ลูกค้าคนพิเศษ
ในขณะที่ซูจิ้งยังจัดการขยะของเขาพร้อมถึงนึกหาวิธีในการตรวจสอบยาและผลไม้สีแดงที่เจอนั้น อยู่ๆโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น เป็นฉือชิงที่โทรมาเขารีบรับโทรศัพท์ทันที น้ำเสียงที่ค่อนข้างเป็นกังวลของเธอส่งผ่านสายโทรศัพท์ออกมา “อาจิ้ง นายอยู่บ้านรึเปล่า”
“อยู่ครับ” อาจิ้งตอบกลับไป
“มีลูกค้าคนนึงต้องการซื้อชันในกระชับหุ่นรุ่นประหยัดน่ะ ด้วยการที่เธอรูปร่างอ้วนทำให้ผลของชั้นในไม่ดีเท่าไหร่ เขาบอกว่าจะไม่ยอมออกจากร้านถ้าเขาไม่ได้รุ่นแรกกลับบ้านไป” ฉือชิงพูดออกมา
“โอ้….” ที่ซูจิ้งทำเสียงอย่างนั้นเพราะเหมือนเขาอยากจะถามอะไรบางอย่างจากฉือชิงแต่ก็ไม่รู้จะถามยังไงดี
“โอ้…. อะไรมิทราบ ถ้านายอยากถามก็ถามมาสิ” ฉือชิงถามออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“คนๆนั้นต้องการรุ่นแรกในราคาห้าแสนหยวนงั้นหรอ” ซูจิ้งลองเรียบเรียงคำพูดในหัวก่อนจะถามออกไป
“ไม่ใช่นะ เธอไม่ได้ไร้เหตุผลขนาดนั้น เธอบอกว่าพร้อมที่จะจ่ายห้าล้านหยวนทันที เรื่องเงินไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเธอ ฉันเองก็ถามเธอไปอย่างนั้นทำให้เธอโวยวายออกมานี่หล่ะ” ฉือชิงพูดตอบมาอย่างจนปัญญา
หลังจากคำนวนเหตุการณ์สักพักซูจิ้งรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างจึงตอบกลับไปว่า “เอางี้ปล่อยให้เธอรอไปก่อนนะฉันจะรีบไปที่นั่น”
“ไม่มีดีเลยนะที่ต้องให้เทพลงมาคอยมาจัดการปัญหาให้ฉันน่ะ ให้ฉันจัดการเองดีกว่า” ฉือชิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม เธอเองก็ได้เห็นว่าชาวเน็ตต่างเรียนเขาว่าอย่างนั้น ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะหยอกเขา
“นั่นสิน้า กว่าจะไปถึงก็ดูยุ่งยากวุ่นวายจริงนั่นหล่ะ แต่ถ้าได้ไปเห็นพนักงานสาวแสนสวยก็อีกเรื่องนะ ยังไงซะฉันก็ยังไม่ได้ไปตั้งแต่เปิดร้านเลยนี่ เพราะฉะนั้นฉันไปเองดีกว่า” ซูจิ้งพูดตอบไปด้วยรอยยิ้ม
“พูดได้ดี” ฉือชิงเริ่มอารมณ์ดี
ซูจิ้งวางแผนว่าจะไปแบบเป็นการส่วนตัวทีหลัง แต่พอฟังเรื่องเกี่ยวกับลูกค้ารายนี้ทันใดนั้นก็นึกโอกาสบางอย่างได้ เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และขับรถตรงไปที่ตึกหลงเต็ง และขึ้นไปชั้นสองทันที
“เป็นอย่างไรบ้างคะคุณผู้ชาย พอจะมีเสื้อผ้าที่ผูกใจบ้างรึเปล่าคะ” พนักงานเข้าทักทายซูจิ้งตามปรกติเพราะคิดว่าเป็นลูกค้า แต่พอเธอเห็นรูปร่างหน้าตาของซูจิ้ง สายตาของเธอได้มองซูจิ้งอย่างเป็นประกาย นั่นก็เพราะว่ายิ่งเขาฝึกฝนตัวเองมากเท่าไหร่เขานั้นยิ่งดูหล่อและสุขุมมากขึ้น ถ้าเธออยู่ที่นี่คนเดียวล่ะก็จะรีบวิ่งเข้าใส่ทันที นี่คือสิ่งที่พนักงานคนนี้กำลังคิดอยู่แต่ความคิดนั้นได้ไหลทะลักออกมาจนซูจิ้งรับรู้เรียบร้อยแล้ว เธอได้แต่คิดว่าผู้หญิงที่ซูจิ้งซื้อของให้จะเป็นคนแบบไหนนะถึงทำให้ผู้ชายหล่อลากดินคนนี้กล้าเข้ามาซื้อของที่ร้านนี่ให้ ที่เธอคิดอย่างนั้นเพราะร้านนี้ขายแต่เสื้อผ้าผู้หญิงเท่านั้นเพราะฉะนั้นคนที่เขาจะซื้อให้ต้องเป็นแฟนไม่ก็ภรรยาแน่นอน
“ฮ่าฮ่า เซี่ยวหลี ไม่ต้องถามเขาหรอกน่า” ผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอคือตงเจี๋ยที่เคยเจอกับซูจิ้งมาก่อนหน้านี้
“ทำไมหล่ะ” พนักงานคนนั้นถามกลับด้วยความสงสัย
“คนนี้คือคู่หมั้นของเจ้านายเราไง” ตงเจี๋ยพูดตอบด้วยรอยยิ้ม
“โอ้” พนักงานคนนั้นตกใจพร้อมกับเขินนิดหน่อย เธอรู้แต่ว่าคู่หมั้นของฉือชิงเป็นดาราที่รวยแค่นั้นเอง เธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน
“งั้นฉันจะไปเรียกเจ้าของร้านให้นะคะ” พนักงานคนนั้นตอบแบบเขินๆ
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเดินไปเอง” ซูจิ้งเดินเข้าไปในร้าน ซักพักเขาก็เจอฉือชิงกำลังรับรองผู้หญิงอ้วนคนหนึ่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อน ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาว่า “คุณฉือ ไม่ใช่ว่าสินค้าของคุณไม่ดีหรอกนะ ฉันลองใช้มันแล้วมันดีกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าตัวอื่นในท้องตลาดจริงๆ แต่คุณก็เห็นแล้วว่าหลังจากฉันใช้ไปได้ซักพักนึง มันกระชับสัดส่วนได้เพียงนิดเดียวและน้ำหนักตัวฉันก็ไม่ได้ลงเท่าไหร่เลย ฉันไม่โทษคุณเลยจริงๆนะคะ สินค้าที่ซื้อไปแล้วฉันก็จะไม่คืนให้คุณแน่นอน แต่ยังไงฉันก็ต้องการซื้อชั้นในกระชับสัดส่วนรุ่นแรกจริงๆ ”
“ใช่แล้วค่ะคุณฉือ แค่ชิ้นเดียวเท่านั้นเอง เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา” ผู้หญิงอีกคนที่หุ่นดีกว่า กล่าวสำทับออกมา
“ไม่ใช่ว่าทางเราไม่อยากขายนะคะ แต่ตอนนี้คนที่พอจะมีสินค้ารุ่นแรกมีเพียงคู่หมั้นของฉันเท่านั้นเอง ที่ร้านตอนนี้เราไม่มีจริงๆค่ะ” ฉือชิงพูดออกมา
“ฉือฉิง คนนี้คือคุณนายหวังที่ว่าใช่ไหม”
ซูจิ้งรีบเดินเข้ามาทันที
“อาจิ้ง” ทันทีฉือชิงเห็นเขา ตาของเธอส่องประกายแห่งความหวังออกมา เธอเดินไปพาซูจิ้งเขามาพร้อมพูดว่า “คนๆนี้คือคุณนายหวังและอีกคนคือคุณนายเจ้า คุณนายเจ้า คุณนายหวัง นี่คือคู่หมั้นของฉันซูจิ้งค่ะ เรื่องชุดนี่คุณต้องคุยกับเขาแทนแล้ว”
“สวัสดีคุณซู” คุณนายหวังและคุณนายเจ้า ค่อนข้างรู้สึกประทับใจเพราะพวกเธอรู้ว่าซูจิ้งเป็นคนออกแบบชั้นในกระชับสัดส่วนนี้ขึ้นมา
“สวัสดีครับคุณนายหวังและคุณนายเจ้า” ซูจิ้งจับมือไปยังทั้งสองคนแล้วก็ได้หันไปพูดฉือชิงว่า “ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”
“ดีล่ะ งั้นมีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” ฉือชิงพยักหน้าแล้วเดินไปทำอย่างอื่นในร้าน
“คุณนายหวังครับ ผมได้ยินเรื่องของคุณมาแล้วนะ แต่ตอนนี้ทางเราไม่เหลือชั้นในกระชับสัดส่วนรุ่นแรกแล้วจริงๆ” ซูจิ้งพูดออกไปและได้สำรวจเรือนร่างของคุณนายหวังทั่วทั้งร่าง เขาได้แอบถอนหายใจออกมาไม่แปลกใจเลยซักนิดว่าทำไมชั้นในรุ่นประหยัดถึงไม่ได้ผล คุณนายหวังนี่บอกได้เลยว่าอ้วนอย่างแท้จริง ต่อให้ใช้รุ่นหนึ่งก็บอกได้เลยว่าไม่มีทางได้ผลแม้แต่น้อย เธอนั้นสูง 165 ซม. แต่หนักไปกว่า 300 ชั่งแน่ๆ ถ้านั่งลงนี่คือก้อนเนื้อก้อนนึงดีๆนี่เอง
การทำงานของชั้นในกระชับสัดส่วนนั้น ความจริงเป็นเพียงการย้ายที่ไขมันให้ไปอยู่ในส่วนที่เป็นสัดส่วนของผู้หญิงอย่างหน้าอกหรือก้นแค่นั้นเอง ในส่วนไขมันที่เกินก็จะถูกขับออกจากร่างกายไปเองตามกลไลธรรมชาติถ้าหากให้พูดอีกอย่างคือน้ำหนักที่ลดนั้นเป็นผลผลอยได้เฉยๆ แต่ในกรณีนี้ไขมันมากเกินจนชุดไม่สามารถหาที่ที่ให้มันอยู่อย่างเหมาะสมได้มันเลยไม่ได้ผล(หุ่นเดียวกันทั้งตัว) ต่อให้ซูจิ้งเป็นเหมือนคุณนายหวังเขาเองก็จนปัญญาจากการใช้ชุดเหมือนกัน
“คุณซูคะ คุณเป็นคนออกแบบชุดให้ซือหยาไม่ใช่หรอ ทำเพิ่มอีกหน่อยไม่ได้หรอ ไม่เสียเวลามากนักหรอก” คุณนายเจ้าพูดออกมา
“เอาจริงๆก็คือมันมีปัญหาอยู่ตรงทีว่าวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ทำนั้นเป็นของหายากครับ ไม่ใช่เพราะผมไม่อยากทำมันหรอก แต่ผมไม่มีของไว้ทำแล้วนี่สิ” ซูจิ้งพูดออกไปอย่างอึกอัก แต่ให้มีเหลือจริงเขาก็ไม่มันใจในผลลัพธ์กับคุณนายหวังอยู่ดี และตอนนี้เขาไม่มีแผนในการขายมันแน่นอน เขาเตรียมตัวเสนอสินค้าอื่นแทนของที่ทำง่ายและใช้ได้อย่างแพร่หลายมากกว่าชั้นในนี้
“คุณซูคะ ไม่มีทางอื่นจริงๆเลยหรอ” คุณนายหวังพูดออกมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ถ้าให้พูดความจริงละก็ไม่เชิงหรอกครับ” ซูจิ้งพูดออกมานั่นทำให้คุณนายหวังและคุณนายเจ้ามองซูจิ้งด้วยตาเป็นประกาย ซูจิ้งได้พูดต่อไปว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณนายหวังเคยลองลดน้ำหนักจริงๆบ้างรึยังครับ ไม่ใช่การออกกำลังกายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อนะ แต่เป็นการลดน้ำหนักจริงๆ”
“ทำไมฉันจะไม่เคยลองหล่ะ ฉันลองมาหมดทุกอย่างแล้ว แต่มันจะทำได้ง่ายๆได้ยังไง ส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีปนๆกัน ไม่ใช้ยา ก็ออกกำลังกายมากๆ รวมถึงการลดอาหารด้วย แต่ถ้าคุณกินยามากเกินไปมันก็จะเกิดอาการข้างเคียง ร่างกายของฉันก็ทำให้ออกกำลังกายไม่สะดวกทำให้วันๆนึงออกกำลังกายไม่ได้ซักเท่าไหร่ ส่วนการลดอาหารพูดง่ายกว่าทำอยู่แล้ว ถ้าฉันกินน้อยไปมันก็จะหิว คนส่วนใหญ่ล้วนยอมแพ้กับวิธีการนี้ แต่ถ้าไม่งดอาหารก็ไม่มีทางลดน้ำหนักได้เลย” คุณนายหวังพูดอย่างจิตตกอย่างมาก
ซูจิ้งพยักหน้าเชิงยอมรับที่คุณนายหวังพูด เขารู้ว่ามีแต่คนอ้วนเท่านั้นที่เข้าใจความเจ็บปวดของคนอ้วนด้วยกัน แต่เข้าเองก็ยังเชื่อว่าการลดอาหารคือที่สุดในการลดน้ำหนัก ถ้าคุณกินเพียงครึ่งเดียวของมื้อปรกติ คุณก็จะหิวและไม่สบายตัว ถ้าคุณทนได้ซักอาทิตย์ก็อยากจะหยุดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงครึ่งเดือน เดือนนึงหรือนานกว่านั้น
ยิ่งให้ออกกำลังกายร่วมด้วยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่คือใครทำได้สมบูรณ์แบบจากร่างกายที่อ้วนได้อย่างแน่นอน
ทันใดนั้นซูจิ้งได้พูดสวนออกมาว่า “คุณนายหวังครับ ผมมีแผนการลดน้ำหนักสุดพิเศษมาเสนอให้คุณ คุณอยากจะลองซักหน่อยไหม”