บทที่ 2299 ความลับขององค์หญิงน้อย 2 / บทที่ 2300 ความลับขององค์หญิงน้อย 3

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2299 ความลับขององค์หญิงน้อย 2

กู้ซีจิ่วเพ่งพิศองค์หญิงน้อยอีกครั้ง องค์หญิงน้อยงดงามจริงๆ ไม่ว่าจะมือหรือหน้า ทุกสิ่งที่เผยสู่ภายนอกล้วนไม่มีจุดบกพร่องเลยสักนิด งดงามจนเหมือนไม่ใช่มนุษย์จริงๆ…

กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะลูบหน้าตนดู หนึ่งปีมานี้เธอวิ่งเต้นระหกระเหิน ถึงแม้วรยุท์จะเพิ่มสูงขึ้นมาก ผิวพรรณก็ขาวขึ้นไม่น้อย แต่ผิวยังคงมีตำหนิเล็กๆ น้อยๆ อยู่ เช่นมีสิวเม็ดหนึ่งตรงขมับ สีผิวก็หมองคล้ำนิดหน่อย…

องค์หญิงย่วนย่วนทาครีมสีแดงอ่อนอย่างหนึ่งลงบนหน้า กลิ่นยาอ่อนจางอบอวลอยู่ภายในห้องนาง

กู้ซีจิ่วดมดูเล็กน้อยก็ทราบถึงวัตถุดิบที่ใช้ผลิตครีมนี้แล้ว…หญ้ายืนเยาว์

ดูเหมือนนางจะใช้หญ้ายืนเยาว์มาทำเป็นเครื่องประทินโฉม

ขณะที่องค์หญิงย่วนย่วนบำรุงโฉมอยู่ นางกำนัลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอก ถวายความเคารพนาง

“องค์หญิง”

“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”

องค์หญิงย่วนย่วนไปหันไปมอง เพียงเอ่ยถามประโยคหนึ่ง

“องค์หญิงโปรดวางพระทัย ทุกอย่างเรียบร้อยดีเพคะ ไม่นึกเลยว่าหลัวเจิ้งผู้นั้นจะรู้ความถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่รับเงินไปครึ่งเดียวเท่านั้น แม้แต่เด็กก็มอบให้พวกเราทันที ซ้ำยังรีบร้อนออกจากอาณาจักรมารไปแล้ว…ไม่จำเป็นให้พวกเราสังหารเขาเลยเพคะ”

“เขาไปจากอาณาจักรมารแล้วจริงหรือ?”

“จริงแท้แน่นอนเพคะ บ่าวติดตามเขาไปด้วยตัวเอง เห็นเขาออกไปแล้ว”

“สอบถามถึงสหายของเขาหรือยัง หวาซวี่เยวี่ยเจ้าของหมาป่าเงินตัวนั้นเป็นใครกันแน่?”

“ได้ยินหลัวเจิ้งบอกว่า เขากับหวาซวี่เยวี่ยเพียงบังเอิญรู้จักกัน เพียงคอยช่วยเหลือดูแลกันเท่านั้น องค์หญิงโปรดวางพระทัย ในเมื่อหวาซวี่เยวี่ยนางนั้นเป็นคนค้าขาย คิดว่าคงมิใช่ยอดฝีมืออันใด นางทิ้งบุตรกับหมาป่าเงินแล้วหายไปนานขนาดนั้น อาจจะไปหาชายชู้อันใดแล้วก็ได้ เมื่อครู่ได้ยินมาจากยามเฝ้าประตู นางมาสืบถามข่าวที่จวนองค์หญิงของพวกเรา ถูกยามไล่ไปแล้วเพคะ ด้วยความสามารถของนาง คงจะหาทางไปเอาเรื่องกับหลัวเจิ้ง ส่วนหลัวเจิ้งก็ออกจากอาณาจักรมารไปแล้ว เขาได้รับเงินห้าหมื่นกษาปณ์มารก็หนีหายไปเลย หวาซวี่เยวี่ยผู้นั้นจะตามหาเขาคงไม่ง่ายดายถึงเพียงนั้น สามปีห้าปีก็ยังไม่แน่ว่าจะหาพบ นางย่อมมาก่อปัญหาที่จวนของพวกเราไม่ได้แล้วเพคะ”

“เช่นนี้ก็ดี”

องค์หญิงย่วนย่วนประทินโฉมต่อไป

“พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านชั้นต่ำจากด้านนอกเท่านั้น ไม่ควรค่าให้กังวล องค์หญิงวางพระทัยได้เลยเพคะ อันที่จริงแล้วตามความคิดของบ่าว ไม่ควรจะให้เขาเลยสักกษาปณ์เพคะ! ถึงอย่างไรก็มิใช่ของๆ เขา…”

องค์หญิงย่วนย่วนยกมุมปากขึ้นนิดๆ

“เขารู้ความอย่างหาได้ยากเช่นนี้ ก็ควรจะตกรางวัลเขาบ้าง องค์หญิงอย่างข้าไม่ใส่ใจเงินเพียงห้าหมื่นกษาปณ์พวกนี้หรอก”

หากว่าไม่มอบเงินให้สักหน่อย หลัวเจิ้งผู้นั้นต้องโวยวายขึ้นมาแน่นอน ไหนเลยจะรู้ความเช่นนี้? หากโวยวายขึ้นมาจริงๆ จะกระทบต่อชื่อเสียงอันดีงามขององค์หญิงอย่างนางได้!

เพียงแต่ประโยคนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายต่อข้ารับใช้ องค์หญิงย่วนย่วนทาโอสถสีแดงอีกเล็กน้อย แล้วตบเบาๆ…

นางกำนัลคนนั้นประจบประแจงนาง เอ่ยยิ้มๆ ว่า

“องค์ราชันย์รักถนอมองค์หญิงปานนี้ องค์หญิงประสงค์สิ่งใดล้วนได้สิ่งนั้น องค์หญิงย่อมไม่จำเป็นต้องแยแสเงินเพียงห้าหมื่นกษาปณ์หรอกเพคะ”

ประโยคนี้ทำให้องค์หญิงย่วนย่วนอารมณ์ดี นางจึงโยนโอสถบำรุงที่ใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่งให้นางกำนัลอย่างใจกว้าง

“หนนี้เจ้าจัดการเรื่องราวได้ถูกใจองค์หญิงอย่างข้ายิ่ง โอสถยืนเยาว์นี้มอบให้เจ้าเป็นรางวัล!”

ดวงตานางกำนัลลุกวาว รับโอสถบำรุงนั้นไว้ในมือ ไม่ลืมที่จะเอ่ยประจบเอาใจองค์หญิงอย่างซาบซึ้งในพระคุณยิ่งว่า

“องค์หญิง มีเพียงพระองค์ที่คู่ควรจะใช้โอสถบำรุงที่ผลิตจากหญ้ายืนเยาว์ได้เพคะ ต้องใช้หญ้ายืนเยาว์นับร้อยต้นถึงจะผลิตขวดเล็กๆ เช่นนี้ออกมาได้สักขวด องค์ราชันย์ทรงดีต่อพระองค์โดยแท้!”

องค์หญิงย่วนย่วนเม้มปากยิ้มแวบหนึ่ง

“เจ้าช่างพูดจาเหลวไหลนัก”

“ถ้อยคำที่บ่าวพูดล้วนมาจากใจจริงนะเพคะ ใช่แล้ว องค์หญิงเพคะ องค์ราชันย์ต้องปรารถนาจะอภิเษกกับพระองค์อย่างยิ่งกระมัง? ไม่ทราบว่ายามไหนองค์หญิงถึงจะตอบรับคำขออภิเษกขององค์ราชันย์ล่ะเพคะ? สมบัติเลอค่าหาได้ง่าย ชายคนรักหาได้ยาก ถึงแม้องค์หญิงจะสงวนท่าที แต่ก็อย่าให้องค์ราชันย์ต้องคอยนานเกินไปเลยนะเพคะ”

————————————————————————————-

บทที่ 2300 ความลับขององค์หญิงน้อย 3

นางกำนัลคนนี้ชมชอบเจรจายิ่ง พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดเลย

เมื่อองค์หญิงย่วนย่วนได้ยินวาจานี้ของนางก็มุ่นคิ้วนิดๆ นิ้วที่กำลังสางผมอยู่พลันชะงัก ดึงให้ผมเส้นหนึ่งร่วงลงมา

แต่กลับหยักยิ้มบางๆ แวบหนึ่ง

“องค์หญิงอย่างข้ายังต้องการทดสอบเขาอีกเล็กน้อย ขอเพียงเขาจริงใจ ข้าย่อม…ย่อมจะทำให้เขาสมปรารถนา…”

ใบหน้านางแดงเรื่อนิดๆ คล้ายขวยอายและปรีดา งดงามน่าตะลึง

นางกำนัลผู้นั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“องค์ราชันย์ย่อมจริงใจต่อองค์หญิงอยู่แล้ว บ่าวยังไม่เคยเห็นองค์ราชันย์ดีต่อหญิงใดเป็นคนที่สองเลยเพคะ ความรักถนอมของพระองค์ทรงมีให้องค์หญิงเพียงผู้เดียว”

ย่วนย่วนเม้มริมฝีปากแดงนิดๆ ยิ้มแวบหนึ่ง เบี่ยงหัวข้อสนทนาไปอย่างเยือกเย็น

“ขังหมาป่าเงินตัวนั้นไว้ที่ใด? ยังอยู่หรือตายไปแล้ว?”

“องค์หญิงโปรดวางพระทัย หมาป่าเงินตัวนั้นถูกขังไว้ที่เรือนมังกรสมุทรประจิมเพคะ ที่นั่นล้วนเป็นกำแพงวารี อ่อนนุ่มยิ่งนัก ต่อให้มันอยากพุ่งชนกำแพงตายก็ทำไม่ได้ องค์หญิง บ่าวไม่เข้าใจอยู่บ้าง ถึงแม้หมาป่าเงินตัวนั้นจะแสนรู้เล็กน้อย เข้าใจภาษามนุษย์ แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น เหตุใดต้องสิ้นเปลืองเงินทองมากขนาดนี้ด้วยล่ะ เพคะ? บ่าวได้ยินมาว่าองครักษ์หลิงเคยซื้อหมาป่าเงินตัวหนึ่งมา ซ้ำยังเป็นพันธุ์ดี ราคาไม่ถึงห้าหมื่นกษาปณ์มาร…”

สาวใช้แสดงสีหน้าเสียดาย

ย่วนย่วนหัวเราะเบาๆ

“เจ้าจะไปรู้อะไร? มันไม่ใช่หมาป่าเงิน แต่เป็นลูกสัตว์วิเศษเซี่ยจื้อ![1] ถ้ายังไม่เปลี่ยนร่างจะดูคล้ายหมาป่า! สัตว์วิเศษชนิดนี้พบเห็นได้ยากเป็นที่สุด อย่าว่าแต่แสนกษาปณ์มารเลย ต่อให้เป็นล้านกษาปณ์มารก็คุ้มค่าแล้ว!”

นางกำนัลผู้นั้นตาลุกวาว

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! ไม่นึกเลยว่าพวกเราจะเก็บสมบัติล้ำค่าได้เสียแล้ว! ยังคงเป็นองค์หญิงที่สายพระเนตรมีแววรู้จักสัตว์วิเศษเช่นนี้ วันหน้าหากฝึกฝนสำเร็จ มันจะกลายเป็นสัตว์พาหนะที่งามสง่ายิ่งนักตัวหนึ่ง เกรงว่าทั่วทั้งแดนอสุราคงมิมีผู้ใดเทียบได้”

องค์หญิงย่วนย่วนยิ้มสุขุม

“นี่อาจจะเป็นลิขิตฟ้าก็ได้ พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดข้าแล้ว สวรรค์จึงส่งของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้ให้ข้า”

นางกำนัลย่อมประจบเอาใจนางอีกสองสามประโยค แล้วเอ่ยถึงเด็กคนนั้น แล้วนางกำนัลก็ถามอีกว่าเด็กคนนั้นมีสิ่งใดพิเศษหรือไม่

ย่วนย่วนใคร่ครวญแวบหนึ่ง

“เด็กคนนั้นทำให้องค์หญิงอย่างข้ารู้สึกประหลาดยิ่ง ไม่คล้ายลูกมนุษย์ธรรมดา แต่มองจากท่าทางของลูกเซี่ยจื้อแล้ว คล้ายว่าจะยึดเขาเป็นผู้นำ บางทีเขาอาจจะเป็นเจ้าของลูกเซี่ยจื้อตัวจริงก็ได้ มีเด็กคนนั้นอยู่ในมือ ไหนเลยต้องกลัวว่าจะอบรมลูกเซี่ยจื้อไม่ได้?”

“องค์หญิงทรงพระปรีชา!”

นางกำนัลประจบเอาใจ

ย่วนย่วนหยักยิ้มน้อยๆ รับเอาคำประจบจากนางกำนัลไว้ทั้งหมด พอใจอย่างยิ่ง…

ทั้งสองสนทนากันอยู่พักหนึ่ง องค์หญิงย่วนย่วนผู้นั้นก็สั่งให้นางกำนัลไปตรวจสอบลูกเซี่ยจื้อดูหน่อย ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุใดขึ้นกับมัน

นางกำนัลผู้นั้นรับคำ หันหลังก้าวออกไป

นางเดินลัดเลาะช่อผกากิ่งหลิว วนกลับไปที่ท้ายสวน มุ่งตรงสู่อาคารสีฟ้าซึ่งตั้งอยู่ในส่วนลึกสุดของจวนองค์หญิง

หน้าอาคารมีองครักษ์เฝ้าอยู่กว่าสิบคน ล้อมอยู่ด้านนอกปานครอบถังเหล็กไว้

อยู่ที่นี่แล้วฐานะของนางกำนัลผู้นี้ไม่ต่ำต้อยเลย เหล่าองครักษ์พากันทำความเคารพนาง

นางเย่อหยิ่งนัก เพียงพยักหน้าให้นิดๆ ให้องครักษ์คนหนึ่งเปิดประตู ก้าวเข้าไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็ออกมา เอ่ยสั่งการองครักษ์เหล่านั้นสองสามประโยค ให้พวกเขาเฝ้าจับตาที่นี่ไว้ ถึงได้หันหลังจากไป

ผ่านไปประมาณหนึ่งเค่อ ขณะที่องครักษ์ของที่นี่กำลังลาดตระเวนอยู่ จู่ๆ ก็เห็นนางกำนัลเย่หวนกลับมาอีกครั้ง

องครักษ์ฉงน หลังจากทำความเคารพก็เอ่ยถาม

“แม่นางเย่ เหตุใดท่านกลับมาอีกเล่า? ยังมีสิ่งใดต้องจัดการอีกหรือ?”

นางกำนัลเย่ยืนอย่างผยองเล็กน้อย

“องค์หญิงประสงค์จะทอดพระเนตรลูกหมาป่าเงิน สั่งให้ข้ามารับตัวไปให้ทอดพระเนตร”

องครักษ์เหล่านั้นไม่นึกคลางแคลงนางเลย มีคนหนึ่งขันอาสาทันที

“ข้าน้อยจะไปนำมันออกมาเอง”

“ไม่ต้อง ข้าผู้เป็นนางกำนัลจะไปนำออกมาด้วยตัวเอง”

….

————————————————————————————-

[1] เซี่ยจื้อ เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมจีน เชื่อกันว่า สามารถแยกแยะถูกผิดได้โดยสัญชาตญาณ จึงถือกันเป็นสัญลักษณ์แห่งกระบวนการยุติธรรม เซี่ยจื้อนับถือกันมายาวนานว่า เป็นสัญลักษณ์แห่งกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย มีลักษณะคล้ายสิงโตมีหนึ่งเขางอกอยู่บนศีรษะ