“เมืองเล็กๆ หยางหลิวสุ่ย กลิ่นหอมของหลิวสีเข้มยิ่งเบาบาง ร้องบทเพลงเศร้าจบคะนึงหา ชื่อบทเศร้าแต่ใบหน้าแดงระเรื่อ เมื่อจุดโคมไฟ ความรู้สึกยิ่งมากขึ้น หลังแยกจากกันยังไงก็มีโอกาสพบเจอ ราตรีภิรมย์ไร้ซึ่งทางเลือกเหมือนปลายฤดูใบไม้ผลิ เหลือเพียงดอกไม้ร่วงลงบนอาคารว่างเปล่า”

บทกลอนหนึ่งบท ข้อความหนึ่งบท คือทุกสิ่งบนป้ายศิลาเทพฝน

ไม่จำเป็นต้องมอง ตัวอักษรพวกนี้เข้าไปในหัวลู่ฝานทั้งหมด

สิ่งที่เหมือนกันคือ ประโยค “มีชีวิตใช่ว่าจะสุขเสมอไป ตายใช่ว่าจะทรมานเสมอไป” ลอยวนไม่หยุด

แสงสีฟ้าทะลักเข้ามาในตัวลู่ฝาน เหมือนน้ำฝนชำระล้างทุกอย่าง กวาดปราณชี่ในตัวลู่ฝานอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้สติของลู่ฝานใกล้หายไปแล้ว ขณะนั้นสิ่งที่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรให้เขาเตรียมเอาไว้ ได้ใช้ประโยชน์จริงแล้ว

ลูกแก้วว่างเปล่าในมือเขามีแสงสว่างขึ้น ดูดแสงสีฟ้าที่เข้ามาในตัวลู่ฝานอย่างรวดเร็ว ลายมังกรที่เลื้อยบนตัวลู่ฝาน นำพลังส่วนหนึ่งถ่ายโอนไปยังลูกแก้วมังกรในมือลู่ฝาน

ลูกแก้วสองลูกส่องแสงระยิบระยับ ช่วยลู่ฝานบรรเทาแรงกดดัน

ปราณชี่ในร่างกายเริ่มต่อต้าน กันไม่ให้แสงสีฟ้าเข้ามาอย่างสุดชีวิต

ตอนนี้ในหัวลู่ฝาน เสียงค่อยๆ หายไป

ถูกแทนที่ด้วยฝนตกหนัก

ฝนตกในร่างกายลู่ฝาน ตกในใจลู่ฝาน แค่ครู่เดียว ลู่ฝานรู้สึกเย็นถึงกระดูก ไม่ใช่ความเย็นของน้ำแข็ง แล้วก็ไม่ใช่ความเย็นเข้ากระดูกเหมือนสายลมยามค่ำคืน แต่เป็นความเย็นของฝนตกปรอยๆ อย่างยาวนาน

ในที่สุดแสงสีฟ้าหายไป ลู่ฝานว่างเปล่าทั้งตัว หลังจากนั้นล้มลงไปบนพื้นน้ำ

ลูกแก้วสองลูกในมือหายไปเอง มันเข้าไปในตัวลู่ฝาน

ลู่ฝานไม่ได้จมลงไปในน้ำ แต่ลอยอยู่บนน้ำ

ไหลไปตามกระแสน้ำ น้ำสีดำลากตัวลู่ฝานลอยไปข้างหินโสโครก

กระทั่งตอนนี้ คนบนหินโสโครกเดินเข้ามาดู แล้วดึงลู่ฝานขึ้นมา

ลู่ฝานรู้สึกว่าไม่สามารถขยับตัวได้ ความเจ็บปวดถูกส่งมายังแขนขาและกระดูก ชายคนหนึ่งแบกลู่ฝานขึ้นมา แล้วเดินกลับไป

เสียงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังขึ้น

“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ฉันนึกออกแล้ว ป้ายศิลาเทพฝน คือสมบัติที่ท่านเทพอักษรทิ้งไว้ เจ้านายอาจไม่รู้ว่าท่านเทพอักษรคือใครสินะ ฉันจะอธิบายให้ฟัง ท่านเทพอักษรคือขุนพลังสุดเหนือฟ้าท่านหนึ่งในตำนาน ท่องไปในใต้หล้าอย่างไร้เทียมทาน”

ลู่ฝานพูดอย่างหมดแรง “แกนึกออกตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “ไม่เป็นไร ยังดีที่เมื่อกี้เจ้านายเตรียมตัวไว้ แม้พลังที่ท่านเทพอักษรหลงเหลือไว้จะแกร่งกล้า แต่ยังไม่พอให้ฆ่าคุณ อีกทั้งโดนพลังชำระล้างของท่านเทพอักษร เจ้านายรู้สึกว่าร่างกายตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเยอะไหม”

ลู่ฝานยังสัมผัสไม่ได้ว่าร่างกายตัวเองแข็งแกร่งขึ้น รู้เพียงว่าทั้งตัวไร้เรี่ยวแรง อ่อนเพลียไปทั้งตัว

ชายคนหนึ่งแบกลู่ฝานเดินมาหน้าห้องที่สร้างจากหินโสโครกสองสามห้อง สะบัดมือโยนลู่ฝานลงบนพื้น

“โอ๊ะ มีคนใหม่มาอีกแล้ว หาได้ยากๆ ดูการแต่งตัวเขาไม่เลว น่าจะเป็นคนรวย หวังว่าจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง!”

“เสื้อผ้าเขาเป็นของฉัน ให้ตายเถอะ บนตัวฉันแทบจะไม่มีเศษผ้าปิดร่างกายแล้ว ใครกล้าแย่งฉัน ฉันจะบีบให้เละเป็นผง”

“ฉันจะเอากระบี่ของเขา ใหญ่มาก มีสไตล์มาก เป็นหลังคาบ้านให้ฉันได้พอดี”