ตอนที่ 960 การแสดงอันยอดเยี่ยม

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

”ปัง!”จงคุยทุบมือลงโต๊ะอย่างแรง ทำให้ชุดกาน้ำชาโบราณมูลค่าสูงร่วงตกลงพื้นแตกกระจาย
  ”ไอ้พวกทหารรับใช้ของจงไคมันกล้าพูดอย่างนี้จริงๆเหรอ?!”จงคุยในตอนนี้กำลังโกรธจัด
  ”คะ-ครับ!”นายทหารที่ถูกถามเอ่ยตอบตัวสั่นเพราะท่าทางที่น่ากลัวของจงคุย “แต่ท่านพลเอกครับ ตอนนี้กลุ่มชาวบ้านกำลังสร้างปัญหา พวกเขาเรียกร้องการชดเชยจากเราครับ”
  ”หึ!ถุย! ไอ้พวกขอทาน!” จงคุยตวาดลั่น แต่แล้วจู่ๆเขาก็เปลี่ยนใจ “จ่ายให้พวกมันแล้สส่งพวกกลับออกไป”
  ยังไม่ทันที่จงคุยจะพูดจบประโยคดี——–
  ”ท่านครับ!แย่แล้วครับ!” ทันใดนั้นก็นายทหารอีกคนก็วิ่งเข้ามาในห้องหน้าตื่นเพื่อรายงานสถานการณ์เร่งด่วน “กลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ประท้วงอยู่หน้าศูนย์บัญชาการครับ พวกเขาบอกว่าเพราะทหารของกับทหารจากกองทัพส่วนตัวของพลเอกจงไคต่อสู้กันจนทำให้บ้านเรือนของพวกเขาพังครับ!”
  ”อะไรน่ะ?!”จงคุยตาเบิกกว้างทันทีเมื่อสะดุดกับคำคำหนึ่ง “กองทัพส่วนตัวของจงไค? นี้มันเรื่องอะไรกัน? แล้วทำไมไอ้พวกชาวบ้านขอทานนั้นต้องมาแต่จากฉัน?”
  ”พวกเขาบอกด้วยว่าพลเอกจงไคพูดว่า——“นายทหารที่กำลังรายงานยังไม่ทันจบดีจู่ๆก็โดนจงคุยตะคอกขัดขึ้นมาก่อน
  ”แกเรียกใครว่าพลเอก?!”เสียงตวาดอย่างรุนแรงที่เป็นผลมาจากความโกรธของจงคุยทำให้นายทหารที่กำลังรายงานต้องรีบกลืนคำพูดลงคอด้วยความกลัว “ฉันเป็นพลเอกคนเดียวในค่ายจินหยาง!”
  ”คะ-ครับท่าน! ใช่ครับ!” นายทหารรีบพยักหน้าตามรัวๆ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “ถ้างั้นให้ผมเรียกว่าอะไรดีครับ?”
  ”%^&@^%$!!”จงคุยสบถตามแรงอารมณ์ “ไอ้หมาลอบกัดจงไค มันกล้าดียังไง…” จงคุยที่กำลังด่าทอจงไคเพื่อระบายอารมณ์ ทันใดนั้น——
  ”ท่านพลเอกครับ!แย่แล้วครับ!”
  นายทหารคนที่สามเข้ามารายงานด้วยท่าทางกระวนกระวายหากยังไม่ทันที่นายทหารคนนี้จะได้ทันรายงานให้จงคุยฟัง จงคุยที่กำลังอารมณ์เดือดอยู่ก็พูดขัดขึ้นก่อน
  ”แก!พอ! อย่าบอกนะว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก?!” จงคุยที่กำลังหัวเสียพอจะเดาได้แล้วว่านายทหารคนนี้จะเข้ามารายงานเรื่องอะไร
  ขณะเดียวกันภายในบ้านพักของจงไคภาพเหตุการณ์เช่นเดียวกับภายในห้องของจงคุยก็เกิดขึ้นกับจงไคเช่นกัน มีนายทหารวิ่งเข้ามารายงานด้วยสีหน้าแตกตื่นตามด้วยเสียงตะคอกอารมณ์เสียของจงคุยดังออกมาเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ เหล่าทหารของจงคุยเองก็หวาดกลัวกับแรงอารมณ์ของจงคุยจนไม่กล้าไปไหน
  เพียงแค่วันแรกที่ชูฮันมาถึงค่ายจินหยางเขาก็สามารถสร้างความขัดแย้งระหว่างสองพลเอกจนเกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งค่ายได้แล้ว
  ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่ชูฮันวางไว้โดยที่จงคุยและจงไคไม่รับรู้และมีความคิดที่จะหามาตราการมารับมือเลย เพราะทั้งคู่มัวแต่คิดโทษแต่ละฝ่ายอยู่ แต่ละคนต่างค้านหัวฝายืนยันเสียงแข็งว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ต้องรับผิดแก่ชาวบ้านที่มาประท้วง ทว่าต้องเป็นอีกฝ่ายต่างหาก
  ดังนั้นตลอดระยะเวลาสองวันค่ายจินหยางจึงตกอยู่ในการจลาจลซึ่งเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ามีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทหารของชูฮันที่ปลอมตัวเป็นคนของพลเอกจงคุยและจงไคเล่นละครต่อสู้ทะเลาะกันต่อหน้าชาวบ้านเพื่อปลุกระดมคนเกิดความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ผู้ลี้ภัยที่เกิดความวุ่ยวายสูงสุดในประวัติศาสตร์
  ในระหว่างนั้นทั้งสองพลเอกอย่างจงคุยและจงไคก็ได้เรียกประชุมฉุกเฉินภายในฝั่งอำนาจของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง แต่กลยุทธ์ในการรับมือของทั้งสองฝ่ายต่างเป็นการช่วยเหลือแค่ชาวบ้านในเขตปกครองของตัวเองเท่านั้น เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนใหญ่ของแต่ละฝั่งก็เอาแต่ประจบเอาใจพลเอกในฝั่งตัวเองเพื่อผลประโยชน์
  มีแค่เจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่กี่คนเท่านั้นที่คาดเดาความรุนแรงที่จะเกิดตามมาจากเหตุการณ์ในครั้งนี้พวกเขาได้เอ่ยขอให้พลเอกของตัวเองไปพบกับอีกฝ่ายเพื่อเจรจาและวิเคราะห์หาความจริงเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่กำลังลุกลามไปทั่วจนอาจจะเกินการควบคุมได้ในภายหน้า ทว่าก็ไม่เป็นผลเพราะทั้งสองพลเอกต่างหยิ่งยโสและคิดแต่จะเอาชนะอีกฝ่ายจนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
  หน่วยข่าวกรองลับที่นำโดยเหมิงชีเหว่ยได้แฝงตัวลึกเข้าไปภายในของค่ายจินหยางลึกเข้าไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือต้องไม่ให้อำนาจทั้งสองฝ่ายภายในค่ายจินหยางมาเจรจากันได้ จะต้องหาเรื่องยุแยงให้ต่างฝ่ายต่างเกลียดชังกันมากขึ้น ทำให้รอยร้าวมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนความโกรธเปลี่ยนเป็นไฟที่สุมอก และเวลานีร้ความโกรธของทั้งสองฝ่ายได้มาถึงระดับสูงสุดแล้ว
  เวลานี้สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องการคือกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก!
  ในวันที่สี่ของการมาถึงของชูฮันทั้งค่ายจินหยางกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ราวกับกำลังจะจมน้ำ จนในที่สุดมันก็เกิดการจลาจลขนาดใหญ่ปะทุขึ้นไปทุกพื้นที่ของค่ายจินหยาง
  แผนผังโครงสร้างภายในค่ายจินหยางไม่ได้แตกต่างไปจากค่ายอื่นๆมากนักมีการแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ลี้ภัย พื้นที่สำหรับชาวบ้านผู้อยู่อาศัย และพื้นที่สำหรับชนชั้นสูงสำหรับคนมีเงินและฐานะเหมือนกับในซางจิง นี้เป็นแง่มุมที่จริงที่สุดในโลกาวินาศ เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น สิ่งเหล่านี้จะพัฒนาตามขึ้นมาอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
  ในเวลานี้มีผู้คนไม่มากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สำหรับชนชั้นสูงภายในค่ายจินหยางเหล่าคนที่มีอำนาจและเงินต่างหนีไปจากค่ายจินหยางตั้งแต่ช่วงแรกที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองพลเอกแล้ว คนที่เหลืออยู่ถ้าไม่ใช่คนที่มีแต่เงินแต่ไม่มีอำนาจก็เป็นพวกครอบครัวของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งหลาย
  และวันนี้…บนถนนของพื้นที่ชนชั้นสูงจู่ๆมันก็มีเสียงดังราวกับอะไรบางอย่างระเบิดขึ้นมา ตามมาด้วยความโกลาหล
  ”ตู้ม!!!”
  หน้าต่างและประตูของทุกบ้านถูกเปิดออกทันทีทุกคนต่างออกมาดูว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นข้างนอก
  ”อีพวกตัวดีทั้งหลาย!โผล่หัวออกมาสิ!”   เสียงตะโกนรุนแรงป่าเถื่อนของผู้ชายคนหนึ่งดังเข้าหูทุกคนทุกคนที่เห็นภาพต่างตกใจกลัวและรีบวิ่งหนีเข้าไปบ้านตัวเองทันที
  ”ไปเอาตัวพวกผู้หญิงมา!เอามาให้หมด!”
  ก่อนที่ทุกคนจะได้ทันหนีไปบ้านเรือนทั้งหลายก็ถูกพังและบุกเข้าไปชิงตัวเหล่าออกมา เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วบริเวณ
  ”ไอ้ชั่ว!คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าพวกแกมันเป็นสมุนของไอ้ชั่วจงคุย? ส่งคนมาซ้อมทหารของพลเอกจงไคทุกวัน วันนี้แหละทุกคนในค่ายจินหยางจะได้เห็นความจริง!”
  ”ทุกคนฟัง!ทหารของไอ้จงคุยมันกำลังจะจับฉันไป!!!”
  ”ใครจะตายก่อนดี!”มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เหล่าผู้คนที่ถูกจับตัวมาซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นภรรยาและลูกๆของเหล่าเจ้าหน้าที่ของค่ายจินหยาง พวกเขาหันไปมองตามคนที่พูดด้วยแววตาหวาดกลัว
  นี่มันเกิดอะไรขึ้น?   ��