ตอนที่ 634 หนึ่งเรื่องผีทุกครัวเรือน

My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม

ห้องครัวเรียกไม่ได้ว่าใหญ่ และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดในห้องก็คือตู้กับข้าว มีอาหารที่ดูน่ากินหลายจานวางเอาไว้ด้านใน แต่น่าแปลก ทั้งหมดล้วนมีพลาสติกบางใสหุ้มห่อเอาไว้ และส่วนใหญ่แล้วล้วนถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่นานแล้วจนน่าจะเริ่มมีการบูดเน่า “ทำไมพวกเขาถึงใช้ตู้กับข้าวเก็บอาหารในเมื่อก็มีตู้เย็นที่ดูใช้การได้เป็นปกติ?”

สถานการณ์นั้นเร่งร้อนเกินกว่าที่ชายขี้เมาจะหยุดเพื่อหาคำตอบของคำถามนั้น เขาพุ่งไปยังเตาและพบว่ามีพัดลมดูดอากาศติดตั้งไว้บนผนัง

“พัดลมนี่…” บางทีนี่อาจจะเป็นการออกแบบพิเศษ หรือบางทีมันอาจจะเป็นความต้องการของครอบครัวนี้ แต่ว่าพัดลมดูดอากาศที่ติดตั้งเอาไว้ในครัวนี้ใหญ่กว่าปกติ และมันยังใหญ่พอที่เด็กคนหนึ่งจะลอดผ่านไปได้

“ไม่มีหน้าต่างในห้องครัว ดังนั้นเพื่อระบายอากาศ จึงติดตั้งพัดลมดูดอากาศขนาดใหญ่ไว้?” ชายขี้เมาขึ้นไปเหยียบบนเก้าอี้และใช้กำลังดึงพัดลมดูดอากาศให้หลุดออก เขามองโพรงที่เกิดขึ้น และสีหน้าของเขาก็ยังดูลังเล โพรงนั้นเล็กเกินไปสำหรับผู้ใหญ่สักคน หากเขาติดอยู่ในนั้น เขาก็คิดไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไรดี?” ในตอนที่ขี้เมากำลังลังเลอยู่นั้น เขาก็เห็นมีดปังตอเล่มหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้บนเขียง เลือดและเศษกระดูกติดอยู่บนใบมีด เขามองขึ้นไปยังโพรงนั่นและมองลงมาที่มีดเล่มนั้น ความคิดประหลาดปรากฏขึ้นในใจชายขี้เมาเหมือนทุกอย่างนั้นถูกใครบางคนจัดวางเอาไว้ล่วงหน้าอย่างชาญฉลาด

โพรงนั่นเล็กเกินไปสำหรับผู้ใหญ่สักคน แต่หากสับกระดูกสะบักของตัวเองกับเฉือนกระดูกสะโพกออกสักหน่อย พวกเขาก็จะลอดผ่านโพรงไปได้โดยง่าย เขากำมีดปังตอเอาไว้ในมือ ด้ามจับนั้นเหนียวหนึบ และมันก็ทำให้ชายขี้เมารู้สึกไม่ค่อยดี ราวกับทุกอย่างกำลังเร่งเขา เขาได้ยินเสียงประตูที่ด้านหลังในทางเดินกำลังถูกเปิดออกเหมือนมีใครบางคนกำลังเปิดเข้าไปดูทุกห้องทีละห้อง

“ถ้าฉันหนีจากที่นี่ ใครจะรู้ว่าถัดไปฉันจะไปเจอบ้า ๆ เข้าอีก มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะทำร้ายตัวเอง” เขากำมีดปังตอเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง เขากัดริมฝีปากและจู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวเขา “ฉันสามารถทำเป็นหนีออกไปทางพัดลมดูดอากาศ แต่ว่าอันที่จริงแล้ว ฉันกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ ตอนที่เจ้าของมาตรวจดูในห้อง ฉันก็สามารถใช้โอกาสนี้หนีไปได้”

ชายขี้เมามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็น

ครัวนั้นไม่ได้ใหญ่ แต่ว่ามีตู้เย็นสองประตูหลังใหญ่ ชายขี้เมาเปิดประตูด้านบนออกดู และในนั้นก็มีน้ำยาดับกลิ่นและน้ำยาปรับอากาศหลากหลายชนิดอัดไว้จนแน่นเต็ม– บางขวดก็ยังไม่ได้เปิด บางขวดก็เปิดใช้แล้ว

“ของพวกนี้มันอะไรกัน?” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นของพวกนี้ถูกเก็บเอาไว้ในตู้เย็น เขาก้มลงไปเปิดประตูตู้ชั้นล่าง และมันก็เต็มไปด้วยถุงพลาสติกสีดำมากมาย

“นี่คงไม่ใช่ชิ้นส่วนซากศพหรอกใช่ไหม?” อย่างไรเสียก็ไม่มีตัวเลือกอื่นให้ชายขี้เมาแล้ว– ที่ซ่อนเดียวที่ใหญ่พอสำหรับคนคนหนึ่งนั้นก็คือตู้เย็นนี่ เขาย้ายถุงพลาสติกสีดำจากตู้ชั้นล่างขึ้นไปไว้ที่ชั้นบน ระหว่างการขนย้าย หัวสุนัขหัวหนึ่งก็หล่นออกมาจากรอยฉีกของถุงใบหนึ่ง

“พวกนี้เป็นเนื้อหมาเหรอ?” เพื่อปกปิดร่องรอยของตัวเอง ชายขี้เมาหยิบหัวสุนัขขึ้นมาแต่ตอนที่เขายัดหัวสุนัขกลับเข้าไปในตู้เย็น เขาก็บังเอิญมองไปที่หัวนั่น ม่านตาที่แข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว และยิ่งเขามองมันนานขึ้น เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวนี่เหมือนเป็นหัวคน เขาไม่สามารถอธิบายได้จริง ๆ ว่าทำไม แต่มันแค่เหมือนเขาไม่ได้กำลังมองหัวสุนัข แต่ว่าเป็นหัวคนแช่แข็ง

“เชี่ยเอ๊ย!” ชายขี้เมาไม่สามารถมองไปยังหัวสุนัขได้อีกต่อไป เขากระแทกประตูตู้เย็นปิดหลังจากย้ายถุงพลาสติกสีดำทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

ปัง!

เขาเพิ่งย้ายของเสร็จตอนที่ลูกบิดประตูของห้องครัวนั้นกำลังถูกบิด ตอนที่คนผู้นั้นพบว่าประตูเปิดไม่ออกหลังจากพยายามหลายครั้ง ประตูก็สั่นแรงขึ้น

“ฉันถูกเจอตัวแล้ว!” ชายขี้เมาวางเก้าอี้ไว้ด้านใต้พัดลมพูดอากาศ คว้ามีดปังตอ และคลานเข้าไปที่ชั้นล่างของตู้เย็นก่อนที่จะปิดประตูลง ประตูห้องครัวถูกกระแทกอยู่หลายครั้ง แต่ว่ามันก็ยังเปิดไม่ออก ปิศาจที่ด้านนอกประตูดูเหมือนจะยอมแพ้ไปแล้ว เสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป และในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง

ชายขี้เมาตัวสั่นเพราะความเย็น เขาไม่กล้าออกจากที่ซ่อนของเขา กลัวว่านี่จะเป็นกับดัก ประมาณครึ่งนาทีให้หลัง เสียงฝีเท้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงสอดลูกกุญแจเข้าไปในล็อก ประตูที่ถูกล็อกเอาไว้เปิดออก และโต๊ะก็ถูกผลักไปที่ด้านข้าง

“มันมาแล้ว!” ชายขี้เมาไม่รู้ว่าเจ้าของที่นี่หน้าตาแบบไหน แต่เมื่อคิดถึงรูปภาพพวกนั้นก็ทำให้เขาหนาวไปจนถึงแก่นแล้ว เสียงฝีเท้าก้องอยู่ในครัว ไม่ช้า เก้าอี้ก็ถูกย้ายไปรอบ ๆ เหมือนเจ้าของที่นี่กำลังตรวจดูมัน

“หวังว่า นั่นจะหลอกเขาได้…” นั่นคือความปรารถนาของชายขี้เมา แต่เพียงไม่นานหลังจากที่เขาภาวนาอยู่ในใจก็มีเสียงประตูตู้เย็นถูกดึงเปิดออก ประตูชั้นบนถูกเปิดออกก่อน และถุงพลาสติกสีดำที่เขายัดเอาไว้อย่างรีบร้อนก่อนหน้านี้ก็หล่นลงมาเหมือนหิมะถล่ม

ใบหน้าของชายขี้เมาซีดเผือดทันที เขารู้ว่าเขาถูกเจอตัวแน่แล้ว!

“ฉันต้องออกไปจากที่นี่!” บางทีการถือมีดปังตอเอาไว้จะทำให้เขากล้าขึ้นเพราะว่าชายขี้เมากระแทกประตูเปิดออกจากด้านใน เนื้อสุนัขที่กระจายเต็มพื้นเข้าสู่ครรลองสายตาของเขา และหัวสุนัขที่มีสีหน้าอย่างมนุษย์ก็อยู่ตรงหน้าเขาพอดี

ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว ชายขี้เมาก็ยังกลัวมาเมื่อเห็น ดวงตาของเขาเบนไปด้านข้างและเขาก็เห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางเนื้อสุนัขที่กระตัดกระจายอยู่

ขนสุนัขเป็นปึก ๆ ติดอยู่ทั่วร่างคนผู้นั้น และสีหน้าของคนผู้นั้นก็ทำให้ชายขี้เมารู้สึกถึงความคุ้นเคย

“ใบหน้านี่คือหมายิ้มจากในรูปพวกนั้น!” ร่างของเขาเหมือนแช่อยู่ในน้ำเย็น เขาคลานออกจากตู้เย็นด้วยพลังทุกหยาดหยดที่มีและพุ่งไปทางประตู

“สีหน้าของหมาตายตัวนั้นดูเหมือนสีหน้าคน แต่คนเป็น ๆ กลับมีหน้ายิ้มแย้มเหมือนหมาตายที่ในรูป” ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของชายขี้เมา “หมาตายนั่นเข้าสิงร่างของคนเป็น ๆ คนนั้น หรือว่าพวกมันแลกเปลี่ยนวิญญาณกัน? เป็นไปได้ไหมว่านี่เป็นคำสาปแบบหนึ่ง คำสาปของหมาหน้ายิ้ม?”

ชายขี้เมาไม่สามารถอธิบายความคิดที่ผ่านเข้ามาในใจของตัวเองได้ เขาพุ่งไปที่ห้องแรกที่เขากระโดดเข้ามาเหมือนชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมันแล้ว เทียบกับสิ่งที่น่ากลัวกว่า สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกลัวเมื่อตอนแรกกลายเป็นน่ากลัวน้อยลงไปแล้ว เมื่อชายขี้เมาวิ่งเข้าไปในห้อง ที่ตรงมุม เขาหันกลับไปมองด้านหลังตัวเอง ชายแปลกหน้าคนนั้นก้มลงใช้แขนและขาทั้งสี่ข้างไล่ตามหลังเขามาเหมือนหมาบ้า ผิวหนังที่พับย่นบนใบหน้าของเขานั้นยู่เข้าหากันเผยให้เห็นรอยยิ้มที่คล้ายกับสุนัขในรูป

ชายขี้เมากระแทกประตูปิด กระโจนออกจากหน้าต่าง เขาหนีออกจากตึกสองชั้นนี้โดยไม่หันกลับไปมอง ความกลัวเปลี่ยนเป็นพลัง ชายขี้เมาไม่หยุดวิ่งจนกระทั่งออกมาจากตึกนั้น เขาวิ่งไปตามถนนอีกประมาณสิบเมตรและหยุดเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครตามเขามา

“ปิศาจพวกนี้คือตัวอะไรกัน? ทำไมมันถึงเหมือนกับว่าทุก ๆ ตึกที่นี่ล้วนมีปิศาจเช่นนั้นอยู่กัน?” หมอกเลือดปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง ชายขี้เมายืนอยู่กลางถนน เขามองซ้ายและขวาและพบว่ารถเมล์ที่น่าจะจอดอยู่ตรงนี้นั้นหายไปแล้ว

“ฉันวิ่งมาผิดทางเหรอ? หรือว่ารถเมล์อยู่ทางอื่น?” ชายขี้เมายืนอยู่บนถนน ไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ตึกไหน “เทียบกับตึกก่อนหน้าแล้ว มันดูจะปลอดภัยกว่าที่บนถนน ฉันควรจะพยายามเดินไปตามถนนและจำเส้นทางเอาไว้ รถเมล์น่าจะอยู่ตรงไหนสักที่แถวนี้”

ชายขี้เมาเดินไปตามถนน แต่แค่ไม่นานเขาก็ไปเจอใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าโบกมือมาให้เขา หมอกสีเลือดลดระดับการมองเห็นลงมาเป็นอย่างมาก และเขาก็บอกได้แค่ว่ามันมีรูปร่างอย่างมนุษย์