บทที่ 324

ฉะนั้นจึงทำได้แค่สักให้ใหญ่และลึกที่สุดเท่านั้น

คำหนึ่งคำก็กินไปครึ่งหน้าผากของเขาแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ต้องบอกให้รู้ก็คือ ลายมือของท่านหงห้านั้นน่าเกลียดสุดๆไปเลย!

คำว่าจนนี้ เด็กประถมยังเขียนสวยกว่า

ท่านหงห้าเสริมด้วยรอยยิ้ม หัวเราะอาจารย์เย่ “ผมแค่ไม่คุ้นเคยการใช้มีดเท่านั้นเองครับ มันเลยดูน่าเกลียดนิดหน่อย…..”

เย่เฉินหัวเราะเยาะพร้อมกับถามว่า “บอกมาตามตรง นายเรียนหนังสือมากี่ปี?”

ท่านหงห้าหัวเราะพร้อมพูดว่า “เรียนหนังสือนั้นเรียนมาหลายปีแล้ว ผมเรียนจบชั้นประถมศึกษา แต่ว่าตลอดหกปีมานั้นไม่ได้ตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่นี่คือเรื่องจริง…..”

เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นก็ดีแล้ว ถ้านายสักให้เขาดีเกินไป มันจะเป็นการดูถูกเขาเกินไป”

หลิวหมิงได้ยินเช่นนั้นก็ร้องไห้ออกมา

ความเจ็บปวดที่หน้าผากตอนนี้ไม่สำคัญอีกแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือ มันทำให้เขาเสียโฉมแล้วใช่ไหม?

หงห้ามองไปที่หน้าผากที่เปื้อนเลือดของอีกฝ่าย เขาหยิบกระดาษทิชชู่ที่ยับยู่ยี่ออกมา ซับเลือดให้ จากนั้นก็พูดว่า “มา อีกด้าน!”

หลังจากนั้น หงห้าก็เริ่มสักอีกข้าง

นอกจากนี้เขายังสักอักษรได้ใหญ่มาก ดูแล้วช่างสะดุดตาเสียจริง

หลังจากที่สักเสร็จ เขาก็มองซ้ายขวา พยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็ถามเย่เฉินว่า “ท่านดูฝีมือของผมสิ ใช้ได้ไหมครับ?”

เย่เฉินหยุดการบันทึกวิดีโอ จากนั้นก็พยักหน้าและพูดว่า “ไม่เลวเลยทีเดียว”

ท่านหงห้ายิ้มและถามว่า “ท่านอาจารย์เย่ แล้วเราจะจัดการยังไงกับยัยหน้าปลอมนี่ดี?”

เย่เฉินพูดอย่างใจเย็นว่า “จากนี้นายจะต้องเฝ้ามองสองคนนี้ ถ้าหลิวหมิงลบรอยแผลนี้หรือกล้าไว้ผมยาวปิดหน้าผาก ก็จงฆ่ามันในทันที แล้วก็ยัยหน้าปลอมนี่ ถ้าหล่อนยังกล้าที่จะไปซ่อมจมูกที่เบี้ยวของนาง ก็ให้ทำหน้านางให้เสียโฉมทั้งหมด อีกอย่าง ถ้าหล่อนยังกล้าเล่นติ๊กต็อกอีกล่ะก็ ให้หักขาของหล่อนไปซะ

ทั้งสองที่กำลังคุกเข่าอยู่นั้นก็สะดุ้งในทันที…..

หลิวหมิงที่กำลังคิดว่าจะรีบกลับ เพื่อที่จะไปศัลยกรรมที่โรงพยาบาลเพื่อกำจัดรอยแผลนี้รวมถึงคิดที่จะไว้ผมยาวลงมาปิดหน้าผาก น่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเขามากนัก

แต่สิ่งที่เย่เฉินได้พูดนั้น เขาต้องการที่จะให้ตัวเองมีรอยคำว่ายาจกไปตลอดชีวิต

อีกทั้งยัยหน้าปลอมก็กำลังคิดอยู่เช่นกัน หล่อนคิดที่จะรีบกลับไปหาโทรศัพท์มาล็อกอินเข้าติ๊กต็อกเพื่อที่จะลบคลิปที่ท่านหงห้าได้ลงไว้ จากนั้นก็จะไปโรงพยาบาลเพื่อศัลยกรรมแก้จมูกของเธอ

แต่เย่เฉินกลับสั่งให้เธอไม่ไปทำจมูก อีกทั้งยังไม่ให้เธอเล่นติ๊กต็อก ต่อไปในอนาคตเธอจะเป็นเน็ตไอดอลได้ยังไงกัน?จะไปโกหกแฟนคลับได้ยังไง?อย่างงี้จะไปล่อลวงพวกคนรวยรุ่นหลังๆยังไกันล่ะเนี่ย?!

พวกเขาทั้งสองได้แต่ร้องไห้ขอร้องวิงวอนโดยมิได้นัดหมาย หวังว่าเย่เฉินจะให้เขาได้มีอนาคตกันสักหน่อย อย่ารีบฆ่าพวกเขาเลย

เย่เฉินแน่นิ่งไม่พูดอะไร เขาพูดกับท่านหงห้าว่า “นายจำสิ่งที่ฉันสั่งให้ดี ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป ฉันจะถามนายเท่านั้น!”

ท่านหงห้ายืนตัวตรงพร้อมกับพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านอาจารย์เย่ไม่ต้องกังวลไปครับ ผมจะคอยเฝ้ามองสองคนนี้ให้เอง!”

หลังจากพูดเสร็จ เขากัดฟันกรอดๆแล้วมองไปที่สองคนนั้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “พวกน่ารำคาญทั้งสอง จำฉันไว้ให้ดีล่ะ จากนี้ให้คอยรายงานฉันสัปดาห์เว้นสัปดาห์ มาให้ฉันตรวจสอบด้วยตัวเอง ช้าไปแม้แต่วันเดียวฉันจะสั่งไล่ฆ่าพวกแกทันที ถึงเวลานั้น ทุกคนในจินหลิงแม้กระทั่งหนานหว่างก็จะมาตามล่าพวกนาย!ถ้านายหนีออกไปมณฑลอื่น ฉันก็จะส่งลูกน้องคนพิเศษของฉันให้ออกไปตามล่าพวกนายด้วย!จะตามไปจนกว่าจะตายไปข้าง ฟังเข้าใจไหม?”