ตอนที่ 961 การมองข้ามสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแท้ๆ

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ไม่มีใครตอบคำถามที่เกิดขึ้นในใจของทุกคนได้บ้านเรือนจำนวนมากในพื้นที่ชนชั้นสูงถูกทำลาย กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่ามีพละกำลังไม่น้อยเลยไล่ข่มขู่และจับตัวผู้คนในพื้นที่มารวมกัน
  พวกมันจับผู้หญิงและลูกสาวที่เป็นคนในครอบครัวของทหารฝั่งจงคุยมาฉีกทึ้งเสื้อผ้าจนเนื้อตัวเปล่าเปลือยและจับโยนไปรวมกับกลุ่มชาวบ้านที่นั่งตัวสั่นกันอยู่ที่พื้นเหล่าผู้หญิงต้องหยิบจับถุงกระสอบทรายตามพื้นขึ้นมาปกปิดร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเอง
  คนอื่นในพื้นที่ชนชั้นสูงที่ไม่ใช่เป้าหมายของคนพวกนี้ถือเป็นโชคดีเพราะพวกเขาหรือครอบครัวของพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับจงคุยพวกเขาแต่ยืนเบียดเข้าหากันตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ราวกับว่าถูกจับมารวมกันก่อนจะโดนสังหารหมู่  ภาพอันน่าเวทนาดำเนินต่อไปเสียงกรีดร้องโหยหวนของเหล่าหญิงสาวดังระงมไปทั่ว
  จนในที่สุดก็มีชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำเดินออกมาหน้าหยุดต่อหน้าฝูงชนด้วยท่าทางเย่อยิ่ง ใบหน้าถูกบดบังด้วยหมวกสีดำที่คลุมปิดทั้งหน้าเหลือไว้เพียงริมฝีปากที่กำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายให้เห็น
  ชัดเจนว่าคนคนนี้คือหัวหน้าของคนเถื่อนพวกนี้เป็นคนตัวการของความเลวร้ายทุกอย่างที่เกิดขึ้น!
  ”ท่านได้โปรด” มีชายวัยกลางคนกุมมือลูกสาววัยสิบห้าปีของตัวเองคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาอยู่ตรงหน้าชายชุดดำ เนื้อตัวสั่นเทิ้มขณะพยายามถดตัวถอยหนีไปเรื่อยๆในอ้อมแขนกอดลูกสาวตัวเองไว้แน่นอย่างการต้องปกป้อง
  แม้จะกลัวแค่ไหนแต่ความเป็นพ่อก็พยายามจะปกป้องลูกสาวสุดชีวิต!
  ชายชุดดำยืนมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าแต่มันกลับดูแปลกเพราะทั้งๆที่คนพวกนี้ฉีกทึ้งเสื้อผ้าหญิงสาวทั้งหลายจนเนื้อตัวเปล่าเปลือยแต่มันกลับไม่มีความตัณหาในแววตาให้เห็นเลยสักคน ไม่มีความสนใจ ความต้องการหรือแยแสใดๆเลยสักนิด
  โดยที่ชาวบ้านทั้งหลายมองข้ามจุดนี้ไปไม่มีใครจับสังเกตถึงความผิดปกตินี้เลย…
  การละเลยทำให้พวกเขามองข้ามความเป็นจริงไปอย่างสิ้นเชิง!
  ”ท่าน?”
  ชายชุดดำกวาดตามองกลุ่มชาวบ้านที่กำลังหวาดกลัวจากนั้นก็เผยอริมฝีปากขึ้นทำให้เห็นทุกคนได้เห็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกราวกับยมทูตมาปรากฏตัวต่อหน้า ชายชุดดำเมินเฉยต่อเสียงร้องโหยหวนของฝูงชนตรงหน้า หันหน้าช้าๆไปด้านข้างและเอ่ยพูดกับกองกำลังของตัวเองที่ยืนรอคำสั่งอยู่ด้านหลัง
  ”ไปเอาตัวพวกหมารับใช้ของจงคุยมาให้หมดอย่าปล่อยให้ใครหลุดรอดไปได้!”
  ”ครับ!”กลุ่มกองกำลังด้านหลังตอบรับคำสั่งพร้อมเพรียงเสียงดังฟังชัด
  พวกคนเถื่อนแยกตัวออกไปวิ่งไปตามบ้านเรือนต่างๆในพื้นที่ชนชั้นสูงทั้งหลาย บุกพังเข้าไปตามบ้านและฉุดลากคนเหล่านั้นที่ซ่อนตัวอยู่ออกมาโดยที่ทุกคนไม่สามารถต่อต้านหรือขัดขืนพละกำลังคนของคนพวกนี้ได้เลย ทำได้แค่เพียงดิ้นเร่าและตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออย่าน่าเห็นใจ
  ฝูงคนที่ถูกมาจับรวมตัวกันก่อนหน้านี้มองภาพที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าซึ่งมันเหมือนกับที่ตัวเองเจอมาก่อนหน้านี้ด้วยน้ำตานองหน้าโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนชนชั้นสูงที่มีฐานะร่ำรวยและมีอำนาจในค่ายจินหยาง แต่ในสถานการณ์แบบนี้สิ่งเหล่านั้นไม่มีความหมายอะไรเลย ไหนล่ะที่บอกว่ามันคือพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด?
  คนที่โดนจับทั้งหลายในตอนนี้คือคนที่มีความเกี่ยวข้องกับพลเอกจงคุยทั้งนั้น!
  กลุ่มคนป่าเถื่อนลากคนที่จับมาออกเดินมาตามถนนเป็นขบวนออกมาจากพื้นที่ชนชั้นสูงผ่านหน้าเหล่าชาวบ้านทั้งหลาย ซึ่งมันได้สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนอย่างมาก
  ส่วนกลุ่มคนที่ถูกจับมาก็รู้สึกสิ้นหวังที่สุดในชีวิตพวกเขาเคยเป็นคนชนชั้นสูงที่อยู่เหนือทุกคนในค่าย แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกลากตามพื้น เนื้อตัวสกปรกมอมแมม สภาพไร้ค่าแย่ยิ่งกว่าขยะ
  ”ได้โปรดเถอะฉันไม่ได้ทำอะไรเลย!”
  ”ขอร้องปล่อยลูกสาวฉันไปเถอะแค่ปล่อยลูกสาวฉันไป ฉันยอมทำทุกอย่าง จะให้ฉันทำอะไรก็ได้!”
  ”แกทำแบบนี้ไม่ได้!พลเอกจงคุยจะเอาแกตายแน่ แกต้องตายอย่างอนาท ไม่มีศพให้เอาไปฝัง!”
  บางคนร้องอ้อนวอนขอความเมมตตาบางคนก้มกราบ บางคนก่นด่าข่มขู่ ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันเสียงที่ดังตีกันไปมาจนกลายเป็นความยุ่งเหยิง  หลังจากเหตุการณ์อันน่าอดสูยังคงเดินหน้าต่อไปทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาดักหน้าขบวนเอาไว้…
  ”พวกแกไอ้พวกหมารับใช้ของจงไคพวกแกอยากตายเหรอไง?!”
  ”หัวหน้าของพวกแกคือใคร?ใครสั่งให้พวกแกทำแบบนี้? ไอ้ง่อยจงไคนั่นสั่งมาใช่มั้ย? ไม่คิดเลยว่าไอ้ง่อยนั่นมันจะกล้าทำเรื่องเกินตัวแบบนี้!”
  ”ไม่ต้องพูดอะไรแล้วพวกนี้มันคนชั่ว มันต้องการจะข่มขู่หัวหน้าครอบครัวของพวกเราที่ทำงานกับพลเอกจงคุย จัดการมันเลย ฆ่ามัน!”
  ”ใช่!ฆ่าพวกมันให้หมด!”
  เสียงตะโกนที่ดังตีกันจนเกิดความวุ่นวายไปทั่วถนนทั้งเส้นและจู่ๆก็มีคนกลุ่มหนึ่งแสดงตัวออกมา นำโดยชายคนหนึ่งที่อยู่ในเสื้อผ้าสีดำทั้งตัวเหมือนกับอีกฝ่าย
  ชายในชุดสีดำทั้งตัวท่าทางอวดดีและเย่อหยิ่งตะโกนสั่งลั่น”จัดการมัน!!!”
  พวกกลุ่มคนที่จับตัวเหล่าชาวบ้านจากพื้นที่ชนชั้นสูงวิ่งเข้าใส่ต่อสู้กันในความเข้าใจของทุกคนสองฝ่ายนี้เป็นคนจากพลเอกจงคุยและพลเอกจงไค และคนพวกนี้จะต้องมีคนมีอำนาจคอยหนุนหลังอยู่อย่างแน่นอนถึงได้กล้าก่อเรื่องอุกอาจเช่นนี้แม้แต่ในพื้นที่ชนชั้นสูงก็ยังไม่เว้น พวกมันกล้าจับเหล่าคนชนชั้นสูงซึ่งเป็นคนของฝ่ายพลเอกจงคุย ในใจของเหล่าคนที่ถูกจับตัวมาคิดว่าตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้วนอกจากเขตบ้านพักของพลเอกจงคุยที่ช่วยคุ้มครองพวกเขาได้!
  เมื่อคิดได้ดังนั้นเหล่าคนที่ถูกจับตัวมาก็เริ่มหนีสุดกำลังด้วยความกลัวตาย ในจังหวะที่ไม่มีใครเห็นและคิดว่าทั้งสองฝ่ายกำลังสู้กันตะลุมบอนอยู่ ทั้งๆที่แท้จริงแล้วมันมีการส่งสัญญาณลับบางอย่างที่เป็นความเข้าใจกันเองโดยไม่ต้องพูดของทั้งสองฝั่ง ไม่มีการใช้ดาบหรือของมีคมสู้กัน ไม่มีใครเลือดตกยางออก มีเพียงท่าทางที่ดูดุดัน คำตะโกนด่าทอ การออกหมัดเตะต่อยที่ดูรุนแรงทว่ากลับไม่โดนตัวของใครเลย เพียงแค่ใช้คำด่าทอหยาบคายรุนแรงใส่กันเพื่อเล่นละครต่อหน้าทุกคนเท่านั้นสัญลักษณ์
  อีกทางหนึ่งผู้คนที่วิ่งหนีตายกันมายังเมืองชั้นในเพื่อมุ่งหน้ามายังเขตที่พักของพลเอกจงคุย สีหน้าแตกตื่นหวาดกลัวราวกับกำลังวิ่งหนีฝูงซอมบี้มาอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่เหล่าหญิงสาวยังไม่มีเวลาสนใจจับเศษผ้าที่หลุดรุ่ยมาปกปิดเนื้อตัวเลย ในเวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการหนีอีกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อทหารจากทั้งสองฝ่ายมาประจันหน้ากันและเข้าต่อสู้ตะลุมบอนกันแบบนี้ เวลานี้สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของทุกคนพุ่งสูงสุด
  เสียงร้องโวยวายขอความช่วยเหลือพร้อมกลุ่มคนที่กำลังวิ่งกรูดังขึ้นทำให้กลุ่มคนระดับสูงที่อยู่ในเมืองชั้นในของค่ายจินหยางมองมาด้วยความสนใจ  จากสวรรค์ลงสู่นรก…นี้คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง!