พิธีกรงานแต่งมาถึงงานนานแล้ว เริ่มพูดคำอวยพรประกอบเสียงดนตรี

ในห้องโถงมีคนนั่งอยู่มากมาย ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนและญาติคนสนิทของทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีนักเรียนและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยหัวหนานอยู่เยอะเหมือนกัน

“ดูคนที่อาจารย์เจียงรู้จักสิ โหๆ ดีจริงๆ!” จี๋ต๋าจิ่วตูเอ่ยชม

“เราหาที่นั่งกันเถอะ” มู่หรงยานเอ๋อร์พูด

“อืม” สองสามคนพยักหน้าเห็นด้วย

พวกเฉินโม่เลือกนั่งโต๊ะตรงมุม งานแต่งคึกคักมาก ไม่มีตรงไหนเงียบสงบเลย อันที่จริงนั่งตรงไหนก็เหมือนกัน

“ขบวนรถที่ไปรับเจ้าสาวกลับมาหรือยัง” เล่หรูหั่วถามออกมา

“น่าจะยัง ถ้ากลับมาคงมาที่นี่แล้ว” เจี่ยจวินเซี่ยพูด

กู่หลินเฟิงดูเวลา แล้วพูดว่า “น่าจะใกล้กลับมาแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงจะสิบโมงแล้ว เวลานี้ก็สายมากแล้วนะ”

“อืม” จี๋ต๋าจิ่วตูกับห่าวเจี้ยนและคนอื่นพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของกู่หลินเฟิง

เฉินโม่นั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้ เขากำลังคิดว่าถ้าเจ้าบ่าวไม่ใช่คนเดิมเหมือนชาติก่อน เขาจะขัดขวางงานแต่งของเจียงอี่ว์เวยดีไหม

ชาติก่อน การตายของเจียงอี่ว์เวย เกี่ยวข้องกับคนกากเดนนั่นเกือบครึ่ง ถ้าครั้งนี้เจ้าบ่าวไม่ใช่เขา งั้นโชคชะตาของเจียงอี่ว์เวยจะไม่เหมือนชาติก่อนหรือเปล่า

เสียงประทัดขัดจังหวะความคิดของเฉินโม่ จี๋ต๋าจิ่วตูพูดอย่างยินดีว่า “ขบวนรถกลับมาแล้วแน่ๆ อยากเห็นอาจารย์เจียงในชุดเจ้าสาวจัง!”

จี๋ต๋าจิ่วตูสีหน้ารอคอย ดวงตาเล็กเป็นประกายแวววาว นักเรียนชายจำนวนมากในงาน ก็มีความคิดเดียวกับจี๋ต๋าจิ่วตู เพราะความงามของเจียงอี่ว์เวย ได้รับการยอมรับจากทั้งมหาวิทยาลัย

เจียงอี่ว์เวยในชุดเจ้าสาวสีขาว โดนชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งจับมือ เดินช้าๆ เข้ามาในห้องโถง

ในงานมีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นทันที ส่วนใหญ่มาจากนักเรียนมหาวิทยาลัยหัวหนาน วัยรุ่นช่างมีพลังจริงๆ

ต่างพูดกันว่าผู้หญิงสวมชุดเจ้าสาวงดงามที่สุด วันนี้ไม่ต้องสงสัยเลย วันนี้คงเป็นวันที่เจียงอี่ว์เวยสวยที่สุดในชีวิต

ใบหน้าเจียงอี่ว์เวยมีรอยยิ้ม เฉินโม่มองออกว่านั่นคือรอยยิ้มแห่งความสุข

แต่สีหน้าเฉินโม่กลับไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้เจียงอี่ว์เวยแต่งงานเร็วขึ้นสองปี แต่เจ้าบ่าวยังเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยน ยังเป็นคนกากเดนเหมือนชาติก่อน

บางทีเมื่อชาติที่แล้ว ตอนเจียงอี่ว์เวยเพิ่งแต่งงาน ก็คงมีความสุขมากเหมือนกัน!

พูดตามตรง คนกากเดนแซ่ไช่คนนั้น หน้าตาหล่อเหลามาก สูง 180 เซนติเมตร รูปร่างสมส่วน เหมือนคนอายุน้อยที่หล่อและน่ารัก

แต่รู้หน้าไม่รู้ใจ เกรงว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่าผู้ชายหล่อคนนี้ เป็นคนกากเดนอย่างสมบูรณ์แบบ

พิธีกรเริ่มดำเนินพิธี ยังคงเป็นบทพูดแบบเดิมๆ เหมือนงานแต่งทุกงานต้องมีลำดับขั้นตอนแบบนี้

ไม่นาน งานแต่งเข้าสู่ช่วงแลกแหวนแต่งงาน

ในห้องโถงใหญ่ คนเริ่มพากันเงียบลง มองทั้งสองคนที่ใกล้จะแต่งงานกันอย่างสมบูรณ์ มอบคำอวยพรจากใจจริง

ไม่มีใครสังเกต เฉินโม่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เดินไปทางเวที

มู่หรงยานเอ๋อร์พูดอย่างสงสัย เหมือนเพิ่งรู้ตัว “เฉินโม่ นายทำอะไรน่ะ”

เล่หรูหั่วมองเฉินโม่ ความสงสัยฉายขึ้นในแววตา

เฉินโม่หันมายิ้มให้มู่หรงยานเอ๋อร์ พูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันจะไปมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้อาจารย์เจียง!”

“เฉินโม่ นายอย่าก่อเรื่อง วันนี้เป็นวันมงคลของอาจารย์เจียง จะให้ของขวัญก็ควรไปด้านนอก!” จี๋ต๋าจิ่วตูพูดเกลี้ยกล่อม เขาคิดว่าเฉินโม่มักมากจริงๆ มีมู่หรงยานเอ๋อร์กับเล่หรูหั่วแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะคิดอะไรกับอาจารย์เจียงอีก

“พวกนายวางใจเถอะ ฉันมีเพียงเจตนาดี” พูดจบ เฉินโม่ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วเดินไป

เสียงพิธีกรดังขึ้นอย่างก้องกังวาน “……ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือยากจน เธอต้องไม่ทอดทิ้งเขา เธอยอมรับไหม”

เจียงอี่ว์เวยกำลังจะตอบ เสียงเฉินโม่ดังขึ้นอย่างราบเรียบ “เดี๋ยวก่อน!”