ตอนที่ 258

Rise of The Undead Legion

Chapter 258 : ความไร้สาระของเทพ

เทพอันเดตมองไปที่ Demiurge ที่ดินออกมาตรงหน้าประตูทอง  ตอนนี้เทพแห่งการสร้างกำลังเต้นราวกับไก่
เดฟ ถึงกับต้องหันกลับไปเพราะความอึดอัด ผู้ส่งสารได้หลบไปอยู่ข้างๆประตูและมองไปที่อื่น สีหน้าของพวกเขายังคงปกติดังเดิมแต่ เดฟ รู้สึกว่าการเต้นของ Demiurge นี้ทำให้พวกนี้ต้องอาย
ใครกันที่เต้นมูนวอร์คในตอนนี้ได้
‘ไอ้บ้านี่ต้องใจเย็นหน่อยแล้ว แม้แต่ลูกน้องมันยังทำตัวดีกว่าเลย ’
เดฟ ห้ามใจตัวเองไม่ให้กุมขมับ
เขามองไปที่เทพอันเดตที่มองเทพอีกคนอย่างใจเย็น
‘ ไอ้นี่อีก ทำไมมันถึงพาฉันมาด้วยถ้ามันผิดกับกฎ ? พวกเทพยุ่งยาก มันไม่คุ้มกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นเลย ’
Demiurge กำลังเต้นท่านหุ่นยนต์ซึ่งแย่ที่สุดเท่าที่ เดฟ เคยเห็นมา   จากนั้นเทพก็เต้นจนถอยมาถึงที่เทพอันเดตแล้วตบหลังตัวเองในตอนท้าย
เทพอันเดตยกมือขึ้น – “ เอาล่ะ เลิกทำตัวน่าอายได้แล้ว นายเข้าใจผิดหมดเลย ฉันมาที่นี่ก็เพราะสมดุลมันสั่นคลอน “
เทพแห่งการสร้างได้หยุดลง จากนั้นก็หันกลับมาด้วยสีหน้าตกใจ
“ อะไรนะ ? ! ไม่ ! นึกไม่ถึงจริงๆ ! นายพาสัตว์เลี้ยงอันเดต – “
“ หุบปากไป ไอเดมิ แกอวดบอลโคลนที่แกสร้างแต่แกกลับไม่สนใจในตัวตนของมัน ที่แย่งกว่านั้นแกไม่รู้เลยว่าพวกลูกน้องโบสถ์ของแกน่ะทำอะไรอยู่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม่เราถึงต้องมาอยู่ที่นี่ “
“ ไม่ ว่าไงนะ ? “ – Demiurge เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นทางการ – “ บ้านของเราน่ะมีกฎ คนร้ายน่ะโดนไล่ออกจากโบสถ์ไปแล้ว ! ฉันไม่ได้ลงมือขัดอะไรกับนายรึที่ของนาย “
“ ฉันรู้ แกมันขี้เกียจเกินไปที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการทะเลาะแต่การที่แกไม่ไปยุ่งนี่แหละที่เป็นเหตุผลว่าทำไมทางโบสถ์ถึงได้มายุ่งกับเรื่องของฉัน ! “
คำพูดสุดท้ายนี้บ่งบอกถึงความโกรธ  เดฟ ทำใจแข็งอีกครั้งเพื่อทำใจยอมรับพลังทางคำพูด
เทพอันเดตยังคงพยายามอดกลั้นตัวเองอยู่
“ นายต้อง — “
“ อย่ามาบอกวิธีการดูแลที่ของฉัน นิโคลัส ! “
“ นิโคลัส ? “ – เดฟ โล่งขึ้นมา
เทพอันเดตหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้สนใจ เดฟ
“ ฉันไม่ได้บอกวิธีการดูแลคนของนาย ฉันแค่มาบอกนายอย่างเป็นทางการว่าโบสถ์ของนายน่ะฝ่าฝืนกฎ ฉันมาที่นี่เพื่อให้นายไปจัดการมัน  เพื่อไม่ให้มันมายุ่งเกี่ยวกับที่ของฉัน “
“ ฉันไม่ลงไปหรอก ! มันสกปรกแล้วยังมีคนเยอะอีก ! “
“ งั้นก็ใช้ความโกรธของเทพสิ แสดงให้พวกคนบาปได้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้านาย  อะไรที่ควรแก้ก็ต้องแก้ ไม่งั้น “
เทพอันเดต พลิกมีดในมือแล้วมองไปยังเทพผู้สร้าง
หน้าของ Demiurge ดูตื่นตัวพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ  จากนั้นไหล่ก็ทรุดลงไปพร้อมกับลมที่พัดผ่าน เดฟ
“ ได้ ได้ นายชนะ มันไม่ยุติธรรม ! กฎจะยังอยู่ได้ก็เพราะนายยังช่วยอยู่ “
Demiurge หดขนาดกลับมาขนาดเท่ากับคน เขาโบกมือและประตูสีทองขนาดเท่ากับมนุษย์ก็ปรากฏขึ้นมา
“ ฉันว่าเราน่าจะจัดการเรื่องนี้ให้มันเสร็จ ฉันจะได้กลับมานอ- ทำงานสำคัญของฉันต่อ  “
เทพอันเดตยิ้มออกมาแล้วผายมือเชิญเทพผู้สร้างให้เดินผ่านประตูเข้าไปก่อน
ที่นี่เป็นห้องที่เต็มไปด้วยเสาเรียงรายและมีหน้าต่างกระจกและม้านั่งไม้เรียงกันเป็นแถว  ที่นี่คือโบสถ์
มันมีรูปปั้นและรูปของ Demiurge อยู่ทั่วทุกที่
เดฟ เช็คแผนที่ของตัวเอง มันกลับมาตรวจสอบได้แล้วและบอกพวกเขาว่าอยู่ในอาณาจักรทางเหนือ
พรีสคนหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องโถงจากห้องด้านข้าง
เมื่อเห็นเทพ พรีสก็ทรุดลงกับพื้นแล้วหมอบพร้อมกับตัวที่สั่น
“ อืม ใช่ ใช่ นายได้แสดงความเคารพต่อเทพของตัวเองแล้ว  แล้วสังฆราชสูงสุดของเราไปไหน ? เราต้องคุยกับเขา “
พรีสเงยหน้าขึ้นมอง Demiurge – “ เขาไม่อยู่ที่นี่ เขาได้เข้าเก็บตัวไป “
Demiurge คิ้วขมวด  เขาโบกมือพร้อมกับมีประตูสีทองปรากฏขึ้นมาอีกเผยให้เห็นห้องที่มีเตียงขนาดใหญ่และพื้นที่ปูด้วยพรมสีทอง
มีชายแก่ตัวโป๊เปลือยที่กำลังขยับก้นไปมาโดยมีเด็กสาวอยู่ด้านล่างตัวเขา
“ บ้าเอ้ย ไอ้เดมิ ฉันทนเห็นมันไม่ได้ มันติดตาเว้ย แกบอกแล้วนิว่าเราจะเลิกแอบดูตอนที่เราอยู่โรงเรียนน่ะ “
“ ไม่ ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ— หุบปากเลย นิโคลัส ! “
เดฟ รีบหันหนี – “ นี่ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเลย “
พรีส มองผ่านประตูไปแล้วอุทานออกมา – “ ซิสเตอร์ Melinda ! “
ชายแก่กระโดดออกจากผู้หญิง  เดฟ คิดว่านี่ถือว่ายังแข็งแรงอยู่สำหรับคนแก่  ผู้หญิงกรีดร้องแล้ววิ่งออกไปจากห้องพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วย
สังฆราชนั่งพิงหัวเตียงแล้วมองกลับมาที่พวกเขา  เขาพึมพำบางอย่างแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรออกมา
ในที่สุดเขาก็พูดออกมาได้ – “ Demiurge นี่มันน่าอายจริงๆ “
สังฆราชลุกขึ้นจากเตียงแล้วหาชุดมาใส่เพื่อให้ตัวเองสบายตาขึ้น  จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงไป – “ เทพสวรรค์ แสงและจุดสูงสุดของหมู่เทพ  เทพแห่งแสง, ผู้สร้างโลก  ท่าน Demiurge  ให้ข้ารับใช้อะไรดี “
“ อ่ะ ใช่ ยินดีที่เจอนายเหมือนกัน Jeffrey “ – Demiurge ตอบกลับ คำพูดนี้เหมือนกับปัดเป่าความกังวลกับเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ไป
“ แค่นี้ ? !  ไอ้บ้านี่น่ะ— เอ่อ เราเห็นว่าเขาทำอะไรอยู่แท้ๆ  “ – เดฟ โกรธขึ้นมา ไอ้แก่นี่เป็นถึงหัวหน้าโบสถ์
“ ผู้ติดตามของเราน่ะไม่ได้สมบูรณ์ มันคือหน้าที่ของเราที่จะยกโทษให้กับพวกนี้และมอบความดีให้กับพวกเขา “ – Demiurge ตอบกลับ
เทพอันเดตฮึดฮัดออกมา – “ ไอ้ตัวขี้ประจบ  ส่วนนายก็ทำตามหน้าที่ได้แล้ว “
สังฆราชยิ้มออกมา –“ ความฉลาดของนายท่านนั้นช่างเป็นแรงกระตุ้น ฉันได้รับคำอวยพรให้ชักนำโบสถ์แห่งนี้และดูแลสาวกของเขา “
“ เพื่อน นายไปยุ่งกับ ‘สมบัติ’ ของเขา “
“ ฉันไม่รู้ว่าท่านพูดถึงอะไร อันเดตที่น่าเกลียดรึไง “
‘เอาจริงดิ ? เขาจะบอกว่านั่นไม่ใช่ฝีมือตัวเองงั้นสิ ? กล้าดีจริงๆ ’
“ ฉันไม่สนใจงานภายในของโบสถ์ จัดการมันซะ “
“ หยุดบอกฉันได้แล้วว่าต้องทำออะไร Nicholas ! Jeffry ผู้หญิงอยู่ไหน ? “
“ ผู้หญิงไหน นายท่าน ? “ – สังฆราชถามด้วยท่าทีใสซื่อ
“ ไม่รู้ชื่ออะไร ลูกสาวของราชาอันเดต เรามาที่นี่เพื่อหาตัวเธอ “
“ โอ้ ผู้หญิงคนนั้น  ใช่ เธอน่ะเป็นคนชั่วร้าย ฉันได้ส่งเธอไปยังห้องลงโทษเพื่อให้เธอรับรู้ถึงบาปของตัวเองแล้วรับความดีจากโบสถ์ไป “
“ ใช่ ลับ “ – เดฟ กรอกตาใส่  เทพอันเดตกระแอมออกมาแล้วยิ้มแต่คนอื่นๆไม่ได้สนใจคำพูดของ เดฟ
“ แล้วห้องลงโทษอยู่ไหน ? “ – เทพอันเดตถาม
“ ในสุสานด้านล่างโบสถ์ใหญ่ “ – สังฆราชตอบกลับ
สังฆราชได้พยักหน้าและทั้งสามคนก็ได้เดินตามสังฆราชไป พวกเขาได้เดินไปตามทางเดินหินที่มีคบไฟอยู่ที่กำแพง
เดฟ เดินชิดอยู่กับเทพอันเดตตลอดทาง
“ งั้น Nicholas วันนี้อากาศดีนะว่ามั้ย  Nicholas  ฉันน่ะอยากให้เรื่องนี้จบเร็วจัง Nicholas “
เทพอันเดตหน้าเบี้ยวมองมาที่เขา
“ นายจะสื่ออะไร เด็กน้อย “
“ โอ้ มีหลายเรื่องเลย  Nicholas  อย่างแรกคือเราตกลงกันแล้วว่านายควรหยุดเรียกฉันว่าเด็กน้อยนะ Nicholas “
Nicholas ยิ้มออกมา – “ ฉันรับปากว่าจะหยุดแต่ไม่ได้บอกว่านานเท่าไหร่ “
เดฟ มองไปที่เทพอันเดต – “ เอาแบบนี้สินะ ? Nicholas ? “
“ ฉันไม่รู้ว่าทำไมนายถึงพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก  Nicholas น่ะเป็นชื่อที่ดี  นายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก “
เดฟ พยักหน้า – “ โอ้ แน่นอน ชื่อมันดีกว่า  Elliot  ยกตัวอย่างเช่นนิคเป็นชื่อจริง นิคเป็นคนที่ว่ากินเบียร์ด้วยตอนไหนก็ได้แต่นิคน่ะแข็งแกร่งมั้ย ? นิคเป็นเทพอันเดตรึเปล่า ? นิคเป็นเจ้าแห่งความตายรึเปล่า ? ก็ฟังดูไม่เข้ากันเท่าไหร่ “  – เดฟ ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ไม่ว่าจะเป็นคนรึเทพก็ต้องโดนเอาคืนบ้าง
นิค มองมาที่ดาร์ก – “ นายรู้มั้ยว่าฉันเลือกคนสืบทอดคนอื่นได้ คนที่พูดน้อยและให้ความเคารพฉันกว่านี้  จากนั้นฉันก็ไม่ต้องฟังคำพูดไร้สาระของนายอีก”
“ อ่ะ นายมีดีแค่นี้สินะ ? นิคกี้น้อย ? ฉันค่อนข้างชอบกับการเป็นคนสืบทอดของอันเดตนะ นิค มันหมายความว่านายจะได้ใช้เวลาที่มีค่าไปกับเพื่อนไงล่ะ นิค “
เดฟ ได้ยินเสียงกัดฟันดังขึ้นมาข้างๆเขา
“ อี่ฮี่ มันยากที่จะยอมรับคำพูดสุดท้ายได้ถ้านายพิสูจน์มันไม่ได้ ใช่มั้ยล่ะ นิค ? “
ทางเดินนี้ทอดไปถึงบันไดที่ดำดิ่งลงไปยังทางเดิน
หลังจากที่เลี้ยวมาหลายรอบ พวกเขาก็ได้มาหยุดที่หน้าประตูเหล็กบานหนึ่ง  เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมานอกประตูจากห้องนั้น
“ นี่แหละ “
สังฆราชปลดล็อคห่วงที่คล้องประตูเอาไว้  จากนั้นกลิ่นสาบเลือดก็ลอยออกมา
“ พระเจ้า โอ้ตัวฉันเอง ที่นี่มันดูรกจริงๆ “ – Demiurge ยกมือปิดจมูกไว้พร้อมกับอีกมือที่ล้วงหาของในกระเป๋า
มีผู้ชายสองคนที่ใส่ผ้าคลุมหน้าโดยมีเลือดเปื้อนชุดเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาจากใจกลางห้องที่พวกเขายืนอยู่ ที่นั่นมีโต๊ะซึ่งมีผู้หญิงถูกมัดเอาไว้   มีห้องขังเรียงรายตามกำแพงโดยมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายนอนกอดกันอยู่ที่พื้น
คนทรมานนั้นถือกางเขนสีทองเอาไว้และในมืออีกด้านนั้นมีแส้เปื้อนเลือด
ผู้หญิงนอนอยู่บนโต๊ะพร้อมเลือดที่ไหลรินออกมาแต่ เดฟ ก็ยังจำเธอได้  มันคือ Eleanor พวกเขาพบเธอแล้ว !
“ เหี้ยเอ้ย ! “ – เดฟ คำรามออกมา  เขาใส่ดาบแล้วกระทืบพื้นเพื่อพุ่งไปยังคนลงโทษทั้งสอง
“ ไม่ใช่ตอนนี้ เด็กน้อย เอาเธอออกจากที่นี่ไปซะ “ – เทพอันเดตจับไหล่ เดฟ เอาไว้
Demiurge เงียบอยู่สักพักแล้วพูดขึ้นมา – “ ฉันควรดูแลพวกนี้ให้ดีกว่านี้ “
“ พวกเขาสอนเราเกี่ยวกับทุกอย่างที่โรงเรียนเทพ  ความผิดนายเอง นายไม่คิดจะเรียนรู้แบบจริงจังเลย  นายน่ะยุ่งแต่กับเที่ยวและทำตัวสนุก “
“ ใช่ ฉันพอสำหรับเรื่องนี้แล้ว “ – น้ำเสียงของ Demiurge ดูน่ากลัวขึ้นมา  เขาปรบมือจนเกิดเสียงระเบิดของฟ้าผ่าดังขึ้นมาในห้อง
คราบและกลิ่นเลือดหายไปในทันที  คนที่โดนขังไว้หายตัวไป  มันมีแค่ Eleanor ที่อยู่ที่นั่น  แผลของเธอได้ถูกรักษาแต่เธอยังอยู่บนโต๊ะ
เดฟ เดินเข้าไปจนเห็นหน้าเธอ
“ Eleanor เธอปลอดภัยแล้ว “ – เดฟ พูดขึ้นอย่างนุ่มนวล
Eleanor ตกใจทันทีเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นดาร์ก
“ ฉันจำได้นาย นายคือคนที่ช่วยฉันมาจากโลกใต้ดิน “ – หน้าของเธอดูเศร้าขึ้นมา – “ พ่อฉันไม่อยู่แล้วใช่มั้ย ? “
น้ำตาเริ่มไหลออกมาจนอาบใบหน้าของเธอ
“ Eleanor เราเอาพ่อเธอกลับมาได้แต่เราต้องให้เธอช่วย “ – เดฟ พูดขึ้นอย่างมั่นใจ
“ ฉันไม่ใช่อันเดต ฉันต้องทำยังไง ?”
เทพอันเดตเดินเข้ามาเพื่อให้ Eleanor ได้เห็น – “ ไม่ต้องกังวล ไม่จำเป็นที่เธอจะเป็นอันเดต  เธอน่ะมีเลือดของพ่อในตัวและนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ “
เทพอันเดตได้เรียกเอาเศษหัวใจแห่งความตายออกมา  -“  จับมันไว้ “
เขาจับมือเธอหงายมือขึ้นแล้วใช้เข็มแทงนิ้วของเธอก่อนจะหยดเลือดของเธอลงในคริสตัล
“ แค่นี้ ? “ – Eleanor ถาม
เทพอันเดตมองไปที่เธอสักพัก – “ ไม่ให้เสียเปล่าไงล่ะ “