บทที่ 901 คุณเป็นคนทำ

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 901 คุณเป็นคนทำ

ต้าหยวนหยวนเห็นฉินเทียนก็ไม่ได้โกรธจริงๆถึงจะรู้สึกวางใจ ไม่รู้ทำไม เมื่อเผชิญหน้ากับฉินเทียนในเวลานี้ จู่ๆเธอก็รู้สึกกระดากอาย ไม่มีความกล้าที่จะพูดตรงไปตรงมาเหมือนเมื่อวาน

เธอใช้ผ้าห่มคลุมตัวเดินเข้าห้องอาบน้ำด้วยเท้าเปล่า ไม่นานก็ออกมาในชุดกี่เพ้าสั้นลายเครื่องลายครามตัวเมื่อวาน

ถึงแม้ว่ามันจะเปิดเนื้อหนัง แต่ก็นับว่ากลับคืนสภาพเป็นสาวเมืองกรุงแสนสวยดังเดิมแล้ว

หรืออาจจะเพราะหิวแล้ว เธอจึงนั่งลงกินข้าวฝั่งตรงข้ามฉินเทียน

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอวางตะเกียบ ใช้กระดาษทิชชูซับมุมปาก เมื่อเห็นว่าฉินเทียนมองมา เธอก็หน้าแดง พูดอย่างร้อนใจว่า “ฉันกินเสร็จแล้ว”

“คุณฉิน ฉันจะไปบ้วนปากแปรงฟัน”

บ้วนปากแปรงฟัน? ฉินเทียนอึ้งไปครู่หนึ่ง ในใจพูดว่าผู้หญิงคนนี้รักความสะอาดมาก

บ้วนปากแปรงฟันทั้งก่อนและหลังกินข้าว

พนักงานนำอาหารที่เหลือไปเก็บ ฉินเทียนนั่งดื่มชาบนโซฟาด้านล่างหน้าต่าง ต้าหยวนหยวนที่ออกมาจากห้องอาบน้ำหน้าแดงออกมาเผชิญหน้ากับเขาแล้วค่อยๆคุกเข่าลง

ฉินเทียนรีบพูดว่า “ฉันไม่ได้โทษเธอ รีบลุกเถอะ”

ต้าหยวนหยวนยื่นมือออกไปรับเข็มขัดของฉินเทียนด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ฉินเทียนตกใจ “คุณจะทำอะไร?”

ต้าหยวนหยวนอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “คุณนั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่า?”

“อ๋อ คุณฉินชอบเตียงสินะคะ งั้นมาเถอะค่ะ”

เธอเปิดผ้าห่มออกอย่างรวดเร็ว นอนราบอยู่บนเตียงแล้วหลับตา

เมื่อฉินเทียนเข้าใจความหมายของเธอ เขาก็หัวเราะร้องไห้ไม่ออก ในใจคิดผู้หญิงคนนี้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่จริงๆ

ช่วยไม่ได้ เขาจึงต้องใช้วิธีเดิมอีกครั้ง ทุกครั้งที่เขาวางมือลงบนท้องของต้าหยวนหยวน ต้าหยวนหยวนก็จะปวดท้องราวกับเชือกรัด

ทำไม่สำเร็จจริงๆ

ฉินเทียนพูดอย่างจนใจว่า “ช่างเถอะ เธอไปเถอะ”

ต้าหยวนหยวนตื่นตระหนกทันที “ที่คุณไล่ฉันไป คุณจะเปลี่ยนคนเหรอคะ?”

“ฉันข้อร้องล่ะ!”

“ตอนที่ฉันมา เกาชาวกำชับบอกว่าจะต้องทำให้คุณพอใจ ถ้าหากคุณเปลี่ยนคน เขาคงจะฆ่าฉันตายแน่ๆ!”

“ฉันไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เกาชาวจะต้องนึกว่าฉันไม่ยอมแน่นอนถึงได้จงใจแสร้งปวดท้อง!”

“ขอร้องล่ะค่ะ อย่าไล่ฉันเลย!”

“ฉันพร้อม! คุณเอาเลยค่ะ!”

เธอหลับตาราวกับพร้อมที่จะยอมแลกชีวิต ความเจ็บปวดที่หนักหนา รวมทั้งความอัดอั้น ทำให้น้ำตาเธอซึมออกมา

แต่เธอก็กัดริมฝีปากไม่กล้าส่งเสียง

ฉินเทียนถอนหายใจพูดกระซิบว่า “ฉันเคยเรียนแพทย์แผนจีนประเภทหนึ่ง จากที่ฉันคาดการณ์ ของเธอน่าจะเกิดจากการใช้ชีวิตอย่างไม่มีวินัย”

“เอาอย่างงี้แล้วกัน เธออยู่ต่อ ฉันจะไม่ทำอะไรเธอทั้งนั้น”

“ถ้าหากเกาชาวถาม ฉันแค่บอกว่าเธอปรนนิบัติอย่างทั่วถึงก็พอแล้ว”

“จริงเหรอคะ?” ต้าหยวนหยวนลืมตาด้วยสีหน้าที่ยังเคลือบแคลง

“จริงสิ”

“ฉันจะนวดให้เธอ เธอพักผ่อนเถอะ”

ฉินเทียนนวดแผนจีนคลายความเจ็บปวดให้เธออีกครั้ง

เมื่อรู้สึกว่าไม่ปวดมากแล้ว ต้าหยวนหยวนมองฉินเทียนด้วยความซาบซึ้งใจ เธอกระซิบพูดว่า “คุณฉิน ฉันขอถามชื่อของคุณได้ไหมคะ?”

ฉินเทียนตอบเรียบๆ “ฉินเทียน”

“พี่เทียน…”

“ความจริงแล้ว เกาชาวไม่ได้เชื่อใจพวกพี่ทั้งหมด เขาสั่งฉันว่าให้พยายามสืบเรื่องของพี่ให้ถึงที่สุด”

ต้าหยวนหยวนรวบรวมความกล้าพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ยังมีอีก พี่อย่าไปขุดสุสานกับเขาเด็ดขาด หาโอกาส พยายามหนีไปให้ได้!”

“หลังจากพวกพี่ไป ฉันได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของเกาชาวกับเจ้าปลาหมึกยักษ์แล้ว เขาไม่มีทางที่จะแบ่งกับพี่สี่สิบหกสิบตามที่คุยกันไว้”

“หลังจากได้สิ่งที่ต้องการ พวกเขาจะฆ่าพวกพี่!”

ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณเธอมากนะที่บอกเรื่องนี้กับฉัน เพียงแต่หลังจากที่ฉันไปแล้ว เธอจะทำยังไง?”

“วางใจได้ ฉันย่อมมีวิธีการรับมือ”

ต่อมาความอบอุ่นมีมารยาทของฉินเทียนสามารถเอาชนะความเชื่อใจของต้าหยวนหยวนได้

เธอบอกฉินเทียนเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของตัวเองมากมาย รวมทั้งที่เธอนามสกุลเฉิน ชื่อเฉินหยวน

และยังเรื่องเกาชาวอีกมากมายที่ฉินเทียนอยากรู้

ฉินเทียนแสร้งถามเรื่องสุสานฮุนโหวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ต้าหยวนหยวนขมวดคิ้วพูดว่า “ฉันก็เคยได้ยินเกาชาวพูดตอนเมาสองสามครั้ง เขาพูดว่า ในสุสานฮุนโหวมีของโบราณที่ค่านั้น ก็ล้วนเพราะตระกูลเกาของพวกเขา”

“ตระกูลเกาของพวกเขาทำให้ของโบราณเหล่านี้วางตลาดเป็นครั้งแรก มิฉะนั้นถ้าหากยินยอมพวกเขาจะพยายามเอามาเป็นของตัวเองทั้งหมด”

“ฟังจากที่เขาพูด เหมือนกับว่าไม่ได้สนใจเงินทองเหล่านี้”

ฉินเทียนรีบพูดว่า “ในเมื่อไม่สนใจ เงินที่เอามาวางถึงมือไม่เอา แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้พยายามไปขุดสุสานทุกวิถีทางล่ะ?”

“เธอลองคิดดู เขาเคยพูดอะไรบ้างไหม?”

ต้าหยวนหยวนขมวดคิ้วคิดอยู่นานแล้วกระซิบพูดอย่างลังเลว่า “มีครั้งหนึ่งฉันได้ยินเขาพูดกับเจ้าปลาหมึกยักษ์”

“เขาเหมือนจะปลงมาก บอกว่าอาจารย์จาง คุณรู้ไหมว่าคนบนเกาะเอาอะไรไปจากสุสานฮุนโหว?”

“พวกเขาใช้เวลาอยู่ในนั้นเต็มหนึ่งเดือน”

“เจ้าปลาหมึกยักษ์นั่นบอกว่า เงินของโลกนี้ สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่ได้มีค่าอะไร แต่ชีวิตในยุคฮุนโหวห่างจากตอนนี้สองพันกว่าปี”

“ตอนนั้นมีผู้คนที่โดดเด่นมากมาย เล่ากันว่าตัวฮุนโหวเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบบำเพ็ญเพียร”

“ขอคาดเดาว่าบางทีข้างในอาจจะมีเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ในการบำเพ็ญเพียรที่ถูกคนในเกาะขโมยไป”

พูดมาถึงตรงนี้เธอก็เอียงคอมองฉินเทียน “พี่เทียน ในสมัยโบราณจะมีเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ในการบำเพ็ญเพียงจริงไหม?”

“งั้นมันคือของอะไรล่ะ จะสามารถเรียกลมเรียกฝน ปราบปีศาจเหมือนนักบวชในหนังไหม?”

เฉินหยวนในตอนนี้เอียงคอราวกับเด็กหญิงไร้เดียงสาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้

ในใจฉินเทียนกล่าวเงียบๆว่า ที่แท้สุสานใหญ่นั่น พ่อลูกตระกูลเกาไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง พวกเขาสมัครให้คนบนเกาะ

คนบนเกาะย่อมรู้แกนกลางที่แท้จริงของบริษัทใหญ่แห่งตงไห่

เขามั่นใจว่าถึงแม้ว่าข้างในจะมีเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็มีความลึกลับอยู่บ้าง สิ่งของที่ช่วยในการบำเพ็ญเพียร ถูกคนในเกาะเอาไปแล้ว

ในของลึกลับเหล่านั้นจะรวมถึงเห็ดหลินจือเลือดไหม?

คิดถึงเท่านั้นจู่ๆเขาก็ร้อนใจ แทบจะรอไม่ไหวที่จะเข้าไปในหลุมศพขนาดใหญ่กับเกาชาว

สร้างความเชื่อใจให้กับเกาชาวเพื่อศึกษาว่าคนในเกาะเอาของอะไรไปจากสุสานฮุนโหวกันแน่

“พี่เทียน เป็นอะไรรึเปล่า?”

“ทำถามของฉันดูโง่เกินไปรึเปล่า…” เฉินหยวนพูดอย่างรู้สึกผิด

ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “เปล่า”

“เครื่องมือศักดิ์สิทธิ์จะมีจริงรึเปล่าฉันก็ไม่รู้ สรุปได้ประโยคหนึ่งว่าในท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน บรรพบุรุษของพวกเราไม่ได้สร้างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเหมือนพวกเราตอนนี้ พวกเขาสร้างดินปืนธนูไฟ”

“พวกเขาทำได้เพียงพัฒนาความสามารถของตนเอง จากนั้นก็ไปสำรวจความลี้ลับของธรรมชาติ”

“ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือฟ้าคนเป็นหนึ่งเดียว”

“ในระหว่างทางการสำรวจที่แสนยาวนาน การรณรงค์ด้านทฤษฎี มีผู้ที่มีความสามารถออกมาเรื่อยๆ ความสามารถที่แสนมหัศจรรย์ที่พวกเขาทำได้ ไม่ใช่คนยุคปัจจุบันที่ถูกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปิดบังอย่างพวกเราจะเข้าใจได้”

เฉินหยวนฟังอย่างเคลือบเคลิ้ม พูด “พี่ไม่ใช่โจรขโมยสุสาน อย่างน้อยก็ไม่ใช่โจรขโมยสุสานธรรมดาที่ต้องการหาของโบราณ”

“พี่ขุดสุสานก็เพื่อตามหาเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ หรือของอะไรอีกอย่าง ใช่ไหมคะ?”

“ฉัน–” ฉินเทียนคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะถามออกมาแบบนี้ จึงอดที่จะอึ้งสักพักไม่ได้

“อย่าพูด!”

จู่ๆเฉินหยวนเอามือมากดไว้ที่ปากของฉินเทียน

สายตาของเธอเปลี่ยนไป เธอค่อยๆเอาร่างกายใกล้เข้ามา พูดด้วยน้ำเสียงร้อนแรง “ดังนั้นที่ฉันปวดท้องก็เป็นเพราะคุณทำใช่ไหม?”

“ทำไมถึงทำอย่างงั้น?”

“ไม่อยากจะแตะต้องฉัน หรือว่าคุณรู้สึกว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณ?”