ตอนที่ 595 ไม่มีแผน

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 595

ไม่มีแผน

“ไม่ได้หรอก ข้ายังมีงานของร้านตระกูลชุนอยู่ เป็นเจ้าสำนักไม่ได้หรอก”หลังจากโดนยัดเยียดตำแหน่งเจ้าสำนักใส่แล้วหลินเฟยก็ใช้ห้องของรองเจ้าสำนักผานซูเป็นที่ประชุมถกเถียงกันเรื่องนี้

“ได้สิขอรับ ไม่มีกฎข้อไหนห้ามเจ้าสำนักทำงานที่อื่นเสียหน่อยขอรับ”ผานซูว่าพลางยิ้มด้วยท่าทียินดี แต่ความจริงแล้วตำแหน่งเจ้าสำนักมีเงินไหลเวียนอยู่แล้วไม่ต้องทำงานที่อื่นต่างหาก แต่หากจะทำก็ไม่มีใครว่าอะไรนี่ แถมพนักงานชั้น 7 ของร้านตระกูลชุนยังรับแต่ลูกค้าตำแหน่งสูงไม่มีใครมองว่าเสียเกียรติหรอก

“แต่ข้าไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับคนในสำนักเลยนะ ข้าเป็นเจ้าสำนักไม่ได้หรอก”หลินเฟยอ้างพลางถอนหายใจออกมา

“ยังไงข้าก็ต้องกำจัดพวกพ้องของเจ้าสำนักคนเก่าอยู่แล้วขอรับ ถึงตอนนั้นคนของสำนักจะเหลือแค่ครึ่งเดียวและต้องรับคนเข้ามาเพิ่ม ท่านเจ้าสำนักค่อยทำความรู้จักกับคนเหล่านั้นก็ได้ขอรับ”ผานซูตอบพลางยิ้มด้วยท่าทีสบายๆราวกับตนเองไม่ได้พูดเรื่องน่ากลัวออกมา ตอนนี้ข่าวเรื่องการตายของเจ้าสำนักยังไม่แพร่ออกไปเพราะผานซูเก็บศพของเจ้าสำนักมาไว้ในห้องแล้ว แต่หากแพร่ออกไปเมื่อไหร่พวกพ้องของเจ้าสำนักกว่าครึ่งคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่ๆ และการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนักก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ตัวผานซูผู้มีบารมีเหนือกว่าคงได้รับชัยชนะจากอีกฝ่ายเป็นแน่ เพราะรองเจ้าสำนักอีกคนเป็นลูกน้องเก่าของเจ้าสำนัก หรือก็คือก่อนจะเป็นเจ้าสำนักรองเจ้าสำนักคนนั้นเคยเป็นลูกน้องของตัวผานซูด้วยเช่นกัน ทำให้ผานซูที่มีความอาวุโสและผลงานมากกว่าคงได้ตำแหน่งเจ้าสำนักไปอย่างไม่ยากเย็น

แต่ยามนี้ผานซูได้รับการฝึกสอนจากหลินเฟย เพียงวิชาควบคุมไฟอย่างเดียวเท่านั้นก็ทำให้มันเลื่อมใสหลินเฟยจนหมดใจ ยิ่งเห็นกระบวนท่าที่ใช้สังหารเจ้าสำนักในดาบเดียวแล้วยิ่งมั่นใจ ผู้ที่จะทำให้สำนักเหยี่ยวทะเลทรายรุ่งเรืองนั้นคือหลินเฟยอย่างแน่นอน

“นายท่าน ข้าคิดว่านายท่านคงไม่ยอมให้ข้าควบตำแหน่งเจ้าสำนักด้วยสินะขอรับ แบบนั้นต้องมีผลกระทบกับงานแน่ๆ”หลินเฟยตอบพลางหันไปหาชุนเจ๋อเป็นความหวังสุดท้าย

“พูดอะไรของเจ้า ตอนนี้เจ้าก็รับตำแหน่งพนักงานต้อนรับควบกับพนักงานชั้น 7 ไม่ใช่หรือไง ก็แค่ย้ายเจ้ามาทำงานเป็นเจ้าสำนักควบกับพนักงานชั้น 7 เท่านั้น แถมข้ายังได้ลูกน้องเป็นเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายสำนักอันดับ 9 อีกมีอะไรเสียหายกัน”ชุนเจ๋อตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ

“ท่านชุนเจ๋อเป็นพ่อค้ามีชื่อเสียงโด่งดัง แม้แต่ขุนนางยังต้องเกรงใจ มีสัมพันธ์อันดีกับท่านนับว่าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน”รองเจ้าสำนักผานซูยิ้มกว้างรีบรับลูกคู่ทันที ไม่ใช่ว่าเรื่องทำงานคาบเกี่ยวกันแบบนี้ไม่ควรทำไม่ใช่หรืออย่างไร ทำไมทั้งสองถึงทำเป็นว่าการทำงานแบบนี้เป็นเรื่องยอมรับได้ไม่ทราบ

“แต่ว่านายท่าน ข้าไม่อยากเป็นเจ้าสำนักนะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางถอนหายใจออกมา

“เจ้าเป็นคนลั่นวาจาเองไม่ใช่หรือว่าให้อีกฝ่ายยกตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับเจ้า แถมเจ้ายังเป็นคนลงมือสังหารเจ้าสำนักคนเก่าด้วยตนเองอีกต่างหาก หรือว่าเจ้าคิดจะกลืนน้ำลายตัวเองแล้วโยนภาระให้ท่านผานซูกัน”ชุนเจ๋อถามด้วยท่าทีกดดันทำเอาหลินเฟยพูดไม่ออก แม้ตนเองจะเป็นคนฆ่าเจ้าสำนักแถมเจ้าสำนักยังเป็นฝ่ายลงมือก่อนแต่เพราะหลินเฟยเป็นแขกของผานซูและคนที่เห็นว่าเจ้าสำนักลงมือก่อนก็มีแต่พวกตนเท่านั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการชิงอำนาจของผานซูจะลำบากและนองเลือดมากแค่ไหน

“นี่ท่านกะจะให้ข้ากลายเป็นตัวร้ายสินะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางมองไปทางรองเจ้าสำนักผานซู

“ท่านเจ้าสำนักคิดมากไปแล้ว ข้าเพียงต้องการให้ท่านเป็นผู้ปกครองของที่นี่เท่านั้น”ผานซูตอบด้วยรอยยิ้มเมตตาทำเอาหลินเฟยมีเส้นเลือดปูดออกมาบนหน้าผากเลยทีเดียว

“เอาล่ะ ท่าทางเจ้าต้องจัดการเรื่องที่นี่สักพัก ข้าจะให้เจ้าลาพักร้อนสัก 7 8 วันแล้วกัน”ชุนเจ๋อตอบพลางตบบ่าหลินเฟยเบาๆ

“นายท่าน…..”หลินเฟยมองตามชุนเจ๋อไปด้วยท่าทางฝืนสุดๆ แบบนี้มันก็ต้องรับงานของเจ้าสำนักมาไม่ใช่หรือไง

“ไม่ต้องห่วงหรอกขอรับท่านเจ้าสำนัก รับรองว่าข้าจะช่วยงานท่านอย่างสุดความสามารถแน่นอน”ผานซูยิ้มพลางเปิดประตูส่งชุนเจ๋อ ก่อนจะเรียกให้ลูกศิษย์ในสำนักไปเรียกทุกคนมารับทราบเรื่องทั้งหมด

.

.

“ท่านรองเจ้าสำนักนี่มันเรื่องอะไรกัน”เมื่อคนในสำนักแต่ละคนเดินทางมายังห้องรับรองแขก ทุกคนต่างก็มีสีหน้าตกตะลึงไปตามๆกันเพราะที่กลางห้องรับรองนั้นมีศพของเจ้าสำนักคนปัจจุบันของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายนอนอยู่ แต่รองเจ้าสำนักอย่างผานซูกลับไม่มีท่าทีแตกตื่นอะไรแถมยังนั่งดื่มชากับหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาเฉย

“ดูเหมือนทุกท่านจะมากันครบแล้ว”รองเจ้าสำนักผานซูว่าพลางลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย สำนักเหยี่ยวทะเลทรายยามนี้มีรองเจ้าสำนัก 2 คน อาวุโส 8 คน ทุกคนต่างมากันพร้อมหน้าแล้วทั้งสิ้น

“ท่านรองเจ้าสำนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น มีคนลอบทำสังหารท่านเจ้าสำนักงั้นหรือ”อาวุโสที่มาเป็นคนแรกๆถามด้วยท่าทีสงสัย ผานซูไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังเลยจนกว่าคนจะครบ ทำเอาตนเองที่มาถึงเป็นคนแรกๆสงสัยจนเก็บเอาไว้ไม่ได้

“ไม่มีใครลอบสังหารแต่อย่างไร ผู้ลงมือสังหารอดีตเจ้าสำนักคือท่านเจ้าสำนักหลินเฟยผู้นี้”รองเจ้าสำนักผานซูตอบพลางผายมือไปทางหลินเฟยที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้หัวโต๊ะที่ปกติแล้วจะให้เจ้าสำนักเป็นคนนั่ง

“ท่านรองผานซู ท่านพูดล้อเล่นอะไรกัน”รองเจ้าสำนักอีกคนถามด้วยท่าทีเดือดดาล เจ้านายของมันนอนตายอยู่ตรงนี้ แล้วยังจะบอกว่าคนลงมือกำลังนั่งดื่มชาอย่างสบายใจอยู่ตรงหน้าพวกตนงั้นหรือ แล้วทำไมยังไปเรียกมันว่าเจ้าสำนักอีก

“ข้าไม่ได้พูดเล่นอะไรทั้งนั้น ก่อนตายอดีตเจ้าสำนักเดิมพันตำแหน่งเจ้าสำนักกับสหายข้า ท่านเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทำให้ตำแหน่งตกเป็นของสหายข้า”ผานซูตอบพลางเดินกลับไปนั่งที่เดิมราวกับได้บอกเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

“เรื่องนั้นจริงหรือไม่ไม่มีใครทราบ แถมชนะเดิมพันแล้วทำไมถึงต้องสังหารท่านเจ้าสำนัก”อาวุโสคนหนึ่งถามพลางลุกขึ้นด้วยท่าทีโมโห ท่าทางเจ้านั่นจะเป็นอาวุโสฝ่ายเจ้าสำนักคนก่อนสินะ

“นั่นเพราะเจ้านั่นคิดจะผิดคำพูด แถมยังลงมือโจมตีข้าอีกต่างหาก”หลินเฟยตอบพลางถอนหายใจออกมาราวกับการโดนโจมตีจากเจ้าสำนักคนก่อนเป็นเรื่องน่ารำคาญเสียอย่างนั้น

“เจ้าจะบอกว่าเจ้าเป็นผู้สังหารเจ้าสำนักงั้นหรือ ข้าไม่เชื่อ”อาวุโสอีกคนพูดพลางลุกขึ้นด้วยท่าทีต่อต้าน “ท่านเจ้าสำนักจะต้องถูกผานซูลอบสังหารเป็นแน่ และคิดจะให้เจ้ายอมรับแทนเพื่อรักษาตำแหน่งตนเองเอาไว้”อาวุโสอีกคนตอบพลางชี้ไปที่ผานซูอย่างไร้มารยาท ยามนี้หลินเฟยไม่ได้เปิดเผยพลังวิญญาณทำให้ทุกคนต่างมองว่าหลินเฟยเป็นเพียงคนธรรมดาแถมด้วยรูกลักษณ์งดงามของหลินเฟยทำให้ทุกคนต่างมองว่าหลินเฟยเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าหลินเฟยจะสังหารท่านเจ้าสำนักได้จึงโยงเรื่องไปที่รองเจ้าสำนักผานซู และต่างคิดกันว่าผานซูวางแผนลอบสังหารเจ้าสำนักแล้วโยนความผิดให้หลินเฟย หากพวกตนโง่เชื่อสิ่งที่ผานซูบอกก็คงแก้แค้นกับหลินเฟยแล้วตัวผานซูจะไร้ความผิดไปและเรื่องในครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบอะไรกับตำแหน่งของผานซูเป็นแน่

“ลอบสังหาร…น่าขำเจ้านี่มันโง่คิดจะทำร้ายท่านเจ้าสำนักก็เลยโดนฆ่าทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา ไม่มีความจำเป็นต้องลอบสังหารแม้แต่น้อย”ผานซูตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีขำขัน ท่านหลินเฟยผู้นี้นะหรือต้องพึ่งพาแผนการอย่างการลอบสังหาร ท่านเพียงวาดกระบี่ครั้งเดียวก็สังหารเจ้าสำนักได้แล้วแท้ๆ

“ผานซู เจ้าคิดว่าพวกเราจะเชื่องั้นหรือว่าหญิงสาวบอบบางเช่นนี้สามารถสังหารท่านเจ้าสำนักได้ แม้สำนักของเราจะอยู่ลำดับที่ 9 แต่เจ้าสำนักก็แข็งแกร่งไม่แพ้เจ้าสำนักท่านอื่นๆหรอกนะ”อาวุโสคนหนึ่งตอบพลางชี้ไปทางหลินเฟยบ้าง มิน่าเล่าผานซูถึงได้แพ้การชิงตำแหน่งเจ้าสำนัก เพราะอาวุโสกว่าครึ่งอยู่คนละฝ่ายนี่เอง

“หญิงสาวงั้นหรือ…..”ตั้งแต่มาที่อาณาจักรนี้หลินเฟยก็โดนเข้าใจผิดว่าเป็นหญิงมาตลอด ทำเอาหลินเฟยเริ่มที่จะเบื่อหน่ายแล้ว ตนนี้หลินเฟยโดนยัดเยียดตำแหน่งเจ้าสำนักให้แถมยังมาโดนชี้หน้าเรียกว่าหญิงสาวบอบบางอีก ท่าทางเจ้าพวกนี้จะไม่รักชีวิตเสียแล้ว

วูบ….

ทันทีที่หลินเฟยพูดออกมา พลังวิญญาณของหลินเฟยก็ไหลออกมาเช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเผยพลังทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ แค่พลังระดับเทียนเซียนก็มากพอจะใช้อุดปากคนพวกนี้ได้แล้ว

“พลังอะไรกัน”เหล่าผู้ยืนขึ้นต่อต้านมองพลังของหลินเฟยด้วยท่าทีตกตะลึง ในอาณาจักรซานนั้นระดับเทียนเซียนนับเป็นระดับเกินเอื้อม ไม่ต้องพูดถึงระดับเจ้าสวรรค์เลย หากท่านพ่อท่านแม่ของหลินเฟยมาที่นี่ละก็พวกมันคงลืมหายใจจนตายกันไปหลายคนแน่ๆ

“ท่านเจ้าสำนัก”เหล่าอาวุโสที่อยู่ฝ่ายผานซูเห็นเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าทำไมผานซูถึงยอมรับอีกฝ่ายเป็นเจ้าสำนักได้ง่ายดายนัก พวกมันรีบก้มลงคุกเข่าเรียกขานหลินเฟยว่าเจ้าสำนักทันที

“อาวุโสกลุ่มนี้เรียกข้าว่าเจ้าสักแล้ว พวกเจ้าไม่เห็นด้วยหรือไม่”หลินเฟยถามพลางเหลือบสายตามองไปทางอาวุโสที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับผานซู รวมถึงรองเจ้าสำนักอีกคนด้วย

“มะ ไม่….ไม่กล้าขอรับ”เหล่าอาวุโสที่สัมผัสพลังของหลินเฟยเข้าก็พากันคุกเข่าลงทันที นี่มันไม่ใช่เรื่องใครสังหารใครหรือใครไม่เหมาะสมแล้ว แต่นี่คือเรื่องของพลังอำนาจล้วนๆหากเป็นท่านผู้นี้เดินเข้ามาบอกจะเอาสำนักเป็นของตนเอง แล้วใครจะกล้าต่อต้านไม่ทราบ ต่อให้เจ้าสำนักยังไม่ตายก็ได้แต่ก้มหน้าคุกเข่ายอมรับเท่านั้น

“แบบนี้คงง่ายขึ้นแล้วสินะท่านผานซู พวกเจ้าที่คิดจะต่อต้านข้าปลดออกจากตำแหน่งอาวุโสและรองเจ้าสำนัก ท่านผานซูคนที่จะขึ้นมาแทนให้ท่านเป็นผู้คัดเลือก”หลินเฟยตอบพลางเก็บซ่อนพลังของตนเองเอาไว้อีกครั้ง เท่านี้ก็กำจัดพวกคนของเจ้าสำนักคนเก่าได้แล้ว แน่นอนว่าพวกมันไม่มีใครกล้าขัดขืนหรอก เพราะหากขัดขืนต่อหน้าหลินเฟยพวกมันก็อาจจะมีสภาพไม่ต่างจากเจ้าสำนักคนเก่านะสิ

“แน่นอนขอรับ”ผานซูยิ้มพลางสั่งให้คนในสำนักพาอาวุโสและรองเจ้าสำนักที่โดนปลดตำแหน่งไปแล้วออกไปเสีย แม้จะน่าเสียดายที่ปลดคนมีฝีมือออก แต่หากได้รับการถ่ายทอดจากหลินเฟยเกรงว่าคนเหล่านี้จะกลายเป็นพวกไร้ฝีมือในเวลาต่อมาเป็นแน่