หลิน ชูจิ่ว ต้องการหลีกเลี่ยงเสี่ยวเทียนเหยา แต่ …

       เสี่ยวเทียนเหยา ต้องการมองไปที่นางจนกว่านางจะตาย ไม่อย่างนั้นนางจะไม่สามารถหนีไปจากเขาได้

       หลิน ชูจิ่ว อยู่กับแม่นางโม่ตลอดทั้งคืน เสี่ยวเทียนเหยาเองก็อยู่กับเธอทั้งคืน เขาไม่ได้ออกไปจากห้องเช่นเดียวกับหลิน ชูจิ่ว

       ในใจหลิน ชูจิ่ว รู้สึกโกรธ แต่เธอไม่สามารถบ่นได้ ทำไมนะหรือ? เพราะเสี่ยวเทียนเหยา ไม่ได้พูดและเพียงแค่นั่งอยู่อย่างเงียบ ๆ เขาทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะบ่นให้เขา

       หลิน ชูจิ่ว อยากจะอดทนต่อการมีเพื่อนอย่างเสี่ยวเทียนเหยาอยู่ แต่… …

       หลังจากทั้งคืนที่ไม่ได้หลับนอน เธอก็ไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป นอกจากนี้ช่วงบ่ายที่ผ่านมาเธอก็ยังยุ่งตลอดเวลา และเธอต้องมาดูแลผู้ป่วยตลอดทั้งคืน เธอง่วงมากจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงเธอต้องติดตามสภาพของผู้ป่วย ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะทำเช่นนี้ต่อไป

       ในตอนเช้าโม่ ชิงเฟิง มาเปลียนกับหลิน ชูจิ่ว ในการดูแลพี่สาวคนโตของเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้เห็นเสี่ยวเทียนเหยา อยู่ภายในห้อง เขาก็ช่วยไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางแปลกใจ เมื่อตอนที่เขาออกมาจากห้องเมื่อคืนนี้ เสี่ยวเทียนเหยาก็มาอยู่ข้างนอกห้องแล้ว เขายังช่วยเปิดประตูให้เขาด้วยซ้ำ

       หลังจากที่โม่ ชิงเฟิงทักทายคนทั้งสองคนแล้ว เขาก็อ่านบันทึกย่อของหลิน ชูจิ่ว อย่างรีบร้อนและขอให้พวกเขาไปพักผ่อนก่อน

       เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก เสี่ยวหวางเย่เทพเจ้าแห่งสงครามและเสี่ยวหวางเฟยมาคอยดูแลพี่สาวคนโตของเขาอย่างดี แม้ว่าเขาจะขายทั้งตระกูลของเขา เขาก็ไม่สามารถทดแทนพระคุณนี้ได้

“ท่านชนะ” หลิน ชูจิ่วเข้าไปใกล้เสี่ยวเทียนเหยาแล้วพูดขึ้น

       เสี่ยวเทียนเหยาอยู่กับเธอตลอดทั้งคืน แต่ใบหน้าของเขายังดูสดใสมาก เขาไม่ได้ดูเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย “เจ้าไม่ได้พ่ายแพ้”

“มันไม่สำคัญหรอก ไปพักผ่อนกันเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว “หลิน ชูจิ่วหาวขึ้นทันที ในขณะที่เธอผลักเสี่ยวเทียนเหยา เข้าไปห้องโถง

       เธอต้องการกิน อาบน้ำและนอน

       หลังจากรับประทานอาหารเช้าโดยไม่คำนึงถึงการดำรงอยู่ของเสี่ยวเทียนเหยาเสร็จแล้ว หลิน ชูจิ่วก็ออกไปเดินเล่นเพื่อย่อยอาหารและเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ

       หลิน ชูจิ่วประสบความสำเร็จในคืนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถหลบหนีการนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขาได้อีก

       เมื่อมองเห็นสิ่งของสีแดงทั้งหมดภายในห้อง หลิน ชูจิ่ว ก็ช่วยไม่ได้ที่จะ รู้สึกหงุดหงิด หลิน ชูจิ่วไม่ได้รอให้เสี่ยวเทียนเหยาเข้ามาก่อน เธอรีบถอดเสื้อนอกออกและปีนขึ้นไปบนเตียง จากนั้นเธอก็ขดตัวเองอยู่ในมุมด้านในสุด ถ้าคนไม่ได้มองใกล้ ๆ จะไม่มีใครเห็นเธอ

       หลิน ชูจิ่ว เหนื่อยมาก อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้านอน เธอยังคงคิดว่าทำไมเสี่ยวเทียนเหยาถึงมาแบบผิดปกติเช่นนี้ แต่ผลก็คือ เธอหลับไปก่อนที่เธอหาคำตอบได้ ดังนั้นเมื่อเสี่ยวเทียนเหยา เข้ามา หลิน ชูจิ่วก็กำลังนอนหลับอยู่เหมือนหมูที่ตายไปแล้ว

“แล้วเป็นอย่างไร เปิ่นหวางคิดว่าเจ้าจะนอนไม่หลับ” ภายในห้องนอนเสี่ยวเทียนเหยา ไม่ได้ทำตัวเหมือนคนง่อย เขาเดินตรงไปที่เตียงและนั่งลงทางด้านข้าง

       แต่… …

หลังจากวัดระยะห่างระหว่างแขนที่เหยียดออกไปและหลิน ชูจิ่ว เสี่ยวเทียนเหยา ก็รู้สึกว่าเตียงใหญ่เกินไป เขานั่งอยู่บนเตียง แต่เขายังไม่สามารถเข้าถึงตัวนางได้!

       แขนของเขาสั้นลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

       เตียงนอนในห้องนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

       แต่แน่นอนว่าเตียงของเขาในตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน การมีเตียงขนาดใหญ่ไม่สะดวกเกินไป

       แล้วก็เป็นเช่นนั้น… …

       เสี่ยวเทียนเหยา คนที่ไม่ได้วางแผนที่จะนอนหลับและผู้ที่ล้มเหลวในการสัมผัสชายาที่หลับอยู่ ก็ตัดสินใจที่จะถอดรองเท้าของเขาออกและเดินขึ้นไปบนที่นอน จากนั้นเขาก็นอนลงไปตรงกลางเตียง

       เสี่ยวเทียนเหยาต้องการให้หลิน ชูจิ่วมาหลับอยู่บนแขนของเขา แต่หลังจากพิจารณาจากนิสัยการนอนหลับของนาง ความเป็นไปได้ที่มันอาจจะทำให้นางตื่นขึ้นมาและนางก็อาจเลือกที่จะนอนบนพื้นมากกว่านอนบนบทเตียงเดียวกันกับเขา เสี่ยวเทียนเหยาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการนอนหลับไป อย่างไรก็ตามความตั้งใจของเขาที่จะสัมผัสนางก็ไม่ได้ลดลง ดังนั้นเขาจึงเอามือของวางไปที่เอวของหลิน ชูจิ่ว … เบา ๆ

       พวกเขามีเวลาอีกมาก พวกเขาสามารถทำสิ่งนี้ไปได้อย่างช้าๆ

       ดังนั้น เสี่ยวเทียนเหยาจึงบอกกับตัวเองว่าไม่ต้องกังวล!