บทที่ 1590 เทือกเขาไผ่เมฆา

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1590 เทือกเขาไผ่เมฆา

 

“มานี่!” ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศขณะเปิดทางเข้ามิติช่องว่างของเขา

 

วิญญาณสัมผัสใจปาจํานวนนับไม่ถ้วนถูกดึงเข้าไปโดยไม่สามารถต่อต้าน

 

กระบวนการนี้กินเวลาหลายนาทีเนื่องจากมีวิญญาณสัมผัสใจปาอยู่เป็นจํานวนมาก

 

ฟางหยวนประเมิน วิญญาณสัมผัสใจระดับห้ามากกว่าสามพันดวงระดับสีประมาณห้าหมื่นดวงและระดับต่ํากว่านั้นอีกมากกว่าหนึ่งล้านดวง

 

วิญญาณสัมผัสใจเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาที่สามารถขโมยสมาธิของคู่ต่อสู้ มันจะทําให้พวกเขามีนงงและสูญเสียความสามารถในการคิด หากใช้มันร่วมกับวิญญาณดวงอื่น มันอาจกลายเป็นท่าไม้ตายที่มีประโยชน์ในการต่อสู้ วิธีพื้นฐานที่สุดคือใช้มันสนับสนุนวิธีบนเส้นทางแห่งทาสเพื่อเพิ่มความสามารถในกดขี่ แน่นอนว่าผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาก็ใช้มันเช่นกันแต่ผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาหายากเกินไป

 

ผู้ใช้วิญญาณมักประสบปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูวิญญาณ โดยทั่วไปพวกเขาจะเลี้ยงดูวิญญาณไม่เกินสิบดวงและเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะใช้วิญญาณหลายดวงพร้อมกันเพื่อสร้างท่าไม้ตาย สําหรับผู้อมตะ พวกเขาสามารถเลี้ยงและใช้วิญญาณระดับมนุษย์ได้นับแสนดวงในครั้งเดียว มีเพียงวิญญาณอมตะเท่านั้นที่ยากจะครอบครอง

 

สถานการณ์ของฟางหยวนเป็นข้อยกเว้นที่หาได้ยาก

 

“ทะเลสาบสัมผัสใจเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลาง ข้าโจมตีและทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะขณะที่ผู้อมตะที่ปกป้องมันหลบหนีโดยไม่ทําลายวิญญาณสัมผัสใจเหล่านี้ นี่คือเหตุผลที่ข้าได้รับความมั่งคั่งนี้

 

หากผู้อมตะที่ปกป้องแหล่งทรัพยากรนี้ทําลายวิญญาณสัมผัสใจก่อนออกเดินทาง ผลประโยชน์ของฟางหยวนจะลดลงอย่างมาก

 

เหตุผลเป็นเพราะพวกเขาต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในการต่อต้านฟางหยวน พวกเขาไม่สามารถให้ความสนใจกับสิ่งอื่น เมื่อพวกเขาจากไป พวกเขาก็ไม่มีวิธีจัดการและไม่กล้าทําลายสถานที่แห่งนี้

 

หลังจากเก็บเกี่ยววิญญาณสัมผัสใจ ฟางหยวนบินลงไปที่ทะเลสาบ

 

วิญญาณอมตะดึงแม่น้ํา

 

เขานําทะเลสาบสัมผัสใจเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิโดยตรง

 

ทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งปฐพี เส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งไม้ และเส้นทางอื่นๆ อย่างไรก็ตามเส้นทางแห่งปัญญามีมากที่สุด

 

ฟางหยวนนําทะเลสาบสัมผัสใจออกไปแต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งบัญญาส่วนใหญ่ยังถูกทิ้งไว้บนภูเขา

 

“น่าเสียดายที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งปัญญาส่วนใหญ่อยู่บนพื้นดิน” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

แต่ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทําได้

 

แม้เขาจะมีวิญญาณอมตะยกภูเขา แต่มันมุ่งเน้นไปที่ภูเขาไม่ใช่พื้นดิน

 

“ข้าจะนําหินเหล่านี้ไป” ริมทะเลสาบสัมผัสใจเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญา หินเหล่านี้เป็นทรัพยากรชั้นยอด ฟางหยวนต้องนําพวกมันไป

 

เขาขโมยทุกสิ่งที่สามารถขโมยได้

 

หลังจากชั่วครู่เขาก็ใช้วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้และทิ้งเพียงแหล่งทรัพยากรที่ว่างเปล่าเอาไว้

 

ฟางหยวนกําลังถูกไล่ล่า เขาไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้เป็นเวลานาน มิฉะนั้นศัตรูจะสามารถปิดล้อมและวางแผนโจมตีเขา

 

ก่อนหน้านี้ที่รอยแยกปล้นเงา เขาถูกปิดกั้นโดยค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่เขาเลือกล่าถอยอย่างชาญฉลาดมันไม่ใช่เพราะเขาตระหนักถึงแผนการของชื่อชิวหยู

 

ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะข้ามผ่านระยะทางมหาศาลเพื่อไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

 

มันเป็นเทือกเขาสูงตระหง่านที่เต็มไปด้วยป่าไผ่ ต้นไผ่แต่ละต้นมีขนาดใหญ่โตผิดปกติ ใบไผ่เป๊นรูปสามเหลี่ยม ฐานยาวปลายแหลม มนุษย์มักใช้ใบไผ่เหล่านี้สร้างหอกอันแหลมคม นี่เป็นสาเหตุที่มันถูกเรียกว่าไผ่หอก

 

ป่าไผ่หอกครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของเทือกเขา สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตบนเส้นทางแห่งเมฆาเช่นจิ้งจอกเมฆาที่มีร่างกายสีขาวราวหิมะและสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ตอนนี้ฟางหยวนเห็นฝูงจิ้งจอกเมฆากําลังบินเล่นอย่างมีความสุขอยู่ในป่าไผ่ มันเป็นฉากที่สงบสุข

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น นี่คือเทือกเขาไผ่เมฆา แหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ในการปกครองของตระกูลจือ”

 

กองกําลังใหญ่ของทั้งห้าภูมิภาคมีแหล่งทรัพยากรในการปกครองของตนเอง แหล่งทรัพยากรถูกแบ่งออกเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดจิ๋ว ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดยักษ์

 

ทะเลปลามังกรในมิติช่องว่างของฟางหยวนถือเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ มันสามารถผลิตปลามังกรทองแดง ปลามังกรเหล็กไหล ปลามังกรเงิน และปลามังกรทอง ตอนนี้มันกลายเป็นแหล่งรายได้ที่สําคัญที่สุดของเขาไปแล้ว

 

“โอ้ ไม่ ปีศาจฟางหยวนอยู่ที่นี่!”

 

“รอยแยกปล้นเงาถูกโจมตี ตามมาด้วยทะเลสาบสัมผัสใจ ตอนนี้เขายังมาที่เทือกเขาไผ่ เมฆาเห้อ…”

 

ผู้อมตะระดับหกทั้งสองคนของตระกูลจือที่ปกป้องสถานที่แห่งนี้รู้สึกสับสนเมื่อเห็นฟางหยวน

 

ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะมาที่นี่โดยไม่ปกปิดตัวตน นี่ทําให้สองผู้อมตะตระกูลอสังเกตเห็นทันที

 

ผู้อมตะทั้งสองอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาโดยมีป่าไผ่หอกอยู่รอบๆ

 

ภายในป่าไผ่หอกขนาดใหญ่แห่งนี้มีวิญญาณอมตะปาดวงหนึ่งกําลังถือกําเนิดขึ้น

 

สองผู้อมตะตระกูลจือกําลังเฝ้ามองมัน นี่เป็นสิ่งสําคัญที่สุดของเทือกเขาไผ่เมฆา

 

“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม!”

 

ฟางหยวนสะบัดมือส่งควันสีดําออกไป สองผู้อมตะตระกูลจื้อถอนหายใจและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อต่อต้านการโจมตีของฟางหยวน

 

ตระกูลจือมีความเชี่ยวชาญด้านค่ายกลวิญญาณมากที่สุด ขณะที่ชื่อชิวหยูเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่สามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าตามธรรมชาติเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ดังนั้นแหล่งทรัพยากรทั้งหมอของตระกูลจือจึงมีค่ายกลวิญญาณอมตะปกป้องอยู่ สิ่งที่คล้ายคลึงกันของค่ายกลวิญญาณอมตะเหล่านี้คือพวกมันต่างพึ่งพาร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของสถานที่นั้นๆ

 

แสงสีเขียวส่องประกายขึ้นบนเทือกเขาไผ่เมฆาและต่อต้านการโจมตีของฟางหยวน ไผ่หอกจํานวนนับไม่ถ้วยเริ่มสั่นไหวขณะที่ใบไผ่ที่แหลมคมเหมือนปลายหอกพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนราวกับพายุหอก

 

“ค่ายกลวิญญาณอมตะของที่นี้ไม่เพียงใหญ่โตกว่าค่ายกลวิญญาณอมตะของทะเลสาบสัมผัสใจแต่มันยังสามารถตอบโต้ได้อีกด้วย ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางขณะกระตุ้นใช้เกราะหวนคืน

 

ใบไผ่ปะทะร่างของเขาและถูกส่งกลับไปโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างไม่มีต้องสงสัย

 

“นี่คือเกราะหวนคืน เร็ว หยุดการโจมตี!” สองผู้อมตะระดับหกตื่นตระหนกก่อนจะให้กําลังใจ กันและกัน“ค่ายกลวิญญาณอมตะก่อตัวขึ้นแล้ว อีกไม่กี่นาที่มันจะสมบูรณ์แบบ เราต้องอดทนรอกําลังเสริม”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะหยุดโจมตีและหันไปมุ่งเน้นกับการป้องกัน

 

ฟางหยวนไม่สามารถสะท้อนการโจมตีกลับไปได้อีก แต่เขายังเผยรอยยิ้มเฉยเมยขณะปลดเกราะหวนคืนออก

 

เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกรอีกครั้ง

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกโจมตีสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง สองผู้อมตะระดับหกพ่นเลือดออกมาจากปากและพยายามปกป้องตนเองอย่างสิ้นหวัง

 

หลังจากไม่นานดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้นเมื่อเขาพบจุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณ

 

ต้องไม่ลืมว่าฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล!

 

เขาสังเกตเห็นจุดอ่อนนี้และเริ่มโจมตีมัน

 

หลังจากนั้นค่ายกลวิญญาณอมตะของเทือกเขาไผ่เมฆาก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ส่วนหนึ่งของมันพังทลายลงทันที

 

“โอ้ ไม่ เขาทําลายส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณอมตะไปแล้ว!”

 

“อดทนไว้! กําลังเสริมกําลังมา!”

 

สองผู้อมตะระดับหกตกใจและหวาดกลัวมาก

 

ฟางหยวนโจมตีอีกครั้งและระเบิดเทือกเขาไผ่เมฆาส่วนที่ไร้การป้องกัน

 

บุตรแห่งภูต! ระเบิดวิญญาณ!

 

เขาพบว่าท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณเหมาะสมที่สุดในการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้มัน

 

ก้าวแรกมักเป็นเรื่องยาก แต่ก้าวต่อไปความยากลําบากจะลดน้อยลง ฟางหยวนสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณอมตะ นั่นทําให้ความเร็วในการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของเขารวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ

 

“สายไปแล้ว ถอย!”

 

“แล้วเราจะทําอย่างไรกับวิญญาณอมตะ? อีกไม่นานมันจะถือกําเนิดขึ้นแล้ว!”

 

“ไป เราจะตายหากอยู่ต่อ!”

 

ผู้อมตะอีกคนปาดเหงื่อบนใบหน้าแต่ยังลังเล “ถูกต้อง เราต้องไป! แต่วิญญาณอมตะ” 

 

ผู้อมตะคนเดิมกัดฟันกล่าว “ทําลายมันซะ!”