ตอนที่ 234 โดย Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนเลยวางใจ จนสบายใจแล้ว เธอรู้สึกได้ถึงความเย็น เสื้อผ้าบนตัวหายไปหมดแล้ว

เฉินเยี่ยนเขินอาย เธอรู้สึกได้ถึงความเร่าร้อนของซินห้าว เดิมทีซินห้าวที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำ กลับหาทางเข้าไม่เจอ

ในใจเฉินเยี่ยนก็ร้อนรุ่มเป็นจังหวะ ความร้อนนั้นเหมือนกับจะแผดเผาร่างเธอ เธอขยับตัวอย่างไม่ตั้งใจ แต่กลับทำให้ซินห้าวสามารถเข้าประตูไปได้

ซินห้าวเป็นเด็กหนุ่ม ยอดบนสุดของน้องชายเขาเต็มไปด้วยน้ำรักของเฉินเยี่ยน แต่ร่างกายไม่ยอมงอเข้าไปตาม เลยร้องออกมา เธอรู้สึกเจ็บ

“ผมทำคุณเจ็บหรือ?”

ซินห้าวหยุด เรื่องนี้เขาไม่มีประสบการณ์ เขากลัวจะทำเฉินเยี่ยนเจ็บ

“ไม่เป็นไรค่ะ ช้าหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น”

เฉินเยี่ยนรู้สึกถึงเหงื่อของซินห้าว หยดลงมาทีละเม็ด ไม่เพียงแต่ร้อน เขาเร่งรีบด้วย

เฉินเยี่ยนจูบซินห้าว เธอรู้ว่าเขาอดทนนั้นทรมาน

รอจนเธอปรับสภาพได้แล้ว ไม่เจ็บเหมือนตอนนั้นแล้ว เฉินเยี่ยนค่อยๆ ขยับร่างกาย เหมือนเป็นการส่งสัญญาณ ซินห้าวที่ก่อนหน้านี้อดทนจนจะระเบิดอยู่แล้วก็เริ่มขยับอย่างบ้าคลั่ง

จนถึงช่วงหลังเฉินเยี่ยนขมวดคิ้ว เธอไม่สามารถทนต่อกำลังแรงที่ฝึกวิทยายุทธ์มาได้ ถึงแม้จะเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะเร่งรีบขนาดนั้น แต่ความทนทานของซินห้าวนั้นทำให้เธอไม่ยอมไม่ได้ แต่ความทนทานนี้สำหรับครั้งแรกของเธอแล้วกลับรู้สึกทรมานอยู่บ้าง

จนซินห้าวสำเร็จ เฉินเยี่ยนรู้สึกว่ากระดูกเธอจะแหลกสลายแล้ว เธอขยับตัว ทั้งตัวปวดร้าวอย่างสาหัส

“คุณอย่าขยับ อยากจะล้างใช่ไหม? เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”

ซินห้าวรีบประคองเฉินเยี่ยน

เฉินเยี่ยนไม่ขยับ จนในห้องสว่างอีกครั้ง เห็นเหงื่อเขาโทรมกาย ถ้าไม่ใช่เมื่อกี้เพิ่งผ่านการร่วมรักมา เฉินเยี่ยนอยากจะกลืนกินเขาเข้าไป

“ให้ผมช่วยคุณล้าง?”

สายตาซินห้าวที่มองเฉินเยี่ยนนั้นอ่อนโยน แล้วยังมีความทะเล้นด้วย

“ไม่เอา ฉันทำเองค่ะ”

เฉินเยี่ยนเขินใช้มือปิดบังส่วนนั้นของตัวเอง จากนั้นลุกจากเตียงไปล้าง

เห็นท่าทางเฉินเยี่ยน ซินห้าวก็ยิ้มออกมา

หลังล้างสะอาดเรียบร้อย เฉินเยี่ยนอยู่ในอ้อมกอดซินห้าว เธอยังรู้สึกได้ว่าหัวใจซินห้าวเต้นแรง และร่างกายที่อบอุ่นของเขา

“ทำไมใหญ่ขนาดนี้? ดูไม่ออกเลย”

ซินห้าวกุมหน้าอกทั้งคู่ เขาชอบไม่ยอมปล่อยมือ

เฉินเยี่ยนตีมือซินห้าวเบาๆ อย่างเขิน แต่เธอรู้สึกภูมิใจ ไม่ว่าชาติที่แล้วหรือชาตินี้ สวรรค์ยังเมตตาเธอ มอบรูปร่างอรชร เอวบางให้เธอ แต่หน้าอกนั้นกลับทำให้คนอิจฉา

“ผมตั้งชื่อให้ดีไหม? ฝั่งนี้ชื่อต้าไป๋ อีกฝั่งชื่อเอ้อร์ไป๋ คุณว่าดีไหม?”

ซินห้าวเล่นไปก็ถามไป เขาไม่รู้สึกง่วงเลย ถึงแม้จะดื่มเหล้ามาเยอะขนาดนั้น ถึงแม้จะรู้สึกเมาอยู่หน่อย แต่ยิ่งทำให้เขาคึกคัก

“นี่ไม่ใช่กระต่ายนะ เรียกต้าไป๋ เอ้อร์ไป๋อะไรกัน ฉันไม่เอาด้วย”

เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าซินห้าวเป็นเด็กน้อย

“มันเหมือนกระต่ายมากเลย ดูน่ารักดีออก”

ซินห้าวกลับเถียงเฉินเยี่ยน

“ใครบอก นี่ไม่มีปาก ไม่มีหู เหมือนกระต่ายตรงไหน”

เฉินเยี่ยนพูดอย่างงัวเงีย เธอเหนื่อยแล้วก็ง่วงด้วย อยากจะนอน

“ใครบอกว่าไม่มีปาก นี่ไม่ใช่หรือ”

ซินห้าวพูดเหมือนกับจะพิสูจน์ เขาก้มตัวลงไปจูบที่หน้าอก

เฉินเยี่ยนตกใจ ความง่วงหายไป มองดูซินห้าวจูบอย่างไม่ชำนาญ แล้วยังดูดเบาๆ ร่างกายเธองอตัว

พ่อหนุ่มคนนี้ ตัวเองไม่ได้สอนเขาเลย เขาหัดด้วยตัวเองหรือไง?

“อย่าค่ะ”

เฉินเยี่ยนรีบห้าม

“เป็นภรรยาที่ดีนะ ให้ผมกินสักสองคำ ผมเห็นพวกมันดูต้อนรับผมดี”

ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน สีหน้าจริงจังและอ้อนวอน ทำให้ปฏิเสธไม่ลง

เฉินเยี่ยนจึงต้องปล่อยมือ

แต่ผลของการปล่อยคือเธอได้เข้าไปในกลีบเมฆอีกครั้ง ปวดเมื่อยเนื้อตัว

จนหลังจากทำความสะอาดเสร็จ เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าลืมตาไม่ไหวแล้ว ซินห้าวพูดอะไร เธอไม่สนใจแล้ว ตอนนี้นอนหลับสำคัญที่สุด

ได้ยินเสียงลมหายใจเท่ากันของเฉินเยี่ยนแล้ว ซินห้าวจูบหน้าผากเฉินเยี่ยน

รอยแผลเป็นรูปดวงตา ถ้าก่อนหน้านี้รู้ว่าเขาจะตกหลุมรักเฉินเยี่ยน เขาจะไม่มีทางให้เฉินเยี่ยนโดนทำร้าย

รอยแผลเป็นนี้เตือนความทรงจำเขา ว่าเฉินเยี่ยนเคยโดนทำร้ายมาก่อน ต่อจากนี้เขาจะไม่มีวันให้เฉินเยี่ยนโดนทำร้ายอีก

นอนกอดเฉินเยี่ยน ซินห้าวรู้สึกว่าตรงนั้นของตัวเองตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขายิ้มอย่างลำบากใจ เห็นสีหน้าเฉินเยี่ยนที่นอนหลับอยู่ เขาหลับตาลง เขาต้องการให้เฉินเยี่ยนได้พักผ่อน ไม่อยากให้เฉินเยี่ยนเหนื่อยเกินไป ส่วนเรื่องอื่น พรุ่งนี้ค่อยสานต่อ ยังไงเฉินเยี่ยนเป็นภรรยาของเขาแล้ว อีกหน่อยเขาสามารถมีกิจกรรมแบบนี้กับเฉินเยี่ยนได้ทุกวัน ช่างสบายใจเหลือเกิน

ตอนเช้าตรู่ เฉินเยี่ยนโดนบางสิ่งบางอย่างปลุกให้ตื่น เธอลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย สักพักค่อยรู้สึกตัว

คืนแต่งงานคืนแรกของเธอ ตัวเองกับซินห้าว แค่คิดหน้าเธอก็แดงแล้ว

แต่ยังไม่ทันที่เฉินเยี่ยนขยับตัว คนข้างๆ ก็พลิกตัวมานอนทับร่างเธอแล้ว

“อย่าค่ะ ฟ้าสว่างแล้ว พวกเราต้องไปหาคุณปู่คุณย่าอีก ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะนินทาเอาได้”

เฉินเยี่ยนรีบห้ามซินห้าว เป็นสะใภ้ใหม่จะตื่นสายไม่ได้ คนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา จะคิดว่าเธอขี้เกียจ

“ยังไม่หกโมงเลย ไม่รีบ”

ซินห้าวตื่นก่อนเฉินเยี่ยน ดังนั้นเขาเลยรู้เวลา

ริมฝีปากเฉินเยี่ยนถูกรุกล้ำ ตัวเธอก็โดนรุกล้ำด้วย ตอนที่ซินห้าวรับปากว่าจะทำให้เร็วที่สุด กว่าสงครามจะสงบก็เป็นเวลาเจ็ดโมงแล้ว

นี่เรียกว่าเร็วที่สุดแล้วหรือ?

เฉินเยี่ยนบ่นในใจ แต่สายตาที่แลดูเหมือนวิวทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิไม่ใช่แบบนั้นเลย มันเต็มไปด้วยความรักไม่มีที่สิ้นสุด

ฝั่งซินห้าวกลับรู้สึกมีกำลังวังชา ดูไม่ออกเลยว่าเมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

เฉินเยี่ยนกลับรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา

จนทั้งสองคนเปลี่ยนชุดเสร็จ ไปที่บ้านเก่า ก็เกือบแปดโมงแล้ว เวลานี้ถือว่าสายแล้ว เห็นที่โต๊ะเต็มไปด้วยอาหาร เฉินเยี่ยนรู้สึกอาย

แต่คนบ้านซินไม่ได้พูดอะไร และไม่มีใครทำหน้าบึ้งตึง นั่นทำให้เฉินเยี่ยนแอบโล่งใจ

“เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย ตอนเช้าเยี่ยนจื่อปลุกผมแล้ว แต่ผมไม่ยอมตื่นเอง”

ซินห้าวอธิบาย

เฉินเยี่ยนเหลือบมองเขา พูดในใจ คนพวกนี้อายุมากมีประสบการณ์มากกว่า แล้วเคยผ่านวัยเยาว์มาก่อน ทำไมจะไม่รู้ เชื่อคุณสิแปลก

ทุกคนหัวเราะกันจริงด้วย  มองสายตานั้นแล้ว กลับทำให้ซินห้าวหน้าแดง

เฉินเยี่ยนทำเป็นมองไม่เห็น ทำเป็นไม่เข้าใจ เลยพูดคุยกินอาหารเช้ากันไปกับทุกคน

กินข้าวเช้าเสร็จ ไป๋ซิ่วเหมยไม่ได้ให้เฉินเยี่ยนเก็บกวาด บอกว่าสะใภ้แต่งเข้ามายังไงก็ต้องพักสามวัน มีเธอกับลูกสาวเธออีกสองคนก็พอแล้ว

ป้ารองคนนี้นิสัยดี ส่วนน้องสาวสองคน ซินฮุ่ย ซินหลาน ก็ถือว่าเป็นคนซื่อๆ ใจดีกับเธอมาก

ส่วนคุณปู่คุณย่า คุณปู่บุคลิกเปิดเผย คุณย่าอ่อนโยน ลุงสองก็ไม่ใช่คนเรื่องมาก

แบบนี้ก็ดี เฉินเยี่ยนไม่อยากให้บ้านสามีมีการแบ่งชนชั้น ทุกวันเถียงกันบางคนรู้สึกสนุก แต่สำหรับเธอแล้ว เธออยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข อยู่กับซินห้าวอย่างราบรื่น อย่างมีความสุข