บทที่ 633 ผมเป็นคนที่ใจกล้าเสมอมา

Mars เจ้าสงครามครองโลก

“งั้นก็หักขาทั้งสองข้างเถอะ”

เย่เซิ่งเทียนพยักหน้า

เมื่อคนตระกูลหลี่ได้ยินประโยคนี้ พวกเขายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง

“เขาดื้อรั้นมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงได้ขี้ขลาดแล้วล่ะ?”

“ฮ่า ๆ เป็นแค่เขยแต่งเข้าคนหนึ่งเท่านั้น คิดว่าเขาจะดื้อรั้นขนาดไหน? เมื่อก่อนอาศัยว่าตนเองต่อสู้เก่ง และมีคุณท่านคอยสนับสนุน ตอนนี้คุณท่านไม่สนับสนุนแล้ว เขาต่อสู้เก่งแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ในโลกนี้ไม่ใช่แค่กำปั้นแข็งแกร่งก็สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้”

“ธุรกิจของตระกูลถูกตรวจสอบและอายัด คุณท่านผิดหวังกับครอบครัวของพวกเขามาก คุณท่านมองคนผิด และเป็นไปไม่ได้ที่คุณท่านจะปกป้องพวกเขาอีก ตอนนี้คุณท่านวางมือไม่สนใจอะไรอีกแล้ว พวกเขายังจะผยองได้อีกไหม?”

คนตระกูลหลี่กล่าวเย้ยหยันและคำพูดนั้นรุนแรงมาก

แต่พวกเขาลืมไปว่าก่อนหน้านั้นตอนที่ตระกูลหลี่กำลังจะถูกทำลาย ใครเป็นคนที่ช่วยออกหน้าแก้ไขวิกฤติให้ตระกูลหลี่

ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เซิ่งเทียน พวกเขาถูกเซี่ยหมิงหลี่ฆ่าตายไปนานแล้ว และจะมีโอกาสกล่าวเยาะเย้ยพวกเขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

หวางซีมองคนกลุ่มนี้ด้วยความโมโห เธอไม่สนใจตำแหน่งประธานหลี่ซื่อกรุ๊ปแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าตำแหน่งนี้จะถูกแย่งไป และถูกยึดอำนาจ เธอก็ไม่สนใจเช่นกัน

เรื่องที่เธอโมโหคือคนกลุ่มนี้เนรคุณ ไม่คิดถึงบุญคุณก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อย

เดิมทีตระกูลหลี่กำลังจะถูกทำลายแล้ว!

เย่เซิ่งเทียนเป็นคนช่วยพวกเขาเอาไว้!

เย่เซิ่งเทียนเป็นคนแก้ไขวิกฤติของตระกูลหลี่!

ตอนนี้พวกเขากลับได้ทีขี่แพะไล่ แล้วเธอจะไม่รู้สึกโกรธได้อย่างไร

“พวกคุณมันเป็นคนเนรคุณ หาไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของเซิ่งเทียน พวกคุณถูกเซี่ยหมิงหลี่ฆ่าตายแล้ว และตระกูลหลี่ก็ถูกทำลายไปแล้ว แต่ตอนนี้พวกคุณกลับมาพูดถากถางอยู่ที่นี่ พวกคุณช่างไร้ยางอายจริง ๆ”

หวางซีกล่าวด้วยความโมโห

“หยุดพูดเรื่องไร้ประโยชน์พวกนี้ได้แล้ว!”

หลี่เผิงเฉิงหัวเราะเยาะ “พวกเราขอให้เย่เซิ่งเทียนช่วยเหลือเหรอ? เขาเป็นฝ่ายเสนอตัวช่วยเอง! เป็นแค่เขยแต่งเข้าคนหนึ่งเท่านั้น การที่เขาสามารถทำงานให้ตระกูลหลี่ได้ ถือว่าเป็นวาสนาของเขาแล้ว! เอาล่ะ! หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อพวกเธอกลัวแล้ว งั้นก็คุกเข่าและยอมรับการลงโทษ! แค่หักขาทั้งคู่ของแกเท่านั้น ไม่ได้เอาชีวิตของแก”

“ถูกต้อง แค่หักขาทั้งคู่ของแก ถือว่ายั้งมือไว้ไมตรีแล้ว”

“ฮึ่ม ตามที่ผมบอก หักแขนและขาทั้งสี่ มันถึงจะ……”

คลิก!

“โอ๊ย……”

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะพูดจบ ก็ได้ยินกระดูกหัก จากนั้นก็ตามด้วยเสียงกรีดร้อง ทำให้ทุกคนขนลุกไปทั้งตัว!

พวกเขามองตามเสียง เห็นขาทั้งคู่ของหลี่เผิงเฉิงบิดเบี้ยวไปข้างหน้า แล้วคุกเข่าลงบนพื้น

ขาทั้งคู่ของหลี่เผิงเฉิงพับอยู่ด้านหน้า ถูกตีจนขาหักแล้ว!

ซู่!

โหดเหี้ยมมาก!

พวกเขามองเย่เซิ่งเทียนทันที

เย่เซิ่งเทียนชักเท้าขวากลับมา และกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “แน่นอนว่าการหักขาทั้งคู่เป็นการลงโทษเบาที่สุดแล้ว เพื่อเห็นแก่หน้าคุณท่าน นี่เป็นเพียงการสั่งสอนเท่านั้น ถ้าใครกล้าพูดมากอีก ผมก็จะหักแขนและขาของเขา”

อะไรกันนี่?

เวลาเช่นนี้ เขายังกล้าข่มขู่คนอีก เขาเอาความมั่นใจมาจากไหน!

หลี่กั๋วเฉียงยืนขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จ้องมองเย่เซิ่งเทียนจนตาแทบถลนออกมา!

หลานชายของเขาถูกเย่เซิ่งเทียนตีขาทั้งคู่หักต่อหน้าเขา!
“แกใจกล้ามาก กล้าตีขาทั้งคู่ของหลานชายฉันหัก!”

“ดูเหมือนว่าแกไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”

“ไอ้พวกคนแก่ที่ไม่รู้จักเคารพตนเอง ผมเป็นคนที่ใจกล้ามาโดยตลอด คุณเพิ่งรู้เหรอ?”

เพี๊ยะ!

เย่เซิ่งเทียนยกมือขึ้นแล้วตบไปที่หน้าของหลี่กั๋วเฉียง

คุณท่านต้องการนำพาตระกูลหลี่ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ดังนั้นเขาจึงให้ซีเอ๋อร์มาบริหารหลี่ซื่อกรุ๊ป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้สถานะของตนเอง แต่เขาน่าจะคาดเดาได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเช่นนั้น…..

แต่ไอ้พวกคนแก่อย่างหลี่กั๋วเฉียง ไม่เพียงไม่ได้ช่วยเหลือสักนิด กลับเนรคุณและเป็นตัวถ่วง กับคนภายนอกนั้นเหมือนหมาหงอยที่ตายไปแล้ว แต่กับญาติตนเองกลับเหมือนหมาที่ดุร้าย

เย่เซิ่งเทียนเกลียดคนประเภทนี้มากที่สุด