้ นอกจากนี้มันคืออาวุธที่คิมวูจินซื้อ โดยใช้เงินครึ่งหนึ่งที่เขาได้รับจากสมาคมฟีนิกซ์ มันเป็นอาวุธที่แพงพอ ๆ กับเฟอร์รารี่ที่บังจูซอบคุยโว อย่างไรก็ตามคิมวูจินไม่ได้ใส่ใจมากนักเกี่ยวกับการที่เขาใช้เงินจำนวนมากไปกับอาวุธแค่ชิ้นเดียว แต่กลับเป็นเรื่องอื่นที่ทำให้คิมวูจินรู้สึกไม่พอใจในตอนนี้

‘ฉันจะซื้อของดีกว่านี้ได้ ถ้าฉันยืมเงินประมาณหนึ่งพันล้านวอนได้’

ที่จริงเขาไม่พอใจกับจำนวนเงินที่เขากู้มาจากสมาคมฟีนิกซ์

‘ฉันเดาว่าฉันต้องหาเงินเหมือนหมาไปสักพัก’

หมายความว่า เขาต้องใช้เงินในขณะที่เก็บเงินไปด้วย อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่รุนแรงนี้อยู่ไม่นานนัก

“จากนี้ เราจะเริ่มเข้าสู่ดันเจี้ยนกัน!”

สำหรับหมาล่าเนื้อ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกแบบนี้