ตอนที่ 635 เล่น-ซ่อน-หา

My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม

“นั่นใครน่ะ? เขาดูคุ้น ๆ เป็นหนึ่งในผู้โดยสารจากบนรถเมล์หรือเปล่า?” ชายขี้เมาเพิ่งพูดไปเมื่อวินาทีที่แล้วว่าถนนนั้นดูปลอดภัยกว่าที่ในตึก แต่เขายังไม่ทันพูดจบ เขาก็ได้รับการยืนยันแล้วว่ามันผิด เขาสงสัยว่าจะมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจับตามองเขาจากที่ที่เขามองไม่เห็น จับตามองทุกการเคลื่อนไหวของเขา

“เขาโบกมือให้ฉันใช่ไหมน่ะ? มีหมอกนี่อยู่ ฉันมองไม่เห็นหน้าเขา ดังนั้นเขาก็น่าจะมองไม่เห็นฉันเหมือนกัน ในสถานการณ์เช่นนี้ คนทั่วไปย่อมไม่เป็นฝ่ายเข้าไปทักทายผู้อื่นก่อน”

ศักยภาพของคนผู้หนึ่งย่อมสามารถรีดเค้นออกมา หลังจากผ่านประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ชายขี้เมาก็ระแวดระวังมากขึ้นอย่างสังเกตได้ และเขาก็ยังคิดก่อนที่จะเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง เงาร่างคนในหมอกชัดเจนขึ้น– คนผู้นั้นดูเหมือนกำลังเดินตรงมาทางเขา

“ไม่ ฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาเอาไว้” ชายขี้เมาสังเกตเห็นคนผู้นั้นเร่งความเร็วขึ้น เขาไม่กล้าตอบรับและยังหันกลับวิ่งหนีไป

“หากเขาเป็นคนเป็น ๆ เขาน่าจะต้องพูดอะไรสักอย่าง แค่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วโบกมือและวิ่งเข้ามาหาฉันโดยไม่พูดอะไรสักคำน่ะน่าสงสัยเกินไป”

กระทั่งบนถนนก็ไม่ปลอดภัยแล้ว ดังนั้นชายขี้เมาจึงรู้สึกเหมือนติดกับดัก เขาไม่รู้แล้วว่าควรหนีไปที่ไหน

“สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือไปรวมกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ มันอันตรายเกินไปที่ฉันจะอยู่คนเดียว” ชายขี้เมาวิ่งเหยาะ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่ารถเมล์นั้นไปไหนแล้วไม่รู้ ยิ่งเขาวิ่งไป เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี “บ้าชะมัด ฉันว่าฉันหลงทางแล้วตอนนี้ ตึกที่นี่ดูเหมือนกันไปหมด และรถเมล์ก็เป็นปจุดอ้างอิงเดียวของฉัน”

เขายังสามารถมองเห็นเงารางเลือนอยู่ในหมอกที่ด้านหลังเขา คนผู้นั้นที่โบกมือให้เขานั้นยังอยู่ด้านหลังเขา รักษาระยะปลอดภัยระหว่างกันไว้

“แล้วนั่นมันเป็นบ้าอะไร? ทำไมมันถึงตามฉันมา?” ชายขี้เมาวิ่งเร็วขึ้นและไม่หยุดจนไปถึงแยกถัดไป เขายังไม่เจอรถเมล์ และเขาก็ลังเลว่าควรจะไปทางไหน จู่ ๆ เขาก็สังเกตเห็นเงาหนึ่งปรากฏขึ้นที่อีกฟากถนน มันโบกมือให้เขา!

“เจ้าสิ่งนั้นมันผ่านฉันไปเมื่อไหร่กัน? มันน่าจะอยู่ด้านหลังฉันสิ!” ความสิ้นหวังคืบคลานเข้ามาในหัวใจของเขาเหมือนเถาวัลย์อันยากควบคุม ชายขี้เมามึนงง ราวกับไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เขาก็จะเจอกับคนผู้นี้

“ตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไรดี?” ประสบการณ์ชีวิตสามสิบปีนั้นไม่ช่วยอะไรเขาเลย ชายที่ฝั่งตรงข้ามถนนยังโบกมือให้เขา ด้วยรูปเงารางเลือน แขนที่แกว่งไปมานั้นดูราวกับเข็มนาฬิกาแห่งความตาย

“ต่อให้ฉันวิ่งไปทางอื่น ปิศาจนี่ก็จะยังตามฉันไป ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ฉันต้องสู้กับมัน!” ชายขี้เมากัดฟันแล้วกำมีดปังตอที่เขาเอามาด้วยจากในห้องครัวของบ้านมนุษย์สุนัขนั่น ในชีวิตนี้เขาไม่เคยกระทั่งฆ่าไก่เพื่อทำอาหาร แต่ทว่า ความคิดอันเหี้ยมโหดนี้กลับผุดขึ้นในใจเขา

“ใจเย็นไว้ ไม่ต้องตื่นตระหนก!”

อยู่ในหมอกเลือดนานเข้านั้นก็จะส่งผลต่อคนผู้นั้น ชายขี้เมานั้นไม่ได้สังเกตตัวเอง ที่ปลายหางตาของเขานั้นเป็นสีแดง เต็มไปด้วยเส้นเลือด มันเหมือนเขาไม่ได้นอนมาเป็นหลายวันแล้ว ต่างไปจากตอนที่เขาเป็นเมื่อขึ้นรถเมล์มาในทีแรก

เพราะนี่เป็นครั้งแรกของเขา หัวใจของชายขี้เมาจึงเต้นด้วยอัตราเร็วอันไม่น่าเป็นไปได้ เขากำมีดเอาไว้ด้วยสองมือและเดินข้ามถนนไปด้วยท่าทางประหลาด เงารางเลือนนั้นยังโบกมือให้เขา เมื่อเขาเข้าไปใกล้มากขึ้น ชายขี้เมาจึงได้มองเห็นชัดขึ้น

“เขาดูคุ้นตา ฉันน่าจะเคยเจอเขามาก่อนที่ไหนสักแห่ง เขาเป็นผู้โดยสารจากบนรถเมล์จริง ๆ เหรอ?”

ชายขี้เมาหยุดอยู่ที่กลางถนนแล้วตะโกนถามชายคนนั้น “เฮ้! คุณชื่ออะไรน่ะ?”

ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายหนึ่งนอกจากมุมการโบกมือเหมือนจะตกลงไป และจู่ ๆ ชายคนนั้นก็เดินมาทางเขา ในเมืองสีแดงเลือดนี้ บนถนนอันว่างเปล่า ระยะห่างระหว่างทั้งสองหดแคบเข้า เมื่อชายคนนั้นตรงเข้ามาอย่างช้า ๆ ความรู้สึกคุ้นเคยในใจชายขี้เมาก็เพิ่มมากขึ้น

“เขาดูคุ้น ๆ จริง ๆ ฉันสาบานเลยว่าฉันต้องเคยเจอเขามาก่อนที่ไหนสักแห่ง” ชายขี้เมาเดินเข้าไปช้า ๆ และในที่สุดก็ผ่านหมอกหนาไปยืนตรงหน้าชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นมีเลือดเปื้อนเต็มตัว และช่องท้องของเขานั้นน่าสยดสยองเป็นที่สุด เอวคือส่วนที่ร่างกายท่อนล่างและท่อนบนเชื่อมเข้าหากันนั้นแทนที่ไว้ด้วยเส้นสีดำ มันเหมือนร่างกายของชายคนนั้นถูกตัดครึ่งแล้วก็เอามาต่อกันใหม่

เห็นรูปลักษณ์ของชายคนนี้แล้ว ชายขี้เมาก็คิดจะถอยกลับ แต่ว่า นอกจากความกลัวแล้ว เขากลับไม่สามารถสลัดความรู้สึกคุ้นเคยทิ้งไปได้ เขาแน่ใจว่าเขารู้จักชายคนนี้จากที่ไหนสักแห่ง

“คุณเป็นใคร?” สมองของเขาว่างเปล่า และชายขี้เมาก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมคำถามนี้ถึงเล็ดรอดออกไปจากริมฝีปากของตนได้ มือของเขาที่กำมีดปังตอเอาไว้สั่น

“ถนนข้างหน้านั้นเป็นทางแยก– หนึ่งสำหรับคนเป็น และอีกหนึ่งสำหรับคนตาย” ชายแปลกหน้าเงยหน้าขึ้นช้า ๆ และภายใต้ศีรษะที่เต็มไปด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้านั้นชายขี้เมาคุ้นเคยจริง ๆ ม่านตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความเกลียดชังผุดขึ้นมา เขาพุ่งเข้าหาชายขี้เมาด้วยสันหลังที่บิดเบี้ยวแตกหักรองรับร่างเขาอยู่ ริมฝีปากของเขาฉีกเปิด และเสียงโหยหวนหลากหลายก็หลุดออกจากลำคอของชายขี้เมา “ฉันก็คือแก! แกที่ตายอย่างน่าสยดสยอง!”

เมื่อเขาเห็นว่าปิศาจนี้ดูคล้ายตัวเอง กำแพงป้องกันชั้นสุดท้ายในจิตใจของเขาก็พังทลายลง เขาไม่มีความต้องการต่อสู้หลงเหลืออยู่ในตัวอีก เขากำมีดเอาไว้ หันหลังกลับแล้วออกวิ่ง คราวนี้ เขาไม่กระทั่งจะสนใจทิศทางของตัวเอง เส้นประสาททุกเส้นของเขานั้นตึงเขม็ง และเขาก็แทบจะบังคับขาที่พาเขาไปข้างหน้าไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหนเพราะเขาไม่รู้ว่าที่ไหนถึงจะปลอดภัย ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือวิ่ง

ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างของเขา และปอดของเขาก็เหมือนกำลังจะลุกไหม้ โลกในสายตาของเขาซีดจางไปขณะที่อากาศถูกสูบออกจากลำคอของเขา

“ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว…”

นี่เป็นโลกที่สร้างขึ้นจากความสิ้นหวัง ทางเลือกเดียวสำหรับคนเป็นก็คือเลือกเข้าไปในตึกสักหลังและเลือกวิธีตายที่ต้องการ

“ไม่มีใครรอดชีวิตอยู่ที่นี่ได้หรอก ทุกคนจะตายกันหมด…” สติสัมปชัญญะของเขาพังทลายไป ชายขี้เมาใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตนวิ่งเข้าไปในตึกที่ใกล้ที่สุด สีหลักของตึกนี้คือสีขาว มันดูเหมือนจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนเพียงแห่งเดียวในเมืองหลี่ว่าน มันไม่ได้ใหญ่โต เป็นเพียงแค่ตึกสามชั้นเล็ก ๆ หลังหนึ่งเท่านั้น

“พ่อ…”

“หุบปาก” ชายวัยกลางคนหอบ เขาซ่อนตัวอยู่ในทางเดินหนีไฟและคอยหันกลับไปมองด้านหลังตัวเองเรื่อย ๆ หลายนาทีให้หลัง เมื่อเขาไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแล้ว เขาก็เอนตัวพิงกำแพงแล้วไถลตัวลงนั่งกับพื้นช้า ๆ “ฉันเคยเห็นผู้โดยสารที่ไม่ให้ความร่วมมือถูกส่งเข้าไปในประตูในอพาร์ทเม้นท์ผี โลกที่ด้านหลังประตูนั้นคล้ายกับที่นี่ เต็มไปด้วยหมอกสีเลือด นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนเป็น ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผู้ชายคนนั้น! ถ้ามีโอกาส ฉันจะให้มันชดเชยหนี้นี้!”

ยิ่งเขาคิด เขาก็ยิ่งโกรธ และมันก็ยิ่งเลวร้ายหลังจากที่เห็นผู้หญิงและเด็กชายหมอบอยู่ข้างตัวเขา จู่ ๆ เขาก็เตะขาผู้หญิงคนนั้นอย่างแรง ”ตั้งแต่ฉันแต่งงานกับแก ฉันก็ไม่เคยมีวันดี ๆ ในชีวิตอีกเลย! ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของแก อีใบ้!”

ผู้หญิงคนนั้นครวญครางอย่างแปลความหมายไม่ได้ เธอดูเหมือนจะกลัวผู้ชายคนนี้มาก เธอกุมขาตัวเองไว้ ขยับถอยไปด้านหลังและยังคงปกป้องเด็กชายเอาไว้จากความโกรธแค้นของผู้เป็นพ่อ

“พ่อ…”

“หยุดเรียกฉันได้แล้ว ไอ้เด็กโง่! แกยิ่งมายิ่งเหมือนเจ้าหนี้ฉันเข้าไปทุกที!” ชายวัยกลางคนมองไปรอบ ๆ และใบหน้าก็ทะมึนลง “พวกเราเอาแต่หนีจนมาจนมุมอยู่ในโรงพยาบาลนี่ ที่นี่มันถูกสาปชัด ๆ หลังจากปิศาจนั่นจากไปแล้ว พวกเราต้องไปให้ห่างจากที่นี่”

“พ่อ…” พึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งถูกด่า แต่เด็กชายก็ยังเรียกพ่อซ้ำ ๆ ในที่สุด ชายวัยกลางคนก็พบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง หากเป็นปกติแล้ว เด็กชายต้องขอโทษหรือปิดปากเมื่อเขาเริ่มโกรธ เด็กชายไม่เคยต่อต้านเขา

“อะไร?”

“ก่อนหน้านี้ มีพี่ชายใหญ่ตัวเล็กแปะกระดาษบางอย่างเอาไว้ที่หลังพ่อ” เด็กชายชี้ไปที่หลังของชายวัยกลางคน

“บนหลังฉัน?” ชายวัยกลางคนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาเอื้อมมือไปด้านหลังตัวเองแล้วดึงประวัติผู้ป่วยแผ่นหนึ่งออกมา

บันทึกนั้นบอกว่าผู้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว แต่ด้านหลังกระดาษแผ่นนี้ มีคนเขียนเอาไว้ด้วยลายมือหวัด ๆ ‘เป็นตาแกหาฉันแล้ว’