บทที่ 903 สำรวจ

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 903 สำรวจ

ถึงแม้ว่าจะเป็นรถออฟโรดที่ได้รับการตกแต่งมาแล้ว คุณภาพแข็งแรงมาก แต่เพราะภูมิประเทศที่สูงขึ้นเรื่อยๆจึงค่อยๆไม่มีถนนให้ขับ

รถไม่มีทางที่จะขับไปข้างหน้า เกาชาวเรียกให้สมาชิกทุกคนลงจากรถ

ในตอนนี้เองฉินเทียนถึงจะเห็นชัดว่าคนที่ตามเกาชาวมา นอกจากเจ้าปลาหมึกยักษ์ที่ลึกลับแล้วทุกคนล้วนสวมเสื้อคลุมยาว

สมาชิกที่เหลืออีก 50 คนกลับใส่ชุดพร้อมต่อสู้

ที่เอวล้วนแขวนปืนไว้อย่างอุกอาจชัดเจน ใส่รองเท้าบูตพร้อมรบ ที่หัวคาดไฟเหมืองแร่ ไหล่สะพายเชือกเส้นใหญ่ มือถือพลั่วก่อสร้าง

มีแม้กระทั่งสะพายเป้ที่ข้างในมีดินปืน

นี่มันช่าง…

จะว่าเป็นกลุ่มคนขุดสุสานไม่ได้แล้ว น่าจะพูดว่าขโมยกันซึ่งๆหน้าจะดีกว่า

เมื่อเห็นสีหน้าฉินเทียนแปลกไป เกาชาวก็ตบไหล่เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่ภูมิใจว่า “เป็นไงบ้าง ทีมนี้ใช้ได้เลยใช่ไหม?”

“พวกนายรับผิดชอบงานเทคนิค พวกเขารับผิดชอบงานหยาบงานสกปรก”

“คุณฉิน พวกเราเดินกันต่อเถอะ ไปถึงที่ยอดเขายังอีกไกล”

ฉินเทียนพยักหน้า จำต้องเดินตรงกลางขบวนของทีม เขาเดินขึ้นเขาต่ออย่างกลัดกลุ้ม

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ฟ้ากำลังจะสว่าง รอบๆมืดสนิท สมาชิกในขบวนเปิดไฟเหมืองแร่บนหัวเพื่อส่องทาง

เหล่าสัตว์ป่าสัตว์ปีกที่อยู่ไกลๆเมื่อถูกแสงไฟรบกวนก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ

บรรยากาศดูผิดปกติ

เดินต่อไปตลอดสองชั่วโมงครึ่ง ตอนที่ท้องฟ้าสว่างขึ้นมาเล็กน้อย ในที่สุดพวกเขาก็เดินขึ้นมาถึงยอดเขาที่สูงที่สุดแล้ว

ลมภูเขาพัดพาอากาศสดชื่นในยามเช้าปะทะกับใบหน้า พัดพาเหงื่อและความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลไปหมดสิ้น

เมื่อมองลงไปข้างล่างเขียวชอุ่ม ภูเขาเชื่อมกันนูนขึ้น เหล่านกบินติดกันบนท้องฟ้า ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังข้ามเวลาย้อนกลับมาในสมัยโบราณ

ผู้คนต่างถูกบรรยากาศที่ลึกลับโอบล้อม ไม่คุยกันชั่วขณะ

กากากา!

เสียงนกก้องกังวานทำลายความสงบ

อาจงไก่ตัวผู้ที่เกาะอยู่บนไหล่ฉวนซานเงยหน้าส่งเสียงขัน

พอไก่ตัวผู้ขัน ฟ้าก็สว่าง

หลังจากเสียงไก่ขันดังออกมา ป่าดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ก็ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา

ทันใดนั้นนกและสัตว์ป่าก็ส่งเสียงร้องอย่างมีชีวิตชีวา

ลิงขนทองในอ้อมแขนของไป๋หลิงส่งเสียงร้องเจี๊ยกๆอย่างตื่นเต้น ไป๋หลิงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่เทียน ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดี”

“ถ้าคุณให้เวลาฉันหน่อย ฉันกับเจ้าทองจะสามารถหาหวงจิงและโสมที่มีอายุเก่าแก่ได้”

ผมของเธอเปียกน้ำค้าง ที่ปลายผมยังมีหยดน้ำค้างเกาะ เมื่อรวมกับใบหน้าแดงที่กำลังยิ้ม มันเหมือนกับดวงอาทิตย์แรกบนท้องฟ้า

ฉินเทียนพยักหน้า จากนั้นมองไปที่เกาชาว

“ทำไมถึงพาพวกเรามาที่นี่?”

“หรือว่าสุสานพระชายางูอยู่ใต้เนินเขาลูกนี้”

เกาชาวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ที่นี่แน่นอน”

“ที่พาพวกคุณมาเพื่ออยู่ข้างบนมองไปข้างล่าง ให้พวกคุณได้ดูลักษณะภูมิประเทศที่นี่”

“ดูนั่นสิ–”

เขาชี้ไปที่ภูเขาทางด้านทิศเหนือ แล้วพูดว่า “ภูเขาสลับซับซ้อนตรงนั้นเหมือนอะไร?”

เห็นภูเขาสลับซับซ้อนนี้เหมือนเทพมังกรที่ลงมาจากสวรรค์ชั้นฟ้า

“ทางเหนือเป็นสุสาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่ทุรกันดารแบบนี้ ทำไมถึงเลือกเป็นสุสานได้ล่ะ?”

“คนโบราณให้ความสำคัญเรื่องที่จะหันไปทางทิศใต้ทิศเหนือ หันหน้าไปทางดวงอาทิตย์เพื่อเกิด ถือเรื่องพวกนี้มากไม่ใช่เหรอ?”

แม้ว่าจะไม่ได้ศึกษาเรื่องฮวงจุ้ยเท่าไรนัก แต่ฉินเทียนก็ยังรู้การทดลองพื้นฐานเหล่านี้ เขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

“เรื่องนี้ฉันไม่รู้”

“แต่ตามที่ฉันได้ยินมาที่พงศาวดารบันทึกไว้ หลังจากพระชายางูตาย ถูกฝังอยู่ในท้องเทพเจ้ามังกร”

“ดูภูเขาลูกนี้สิ มีเพียงสันเขาเส้นนี้ที่เหมือนเทพเจ้ามังกรที่สุดใช่ไหม? ดังนั้นฉันเดาว่าสุสานพระชายางูน่าจะอยู่ด้านล่างนี้”

“ส่วนจะหาทางเข้ายังไง คุณฉิน ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณแล้วล่ะ”

ฉินเทียนมองไปที่ฉวนซาน

ไก่ขันทางทิศตะวันออก ผีทั้งหลายหลีกทางให้ สำนักระกาของพวกเขาเป็นสำนักฮวงจุ้ย

และสายเลือดของฮวงจุ้ยได้สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ อาจกล่าวได้ว่าไม่มีใครเข้าใจการรับรู้ฮวงจุ้ยของผู้คนในสมัยโบราณได้ดีไปกว่าพวกเขา

เพียงแต่สำนักระกามีกฎว่า ถือคนตายเป็นสำคัญ ถึงแม้พวกเขาจะเรียนเรื่องฮวงจุ้ยมา แต่ก็จะไม่ย้ายสุสาน

ปกติการเดินทางทำมาหากินมักจะช่วยคนอื่นดูเรื่องฮวงจุ้ย เลือกฐานราก รวมทั้งการวางผังบางส่วน

แม้ว่าฉวนซานจะจะเก่งมากในสำนักระกา มีทักษะด้านฮวงจุ้ย ถ้าทั้งหมดแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ที่คนทั่วโลกตามหาได้อย่างง่ายดาย

แต่สำหรับสุสานโบราณ เขายังคงสำรวจ

มีสิ่งหนึ่งที่เขาเก็บเป็นความลับ ก็คือในตอนนั้นพ่อแม่เคยทำผิดและโดนไล่ออกจากสำนักระกา ซึ่งมันทำให้เขาต้องตกอยู่ในอันตราย ต้องระมัดระวัง ไม่กล้าแสดงตนออกมา

ความผิดพลาดนั้นเกิดจากความเลอะเลือนชั่วขณะที่ช่วยใครบางคนชี้ทางเข้าสุสานโบราณ สุดท้ายแม้ว่าจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่ยายระกาก็ลงโทษเธออย่างรุนแรง

เป็นเพราะฮวงจุ้ยของสำนักระกาอยู่ใกล้กับสุสานโบราณมาก

หากบทลงโทษไม่รุนแรง เกรงว่าสำนักระกาจะกลายเป็นสำนักปล้นสุสานไปนานแล้ว สำนักที่ไม่ซื่อสัตย์จะอยู่รอดในโลกนี้นานหรือ?

ครั้งนี้ที่ฉวนซานกล้าที่จะละเมิดกฎของสำนักเพื่อมาสำรวจสุสานที่นี่ เพียงเพราะมีฉินเทียนสนับสนุน

หากสร้างความดีความชอบต่อหน้าราชาเทพ เชื่อว่ายายระกาจะไม่เพียงไม่ตำหนิแล้ว และจะยังให้รางวัลเขาด้วย

มั่นใจในปณิธานเดิมที่ยิ่งใหญ่ รู้สึกได้เมื่อมาถึงที่นี่จะต้องพึ่งความสามารถของตัวเอง จะสามารถหาทางเข้าสุสานได้อย่างง่ายดาย

ใครจะรู้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังตะลึง

ฉินเทียนพูดถูก ทางเหนือเป็นสุสาน คนโบราณให้ความสำคัญกับการรับใช้คนตายเหมือนรับใช้คนเป็น พวกเขาจะฝังคนตายในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้นสันเขานี้ไม่มีน้ำไม่มีแหล่งน้ำ ตั้งโผล่อยู่ระหว่างฟ้ากับดิน ทนรับฮวงจุ้ยแสงแดดส่อง เป็นสถานที่ที่ลำบาก หนาวเย็นและกันดาร

“นายก็คิดว่ามันไม่มีทางที่จะอยู่ที่นี่เหรอ?”

“งั้นลองดูที่อื่น ว่ามีร่องรอยอื่นหรือไม่?” เมื่อเห็นว่าฉวนซานขมวดคิ้วไม่พูดอะไร ฉินเทียนก็กระซิบพูด

ฉวนซานมองไปรอบๆแล้วส่ายหน้า “ไม่มี”

“พี่เทียน ความจริงตอนมาที่นี่ ฉันก็คอยจับตาดูแล้ว”

“ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับฮวงจุ้ยในการฝังศพเลยสักนิด คนปกติจะไม่มีทางมาสร้างสุสานที่นี่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮุนโหวที่สูงส่ง

“เขาเลือกให้คนในดวงใจที่ตัวเองรัก จะต้องเลือกสถานที่ฮวงจุ้ยดีแน่นอน”

ได้ฟังเช่นนั้นทุกคนต่างยากที่จะไม่แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา

เกาชาวกัดฟันพูดอย่างเย็นชาว่า “แกเข้าใจหลักฮวงจุ้ยจริงรึเปล่า?”

“อย่าเสียเวลากับชื่อเสียงจอมปลอมเลย!”

“กูไม่สน กูระดมผู้คนมามากมาย ดึงคนมาตั้งเยอะเพื่อมาที่นี่ วันนี้ไม่ว่ายังไง ต้องหาที่ตั้งของสุสานพระชายางูให้กูให้ได้!”

“ไม่อย่างงั้น ใครก็อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่!”

ชายคนนี้หลังจากที่วู่วามก็ฉีกหน้ากากคนดีออกเผยให้เห็นด้านโหดเหี้ยมจริงๆของตน

ได้ยินเช่นนั้นสมาชิกหลายสิบคนของเขาก็รีบจ่อปืนมาที่พวกฉินเทียนทั้งสี่คน

เจ้าปลาหมึกยักษ์ที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างเยือกเย็นว่า “คุณฉิน พูดตามตรงระหว่างที่พวกคุณมีความสุขกันที่นั่น 3 วัน พวกเราส่งคนไปสืบข้อมูลอย่างละเอียดของพวกคุณที่ทางใต้”

“ในวงการฮวงจุ้ยลือกันว่า มีกลุ่มคนขุดสุสาน 4 คนที่มีความสามารถอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งสี่คนร่วมมือกันเคยไขรหัสสุสานมาแล้วหลายแห่ง”

“ทำไมตอนนี้ แค่สุสานของสนมเอกคนหนึ่งก็ไร้หนทางแล้วล่ะ?”

“พวกแกคงจะไม่ใช่หลอกลวงใช่ไหม?”

เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ ฉินเทียนพูดอย่างโมโหว่า “พวกคุณพูดกันตามเหตุผลสิ!”

“ไม่แน่ว่าข้อมูลที่พวกคุณได้มาอาจจะผิด? จะมาหาที่ลวกแล้วบังคับพวกเราให้หาสุสานโบราณหรอกใช่ไหม?”

“ถ้ามีความสามารถนี้ พวกเราก็ไปหาหินน้ำมันในทะเลทราย ใครจะมาขุดสุสาน!”