บทที่ 2301 ได้รับความช่วยเหลือ / บทที่ 2302 ได้รับความช่วยเหลือ 2

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2301 ได้รับความช่วยเหลือ

องครักษ์เหล่านั้นย่อมไม่ขัดขวาง ปล่อยให้นางกำนัลเย่เข้าไป

ผนังภายในตัวอาคารล้วนบุด้วยหนังที่อ่อนนุ่ม ภายในผืนหนังอันนุ่มนิ่มบรรจุน้ำไว้ สัมผัสแล้วยวบยาบไปหมด

เซี่ยจื้อน้อยถูกขังไว้ในเรือนประเภทนี้ มันโกรธเกรี้ยวยิ่ง! และหวาดกลัวนัก!

บนขาทั้งสี่ของมันถูกตรึงไว้ด้วยตรวนเหล็กเย็นเฉียบ ด้วยพละกำลังของมันในยามนี้มันไม่มีทางแก้ได้

คงเป็นเพราะต้องการดัดนิสัยของมัน ตรวนเหล็กพวกนี้จึงเจาะเข้าไปในขาทั้งสี่ของมัน ขยับเพียงนิดก็เจ็บปวดไปถึงหัวใจ ทว่าไม่ได้ทำลายกระดูกของมัน

นี่เป็นเครื่องมือสำหรับป้องกันที่ปลอดภัยและทารุณยิ่งนักซ้ำยังกำราบนิสัยอีกด้วย ไม่สามารถงอขาคู้หมอบได้เลยยืนได้อย่างดียว เจ็บปวดและอ่อนล้าอย่างยิ่ง ทำให้มันสิ้นหวัง อยากจะยอมแพ้

ปกติแล้วถ้าใช้เครื่องลงทัณฑ์เช่นนี้กับสัตว์ร้ายไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็จะยอมสยบ ถูกบังคับให้ยอมรับเจ้านาย สร้างพันธสัตว์รับใช้ นับจากนี้ไปต้องยอมถูกด่าถูกตี ชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับผู้เป็นนาย ถ้านายตายชีวิตมันก็หาไม่เช่นกัน…

หลังจากเซี่ยจื้อน้อยมาอยู่ที่นี่ ทุกๆ ครึ่งชั่วยามนางกำนัลเย่ผู้นั้นจะเข้ามาถามมันรอบหนึ่ง ถามว่ามันจะยอมสยบหรือไม่? มันจะยอมรับเจ้านายใหม่ได้หรือยัง

คำตอบของเซี่ยจื้อน้อยล้วนเป็นการพ่นลมหายใจอย่างหมิ่นแคลนยิ่งนักคราหนึ่ง!

ใช่แล้ว มันไม่ยอมสยบ!

แต่อย่างไรก็ตาม มันเจ็บปวดทรมานมากจริงๆ!

จะมีใครมาช่วยมันไหม?

หงิงหงิง!

ขณะที่มันหลับตาอยู่ตรงนั้นอย่างทุกข์ทรมาน จู่ๆ คล้ายจะได้ยินความเคลื่อนไหวอันใดจึงลืมตาขึ้น มองเห็นนางกำนัลเย่ผู้นั้นเดินเข้ามาหามัน

มันครางฮื่อคราหนึ่ง หลับตาลงอีกครั้ง

สตรีที่น่าตาย หากว่ามันไม่ถูกล่ามอยู่ล่ะก็ ต้องกระโจนเข้าไปกัดนางให้ตายแน่!

ถึงแม้มันจะหลับตาอยู่ แต่สองหูยังคงตั้งชัน ได้ยินฝีเท้าสตรีผู้นั้นใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ…

ผ่านไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นจมูกน้อยๆ สีดำของมันก็ขยับฟุดฟิด ลืมตาขึ้นมาทันที!

สายตาจับจ้องนางกำนัลเย่ที่เดินเข้ามาเขม็ง ดวงตาทอแววเหลือจะเชื่อ! เส้นขนทั่วร่างลุกชันขึ้นมาด้วยความประหม่า!

“เจ้าเงิน…”

ในที่สุดสตรีนางนั้นก็เดินมาถึงเบื้องหน้ามัน เอ่ยเสียงเบา

เป็นเสียงที่เซี่ยจื้อน้อยคุ้นเคยยิ่งนัก…

ดวงตาของเซี่ยจื้อน้อยมีน้ำตาเอ่อคลอทันที! พยายามเงยหน้าเพื่อจะใช้ลิ้นเลียนาง…

ในที่สุดคนที่มันเฝ้ารอมาตลอดก็มาแล้ว! มาช่วยมันแล้ว!

นางคือดาวช่วยชีวิตของมัน!

มันขยับโดยไม่ทันระวัง ตรวนเหล็กบนร่างจึงขยับไปด้วย เกิดเสียงดังกราวๆ เจ็บจนมันร้องเอ๋งคราหนึ่ง สั่นระริกไปทั้งตัว

“เด็กดี อย่าขยับนะ!”

สตรีผู้นี้ย่อมเป็นกู้ซีจิ่วที่แปลงโฉมแล้ว เธอแอบฟังอยู่ตรงมุมกำแพงหน้าต่างห้ององค์หญิงอยู่เนิ่นนานนัก เข้าใจสถานการณ์ไม่น้อยเลย และได้ลอบติดตามนางกำนัลเย่ผู้นั้นมาที่นี่ด้วย

หลังจากนางกำนัลเย่จากไป เธอจึงแปลงโฉมเป็นนางกำนัลเย่ มาช่วยเหลือเซี่ยจื้อน้อย

มันไม่คิดเลยว่าอยู่ที่นี่เซี่ยจื้อน้อยจะถูกทรมานเช่นนี้ แววตาพลันมืดมิดลงแวบหนึ่ง!

ความโกรธกำลังปะทุอยู่ในดวงตาเธอ!

องค์หญิงย่วนย่วนผู้นั้นซื้อเซี่ยจื้อน้อยมาก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเลวร้ายเกินไป ถึงอย่างไรตอนแรกกู้ซีจิ่วก็ตั้งราคาขายเซี่ยจื้อน้อยเอาไว้ขำๆ ถูกหลัวเจิ้งขายไปก็นับว่าเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้

แต่ไม่น่าเชื่อว่านางจะเคี่ยวกรำมันเช่นนี้! ถึงทนเก่งแค่ไหนก็ทนไม่ไหวแล้ว!

เซี่ยจื้อน้อยอยู่ภายใต้การปกครองของเธอกู้ซีจิ่ว ไหนเลยจะปล่อยให้มันถูกผู้อื่นเคี่ยวกรำเช่นนี้ได้!

หลังจากเซี่ยจื้อน้อยมองออกว่าเป็นเธอก็เริ่มร้องไห้แล้ว มองเธอตาละห้อย

ถึงแม้ตรวนเหล็กบนร่างมันจะเป็นกลไกที่ประณีตยิ่งนักชนิดหนึ่ง แต่สำหรับกู้ซีจิ่วแล้ว ไม่แตกต่างไปจากของเล่นเสริมพัฒนาการทั่วไปเลย ขยับนิดหน่อยก็ถอดมันออกได้แล้ว

แถมยังบรรจงทายาสมานแผลที่ได้ผลชะงัดนักลงบนแผลของมันด้วย

ผ่านไปครู่หนึ่งเลือดก็หยุดไหล ความเจ็บปวดบรรเทาลง…

เซี่ยจื้อน้อยมองกู้ซีจิ่วด้วยดวงตากระจ่างแวววาว วิ่งวนรอบตัวเธอไม่หยุดด้วยความยินดี หางแกว่งไกวดุจกังหันก็มิปาน

————————————————————————————-

บทที่ 2302 ได้รับความช่วยเหลือ 2

กู้ซีจิ่วลูบขนชูชันบนหัวมัน

“นายน้อยของเจ้าล่ะ? เจ้าตามหาร่องรอยเขาได้ไหม?”

เซี่ยจื้อน้อยผงกศีรษะรัวๆ

กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ดีมาก เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าออกไปตามหาเขา”

เซี่ยจื้อน้อยผงกหัวอีกครั้ง ซ้ำยังตวัดลิ้นเลียฝ่ามือเธออย่างสนิทชิดเชื้อ

กู้ซีจิ่วลูบหัวมัน

“เดี๋ยวตอนที่ข้าออกประตูไป อย่าแสดงความสนิทสนมกับข้าเกินไปนะ ให้ทำท่าเหมือนจำเป็นต้องยอมสยบ เข้าใจหรือเปล่า?”

เซี่ยจื้อน้อยกะพริบตาปริบๆ ทดลองเชิดหัวขึ้น ปรายตามองกู้ซีจิ่ว เดินอยู่ข้างกายเธอสองก้าวด้วยสีหน้าไม่ยินยอม

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า

“ไม่ได้ แบบนี้แข็งกร้าวเกินไป ดูไม่มีท่าทีว่าจะยอมสยบเลย”

เซี่ยจื้อน้อยยกอุ้งเท้าเกาหัวอย่างฉงนสนเท่ห์ แล้วแสดงอีกสองสามท่าทางออกมาอย่างต่อเนื่อง ล้วนถูกกู้ซีจิ่ว ปฏิเสธทั้งสิ้น

เซี่ยจื้อน้อยเสียความมั่นใจในตัวเองไปแล้ว น้ำตาหยดย้อยอีกครั้ง

มันไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นนักแสดงเลย…

กู้ซีจิ่วคิดดูเล็กน้อย ในที่สุดก็มีความคิดที่เข้าท่าอย่างหนึ่ง

“เจ้าก็มองข้าเป็นนางกำนัลเย่ตัวจริงสิ ถ้าเจ้าจำเป็นต้องยอมสยบต่อนาง เช่นนั้นจะมีท่าทางเช่นไร?”

เซี่ยจื้อน้อยคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวทันที แสยะเขี้ยวยาวซี่น้อยของมันออกมา จากนั้นหางก็ห้อยลู่ หลุบตาเดินข้างกายกู้ซีจิ่วสองสามก้าวอย่างสิ้นหวัง ขณะที่เดินยังถลึงตามองกู้ซีจิ่วอย่างโกรธเกรี้ยวด้วย

โอ๊ะ แบบนี้พอใช้ได้แล้ว!

กู้ซีจิ่วถึงได้หันหลังพามันเดินออกไป

เมื่อก้าวพ้นประตูไปองครักษ์เหล่านั้นย่อมเอ่ยถาม กู้ซีจิ่วตอบไปส่งๆ ประโยคหนึ่ง

“มันยอมสยบต่อองค์หญิงของพวกเราแล้ว ข้าจะพามันไปพบองค์หญิง”

องครักษ์พวกนั้นมองกู้ซีจิ่วจากนั้นก็มองเซี่ยจื้อน้อยที่หน้าม่อยคอตกตัวนั้น ไม่นึกคลางแคลง โบกมือปล่อยผ่านไป

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยจื้อน้อยคุ้นเคยกับหนูน้อยคนนั้นยิ่งนัก หลังจากได้รับอิสระแล้ว ก็พากู้ซีจิ่วติดตามค้นหาจากกลิ่นอายของหนูน้อยคนนั้นทันที เดินทางลัดสวนเลาะกำแพง มุ่งหน้าไปยังเรือนที่อยู่ส่วนท้ายสุดของจวนองค์หญิง

กู้ซีจิ่วยังคงฉงนอยู่บ้าง องค์หญิงน้อยชิงตัวเด็กคนนั้นมาได้แล้ว จะต้องถนอมอย่างยิ่งแน่นอน เหตุใดจึงไม่ให้คนพาไปอยู่ในเรือนใกล้ๆ นาง ไฉนจึงพามาอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลถึงเพียงนี้เล่า? ถึงอย่างไรในเรือนไม่กี่หลังที่อยู่ใกล้กับนางก็มีการคุ้มกันหนาแน่นที่สุด และปลอดภัยที่สุดด้วย

เหมือนเซี่ยจื้อน้อยที่ถูกขังอยู่ห่างจากที่ประทับขององค์หญิงไปสามหลัง…ถ้ามีความเคลื่อนไหวผิดปกติเล็กน้อยองค์หญิงน้อยก็จะได้ยินเสียงแล้ว

เพียงแต่ ข้อสงสัยนี้ได้รับคำอธิบายอย่างรวดเร็ว

กู้ซีจิ่วยังเดินทางไปไม่ถึงเรือนส่วนหลังสุด ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องงอแงแล้ว

เสียงร้องไห้โหยหวน บางครั้งก็เสียดแหลม บางครั้งก็โหนสูง แหบแห้งอ่อนแรง ราวกับคำสาป เป็นเสียงที่ระคายหูอย่างแน่นอน!

เรือนหลังนั้นเปลี่ยวร้างห่างไกลยิ่ง มีนางกำนัลเผ้าอยู่ตรงปากประตูเพียงสองคน

นางกำนัลสองคนนี้ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก!

กู้ซีจิ่วยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของนางกำนัลเย่ พาเซี่ยจื้อน้อยเดินวางมาดเข้าไป

เห็นได้ชัดว่าฐานะของนางกำนัลที่เฝ้าประตูไม่สูงส่ง รีบทำความเคารพเธอทันที

กู้ซีจิ่วเชิดคางขึ้นนิดๆ

“เหตุใดยังร้องไห้อยู่?”

นางกำนัลสองคนนั้นจะร้องไห้แล้ว

“ตอบพี่เย่ ท่านบรรพบุรุษน้อยผู้นี้ร้องไห้อยู่ตลอดเลยเจ้าค่ะ ไม่หยุดพักหายใจเลยด้วยซ้ำ!”

หูพวกนางใกล้จะหนวกแล้ว!

กู้ซีจิ่วเอ่ยถามอีก

“ไม่ได้ปลอบหรือไง?”

“ปลอบแล้วเจ้าค่ะ ไม่เป็นผลเลย ใครปลอบก็ไม่ได้ผล”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า

“ข้าจะเข้าไปดู พวกเจ้าไปพักก่อนสักหน่อยแล้วกัน”

นางกำนัลสองคนนี้ต้องการคำนี้ยิ่งนัก ตอบรับแล้วหันหลังเผ่นแน่บไปเลย! รวดเร็วยิ่งกว่ากระต่ายโดนสุนัขไล่กวดเสียอีก!

กู้ซีจิ่วย่างเท้าเข้าสู่ด้านใน เซี่ยจื้อน้อยก็รีบตามไปเช่นกัน