บทที่ 508 ทั้งสองล้มตกบันไดไปด้วยกัน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

เรนนี่ยังคงอยากจะพูดอะไรต่อ แต่หัสดินไม่ฟังแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาตัดสินใจแล้ว

จากนั้นเรนนี่ก็ตื่นตระหนก ใจลอยตลอดทั้งวันเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!

คราวที่แล้วเธอสามารถให้คุณหมอไอแซ็คปลอมแปลงได้ คราวนี้ล่ะ?

เธอหงุดหงิดมาก เธอครุ่นคิดเรื่องนี้บ่อยๆในช่วงเวลาทำงาน ใจลอยจนทำแก้วน้ำร้อนบนโต๊ะคว่ำจนเกือบลวกใส่เพื่อนร่วมงานข้างๆ

เห็นได้ชัดว่าพระเจ้าไม่ยอมปล่อยเธอไป ไม่ยอมให้เธอใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แต่กำลังค่อยๆบีบคั้นเพื่อต้องการชีวิตเธอ!

มีเพียงหนทางเดียวคือต้องตรวจสอบ แม้ว่าตอนนี้จะไม่ตรวจสอบ ในอนาคตก็ยังต้องทำอยู่ดี มีเพียงทางเดียวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!

เธอรู้สึกหงุดหงิดมาก

ในชีวิตคนเรามีเรื่องที่ไม่สมดั่งใจมากมาย แต่ตอนนี้เธอเจอเข้าเต็มๆ!

ฉันทัชส่งฟิล์มตรวจสุขภาพไปที่เฮทเคจริงๆ ยู่ยี่รู้สึกว่าเขาบ้าไปแล้ว

อาหารบำรุงกองรวมกันเป็นภูเขา ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะกินหมด คืนวันนั้นทั้งสองเดินออกจากคอนโดไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ด้วยกัน

คุณหมอบอกว่าคนท้องไม่ควรนอนนิ่งตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นในอนาคตตอนคลอดลูกจะคลอดยาก ควรจะออกกำลังกาย เดินเล่นอย่างเหมาะสม

ดังนั้นฉันทัชจึงกำหนดเวลาไว้ว่า ทุกวันตั้งแต่หกโมงถึงหนึ่งทุ่มในตอนเย็น ต้องไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ ไม่สามารถนั่งได้

ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว ต้นวิลโลว์ในสวนดอกไม้ก็ค่อยๆเริ่มผลิบาน ใบไม้ก็ร่วงหมดแล้ว

วันนี้หลังจากเดินเล่นเสร็จก็ค่อนข้างดึกแล้ว ฉันทัชกำลังคุยโทรศัพท์ ยู่ยี่ยังคงนั่งยองๆอยู่ด้านหลังเพื่อดูดอกไม้ที่แตกหน่อใหม่

พอเขาหันกลับมาเห็นเธอนั่งยองๆอยู่บนพื้น ฉันทัชก็โบกมือเรียกให้เธอรีบเร่งฝีเท้าให้ตามเขาให้ทันอย่างจนใจ

ยู่ยี่กลับปลิ้นปล้อน เธอเหล่ตาเล็กน้อยอย่างซุกซน แสร้งพูดอย่างแปลกใจ “หือ? ภรรยาคุณล่ะ? ไปทำงานต่างเมืองเหรอ? วันนี้สามีฉันก็ไม่อยู่พอดี ป่ะ คืนนี้ไปบ้านฉันกัน!”

รอบๆมีคู่หนุ่มสาวเดินผ่านไป พอพวกเขาได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็ต่างขมวดคิ้ว จ้องเธอกับฉันทัช

สุดท้ายยังจ้องไปที่ท้องที่นูนของเธออยู่นาน ท้องขนาดนี้แล้ว ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทำแบบนี้ ร่านจริงๆ!

ทั้งสองเดินจากไป ยู่ยี่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ เธอหัวเราะคิกคัก สองมือวางไว้บนเอว ตลกจริงๆ!

ฉันทัชกลับรู้สึกจนใจ รอยยิ้มผุดที่ระหว่างคิ้วและตาไม่หยุด ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอซนขนาดนี้

เพราะเป็นคนแปลกหน้า ดังนั้นจึงมักจะแสดงเฉพาะด้านที่เอาใจใส่ ใจกว้างหรือความสุภาพให้เห็น หลังจากเป็นคุณนายแล้ว คุณจะเห็นเธอแตกต่างไปจากเดิม และเพลิดเพลินไปกับอาการงอน นิสัยและอารมณ์เล็กๆน้อยๆของเธอ

หลายๆคนจะสุภาพและมีมารยาทเมื่อเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าเสมอ แต่เมื่ออยู่กับญาติพี่น้องจะสบายๆและไม่เป็นระเบียบ

มีเพียงเมื่ออยู่กับคนที่คุณรักและไว้วางใจมากที่สุดเท่านั้นที่คุณจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาโดยไม่สนใจอะไร

“มา มานี่ เดินเร็วขึ้นหน่อย…” ฉันทัชยืนอยู่กับที่ หันหลังให้ยู่ยี่ ร่างสูงโค้งตัวเล็กน้อย แขนพยุงเข่าที่งอ ภาพด้านหลังสูงมาก แผ่นหลังเขากว้างตรง ให้ความรู้สึกมั่นคงอย่างบอกไม่ถูก

“ฉันหัวเราะจนเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว ขาอ่อนแรงไปหมด” จนถึงตอนนี้ เธอยังคงนึกถึงสายตาของสองนั้นตอนจากไปออก

“คนดี ทนอีกหน่อย เดิมมาข้างๆผม ผมจะแบกคุณกลับคอนโด” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนขณะเกลี้ยกล่อม

ยู่ยี่กอดท้อง ท่าแบบนั้นไม่ค่อยดี “ไม่ได้ มันจะกดใส่ลูก”

ฉันทัชยืนตรงขึ้นอีกครั้งเดินไปด้านข้างเธอ เอื้อมมือออกไปจับเธอ ชายร่างกำยำอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าหญิงในอ้อมแขน กางเกงสูทห่อหุ้มขายาวมีเสน่ห์ที่กำลังก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างมั่งคงและสงบไว้ภายใน

“ฉันลงดีกว่า ฉันเดินเองได้ ตอนนี้ฉันท้องอยู่มันหนัก” เธอเอาสองแขนโอบรอบคอเขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา น้ำหนักของทั้งสองคนไม่ใช่เรื่องตลก

“สิ่งที่ผมอุ้มอยู่ตอนนี้คือทั้งชีวิต ความรับผิดชอบ และความสุขทั้งหมดของผมในอนาคต ผมอยากสัมผัสว่าความรับผิดชอบและความสุขนี้มันหนักแค่ไหน ตอนนี้ผมถึงรู้แล้วว่ามันไม่ได้หนักขนาดนั้น ผมจะดูแลมันเป็นอย่างดี” เขาเอ่ยปาก ไม่ยอมปล่อย เขาอยากจะสัมผัสน้ำหนัก “ผมคิดว่าอุ้มโลกทั้งใบก็ไม่ได้หนักอะไร…”

หัวใจยู่ยี่อบอุ่น อบอุ่นไปทั้งร่างกาย เธอเข้าใจว่าเขากำลังให้สัญญา สัญญากับเธอ

“กะล่อน…” เธอหรี่ตายิ้มให้เขา “เมื่อก่อนก็พูดคำหวานแบบนี้เหรอ? บอกมาตามความจริงนะว่าคุณไปเรียนรู้คำเหล่านี้มาจากไหน!”

“เมื่อความรักมันลึกซึ้ง ก็ไม่จำเป็นต้องจงใจไปเรียนมาหรอก คำพูดเหล่านั้นจะไหลออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเสมอ…” ดวงตาลึกล้ำของเขามองเธออย่างลึกซึ้ง

เมื่อก่อนเขามักจะรู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้มันน่าขนลุก และไม่สามารถพูดออกมาได้ มาถึงตอนนี้เขาพูดมันออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนแม้แต่ตัวเองก็ต้องประหลาดใจ เขารู้สึกว่านิสัยของเขาเปลี่ยนไป

มักมีคำกล่าวว่าในวัยสามสิบ ไม่ว่าจะเป็นจิตใจ การคิด หรือความคิดล้วนเบาๆบางลง ตอนนี้ถึงรู้สึกว่าความคะนองและความใจร้อนวู่วามสมัยวัยรุ่นมันเหมือนกันไม่มีผิด

ยู่ยี่ถอนหายใจเบาๆ รู้สึกว่าเขาเป็นหายนะจริงๆ เธอเชิดหน้าขึ้นจูบริมฝีปากและคางของเขาอย่างถี่ยิบ

ฉันทัชกลืนน้ำลาย ครางไม่หยุด แต่เธอกลับตีหน้าอกเขาเบาๆ “อุ้มให้มั่นคง ไปกันเถอะ”

ช่วงนี้ซาฮาร่าอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ภูษาธร สีหน้าดีมาก ไม่รู้ว่ามีเรื่องดีอะไร อะไรเกิดขึ้น อารมณ์และสีหน้าเธอดูแตกต่าง ยังดูมีความสุขมากๆเสมอ เธอแต่งตัวสบายๆกว่าเดิม และไม่ใส่รองเท้าส้นสูงอีก

บัญชียังไม่ทันได้เปิด เรนนี่ก็ไม่ทางส่งหมายเลขบัตรและข้อมูลให้รัดเกล้าได้ วันนั้นลูกพี่ลูกน้องกับคุณย่าไปช้า ธนาคารจึงปิดแล้ว

หลายวันมานี้ขาของคุณย่าไม่ค่อยสบายนัก ต้องนอนในโรงพยาบาล จึงไม่มีเวลาไปธนาคาร

อยู่ในห้องเดียวกันกับซาฮาร่าแต่กลับไม่ได้ทักทายกัน ท่าทีของซาฮาร่านั้นเย่อหยิ่งเกินไป เรนนี่ก็ย่อมไม่ชอบ

หลังจากที่หัสดินกลับมาในตอนค่ำ เขาบอกเธอว่าอีกสองวันจะไปตรวจที่โรงพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญมาถึงแล้ว

จากนั้นในมื้ออาหารนี้เรนนี่จึงกินไม่ค่อยลงนัก

กลับมาถึงห้อง เธอยิ่งนอนไม่หลับ ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อวิกฤติเช่นนี้ ใครยังจะนอนได้ลง?

เรนนี่กัดนิ้ว หายใจออกยาวๆและหายใจเข้ายาวๆอีกครั้ง มิฉะนั้นเธอกลัวว่าตัวเองจะหายใจไม่ออกตาย

หนทางข้างหน้าเป็นทางตัน และข้างหลังไม่มีทางให้ถอยแล้ว ดังนั้นเธอจึงติดอยู่ในช่องว่างระหว่างก้อนหินอยู่แบบนั้น กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำได้เพียงรอติดอยู่ตรงกลางตาย

ในที่สุดเธอกำลังจะถูกบีบจนเป็นบ้า เรนนี่หยิบชุดกระโปรงออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้วฉีกไม่หยุด

มีเพียงการระบายอารมณ์แบบนี้เท่านั้นที่จะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ไม่เป็นลมเพราะความเครียดจนหายใจไม่ออกไปเสียก่อน

เธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าตอนนี้เรื่องได้ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ต้องนำมาตรการมาใช้ เลือกวิธีการที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับตัวเธอเองตามเงื่อนไขที่มีอยู่

การหย่าย่อมต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่มีทางหนีพ้น

งั้นการสู้เพื่อเงินก้อนสุดท้ายเพื่อตัวเองละกัน หลังจากผลการตรวจออกมาว่าไม่ใช่ลูกของหัสดิน แสดงว่าเธอนอกใจเขา

นอกใจ อย่าคิดว่าจะได้เงินแม้แต่แดงเดียว!

สุดท้ายย่อมลงเอยด้วยไม่มีสินสมรสให้แบ่ง ดังประโยคที่ว่า ใช้ตะกร้าไม้ไผ่ตักน้ำมีเพียงความว่างเปล่า ความพยายามก็จะสูญเปล่า

หากเด็กแท้ง เขาก็จะไม่มีหลักฐานการนอกใจของเธอ การหย่าของทั้งสอง เธอสามารถได้รับทรัพย์สินบางส่วนของเขา ไม่ว่ามากหรือน้อย ก็จะมีส่วนที่เป็นของเธอแน่ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

หลังจากผ่านการชั่งน้ำหนักผลประโยชน์เช่นนี้ ความคิดบางอย่างก็ค่อยๆปรากฏขึ้น ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ และแน่วแน่มากขึ้นเรื่อยๆ…

จากนั้นมือของเรนนี่ก็ตกลงไปที่ท้องที่ยังไม่นูนขึ้น จากนั้นต้องฆ่าทิ้ง!

เธอท้องได้ประมาณสองเดือน ครั้งแรกท้องได้หนึ่งเดือน ครั้งที่สองท้องได้สองเดือน ลูกคนแรกตายในมือเธอ และตอนนี้ลูกคนที่สองกำลังจะตายในมือเธอเช่นกัน

แต่สีหน้าของเธอกลับสงบมาก เมื่อตัดสินใจได้แล้วเธอก็สงบลง

เรนนี่นอนไม่หลับทั้งคืน ช่วงนี้เธอนอนได้ไม่เต็มอิ่มทุกคืนมากว่าครึ่งเดือน ทุกคืนเธอต้องพึ่งยานอนหลับในการนอน

แม้แต่เธอก็ยังพบรอยคล้ำใต้ตา ซึ่งมันเข้มมาก ผิวเริ่มหมองคล้ำ เหลืองเล็กน้อย

ความจริงไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความทรมานทางจิตใจ กลางคืนนอนไม่หลับ กินไม่ค่อยได้ การทรมานแบบนี้มันบ้าที่สุด

เช้าวันรุ่งขึ้น

เธอผลักประตูห้องเปิดออก เดินออกไปก็บังเอิญเจอซาฮาร่าที่เดินผ่านมาพอดี

เธออารมณ์ดีมากจริงๆ ปากยังคงฮัมเพลงอยู่ ทันทีที่เห็นเรนนี่ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนกะทันหันจมูกของเธอเชิดขึ้นอย่างเย็นชา

เรนนี่ที่เดิมทีอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เรียกได้ว่าอารมณ์เสียมาก พอซาฮาร่าแสดงสีหน้าเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของเธอเดือดพล่านไปอีก!

เธอทำสีหน้าอะไร?

อวดดีอะไร?

มาทำสีหน้าต่อหน้าใคร ถ้าไม่ใช่แผนการของรัดเกล้า ตอนนี้เธอจะตกต่ำถึงขั้นนี้เหรอ?

เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ที่เธอเคยต่อยเตะเธอ แล้วยังข่วนเป็นรอยแผล ในใจเรนนี่ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

หลังจากครุ่นคิดดูแล้วสายตาเธอก็ดูแปลกไป ยังไงซะก็ไม่ได้ตั้งใจจะเก็บเด็กในท้องอยู่แล้ว ตายด้วยน้ำมือของคนอื่นยังดีกว่าตายด้วยน้ำมือเธอ ค่อยดึงคนไปตายแทน ไปรับโทษร่วม ยังไงซะเธอก็ไม่มีอะไรจะเสีย ซาฮาร่าสมควรได้รับบทเรียนที่เธอชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่!

ซาฮาร่าเดินไปข้างหน้า เธอเดินตามหลัง เมื่อเดินไปถึงหน้าบันไดบนชั้นสอง

ขณะเดินมาถึงหน้าบันไดชั้นสอง จู่ๆเรนนี่ก็เร่งฝีเท้าจงใจเหยียบเท้าซาฮาร่าอย่างแรง

ซาฮาร่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ใช้มือทั้งสองข้างผลักร่างของเธอไปข้างหน้าอย่างแรงโดยไม่เกรงใจ

เรนนี่เดินเซ ยืนไม่ทันมั่นคงจึงล้มไปข้างหน้าทันที ในขณะที่เธอกำลังล้มลง เธอก็ไม่ลืมที่จะจงใจเอาส้นเท้ามาเกี่ยวข้อเท้าของซาฮาร่าไปด้วย

ซาฮาร่าไม่ได้ยืนอย่างมั่นคงอยู่แล้ว นิ้วเท้าข้างหนึ่งยังเขย่งอยู่ เมื่อถูกเกี่ยวแบบนี้ ร่างกายก็ล้มไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่อยู่ จึงกระแทกเข้าใส่เรนนี่พอดี

บันไดชั้นสองยาวมาก มีมุมสองมุม พอทั้งสองล้มตกบันไดจากชั้นบนกลิ้งลงมาแบบนั้น ท้องก็ชนกับขั้นบันไดสูงชันเป็นครั้งเป็นคราว หัวก็ชนเป็นครั้งเป็นคราว เจ็บจนหน้าซีดเผือด ไม่มีใครดีไปกว่าใคร