ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****227:**ไฟต้นกำเนิด
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ซ่งจงรู้สึกซึมเศร้าทันทีพร้อมกับพูดออกมา “นี่น่ะหรือคือสมบัติที่พวกเจ้ากล่าวถึง? เหตุใดข้าจึงมองไม่เห็นอะไรเลยล่ะ?”
“ฮ่าฮ่า อย่าเพิ่งกังวลไป นายท่านไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ใต้ดินงั้นหรือ?” แม่มดเทวะยิ้มออกมา
“อะไรกันที่แปลก?” ซ่งจงก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อสำรวจและหยิบดินขึ้นมาหนึ่งกำมือและใช้ความรู้สึกสำรวจมัน “อืม มันอุ่นกว่าดินทั่วไป แล้วยังไงต่อ?”
“ปราณจิตวิญญาณของดินในสถานที่แห่งนี้แปลกมาก มันโกลาหลอย่างมาก ดูเหมือนว่าจะมีองค์ประกอบธาตุทั้งห้าอีกด้วย!” แม่มดเทวะกล่าวออกมา “ในครั้งแรกที่เรามาพบสถานที่แห่งนี้ ข้าคิดว่าชื่อเรียกของสถานที่แห่งนี้คงจะเป็นพสุธาแห่งความโกลาหล!”
“พสุธาแห่งความโกลาหลงั้นเหรอ? สถานที่เช่นนี้มันคืออะไรกัน?”
“มันเป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครและจะก่อตัวอยู่ในรอบ ๆ บริเวณของภูเขาไฟที่ครุกรุ่นเท่านั้น มันจะมีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยหินแห่งธาตุทั้งห้า ด้วยการปะทุของภูเขาไฟ หินจิตวิญญาณจะถูกทำลายและปราณจิตวิญญาณจะพวยพุ่งออกมาเพื่อหลอมรวมกันเป็นปราณชนิดพิเศษ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ควรจะถูกเรียกว่าพสุธาแห่งความโกลาหล” แม่มดเทวะอธิบาย
“มันซับซ้อนจริง ๆ แล้วมันมีประโยชน์อะไรกันล่ะ?” ซ่งจงถาม
“หลังจากที่พสุธาแห่งความโกลาหลได้ก่อตัวขึ้น ได้มีการเล่าต่อกันว่าปราณจิตวิญญาณแรกเริ่มจะสลายหายไปและกลายเป็นดินธรรมดาในที่สุด แต่ก่อนที่พวกมันจะกระจัดกระจายกันไป มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกมันจะรวมตัวกันแล้วกลายเป็นไฟต้นกำเนิด มันสามารถใช้ปรับแต่งร่างกาย และทำให้ร่างกายของบุคคลนั้นแข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังของธาตุทั้งห้า นับได้ว่ามันคือความฝันของเหล่าผู้ฝึกตน!” แม่มดเทวะอธิบายอย่างตื่นเต้น
“มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่ที่ราบสีแดงนี้ว่างเปล่าโดยสมบูรณ์และข้ามองไม่เห็นไฟต้นกำเนิดอะไรเลย” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างกังวล “มันอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“โดยปกติแล้วไฟต้นกำเนิดมักจะเกิดขึ้นชั่วครู่เหนือพสุธาแห่งความโกลาหลก่อนจะหายไป ดังนั้นถ้าหากนายท่านต้องการปรับแต่งร่างกาย เป็นการดีที่สุดถ้าหากท่านจะค้นหามันด้วยตนเอง อา อาจจะมีไฟต้นกำเนิดมากขึ้นในช่วงกลางของสถานที่แห่งนี้” แม่มดเทวะตอบกลับ
“แล้วพวกเรารออะไรกันอยู่? ไปกันเถอะ!” ซ่งจงเสียเวลาไม่ได้อีกต่อไปแล้วพร้อมกับพุ่งไปที่ใจกลางของพสุธาแห่งความโกลาหลพร้อมกับเหล่าแม่มดเทวะทันที
สถานที่แห่งนี้มีรัศมีกว้างกว่าห้าร้อยลี้ และจุดกึ่งกลางห่างออกไปไม่กี่ร้อยลี้ ด้วยความเร็วของซ่งจง แน่นอนว่าทั้งหมดมาถึงสถานที่แห่งนี้ในเวลาไม่กี่นาที ในขณะที่ทุกคนมาถึง พวกเขาต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นทันที
สถานที่แห่งนี้มีแท่นบูชาสูงกว่าพันฟุต มันสร้างจากหยกขาวอยู่ที่ใจกลางของพสุธาแห่งความโกลาหล บนแท่นนั้นมีเสาไฟสีเทาสูงกว่าร้อยฟุต
เมื่อเห็นว่าไฟต้นกำเนิดนั้นอยู่ตรงหน้าของตนเอง ทั้งซ่งจงและแม่มดเทวะต่างสูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์
ซ่งจงถามออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“แน่นอนว่าถ้าหากไม่มีรูปแบบที่ยิ่งใหญ่ปกป้องมันไว้ จะต้องมีคนพบเจอมันแล้ว ผู้ฝึกตนผู้นั้นต้องการสร้างการก่อตั้งอย่างยอดเยี่ยมเพื่อปกป้องไฟต้นกำเนิด สวรรค์ เขาเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง จากที่ข้ารู้ไฟต้นกำเนิดนั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก และสำหรับผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมินั้นต้องใช้ถึงร้อยลูก แต่ที่แห่งนี้กลับมีไฟต้นกำเนิดหลายพันลูก หมายความว่ามันเพียงพอที่จะปรับแต่งร่างกายของผู้ฝึกตนระดับต้าเฉิงด้วยซ้ำ!” แม่มดเทวะกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
“แล้วข้าล่ะ?” ซ่งจงรีบถาม “ข้าต้องใช้เท่าไหร่?”
“อา ข้าขอคิดก่อนสักครู่ ร่างกายของนายท่านนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แม้แต่ราชาฉลามดำอสูรกายขั้นห้ายังไม่สามารถทะลวงผ่านร่างกายของท่านได้ ข้าคิดว่าร่างกายของท่านนั้นแข็งแกร่งเทียบกับผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน แน่นอนว่าถ้าหากเทียบกับผู้ฝึกตนประเภทเพาะกาย ท่านก็จะมีความแข็งแกร่งเทียบกับผู้ฝึกตนระดับจินตัน ถ้าหากจะให้เราประเมินว่าท่านจะใช้สักเท่าไหร่ ข้าคิดว่าจะต้องใช้สักสองถึงสามพันลูกเพื่อปรับแต่งร่างกายของนายท่าน ถ้าหากมากกว่านั้นก็คงสูญเปล่า!” แม่มดเทวะอีกคนตอบกลับ
“แล้วเราจะเอามันออกมายังไง?” ซ่งจงถามอย่างกังวล
“เราจะต้องมีสมบัติวิเศษ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถนำมันออกมาได้ ถ้าหากเราสามารถนำมันออกมาได้อย่างง่ายดาย บุคคลนั้นคงไม่ทิ้งมันไว้ที่นี่อย่างแน่นอน!” แม่มดเทวะกล่าวตอบ
“แล้วข้าจะดูดซับไฟต้นกำเนิดได้อย่างไร? เจ้าคงไม่ให้ข้ากระโดดเข้าไปในเสาไฟหรอก ใช่ไหม? ข้าคงถูกเผาไหม้จนตายตกไป!”
“ฮ่าฮ่า นายท่าน ไฟต้นกำเนิดนั้นไม่ใช่ไฟที่แท้จริง แต่พวกมันอยู่ในรูปแบบของไฟเท่านั้น มันเป็นเพียงรูปแบบของปราณจิตวิญญาณชนิดนึงและไม่มีอุณหภูมิสูงแต่อย่างใด อย่างน้อยมันก็จะไม่เผาใครตาย แต่ถ้าหากผู้ใดดูดซับมันมากเกินไป เส้นลมปราณของพวกเขาจะต้านทานมันไว้ไม่ไหว แน่นอนว่าเราต้องระวังในสิ่งนี้ด้วย!” แม่มดเทวะกล่าวตอบ
“แล้วข้าควรทำเช่นไร?” ซ่งจงถูมือต้นเองพร้อมกล่าวออกมาอย่างกังวล “เราไม่สามารถกลับไปมือเปล่าได้”
“แน่นอน!” เหล่าแม่มดเทวะเห็นด้วย หนึ่งในนั้นกล่าวออกมา “นายท่าน ถ้าหากท่านไม่คิดมาก พวกเราเหล่าพี่น้องสามารถปรับแต่งร่างกายพร้อมกับท่านได้ เพราะพวกเรามีร่างกายที่อยู่ในระดับเฟินเสิน พวกเราสามารถดูดซับไฟต้นกำเนิดจำนวนมากได้ กล่าวก็คือสิ่งใดที่ล้นออกมาจากท่าน เราจะสามารถดูดซับมันได้ทั้งหมด!”
“หา? พวกเจ้าก็สามารถใช้มันได้อย่างงั้นหรือ?” ซ่งจงตอบกลับอย่างตกใจ
“แน่นอน พวกเรานั้นมีร่างกายและสามารถฝึกฝนได้ เราสามารถใช้ร่างกายของตนเองได้ตามใจชอบ!” แม่มดเทวะล่าวออกมา “ถ้าหากนายท่านอนุญาตให้พวกเราปรับแต่งร่างกาย ไม่เพียงแต่ร่างกายของพวกเราจะแข็งแกร่งขึ้น แต่พวกเราจะสามารถเข้าสู่ระดับเลี่ยนจือได้อีกด้วยในอนาคต! อย่าบอกนะว่าท่านไม่ต้องการที่จะมีลูกน้องในระดับเลี่ยนจือไว้เพื่อช่วยเหลือ?”
“ตั้งแต่พวกเจ้ากล่าวออกมาเช่นนั้น แล้วข้าจะปฏิเสธเจ้าได้อย่างไรกัน! ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็จงปรับแต่งร่างกายด้วยกันเถิด!”
เนื่องจากเขาเป็นเจ้านายของภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า แม่มดเทวะเหล่านี้จะไม่สามารถหลบหนีเขาได้แม้ว่าพวกนางจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แน่นอนว่าเจ้าอ้วนไม่ได้กังวลอะไรเลย และมันจะมีประโยชน์กับเขาอย่างมากในอนาคต ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงอย่างไร้ข้อสงสัย
เมื่อเหล่าแม่มดเทวะได้ยินเช่นนั้น พวกนางดีใจจนกระทั่งส่งเสียงร้องออกมา พวกนางเริ่มกอดรัดซ่งจงและเริ่มที่จะถอดเสื้อคลุมเขาออก
“หยุด! มาทำสิ่งที่สำคัญตรงหน้าก่อน เราสามารถทำเรื่องนี้ในภายหลังได้!”
“นายท่านกำลังคิดอะไรอยู่? เมื่อเราต้องปรับแต่งร่างกาย ไฟที่รุนแรงเหล่านั้นมันจะเผาเสื้อผ้าของเรา!” แม่มดเทวะกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“อา เช่นนั้นหรือ! ข้านึกว่าเรากำลังหมายถึงเรื่อง….” ซ่งจงกล่าวต่ออย่างชั่วร้าย “ที่เราจะเปลื้องผ้าด้วยกัน?”
“แน่นอน!” เหล่าแม่มดเทวะตอบพร้อมกับและหัวเราะออกมา
“ฮี่ฮี่ ข้าไม่ต้องการให้หญิงสาวของข้าเหนื่อยล้ามากนัก ทำไมไม่ให้ข้าช่วยพวกเจ้าล่ะ!” ซ่งจงกล่าวออกไป มือของเขาพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความซุกซนพร้อมกับเปิดเผยร่างกายของหญิงงามทั้งเก้าอย่างเท่าเทียมกัน
“มาเถิดสาวน้อยทั้งหลาย!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายพร้อมกับกอดก่ายหญิงงามทั้งเก้าและเดินเข้าสู่ไฟต้นกำเนิด
ในขั้นตอนนี้ เหล่าแม่มดเทวะจับเขาไว้พร้อมกล่าวว่า “นายท่านรอก่อน!”
“ทำไม? เราต้องทำอะไรก่อนหน้าหรือไม่?” ซ่งจงถามออกมา
“ไม่ใช่สิ่งนั้น พวกเราต้องการบอกบางสิ่งที่สำคัญให้ท่านทราบ!” แม่มดเทวะตอบกลับอย่างอ่อนโยน
“อะไร?”
“เป็นเช่นนี้ นายท่านท่านได้รับสมบัติเมื่อสองสามปีก่อนเป็นลายเส้นสายธารโลหิตไม่ใช่หรือ?” แม่มดเทวะถาม
“ใช่ อาวุโสกล่าวไว้ว่าข้าจะสามารถใช้มันได้ก็ต่อเมื่อข้าเข้าสู่ระดับจินตันเท่านั้น! เหตุใดพวกเจ้าจึงกล่าวถึงมัน?”
“นายท่านแน่นอนว่าลายเส้นสายธารโลหิตมันสมบัติที่หายาก แต่มันก็มีข้อบกพร่อง มันถูกสร้างขึ้นมาจากเหล่าอสูรกาย ถ้าหากถูกผสานเข้ากับร่างกายมนุษย์ แน่นอนว่ามันจะต้องปฏิเสธ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ชัดเจน แต่ในเวลาต่อมาเรื่อยๆ ทุกสิ่งจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น ในเวลานั้นมันจะสร้างความอึดอัดให้กับผู้ฝึกตนและเริ่มส่งผลไม่ดีกับการต่อสู้! แม้ว่ามันจะเป็นอุปกรณ์ที่ดี แต่มีไม่กี่คนที่จะใช้มัน!”
“เป็นเช่นนั้นหรือ ไม่แปลกใจเลยที่อาวุโสนั่นยอมมอบมันให้กับข้า!” ซ่งจงกล่าวออกมาราวกับตนเองถูกหลอก
เมื่อแม่มดเทวะเห็นเช่นนั้น พวกนางทั้งหมดยิ้มและกล่าวว่า “นายท่านข้อบกพร่องของมันไม่ได้ร้ายแรงนัก ยังมีอีกหลายคนที่ชอบใช้มันเช่นกัน แต่สำหรับท่าน พวกข้าคิดว่าท่านสามารถลบข้อบกพร่องตรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์!”
“ว่าอะไร? ทำได้ยังไง?”
“โอกาสที่จะขัดเกลามันไปพร้อมกับร่างกายของท่านด้วยไฟต้นกำเนิด!” แม่มดเทวะตอบกลับ “ไฟต้นกำเนิดนั้นกล่าวได้กว่ามันสามารถปรับแต่งทุกสิ่งได้ หลอมรวมสิ่งต่าง ๆ ให้รวมกันได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งอาวุธ ถ้าหากท่านนำสมบัติชิ้นนี้เข้าสู่ไฟต้นกำเนิดด้วย แน่นอนว่ามันจะขัดเกลาจนข้อบกพร่องทั้งหมดหายไป ช่วยให้ท่านสามารถผสานกับมันได้อย่างสมบูรณ์!”
“แต่ในตอนนี้ข้าอยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นกลางเท่านั้น ซึ่งห่างไกลจากระดับจินตันมาก!”
“ไม่ใช่เช่นนั้น ท่านคิดผิด ผู้ฝึกตนท่านนั้นเขาไม่รู้สถานการณ์ของท่าน ในตอนนี้ท่านสามารถต่อสู้กับราชาฉลามดำได้ด้วยร่างกายของตนเอง ความแข็งแกร่งของร่างกายที่ท่านมีนั้นเกินกว่าระดับจินตันเสียอีก ในตอนนี้ท่านสามารถใช้มันได้โดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด!” แม่มดเทวะกล่าวอย่างรวดเร็ว
“งั้นหรือ? พวกเจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่หรือไม่?” ซ่งจงตอบกลับอย่างสับสน
“เราไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้เรายังอยู่ในระดับเฟินเสิน การฝึกฝนของเราและความรู้ที่มีนั้นมากกว่าอาวุโสของท่านมากนัก แล้วมันจะมีอะไรผิดพลาดได้?” แม่มดเทวะตอบกลับ
“ก็ได้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ข้าจะนำมันออกมา!” ซ่งจงกัดฟันพร้อมกล่าวต่อ “แล้วยังไง ข้าควรทำเช่นไรบ้าง?” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขาหยิบเอาเส้นสายธารโลหิตออกมาจากมิติลึกลับ
แม่มดเทวะรีบตอบ “นายท่าน หลังจากที่ท่านเข้าสู่ไฟต้นกำเนิดแล้ว หยดเลือดของท่านลงที่ตัวมัน จากนั้นเชื่อมต่อจิตวิญญาณของท่านกับมันหลังจากนั้นทุกอย่างจะดำเนินการต่อไปเอง!”
“เอาล่ะ ให้ข้าลอง! มาเถิด พวกเจ้าก็ไปพร้อมข้าเลย!” ซ่งจงกล่าวเช่นนั้น เขาถือเส้นสายธารโลหิตไว้พร้อมกับเข้าสู่เปลวไฟต้นกำเนิดทันที
หลังจากที่เข้าสู่ไฟต้นกำเนิด ซ่งจงไม่ได้รู้สึกร้อนแต่อย่างใด แต่เขากลับรู้สึกสบายใจแทน ราวกับปลาที่ว่ายน้ำอยู่ในบ่อ ซ่งจงคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะปฐมกาลแห่งความโกลาหลที่เขาใช้ฝึกฝน
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาไตร่ตรองเรื่องอื่น เขานั่งลงและกัดริมฝีปากตนเองพร้อมกับส่งเลือดไปที่เส้นสายธารโลหิตทันที หลังจากนั้นกระดองเต่าดำแตกสลายเกิดเป็นสายโลหิตมากมายล้อมรอบร่างกายของซ่งจง
ซ่งจงนั้นไม่รอช้า เขารีบจัดการปฐมกาลแห่งความโกลาหลทันที เส้นโลหิตที่อยู่ด้านนอกเริ่มวิ่งไปมาอย่างดุเดือดและแย่งชิงกันเข้าสู่ร่างกายของเขา
ในเวลานั้น ไฟต้นกำเนิดก็ได้เข้าสู่ร่างกายของเขาเช่นกันและมันเริ่มปรับแต่งทันที
เมื่อเห็นว่าซ่งจงกำลังปรับแต่งร่างกายกับไฟต้นกำเนิด เหล่าแม่มดเทวะก็ไม่รอช้าเช่นกัน พวกนางเข้าสู่ไฟต้นกำเนิดทันที
การปรับแต่งร่างกายด้วยไฟต้นกำเนิดนั้นยากลำบากมาก มันเหมือนกับการปรับแต่งโลหะ
ดังนั้น ซ่งจงใช้เวลาสองถึงสามวันที่จะดูดซับพลังของเส้นสายธารโลหิตเข้าไปได้จนหมดสิ้น หลังจากผ่านไปสามวันเสาไฟค่อย ๆ ลดขนาดลงตามเวลา จนท้ายที่สุดเสาไฟหายไปหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน
เมื่อเสาไฟต้นกำเนิดหายไปแล้ว ทั้งเกาะเริ่มสั่นไหวราวกับถูกยักษ์เขย่า
แผ่นดินไหวเช่นนี้ทำให้ทั้งหมดลืมตาขึ้นมา หลังจากที่ทั้งหมดได้เห็นภาพตรงหน้า ทุกคนตกใจทันที “สวรรค์ ไม่ดีแล้ว! เสาไฟต้นกำเนิดหายไป พสุธาแห่งความโกลาหลไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง ไฟใต้ดินนั้นไร้การปราบปราม แน่นอนว่ามันจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ!”
“หมายความว่าอะไร?” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างสับสน
“หมายความว่าภูเขาไฟจะระเบิดในสถานที่ที่เรายืนอยู่!” แม่มดเทวะอีกตนตอบอย่างรวดเร็ว
“สวรรค์ รีบหนี!” เมื่อซ่งจงเข้าใจทุกอย่างแล้ว เขาไม่สามารถสนใจเสื้อผ้าของตนเองได้ เขารีบออกไปทันทีพร้อมกับเหล่าแม่มดเทวะ
ระหว่างทางออก พวกเขาทั้งหมดเห็นปากปล่องภูเขาไฟเปิดออกและมีลาวาไหลออกมา แรงระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ลาวาพุ่งขึ้นมาสูงถึงสองพันฟุต
ซ่งจงนั้นโชคร้ายที่ลาวาปะทุขึ้นมาใต้เท้าของเขา เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะป้องกันตนเองจึงถูกโจมตีโดยลาวาของภูเขาไฟอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ในตอนนี้ซ่งจงคิดว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว มีกลับมีบางอย่างเกิดขึ้น แสงสีเขียวเปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเขา กลายเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ลาวาโดนร่างกายของเขา
ซ่งจงตกใจก่อนที่จะอุทานออกมา “ฮ่าฮ่า นี่คือลำแสงศักดิ์สิทธิ์ของเส้นสายธารโลหิต! ด้วยสิ่งนี้ข้าไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงกลัวการซุ่มโจมตีในอนาคตอีกแล้ว!”
เมื่อเหล่าแม่มดเทวะเห็นเช่นนั้น ทุกคนร่ำร้องออกมาอย่างยินดี “ยินดีด้วยนายท่าน!”
“พวกเจ้าก็เช่นกัน!” ซ่งจงหัวเราะ “ผิวของพวกเจ้านั้นเรียบเนียนและเปล่งประกายไปด้วยออร่า แน่นอนว่าการฝึกฝนของพวกเจ้าจะต้องคืบหน้าไปอย่างมาก ใช่ไหม?”
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณนายท่าน!” เหล่าแม่มดเทวะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม