ไม่นานหลังจากเหตุการณ์โกลาหลชายในชุดสีดำที่เป็นผู้นำของกลุ่มคนป่าเถื่อนยังคงแสร้งทำเป็นสู้กับคนอีกกลุ่มอยู่ก็เหลือบหน้ามาส่งยิ้มเลศนัยให้กับชายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่บนระเบียงบ้านพักแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากจุดต่อสู้มากนัก
นัยน์ตาดำสนิทราวกับน้ำหมึกของชายที่ยืนอยู่บนระเบียงมองตาตอบกลับไปยังชายในชุดสีดำที่อยู่ห่างออกไปเขายืนมองทุกอย่างตั้งแต่เหตุการณ์ในพื้นที่ชนชั้นสูง จนมาถึงตอนที่ผู้คนของจงคุยโดนลากให้เดินเป็นขบวนไปตามถนน ชายผู้นี้ยืนมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
ต่อหน้าของชายที่ยืนอยู่บนระเบียงคือกลุ่มคนสองกลุ่มที่แสร้งทำเป็นต่อสู้กันด้วยความเกลียดชังทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาทำงานประสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบการขยับเคลื่อนไหวร่างกายที่เหมือนต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายสำหรับคนนอกที่มองมา
ความจริงคือมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายจินหยางโผล่ออกมาบนถนนในเวลานี้เพราะว่าตอนนี้ทุกคนถูกจงคุยและจงไคเรียกประชุมฉุกเฉิน ถ้าไม่อย่างนั้นละก็ป่านนี้จะต้องมีคนจำชายชุดดำที่ปรากฏบนระเบียงได้แน่นอน…
เพราะเขาคือชูฮันอย่างไม่ต้องสงสัย!
ตลอดตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงพื้นที่ชนชั้นสูงและทำการอุกอาจทั้งหลายจนกระทั่งมีคนกลุ่มที่สองโผล่ออกมา แท้จริงแล้วทั้งหมดคือทีมความลับของพระเจ้านั้นเอง
น่าเสียดายที่ไม่มีใครในที่นี้จำชูฮันได้เลยชูฮันส่งทีมความลับของพระเจ้าบุกเข้าไปยังพื้นที่ชนชั้นสูงได้ง่ายๆและก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้โดยไม่มีใครมาห้ามพวกเขาเลย
ส่วนหน่วยข่าวกรองลับที่แฝงตัวเป็นคนในค่ายจินหยางมาเป็นเวลานานก็เล่นตามบทบาทของตัวเองคอยยุยงให้จงคุยจงไคเกลียดชังกันเองมากขึ้นเรื่อยๆ คอยใส่ไฟและขัดขวางการเจรจา คนที่แฝงตัวเป็นชาวบ้านก็คอยปลุกระดมความคิดเห็นชาวบ้านให้ลุกขึ้นต่อต้าน
ทุกอย่างคือแผนการที่วางมาอย่างดีแล้ว!
ทุกอย่างคือการแผนการที่ทำดำเนินการทั้งหมดในเวลาเพียงแค่สี่วันเท่านั้น!
ชูฮันเป็นคนจัดฉากเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นด้วยตัวเองโดยใช้ความสามารถของทีมความลับของพระเจ้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปสร้างความวุ่นวายในพื้นที่อาศัยของชาวบ้านทั่วไปและพื้นที่ผู้ลี้ภัยจนเกิดความโกลาหลมาแล้ว เป้าหมายต่อมาและเป็นเป้าหมายหลักเลยคือครอบครัวของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในพื้นที่ชนชั้นสูง
ตอนนี้ชูฮันยืนอยู่ตรงระเบียงบ้านพักในภายบ้านพักที่เป็นที่ลับกวาดสายตามองไปทั่วค่ายจินหยางก่อนจะมีรอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นที่มุมปากเพียงชั่วแวบเดียว เมื่อนึกถึงภาพในตอนที่ไอ้จงคุยและเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของมันได้เห็นสภาพครอบครัวและญาติพี่น้องของพวกมันแบบนี้——
หึ!จะโกรธมากขนาดไหนนะ?
คนที่เป็นพี่น้องเป็นคนรัก เป็นพ่อแม่ เป็นลูก เป็นคนสำคัญในชีวิตที่ต้องปกป้อง แต่ตอนนี้เมื่อคนที่ตัวเองรักและห่วงใยมีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ คนพวกนั้นจะโกรธแค้นจนอยากจะฆ่าจงไคเพื่อแก้แค้นมากขนาดไหนกันละ?
โดยเฉพาะเด็กสาวทั้งหลายที่ยังเด็กอยู่ยามที่ได้เห็นเนื้อตัวเปลือยเปล่าของคนในครอบครัวตัวเองโดนทำลายจนย่อยยับ คนพวกนั้นจะยิ่งแค้นกันมากขนาดไหน หากชูฮันรู้ดีว่าทีมความลับของพระเจ้าทำเพียงแค่ฉีกทึ้งเสื้อผ้าของหญิงสาวทั้งหลายเท่านั้น ไม่มีการล่วงเกินหรือข่มเหงรังแกใดๆ เพราะมันคือกฏระเบียบหลักของกองทัพเขี้ยวหมาป่า
จงคุยและเหล่าทหารใต้บังคับบัญชาทั้งหลายที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาคิดว่าจงไคเพียงแค่สั่งให้ลูกน้องของตัวเองมาป่วนชาวบ้านและหาเรื่องฝ่ายเขาเท่านั้นแต่ทันทีที่เห็นสภาพคนในครอบครัวตัวเองเป็นแบบนี้ คนพวกนั้นคงจะช็อคกันไม่น้อยเลย คงแค้นจนเลือดกระอัก
และเหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เป้าหมายของชูฮันเกือบทางเดินทางมาถึงจุดสูงสุดแล้วหญิงสาวพวกนี้คือกุญแจสำคัญในการสุมกองไฟให้โหมกระพือ พวกเขาคือเหยื่อของสงครามในครั้งนี้!
ชูฮันปกปิดความสงสารที่โผล่เข้ามาในสายตาตัวเองทันทีจากนั้นก็รีบเปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชาและไม่แยแส ความดุดันร้ายกาจราวกับว่ามีเปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่ มันเป็นแววตาที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยได้เห็น
ค่ายจินหยางมีจงคุยและจงไคซึ่งคือคนที่ชูฮันต้องกำจัดไม่ใช่แค่เพราะพวกมันมีตระกูลป่ายสนับสนุนแต่สาเหตุที่สำคัญกว่านั้นคือสองพ่อลูกทำบางอย่างให้ชูฮันหมดความอดทน…สิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายหนานตู้
ตอนที่ชูฮันถูกล้อมเอาไว้โดยกลุ่มนักฆ่าที่ค่ายหนานตู้และฉางกวนยวีซินก็ถูกไอ้จงคุยทำให้อับอายด้วยการใส่ร้ายป้ายสีแม้ว่าทุกอย่างจะจบลงโดยที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป
แต่มีหรือที่คนอย่างชูฮันจะไม่รู้ว่ามันเป็นฝีมือของใคร?
มีหรือที่หน่วยข่าวกรองลับจะไม่รายงานให้เขาฟัง?หลูปิงเซ่อที่อยู่ในที่เกิดเหตุสามารถรวบรวมข้อมูลข่าวกรองได้ทั่วฟ้า มีหรือจะไม่รายงานเขา?
ฉางกวนยวีซินเป็นคนที่เขาช่วยชีวิตเอาไว้เป็นผู้หญิงที่จงรักภักดีกับเขามาตลอด แม้จะพึ่งได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้งหลังจากผ่านไปเป็นเวลานานแต่ฉางกวนยวีซินก็ไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะตอบแทนเขา!
ไอ้ชั่วจงไคไม่เพียงแต่คิดจะชิงตัวฉางกวนยวีซินที่เป็นคนของชูฮันไปทว่าทั้งๆที่หลังจากมันกลายเป็นง่อยไปแล้ว สองพ่อลูกนี่ก็ยังไม่รู้จักหลายจำ ไอ้เฒ่าจงคุยก็ยังไม่เลิกทำเรื่องชั่วๆ
คิดจะลอบกำจัดเขาอย่างนั้นเหรอ? ไอ้พฤติกรรมที่รอคอยจังหวะซ้ำเติมลอบกัด แทงข้างหลังชูฮันและเขี้ยวหมาป่ามาตลอดทำให้ชูฮันหมดความอดทนในที่สุด!
ที่ผ่านมาคนอื่นอาจจะไม่สามารถตอบโต้ค่ายจินหยางจงคุยหรือจงไคได้
แต่ไม่ใช่สำหรับชูฮัน!
”หึ!”
แค่จัดการมันสองพ่อลูกมันยังไม่พอสิ่งที่ชูฮันต้องการคือทำลายทั้งค่ายจินหยางให้ย่อยยับ ให้มันหายสาปสูญไปจากแผ่นดินจีนอย่างถาวร!
ขณะที่ชูฮันกำลังแสดงความทะเยอทะยานอันน่าทึ่งในใจอยู่ทีมความลับของพระเจ้าที่หลังจากปลอมตัวเป็นคนจากฝ่ายจงคุยและจงไคต่อสู้กันต่อหน้าชาวบ้านเรียบร้อย ตอนนี้พวกเขาก็ดำเนินแผนการต่อไป โดยมีทหาร 7 คนนั่งล้อมวงกินเหล้าเฮฮาแบะพูดคุยถึงเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ ”ฮ่าฮ่าฮ่า!แค่ฉีกเสื้อผ้านิดหน่อย ผู้หญิงพวกนั้นก็ดีดดิ้นกันเหลือกัน สนุกชะมัด!”
”สะใจชะมัด!”
”เห็นสภาพไอ้อ้วนนั้นมั้ยตอนที่ส่งตัวลูกสาวมันคืนไปหลังจากกูข่มขืนลูกมันไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า หน้าซีดจนจะเป็นลมอยู่แล้ว!”
”ไอ้คนที่คลายเหมือนหมากราบเท้าเรา สงสัยชาติที่แล้วคงเป็นหมาจริงๆ!”
”*&$$!%^&*($!!!”เสียงพูดหยุดหยอกล้อหัวเราะดังออกมาเป็นระลอก
ชูฮันเบนสายตาไปยังด้านหลังตัวเองที่มีกลุ่มทหาร7 คนที่จับเข่าคุยกันอยู่ ทีมความลับของพระเจ้าในตอนนี้มีสมาชิกทั้งหมด 100 คน ไม่รวมหลูปิงเซ่อที่เป็นกัปตันของทีม การทำงานของทีมความลับของพระเจ้านั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ชื่อที่เขาตั้งให้นั้นสมกับความสามารถของทีมได้อย่างดี
นี้แหละอีกหนึ่งความสามารถที่ซ่อนอยู่!
ถนัดการยั่วยุอารมณ์อีกฝ่าย!