ตอนที่ 256

Rise of The Undead Legion

Chapter 256 : จากต่ำสุดไปสูงสุด

กิ้งก่าได้ก้าวเท้าเข้าไปในทะเลทราย มันเดินผ่านเนินที่ลุ่มๆดอนๆ มันวิ่งจนโกยทรายไปด้านหลังเพื่อขึ้นไปยังเนินทรายก่อนจะไถลตัวลงมา มันทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เกราะของ เดฟ นั้นร้อนเกินกว่าจะแตะได้  แดดนั้นไม่ได้เพียงพอที่จะทำให้เกิดความร้อนจนเผาไหม้ได้แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้สึก  มันรู้สึกว่าผิวของเขากำลังจะแห้งเป็นทราย  บางทีเขาอาจจะกลายเป็นมัมมี่ก็ได้
พวกเขาเดินทางกันมาได้ครึ่งทางและพบกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป  เดฟ เห็นว่าท้องฟ้านั้นสลัวลงและก็เริ่มมีลมเพิ่มขึ้น  เขามองไปรอบๆแล้วมองไปด้านหลัง  มันมีสิ่งที่คลื่นสีเหลืองแดงคล้ายกับกำแพงกำลังพุ่งเข้ามาหาพวกเขา  ฉากนี้เกิดขึ้นไกลสุดขอบฟ้าและสูงราวกับหอคอย
“ พายุทราย ! วิ่ง Grump วิ่ง ! “ – เดฟ ตะโกนขึ้นมา
กิ้งก่าร้องตอบรับและเพิ่มความเร็วของมันทันที
พวกเขาได้ไถลเข้าไปยังที่ลุ่มระหว่างเนินทรายก่อนที่จะได้กลิ่นฉุนจมูก
“ นี่ต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ ! “ – เดฟ ตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวังแล้วดึงเอาแส้กระดูกออกมา
ทรายด้านหน้าพวกเขาถล่มลงและทรายรอบๆก็เริ่มหล่นลงไปเผยให้เห็นวงฟันที่แหลมคม
Grumpy ได้ไถลลงไปตามช่องปากของมอนเตอร์พร้อมกับทรายที่ร่วงลงไป มันกระโดดไปทางตรงข้ามแล้วพยายามไต่ขึ้นมาจนสุดท้ายก็หนีกับดักนี้มาได้ แม้ว่าพวกเขาจะรอดจากตัวกินทรายแต่ใช่ว่าจะพ้นจากอันตราย
พายุทรายกำลังไล่ตามมาซึ่งพายุนี้เร็วกว่าพวกเขาอย่างมาก  พวกเขาคงต้องโดนพายุนี้กลืนไปในไม่ช้าและ เดฟ คงต้องถูกส่งกลับไปเกิดใหม่
อยู่ๆ Grumpy ก็หยุด
“ Grump ? “ – เดฟ หันกลับไปมองพายุที่กำลังพัดเข้ามา
กิ้งก่าเอียงตัวปล่อย เดฟ ไปที่พื้นทรายแล้วใช้หลังของมันกันพายุทรายที่พัดเข้ามา
“ ใช่ ไม่มีค่าในการหนี ไอ้เทพพังค์และเควสโง่เง่า “ – เขาไม่ได้คิดที่จะพยายามอีก
กิ้งก่าร้องออกมาแล้วเริ่มขุดทรายรอบๆด้วยความหงุดหงิด
“ แกทำอะไร ? “ – เดฟ ถาม
กิ้งก่ายังคงขุดต่อไป ไม่นานมันก็ได้เห็นว่ามันกำลังขุดหลุมเพื่อหลบพายุอยู่  Grumpy ได้สะกิดให้ เดฟ เข้าไปในหลุมที่มันสร้างมา
ไม่นานหลังจากนั้นพายุก็ได้พัดอัดพวกเขา  กิ้งก่าร้องออกมาแต่กล้ามเนื้อของมันก็ยังคงขยายกันลมให้ได้มากที่สุด ทรายเหล่านี้เหมือนกับเขี้ยวเล็กๆที่คอยฉีกเนื้อของมัน
แต่กิ้งก่าน่ะรู้ว่าจะรอดไปได้ยังไงในทะเลทรายนี้ มันใช้เวลาไม่นานทรายก็ได้เข้าทับพวกเขา
นั่นคือวิธีที่พวกเขาจะหลบพายุได้ พวกเขาใช้ทรายในการก่อชั้นกันลม  เดฟ ได้นั่งในโพรงที่ Grumpy สร้างขึ้นมาโดยมีกิ้งก่าขดตัวรอบเขาเพื่อปกป้องเขาเอาไว้ เขาพิงไปที่ตัวของ Grumpy แล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
ในตอนที่ลมหยุดลง  Grumpy ก็ได้โผล่หัวออกมาจากกองทราย  หัวของ เดฟ เองก็โผล่มาข้างๆกับกิ้งก่า  หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าพายุจบลงแล้ว ทั้งสองคนจึงได้ออกจากที่นั่นมา
เดฟ หันกลับไปมองเส้นทางที่เดินจากมา ทุกอย่างดูต่างจากเดิมราวกับว่าเนินทรายอื่นๆมันขยับได้
“ เหี้ย มีแต่ทรายเต็มไปหมด ! “ – เดฟ ดีใจที่สาวๆไม่ได้มาที่นี่ด้วยเพราะทรายพวกนี้น่ะเข้าไปทุกซอกทุกมุมของตัวเขา
หลังจากที่พยายามสลัดทรายออกจากเกราะ เขาก็ได้โดดขึ้นไปบนหลังกิ้งก่า
“ ไปต่อ Grump ! “
เดฟ หัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่า Grumpy ได้มองไปรอบๆเพื่อค้นหาเส้นทาง
พวกเขาได้กลับเดินทางกันต่อมุ่งหน้าไปยัง Mt.Glory ตามเส้นทางบนแผนที่
จุดสีดำโผล่มาที่ปลายขอบฟ้า
“ ต้องเป็นที่นั่นแน่ “
ไม่นานจุดสีดำก็ค่อยๆขยายขนาดขึ้นมาจนกระทั่ง เดฟ มองเห็นรายละเอียด มันคือภูเขา  ยอดเขารูปกรวยไม่ได้โผล่มาจากพื้นผิวทะเลทราย  มันกลับกำลังโผล่ขึ้นมาจากพื้นขึ้นเรื่อยๆ
“ นี่ใช่เพราะ Alfred รึเปล่า….? “
พวกเขาเข้าไปใกล้จน เดฟ ได้เห็นแสงที่ส่องประกายนี้คือทรายที่ร่วงลงมา  แม่น้ำทรายสีเหลืองแดง  มันแปลกกว่านั้นที่ด้านล่างไม่มีทรายอยู่ มันไม่ได้มีกองทรายในจุดที่แม่น้ำทรายนี้ตกลงมา
ไม่นานพวกเขาก็ได้เข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆน้ำตกทราย  Grumpy เดินไปที่น้ำตกทรายแล้วดมดูเพราะความสงสัย  เดฟ ได้ตรวจสอบแผนที่ ตำแหน่งของเควสนั้นอยู่ใกล้ๆกับที่นี่   พวกเขาได้ตามเครื่องหมายเควสไปพร้อมกับเดินวนไปรอบๆน้ำตกทรายจน เดฟ พบกับผู้เล่นสองคน
ผู้หญิงในเกราะหนังผมเขียวได้มองมาที่ เดฟ ด้วยความสงสัย
อัศวินเกราะแดงยืนอยู่ข้างๆเธอได้ใช้มือจับดาบพาดไว้ที่ไหล่ของเขา
เดฟ ได้ตรวจสอบผู้เล่นสองคนนั้นทันที
***
Winter Rose, เลเวล 410, คลาสแดนเซอร์ซอด, กิลด์ Rovania
Omni, เลเวล 431, คลาสเซิกบินเดอร์, กิลด์ Rovania
***
พวกนี้เป็นผู้เล่นเลเวลสูงและเขาก็ยังมีค่าหัวอยู่กับตัว อันที่ Heaven’s Dawn และ Blood Rage ตั้งไว้
เธอเดินเข้ามาหาพวกเขาและมาหยุดอยู่ข้างๆกิ้งก่าแล้วเงยหน้ามองมาที่ เดฟ
“ นายมาทำอะไรที่นี่ พ่ออันเดต ? “ – เธอถามออกมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“ ฉันมาทำเควส พวกเธอสองคนล่ะ ?”  – เดฟ ถามกลับ
Omni หันกลับไปมองเพื่อน – “ เรารอลิฟต์อยู่   Glory เป็นที่ที่ดีสำหรับการเก็บเลเวลแม้ว่ามันจะมายากก็ตาม “
“ ใช่ พายุทรายน่ะโคตรแย่เลย “ – เดฟ บ่นออกมา
“ นายเจอพายุทรายแล้วรอดมาได้งั้นเหรอ ? ยังไง ? “ – Omni ถาม
“ ใช่ ต้องขอบคุณที่ Grumpy มาด้วย ฉันเดาว่ามันคงรู้จักทะเลทรายดี “ – เดฟ ลูบหัวกิ้งก่า
“ Grumpy กิ้งก่านี่น่ะเหรอ ?  ชื่อน่ารักดีนิ ฉันเล่นกับเขาได้มั้ย ? “ – Winter Rose ถาม
เดฟ ยักไหล่  Grumpy ร้องออกมาแต่ก็ปล่อยให้เด็กสาวเกาคางของมันและดูเหมือนว่าจะสนุกด้วย
“ เธอบอกว่าเธอรอลิฟต์งั้นเหรอ ? “ – เดฟ ถาม
“ ลิฟต์ แท่นนั่นน่าจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า  มันทำงานทุกๆชั่วโมง “ – Omni พูดขึ้น
เดฟ ตัดสินใจรอลิฟต์กับทั้งสองคน  เขาได้คุยกับทั้งสองและพบว่าทั้งสองก็เหมือนจะนิสัยดี
จากนั้น Omni ก็ได้ชี้ออกไป – “ นั่นไง “
เดฟ เงยหน้าขึ้นมองและพบกับแท่นไม้ที่ร่อนลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเชือกรึสายอะไรที่รัดเอาไว้ มันดูเหมือนว่าจะลอยได้เอง  ลิฟต์ลดความเร็วลงและลงมาถึงพื้น
ผู้เล่นอีกคนโดดขึ้นแท่นนั่นโดยไม่ลังเล
Winter Rose หันกลับมามอง – “ นายจะไปมั้ย ?”
“ ไปสิ “ – เดฟ สะกิดให้ Grumpy เดินขึ้นไปบนแท่น
ผู้เล่นทั้งสามคนได้รับแจ้งเตือนทันที
***
น้ำหนักเกินกำหนด
ลิฟต์จะทำงานเมื่อน้ำหนักลดลง
***
“ โทษทีนะ Grump  นายลงไปก่อน นายอ้วนเกินไป ฉันจะเรียกนายตอนที่ฉันขึ้นไปถึงด้านบนละกัน “ – เดฟ พูดขึ้น
กิ้งก่าร้องออกมาอย่างไม่พอใจ   เดฟ ได้ลงจากกิ้งก่าก่อนที่มันจะเดินลงจากแท่นไป
“ นายได้มันมาจากไหน ? “ – Omni ถาม – “ ฉันเองก็อยากมีกิ้งก่าเป็นพาหนะบ้าง “
“ จากโลกใต้ดิน เธออาจจะได้มันมาถ้าส่วนขยายเปิด “
เดฟ ไม่รู้จักสองคนนี้ดีพอจนแนะนำทั้งสองถึงข้อมูลอื่นๆแต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะปิดบังอีกฝ่ายมากนัก เขาเรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกันกับคนอื่นอย่างช้าๆ
“ นายไม่กังวลรึไงกับการปล่อยเขาไว้ที่นี่ลำพัง ?” – Winter Rose ถามออกมาและแสดงสีหน้าเป็นห่วง
“ ไม่ Grumpy ดูแลตัวเองได้ “
จากนั้นลิฟต์ก็ค่อยๆลอยขึ้นไป ม่านทรายด้านหลังนั้นเริ่มก่อตัวจนแผ่มาปิดถึงด้านหน้าพวกเขา
“ เฮ้ เธอเคยได้ยินถึง NPC ชื่อ Balaam มั้ย ? “ – เดฟ ถาม
Omni พูดขึ้นมา – “ ใช่ เขาเป็นคนที่แปลกที่อยู่ด้านบนภูเขา ทำไม ? “
“ เรื่องเควสน่ะ “
“ เขาไร้ประโยชน์ เขาไม่ได้ให้เควสอะไรเลย เขาไม่เคยคุยกับผู้เล่นด้วยซ้ำ “
“ อย่าคิดสู้กับเขาเชียว ฉันเคยเห็นเขาฆ่าผู้เล่นเลเวล 400 ของ Blood Rage ด้วยการโจมตีครั้งเดียว “ – Winter Rose พูดขึ้นมา
“ หือ ดีที่รู้ ขอบคุณ “
ไม่นานแท่นก็ลอยขึ้นมาถึงด้านบนก่อนจะหยุดลง
“ เราถึงแล้ว “ – Omni พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราวกับร้องเพลง
Winter Rose ปรบมือแล้วกระโดดลงจากแท่นไป
เดฟ ยิ้มแล้วกรอกตากับการกระทำของเธอก่อนจะเดินลงจากแท่นไปตาม
Mt.Glory สมกับชื่อของมัน  มันซ่อนอยู่ในเมฆ   ป่านี้เต็มไปด้วยทางชันที่นำขึ้นไปสู่ภูเขาซึ่งตามทางนั้นเต็มไปด้วยผา เส้นทางจากแท่นแยกเป็นทรงซ้ายและขวาวนรอบยอดเขาเอาไว้   การเดินตกเส้นทางนี้ไม่ใช่ความคิดที่น่าพอใจสำหรับ เดฟ
ทางเดินนี้ปูด้วยหินเหยียดยาวไปในป่า ทางเดินพวกนี้ดูเหมือนว่าจะไปถึงภูเขาด้วย
เดฟ เห็นบันไดสีขาวโผล่ขึ้นมาจากป่าจนถึงไปถึงหน้าผาด้านหน้าขึ้นไปยังยอดเขา  มันมีซุ้มประตูแบบญี่ปุ่นที่ขอบป่า มันมีซุ้มแบบนี้อยู่ในทุกๆไม่กี่ร้อยเมตร
ผู้เล่นทั้งสองได้เลือกไปทางขวาและเริ่มเดินไปตามเส้นทาง
“ ไว้เจอกัน พ่ออันเดต “ – Winter Rose หันกลับมาแล้วโบกมือให้กับเขา
“ไว้เจอกัน โชคดีกับเควสนายด้วย “ – Omni หันกลับมาแล้วโบกมือให้
เดฟ โบกมือตอบกลับทั้งคู่
เมื่อพวกนั้นหายไปจากสายตาแล้วเขาก็ได้เรียก Grumpy
ตอนนั้นเขาก็ได้รับแจ้งเตือนขึ้นมา
***
การเรียกล้มเหลว
คุณไม่สามารถเรียกพาหนะของคุณมายังตำแหน่งนี้ได้
***
อากาศรอบๆเริ่มเย็นขึ้นในตอนที่เขาเริ่มเดินขึ้นไปบนเขา รอบด้านนั้นดูน่าตระการตามากขึ้นเรื่อยๆ  เขาเห็นป่ารอบภูเขาและทะเลทรายด้านบนด้วย
อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องตอนที่เดินขึ้นไปบนเขา  ไม่นานเส้นทางด้านหน้าก็มีแต่หมอกขาวปกคลุมเอาไว้  เขากำลังจะเดินเข้าไปในเมฆ  เดฟ เดินไปต่อและพบว่าบันไดนี้ได้นำไปสู่ยอดเขาจริงๆ
ไม่คาดคิดว่ายอดเขาจะเป็นที่แบนราบราวกับว่ามีใครใช้ดาบมาตัดยอดเขาทิ้งไป
เดฟ ยิ้มออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายและเดินขึ้นไปบนพื้นหิน
มีชายแก่ที่ใช้โซ่ถ่วงน้ำหนักตัวเองเดินวนไปรอบๆอยู่ที่นั่น ชายแก่คนนี้เดินบนพื้นหินด้วยเท้าเปล่า
“ Balaam “
ชายคนนั้นพยักหน้ากับให้กับ เดฟ – “ บริวารของเทพอันเดต “
“ ฉันต้องการหาตัว Eleanor ลูกสาวของราชาอันเดต “
“ ฉันรู้ว่าทำไมนายถึงได้มาที่นี่ นายเต็มใจเสียสละเพื่อความต้องการของนายมั้ย ดาร์กหนุ่ม ? “