บทที่ 634 หมากัดกันเอง เจ็บหนักทั้งคู่

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 634 หมากัดกันเอง เจ็บหนักทั้งคู่
การตบคราวนี้ของเย่เซิ่งเทียนรุนแรงมาก ทำให้หลี่กั๋วเฉียงนอนอยู่บนพื้น เดิมฟันที่เหลือเพียงไม่กี่ซี่ ตอนนี้หลุดออกมาหมดแล้ว

การตบคราวนี้ ทำให้ทุกคนดูเหมือนจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดและมุมปากกระตุก

หลี่กั๋วเหว่ยจับแก้มซ้ายของตนเองโดยไม่รู้ตัว เมื่อสักครู่เขาถูกเย่เซิ่งเทียนตบไปหนึ่งที ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง

เดิมทีเขาอยากจะดุด่าอีก แต่เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เขาก็หุบปากทันที

ไอ้สัตว์เดรัจฉาน กล้าลงมือทำร้ายคนจริง ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาเป็นผู้อาวุโส แต่เย่เซิ่งเทียนก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย

“ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

เย่เซิ่งเทียนมองคนของตระกูลหลี่

ดวงตาของหลี่เฟิงเปล่งประกาย เขารู้ว่าคนบ้าระห่ำอย่างเย่เซิ่งเทียนจะต้องลงมือ ดังนั้นหลังจากยุยงเมื่อสักครู่แล้ว เขาก็รู้ว่าควรหุบปาก

แต่หลี่เผิงเฉิงแกว่งเท้าเข้าหาเสี้ยนเอง ยืนกรานที่จะแข็งกร้าวกับเย่เซิ่งเทียน ซึ่งมันเป็นการรนหาความตาย?

ความจริงแล้วหลี่เฟิงรู้สึกมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่นอยู่ในใจ ไอ้แก่หลี่กั๋วเฉียงถือโอกาสคราวนี้เรียกร้องผลประโยชน์จากเขามากมาย ไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย

เขารู้ว่าเย่เซิ่งเทียนอาจจะลงมือทำร้ายคน แต่หลี่เฟิงก็ไม่อยากเตือนพวกเขา

“โอ้ เรื่องราวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? มีอะไรก็คุยกันดี ๆ ไม่จำเป็นต้องลงมือทำร้ายคน ผมคิดว่าเรื่องนี้ให้มันจบเถอะ เพราะการขับไล่ครอบครัวของหวางซีออกจากตระกูลหลี่ ถือเป็นการลงโทษแล้ว พวกเราเป็นตระกูลใหญ่ ไม่ควรจะเป็นคนใจคอคับแคบ”

หลี่เซิ่งที่สังเกตการณ์อย่างเงียบ ๆ ขณะนี้เขายืนขึ้นและพูดไกล่เกลี่ยเพื่อสร้างความสันติ

เขาเป็นตัวแทนญาติสายรองของตระกูลหลี่ และเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ เขารู้ดีว่าความคิดเห็นของตนเองไม่มีผลใด ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะล่วงเกินทั้งสองฝ่าย

เขาสนับสนุนให้หลี่เฟิงยึดอำนาจ แต่เขาก็ไม่อยากให้เย่เซิ่งเทียนและหวางซีเกลียดเขาเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรมาโดยตลอด

เขาคิดว่าในเมื่อตนเองได้รับผลประโยคตามที่หลี่เฟิงสัญญาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายนี้

“พวกกลุ่มคนที่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า และรังแกคนที่อ่อนแอกว่า เป็นคนไม่เอาถ่านที่ไม่สามารถเยียวยาได้แล้ว”

เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยความรังเกียจ แล้วพาหวางซีเดินจากไปทันที

หวางซีไม่อยากอยู่ต่อเช่นกัน เห็นคนเนรคุณเหล่านี้แล้วทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง

“หลี่เซิ่ง นายหมายความว่าอย่างไร? ได้ผลประโยชน์จากตระกูลหลี่แล้ว แต่กลับไปพูดแทนพวกเขา?”

หลังจากเย่เซิ่งเทียนและหวางซีจากไปแล้ว หลี่กั๋วเหว่ยถึงได้จ้องมองหลี่เซิ่งด้วยความไม่พอใจ

เขาเกลียดหลี่เซิ่งมาตลอด เพราะเขาเป็นคนที่ไร้จุดยืนและไหลไปตามสถานการณ์ภายนอก

“ทำไมถึงมาลงที่ผมล่ะ? ผมทำเพื่อประโยชน์ของพวกนาย? หรือว่านายสามารถเอาชนะเย่เซิ่งเทียนได้?”

หลี่เซิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ “พวกนายไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียนเหรอ? ในเมื่อพวกเรายึดอำนาจสำเร็จแล้ว ทำไมต้องหาเรื่องซวยใส่ตนเองด้วย”

“หุบปาก แกมันเป็นคนขี้ขลาดตาขาว แกเป็นแค่ตัวแทนของญาติสายรองเท่านั้น มีคุณสมบัติอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์อยู่ที่นี่? เพราะคนที่ถูกทำร้ายไม่ใช่แกใช่ไหม?”

หลี่กั๋วเฉียงลุกจากพื้น เขาระบายความโกรธทั้งหมดไปที่หลี่เซิ่ง

“หลี่กั๋วเฉียง แม่งฉิบหาย ผมคิดว่าสมองของนายเลอะเลือนเพราะการถูกตบหน้าสองครั้งนั้นใช่ไหม? คนที่อยู่ที่นี่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เซิ่งเทียนได้บ้าง? หลี่เผิงเฉิงเป็นแชมป์ซันดา แล้วทำไมถึงได้ถูกเขาตีจนหักขาล่ะ? ยึดอำนาจสำเร็จแล้วก็ควรจะรู้ขอบเขตและหยุดได้แล้ว จะราดน้ำมันในกองไฟแล้วทำให้ตนเองเสียเปรียบถึงจะพอใจใช่ไหม? ผมคิดว่าพวกนายสมควรได้รับมันแล้ว!”

หลี่เซิ่งพูดเยาะเย้ยไปหลายประโยค ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตัวแทนของญาติสายรอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเต็มใจที่จะถูกคนเหล่านี้ดูหมิ่น

หลังจากพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา เขาก็หันหลังแล้วเดินจากไป

หลี่กั๋วเฉียงแทบอยากจะฆ่าคน แต่ตอนนี้ขาที่หักของหลานชายถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเขาจึงติดต่อโรงพยาบาลทันทีเพื่อจะรักษาขาของหลี่เผิงเฉิง

ดวงตาของหลี่กั๋วเหว่ยเคร่งขรึม ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากยึดอำนาจสำเร็จแล้ว หลี่เฟิงก็ไม่อยากจะประจบชายชราพวกนี้อีกต่อไป เขาพูดปลอบโยนสองสามประโยค จากนั้นก็ไม่สนใจอีก

อย่ามองว่าเมื่อสักครู่คนเหล่านี้สามัคคีกันเป็นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจนยึดอำนาจสำเร็จ แต่ควาจริงแล้วพวกเขาเป็นเหมือนหมากัดกันเอง เจ็บหนักทั้งคู่ และไม่มีใครอยากเห็นอีกฝ่ายได้ดี

ณ โรงพยาบาล หัวเวิ่นยีรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลหลี่แล้ว และโกรธมากจนขว้างแก้วน้ำที่อยู่ในมือ “พวกคนเนรคุณและจิตใจเหี้ยมโหด อาจารย์และอาจารย์แม่ช่วยพวกแกมากขนาดนี้ แต่พวกแกกลับเนรคุณ! อยากจะรักษาขาใช่ไหม ฝันไปเถอะ!”

หัวเวิ่นยีโทรศัพท์ทันทีและกล่าวด้วยความโมโหว่า “นับจากนี้เป็นต้นไป หมอทุกคนฟังให้ดี ถ้าคนของตระกูลหลี่แห่งเมืองโมตูต้องการมารักษา ไม่ต้องรักษาให้พวกเขา โดยเฉพาะหลี่เผิงเฉิง ถ้าใครกล้ารักษาขาให้กับเขา ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับผม!”