ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****230:**พบกับแม่มดอีกครั้ง
“ฮี่ฮี่!” ตาเฒ่าพิษที่ยืนอยู่ด้านข้างหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายพร้อมกล่าวว่า “ที่จริงแล้วมันก็ไม่น่ากังวลมากนัก เพียงแค่อ้าขาของเจ้าก็สามารถแลกเปลี่ยนหินจิตวิญญาณได้มากมาย แน่นอนว่ามันจะทำกำไรมากมายให้กับเจ้า!”
“ไร้สาระ พวกเจ้ามองว่าเราสองคนเป็นแบบไหนกัน?” ซูหยู่และซูหย่นทั้งสองตอบกลับอย่างอึดอัดใจ
“ข้าปฏิบัติกับเจ้าในฐานะอีตัวคนหนึ่ง!” แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “ข้าจะบอกอะไรให้เจ้านะ เมื่อข้ากล่าวออกไปแล้ว ข้าแนะนำให้พวกเจ้าทั้งสองทำตามจะดีกว่า ก่อนที่ข้าจะโกรธ!”
“เจ้า… ไม่เกรงกลัวว่าศิษย์น้องซ่งจะกลับมาและคุกคามเจ้างั้นหรือ?” ทั้งสองกล่าวออกไปพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่น
“ฮ่าฮ่า!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่มดเปลือยกายหัวเราะออกมาทันทีพร้อมกล่าวว่า “พวกเจ้าช่างไร้เดียงสา คิดว่าเจ้าไขมันบัดซบผู้นั้นมันเป็นอมตะงั้นหรือ? การที่มันหลบหนีจากอินทรีย์สายฟ้าได้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาฉลามดำด้วยตัวคนเดียวล่ะ? ถ้าหากมันสามารถมีชีวิตกลับมาได้ ข้าผู้นี้จะยอมคุกเข่าลงบนพื้นและเลียเท้าของมันดังเช่นสุนัขรับใช้!”
แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมาเช่นนั้นพร้อมกับมองไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางกรีดร้องออกมาอย่างเกรงกลัว
ผู้คนที่อยู่โดยรอบล้วนแต่ตื่นตระหนกพร้อมหันมองไป ทั้งหมดเข้าใจสถานการณ์ทันที ซ่งจงนั้นยืนอยู่ที่ประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ได้ แม้ว่าเสื้อคลุมของเขาจะมีสภาพที่ย่ำแย่ และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยฟกช้ำ อย่างไรก็ตามใบหน้าและดวงตาของเขายังแสดงออกถึงอารมณ์ที่สดใส ราวกับดวงดาวที่ระยิบระยับในฤดูหนาว ดวงตาของเขามองทะลุในหัวใจของทุกคนอย่างเยือกเย็น
เมื่อเห็นว่าซ่งจงปรากฏตัวขึ้น แฝดทั้งสองรู้สึกมีความสุขอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งสองกระโดดเข้าไปกอดแขนเขาอย่างรวดเร็วและร้องไห้ออกมาอย่างมีความสุข
หลังจากที่กลับมา พวกนางเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออก ผู้คนมากมายเริ่มต้องการร่างกายของพวกนาง โชคดีที่แม้ว่าซ่งจงจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ศักดิ์ศรีของเขาที่สร้างไว้เพื่อให้ทุกคนหลบหนีจากอินทรีย์สายฟ้านั้นยังคงอยู่ พร้อมทั้งปลดปล่อยทุกคนออกมาจากการควบคุมของราชาฉลามดำ ทุกคนคิดว่าเขาจะกลับมาโดยเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครกล้าคิดจะทำร้ายหญิงสาวทั้งสอง
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปและซ่งจงไม่กลับมา และความจริงที่ผู้ฝึกตนหลายต่อหลายคนได้เห็นว่าราชาฉลามดำนั้นวางแนวป้องกันอยู่รอบทะเลแห่งความสับสน ทุกคนจึงเชื่อว่าซ่งจงนั้นถูกบีบบังคับให้หนีเข้าไปในทะเลแห่งความสับสน
ด้วยความน่าเกรงขามของทะเลแห่งความสับสน ทุกคนเริ่มคิดว่าซ่งจงนั้นถูกขังอยู่ด้านใน ทั้งหมดคิดทันทีว่าเขาจะต้องตายตกไปอย่างแน่นอน รวมกับเหตุผลที่เวลาผ่านมาเนิ่นนานกว่าหนึ่งเดือน ทำให้ทุกคนลืมการมีตัวตนของเขาไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกตนมากมายจึงต้องการตัวของซูหยู่และซูหยุนอย่างมาก
ผู้นำกลุ่มในตอนนี้คือแม่มดเปลือยกาย ไม่เพียงแต่นางไม่สามารถปกป้องหญิงสาวทั้งสองได้ เป็นนางเองที่ผลักหญิงสาวทั้งสองลงไปในกองไฟ และเปิดการประมูลสำหรับการมีคืนแรกกับฝาแฝดทั้งสองคนนี้ แน่นอนว่ารายได้ทั้งหมดจะต้องเป็นของแม่มดเปลือยกาย ส่วนแบ่งที่ซูหยู่และซูหยุนได้รับนั้นน้อยนิดอย่างมาก สิ่งนี้กล่าวได้ว่าเป็นการขายตัวภายในกลุ่ม!
ในวันนี้แม่มดเปลือยกายได้พบเจอกับผู้ซื้อที่มีกำลัง นั่นก็คือนักบวชดำจากทีมปฐมภูมิที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลตะวันออก ดังนั้นแม่มดเปลือยกายจึงเริ่มที่จะกดดันหญิงสาวทั้งสอง
แต่น่าเสียดายที่นางไม่ได้รับรู้ถึงการมาของซ่งจงแม้แต่น้อย และยิ่งกว่านั้นนางได้กล่าวประโยคสุดท้ายออกไปแล้ว แน่นอนว่าสิ่งนี้เปรียบเสมือนการฆ่าตัวตายอย่างแท้จริง
ในขณะที่แม่มดเปลือยกายได้สูญเสียคำพูดทั้งหมดไปอย่างสมบูรณ์ ซ่งจงกลับรู้สึกตรงข้าม เขายิ้มให้กับซูหยู่และซูหยุนอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบใจพวกนาง หลังจากนั้นเขาเดินไปหาแม่มดเปลือยกายพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายทันที เขาจ้องหน้านางอย่างเย็นชาและไม่กล่าวสิ่งใดออกมาแม้แต่คำเดียว แม่มดเปลือยกายหวาดกลัวและรีบลุกออกจากที่นั่งของตนอย่างรวดเร็ว
ซ่งจงนั่งลงที่หัวโต๊ะอย่างรวดเร็วด้วยความพอใจ พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาวางบนโต๊ะตรงหน้าและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ข้ากลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าข้าได้ยินว่ามีใครบางคนต้องการจะเลียเท้าของข้า อยากรู้เหลือเกินว่าผู้ใด?!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างปิดปากของตนเองเพื่อไม่ให้เสียงหัวเราะหลุดออก ใบหน้าของแม่มดเปลือยกายเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างลำบากใจ “ข้า ข้าเพียงแค่ล้อเล่น!”
“แต่ข้าไม่ตลกด้วย!” ซ่งจงตอบกลับอย่างเยือกเย็น “ถ้าเจ้ารู้ว่าอะไรที่ทำแล้วเป็นเรื่องดี เจ้าจงรักษาสัญญาเสีย หรือว่าเจ้าอยากเห็นพลังของบิดาผู้นี้เสียก่อน!”
“ซ่งจง!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่มดเปลือยกายได้แต่กรีดร้องออกมา “อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป!”
“เหอะ!” ซ่งจงยิ้มออกมา “ข้าเพียงแค่บอกให้เจ้ารักษาคำพูด ถ้าหากเจ้าสามารถบังคับให้ศิษย์พี่ทั้งสองไปขายตัวได้ แล้วทำไมข้าจะให้เจ้าเลียเท้าข้าไม่ได้ล่ะ?”
“เจ้า!” เมื่อได้ยินประโยคนี้ แม่มดเปลือยกายหมดคำพูดทันที
“เอาล่ะ ข้าไม่สามารถอดทนถกเถียงกับเจ้าได้อีกต่อไป วันที่ผ่านมาเจ้าหลบหนีไปผู้เดียวก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ และในวันนี้เจ้าบังคับศิษย์พี่หญิงทั้งสองคน ถ้าหากข้าไม่สั่งสอนเจ้าในวันนี้ คงไม่มีผู้ใดคิดจะทำตามกฎของข้าอีกต่อไป!” ซ่งจงกล่าวออกมา “เช่นนี้แล้วกัน ถ้าหากเจ้าทำตามที่ได้พ่นวาจาไว้เมื่อครู่ ข้าจะยอมยกโทษให้และจบกันไป แต่ถ้าหากเจ้าต่อต้านข้าจะทุบกระดูกของเจ้าทีละชิ้น!”
“เหอะ!” แม่มดเปลือยกายโกรธจัดพร้อมกล่าวออกมา “ซ่งจง เจ้านั้นไม่รู้ว่าอะไรนั้นเหมาะสมกับเจ้า ข้าคือแม่มดเปลือยกายที่สามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้ตั้งแต่เด็กยันแก่ เพียงความแข็งแกร่งที่เจ้ามีจะสามารถทำอะไรข้าได้?”
“เหอะ!” ซ่งจงโบกมือพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เย็นชาของเขา จากนั้นเกิดเป็นอสูรกายขนาดมหึมาปรากฏขึ้นในห้องโถง มันคือซากของราชาฉลามดำนั่นเอง! แม้ว่าห้องโถงนี้จะกว้างใหญ่ แต่เมื่อสิ่งนี้ถูกนำออกมา มันเบียดเสียดแน่นเต็มห้องโถงทันที ทุกคนตกใจทันทีเมื่อเห็นซ่งจงทำเช่นนี้ ทั้งหมดจ้องมองไปที่ศพและรู้ได้ทันทีว่ามันคือสิ่งใด
“สวรรค์ นี่มันราชาฉลามดำไม่ใช่หรือ?” ซูหยู่และซูหยุ่นอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“แน่นอนไม่ผิดอย่างแน่นอน มันเป็นเขา! ดูที่ศีรษะของเขาและออร่าที่พุ่งออกมา มันคือราชาฉลามดำอย่างแน่นอน!” ตาเฒ่าพิษอุทานออกมา
แม้ว่าแม่มดเปลือยกายจะตกใจมากเพียงใดแต่นางก็ไม่ลืมที่จะดูว่าราชาฉลามดำบาดเจ็บตรงไหน ช่วงเวลาที่นางกำลังตรวจสอบ นางตกใจทันที ราชาฉลามดำที่มีชื่อเสียงด้านการฝึกตนประเภทเพาะกาย ร่างกายของเขาแข็งแกร่งและฝึกฝนมานานนับพันปี แต่ในตอนนี้กระดูกทั้งหมดแตกหักและผิวหนังไม่สามารถยึดเกาะกับสิ่งใดได้อีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าเขาตายตกไปอย่างโหดร้าย!
แม่มดเปลือยกายแทบที่จะไม่เชื่อสายตาของตนเอง อสูรกายระดับสูงสุดของขั้นที่ห้าซึ่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นสมบูรณ์! เขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะกลายเป็นศพและอยู่ตรงหน้าของนาง ในตอนนี้จะไม่ให้นางหวั่นใจได้อย่างไร!
ซ่งจงหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ไอ้บัดซบนี้ถูกทุบตีจนตายด้วยมือของข้า ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะยั่วยุข้าต่อ ข้าก็จะยอมเคลื่อนไหวแขนขาอีกครั้ง!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ทั้งหมดตื่นตัวทันที! แม้ทั้งหมดจะรู้ว่าราชาฉลามดำตายตกไปในมือของซ่งจง แต่ทุกสิ่งนั้นยังน่าตกใจอยู่ดีเพราะสาเหตุที่ราชาฉลามดำตายไม่ใช่เพราะสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ตายเพราะถูกประหารโดยหมัดของซ่งจงเท่านั้น! ซ่งจงนั้นไม่ได้เป็นผู้ฝึกตนสายฟ้างั้นหรือ?
แม่มดเปลือยกายหน้าซีดทันทีและความเย่อหยิ่งทั้งหมดของนางได้หมดไป นางรีบกล่าวอ้อนวอนอย่างรวดเร็ว “ศิษย์น้องซ่ง ทาสผู้นี้รู้ความผิดของตนเองแล้วได้โปรดเมตตาข้าด้วย!”
“เหอะ แล้วเจ้ามีความเมตตาต่อซูหยู่และซูหยุนหรือไม่?” ซ่งจงตอบกลับอย่างเยือกเย็น
“เรื่องนั้น… คือว่า…” สำหรับแม่มดเปลือยกายที่ได้ยินเช่นนั้น นางพูดอะไรไม่ออก แต่นางไม่ต้องการที่จะเลียนิ้วเท้าของซ่งจง มันจะกลายเป็นความอัปยศในชีวิตที่เหลือของนางและไม่สามารถทำให้นางเชิดหน้าของตนเองขึ้นมาพบผู้ใดได้อีก
อย่างไรก็ตามซูหยู่และซูหยุนนั้นเป็นคนใจอ่อน ช่วงเวลาที่นางเห็นว่าแม่มดเปลือยกายนั้นน่าสงสารเพียงใด พวกนางไม่สามารถอดทนต่อไปได้พร้อมกับขอร้องซ่งจงทันที “ศิษย์น้องซ่ง อา ไม่สิ! พวกเราควรจะเรียกเจ้าว่าศิษย์พี่ซ่ง!”
ทั้งคู่พบว่าซ่งจงนั้นเข้าสู่ระดับปฐมภูมิขั้นสมบูรณ์แล้วและอยู่สูงกว่าพวกนาง ดังนั้นจึงรีบเปลี่ยนสรรพนามทันที “ฮ่าฮ่า ไม่ต้องคิดมากหรอกว่าจะเรียกข้าอย่างไร!” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาหัวเราะและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ได้ พวกเราไม่สามารถขัดขืนกฎได้!” ซูหยู่และซูหยุนกล่าวออกมา “ศิษย์พี่ซ่ง แม้ว่าหัวหน้าจะทำผิดแต่ดูเหมือนว่าการที่ท่านจะให้นางทำเช่นนั้นออกจะมากเกินไป! ท่านสามารถละเว้นได้หรือไม่?”
“เหอะ! เจ้าทั้งสองนั้นใจอ่อนเกินไปแล้ว!” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ลืมมันไป ถ้าหากเจ้าทั้งสองอ้อนวอนแทนนาง ข้าจะยอมปล่อยนางไปสักครั้ง แต่ว่าในการต่อสู้นางได้หลบหนีและทิ้งกลุ่มไป ข้าจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับนางสักหน่อย ไม่เช่นนั้นกลุ่มคงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในอนาคต!”
“เรื่องนั้นพวกเรารู้ดี แต่พวกเราต้องการให้ท่านเปลี่ยนวิธีลงโทษ! สิ่งใดก็ได้ที่ไม่สร้างความอัปยศให้แก่นาง!” ทั้งสองกล่าวออกมา
“ย่อมได้!” ซ่งจงพยักหน้า จากนั้นเขาหันหน้ามาหาแม่มดเปลือยกายพร้อมกล่าวว่า “นังสารเลว เป็นเพราะซูหยู่และซูหยุนที่ขอร้องแทนเจ้า ในครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าจะต้องถูกแขวนและโบยร้อยครั้งเพื่อสั่งสอนถึงการกระทำที่เจ้าหลบหนีการต่อสู้ ตกลงหรือไม่!”
“ตกลง ข้าตกลง!” แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว การถูกโบยนั้นดีกว่าการเลียนิ้วเท้าซ่งจงมากนัก
อย่างไรก็ตามเมื่อซ่งจงได้จบเรื่องนั้นไปแล้ว เขากล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “เจ้าไม่ควรจะมีความสุขเร็วเกินไป ข้านั้นจำคำพูดของเจ้าในวันนี้ได้ดี ถ้าหากเจ้ายังกล้าที่จะท้าทายข้าอีกครั้ง แน่นอนว่าเจ้าจะต้องเลียนิ้วเท้าของข้าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง และไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถอ้อนวอนแทนเจ้าได้! เข้าใจไหม?”
“เข้าใจ ข้าเข้าใจแล้ว ทาสผู้นี้เข้าใจแล้ว! ข้าจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน!” แม่มดเปลือยกายอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แม้ว่าสภาพของนางจะน่าสงสาร ซ่งจงนั้นรู้ดีว่านางไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย นางจะต้องสร้างเรื่องอีกแน่นอน จาดนั้นเขาเลิกคิดอะไรและโบกมืออย่างไม่สนใจ “หิน ดำเนินการลงโทษนางด้วยการโบยหนึ่งร้อยครั้ง ไม่ต้องแสดงความเมตตาแต่อย่างใด!”
“ตกลง!” หลังจากที่ซ่งจงนั้นได้ช่วยชีวิตเขาไว้ถึงสองครั้ง แน่นอนว่าหินนั้นยืนอยู่ข้างซ่งจงอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เขาได้ยินคำสั่งของซ่งจง เขาคว้าคอของแม่มดเปลือยกายพร้อมกับปิดผนึกวิชาของนางอย่างรวดเร็วและไม่ลังเลสิ่งใด จากนั้นเขาแขวนนางไว้และหยิบแส้ของตนเองออกมา เขาไม่แสดงความสงสารแม้แต่น้อยตั้งแต่ที่ซ่งจงอนุญาตให้เขาปลดปล่อยทุกอย่างได้ ซ่งจงนั้นสั่งให้เขาโบยนางหนึ่งร้อยครั้ง แน่นอนว่าถ้าหากไม่มีใครมองอยู่ เขาจะทำมากกว่านั้น!
ในตอนสุดท้าย ร่างกายของแม่มดเปลือยกายนั้นเต็มไปด้วยเลือดและกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา แต่เสียงร้องของนางนั้นหาได้นับเป็นสิ่งใด หลังจากที่หินโบยนางเสร็จแล้ว เขาปลดผนึกการฝึกฝนของนางและปล่อยนางทิ้งไว้เช่นนั้น แม่มดเปลือยกายปลดปล่อยตนเองพร้อมกับแบกรับความเจ็บปวดนั้นไว้
ในขณะที่แม่มดเปลือยกายกำลังถูกลงโทษ ซ่งจงนั้นถามหญิงสาวทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องราวของมู่ซื่อหรง ไม่ต้องสงสัยเลยหลังจากที่มู่ซื่อหรงตื่นขึ้นมา ความคิดของนางเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนและสาปแช่งซ่งจงอย่างรุนแรง นางหนีออกไปโดยไม่ปรึกษาใคร ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่านางอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามซ่งจงคาดเดาไว้แล้วว่านางน่าจะกลับบ้าน
สำหรับตอนจบของเรื่องนี้ ซ่งจงนั้นเตรียมใจมานานมากแล้วและไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใด เขาปลดปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างไม่สนใจและเริ่มถามเกี่ยวกับข่าวคราวล่าสุดภายในทะเลตะวันออก
ตามที่คิดไว้ ซ่งจงได้รู้ตัวแล้วว่าเขาได้สร้างปัญหามากมายให้กับซูหยู่และซูหยุน อย่างแรกคืออินทรีย์สายฟ้าถูกปลดออกจากตำแหน่งในจักรวรรดิทะเลตะวันออกเนื่องจากนางได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับพวกพ้อง
แม้ว่าเรื่องตำแหน่งจะไร้สาระสำหรับนาง แต่ใบหน้าของนางถูกฉีกอย่างไม่เหลือชิ้นดี เพื่อที่จะฟื้นคืนภาพลักษณ์ของตนเอง หญิงสาวผู้นี้กระทำตนราวกับคนบ้า นางออกสำรวจทะเลตะวันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าผู้ใดที่ได้พบกับนาง ไม่อาจหลบหนีความตายได้
ในเวลาหนึ่งเดือน มีผู้ฝึกตนราวห้าร้อยคนตายตกไปเพราะนาง เหล่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ทำได้เพียงการส่งจดหมายเตือนถ้าหากต้องออกเดินทางสู่ทะเลให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ หลายทีมไม่มีกำลังใจที่จะออกไปทำภารกิจและเริ่มละทิ้งทุกอย่าง ทุกคนมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนอยู่ในบ้านเพียงอย่างเดียว
สำหรับภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งหมดทำได้เพียงกัดฟันและทำมันต่อไปแม้ว่าจะมีความตายรออยู่เบื้องหน้า แน่นอนว่าในตอนนี้มีใครหลายคนกำลังสาปแช่งซ่งจงอยู่ในทุกลมหายใจของพวกเขา
อย่างไรก็ตามก็มีหลายคนที่ปฏิบัติตัวอย่างดีกับซ่งจง ไม่ใช่เพียงผู้ฝึกตนที่ได้ถูกช่วยเหลือไว้จากอินทรีย์สายฟ้า แต่เป็นเหล่าบุคคลที่ต้องสูญเสียทีมของตนเองไปเมื่อพบเจอกับอินทรีย์สายฟ้า และเหล่าผู้คนที่ชื่นชมในความสามารถของซ่งจงที่สามารถเผชิญหน้ากับอินทรีย์สายฟ้าได้อย่างเท่าเทียม
อีกทั้งซ่งจงยังช่วยเหลือผู้คนไว้มากมาย สิ่งนี้ทำให้กลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกส่งจดหมายพิเศษมาเพื่อขอบคุณเขา และยกให้เขาเป็นต้นแบบในทะเลตะวันออก ดังนั้นทั้งหมดจึงคิดว่าถ้าหากซ่งจงกลับมา เขาจะต้องได้รับการยกย่อง!
แน่นอนว่าเหล่าผู้ฝึกตนปีศาจนั้นคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องไร้สาระ โดยเฉพาะเรื่องที่ซ่งจงจะกลับมา ผู้คนส่วนมากคิดเพียงมันเป็นสิ่งที่กล่าวเพื่อปลอบใจคนตายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ซ่งจงได้กลับมาแล้ว และได้ยินว่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกจะมอบรางวับให้กับเขา เขาอดรู้สึกสั่นไหวในใจไม่ได้พร้อมคิดกับตนเอง การที่กลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกนั้นกล่าวยกย่องเขาเช่นนี้ ของรางวัลจะต้องไม่ใช่ขยะ เนื่องจากทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ใช่เพียงซ่งจงช่วยเหลือผู้ฝึกตนทั้งห้าสิบคน แต่หนึ่งในนั้นคือนักรบที่อยู่ในระดับจินตัน
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****230:**พบกับแม่มดอีกครั้ง
“ฮี่ฮี่!” ตาเฒ่าพิษที่ยืนอยู่ด้านข้างหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายพร้อมกล่าวว่า “ที่จริงแล้วมันก็ไม่น่ากังวลมากนัก เพียงแค่อ้าขาของเจ้าก็สามารถแลกเปลี่ยนหินจิตวิญญาณได้มากมาย แน่นอนว่ามันจะทำกำไรมากมายให้กับเจ้า!”
“ไร้สาระ พวกเจ้ามองว่าเราสองคนเป็นแบบไหนกัน?” ซูหยู่และซูหย่นทั้งสองตอบกลับอย่างอึดอัดใจ
“ข้าปฏิบัติกับเจ้าในฐานะอีตัวคนหนึ่ง!” แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “ข้าจะบอกอะไรให้เจ้านะ เมื่อข้ากล่าวออกไปแล้ว ข้าแนะนำให้พวกเจ้าทั้งสองทำตามจะดีกว่า ก่อนที่ข้าจะโกรธ!”
“เจ้า… ไม่เกรงกลัวว่าศิษย์น้องซ่งจะกลับมาและคุกคามเจ้างั้นหรือ?” ทั้งสองกล่าวออกไปพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่น
“ฮ่าฮ่า!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่มดเปลือยกายหัวเราะออกมาทันทีพร้อมกล่าวว่า “พวกเจ้าช่างไร้เดียงสา คิดว่าเจ้าไขมันบัดซบผู้นั้นมันเป็นอมตะงั้นหรือ? การที่มันหลบหนีจากอินทรีย์สายฟ้าได้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาฉลามดำด้วยตัวคนเดียวล่ะ? ถ้าหากมันสามารถมีชีวิตกลับมาได้ ข้าผู้นี้จะยอมคุกเข่าลงบนพื้นและเลียเท้าของมันดังเช่นสุนัขรับใช้!”
แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมาเช่นนั้นพร้อมกับมองไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางกรีดร้องออกมาอย่างเกรงกลัว
ผู้คนที่อยู่โดยรอบล้วนแต่ตื่นตระหนกพร้อมหันมองไป ทั้งหมดเข้าใจสถานการณ์ทันที ซ่งจงนั้นยืนอยู่ที่ประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ได้ แม้ว่าเสื้อคลุมของเขาจะมีสภาพที่ย่ำแย่ และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยฟกช้ำ อย่างไรก็ตามใบหน้าและดวงตาของเขายังแสดงออกถึงอารมณ์ที่สดใส ราวกับดวงดาวที่ระยิบระยับในฤดูหนาว ดวงตาของเขามองทะลุในหัวใจของทุกคนอย่างเยือกเย็น
เมื่อเห็นว่าซ่งจงปรากฏตัวขึ้น แฝดทั้งสองรู้สึกมีความสุขอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งสองกระโดดเข้าไปกอดแขนเขาอย่างรวดเร็วและร้องไห้ออกมาอย่างมีความสุข
หลังจากที่กลับมา พวกนางเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออก ผู้คนมากมายเริ่มต้องการร่างกายของพวกนาง โชคดีที่แม้ว่าซ่งจงจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ศักดิ์ศรีของเขาที่สร้างไว้เพื่อให้ทุกคนหลบหนีจากอินทรีย์สายฟ้านั้นยังคงอยู่ พร้อมทั้งปลดปล่อยทุกคนออกมาจากการควบคุมของราชาฉลามดำ ทุกคนคิดว่าเขาจะกลับมาโดยเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครกล้าคิดจะทำร้ายหญิงสาวทั้งสอง
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปและซ่งจงไม่กลับมา และความจริงที่ผู้ฝึกตนหลายต่อหลายคนได้เห็นว่าราชาฉลามดำนั้นวางแนวป้องกันอยู่รอบทะเลแห่งความสับสน ทุกคนจึงเชื่อว่าซ่งจงนั้นถูกบีบบังคับให้หนีเข้าไปในทะเลแห่งความสับสน
ด้วยความน่าเกรงขามของทะเลแห่งความสับสน ทุกคนเริ่มคิดว่าซ่งจงนั้นถูกขังอยู่ด้านใน ทั้งหมดคิดทันทีว่าเขาจะต้องตายตกไปอย่างแน่นอน รวมกับเหตุผลที่เวลาผ่านมาเนิ่นนานกว่าหนึ่งเดือน ทำให้ทุกคนลืมการมีตัวตนของเขาไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกตนมากมายจึงต้องการตัวของซูหยู่และซูหยุนอย่างมาก
ผู้นำกลุ่มในตอนนี้คือแม่มดเปลือยกาย ไม่เพียงแต่นางไม่สามารถปกป้องหญิงสาวทั้งสองได้ เป็นนางเองที่ผลักหญิงสาวทั้งสองลงไปในกองไฟ และเปิดการประมูลสำหรับการมีคืนแรกกับฝาแฝดทั้งสองคนนี้ แน่นอนว่ารายได้ทั้งหมดจะต้องเป็นของแม่มดเปลือยกาย ส่วนแบ่งที่ซูหยู่และซูหยุนได้รับนั้นน้อยนิดอย่างมาก สิ่งนี้กล่าวได้ว่าเป็นการขายตัวภายในกลุ่ม!
ในวันนี้แม่มดเปลือยกายได้พบเจอกับผู้ซื้อที่มีกำลัง นั่นก็คือนักบวชดำจากทีมปฐมภูมิที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลตะวันออก ดังนั้นแม่มดเปลือยกายจึงเริ่มที่จะกดดันหญิงสาวทั้งสอง
แต่น่าเสียดายที่นางไม่ได้รับรู้ถึงการมาของซ่งจงแม้แต่น้อย และยิ่งกว่านั้นนางได้กล่าวประโยคสุดท้ายออกไปแล้ว แน่นอนว่าสิ่งนี้เปรียบเสมือนการฆ่าตัวตายอย่างแท้จริง
ในขณะที่แม่มดเปลือยกายได้สูญเสียคำพูดทั้งหมดไปอย่างสมบูรณ์ ซ่งจงกลับรู้สึกตรงข้าม เขายิ้มให้กับซูหยู่และซูหยุนอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบใจพวกนาง หลังจากนั้นเขาเดินไปหาแม่มดเปลือยกายพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายทันที เขาจ้องหน้านางอย่างเย็นชาและไม่กล่าวสิ่งใดออกมาแม้แต่คำเดียว แม่มดเปลือยกายหวาดกลัวและรีบลุกออกจากที่นั่งของตนอย่างรวดเร็ว
ซ่งจงนั่งลงที่หัวโต๊ะอย่างรวดเร็วด้วยความพอใจ พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาวางบนโต๊ะตรงหน้าและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ข้ากลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าข้าได้ยินว่ามีใครบางคนต้องการจะเลียเท้าของข้า อยากรู้เหลือเกินว่าผู้ใด?!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างปิดปากของตนเองเพื่อไม่ให้เสียงหัวเราะหลุดออก ใบหน้าของแม่มดเปลือยกายเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างลำบากใจ “ข้า ข้าเพียงแค่ล้อเล่น!”
“แต่ข้าไม่ตลกด้วย!” ซ่งจงตอบกลับอย่างเยือกเย็น “ถ้าเจ้ารู้ว่าอะไรที่ทำแล้วเป็นเรื่องดี เจ้าจงรักษาสัญญาเสีย หรือว่าเจ้าอยากเห็นพลังของบิดาผู้นี้เสียก่อน!”
“ซ่งจง!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่มดเปลือยกายได้แต่กรีดร้องออกมา “อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป!”
“เหอะ!” ซ่งจงยิ้มออกมา “ข้าเพียงแค่บอกให้เจ้ารักษาคำพูด ถ้าหากเจ้าสามารถบังคับให้ศิษย์พี่ทั้งสองไปขายตัวได้ แล้วทำไมข้าจะให้เจ้าเลียเท้าข้าไม่ได้ล่ะ?”
“เจ้า!” เมื่อได้ยินประโยคนี้ แม่มดเปลือยกายหมดคำพูดทันที
“เอาล่ะ ข้าไม่สามารถอดทนถกเถียงกับเจ้าได้อีกต่อไป วันที่ผ่านมาเจ้าหลบหนีไปผู้เดียวก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ และในวันนี้เจ้าบังคับศิษย์พี่หญิงทั้งสองคน ถ้าหากข้าไม่สั่งสอนเจ้าในวันนี้ คงไม่มีผู้ใดคิดจะทำตามกฎของข้าอีกต่อไป!” ซ่งจงกล่าวออกมา “เช่นนี้แล้วกัน ถ้าหากเจ้าทำตามที่ได้พ่นวาจาไว้เมื่อครู่ ข้าจะยอมยกโทษให้และจบกันไป แต่ถ้าหากเจ้าต่อต้านข้าจะทุบกระดูกของเจ้าทีละชิ้น!”
“เหอะ!” แม่มดเปลือยกายโกรธจัดพร้อมกล่าวออกมา “ซ่งจง เจ้านั้นไม่รู้ว่าอะไรนั้นเหมาะสมกับเจ้า ข้าคือแม่มดเปลือยกายที่สามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติมาได้ตั้งแต่เด็กยันแก่ เพียงความแข็งแกร่งที่เจ้ามีจะสามารถทำอะไรข้าได้?”
“เหอะ!” ซ่งจงโบกมือพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เย็นชาของเขา จากนั้นเกิดเป็นอสูรกายขนาดมหึมาปรากฏขึ้นในห้องโถง มันคือซากของราชาฉลามดำนั่นเอง! แม้ว่าห้องโถงนี้จะกว้างใหญ่ แต่เมื่อสิ่งนี้ถูกนำออกมา มันเบียดเสียดแน่นเต็มห้องโถงทันที ทุกคนตกใจทันทีเมื่อเห็นซ่งจงทำเช่นนี้ ทั้งหมดจ้องมองไปที่ศพและรู้ได้ทันทีว่ามันคือสิ่งใด
“สวรรค์ นี่มันราชาฉลามดำไม่ใช่หรือ?” ซูหยู่และซูหยุ่นอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“แน่นอนไม่ผิดอย่างแน่นอน มันเป็นเขา! ดูที่ศีรษะของเขาและออร่าที่พุ่งออกมา มันคือราชาฉลามดำอย่างแน่นอน!” ตาเฒ่าพิษอุทานออกมา
แม้ว่าแม่มดเปลือยกายจะตกใจมากเพียงใดแต่นางก็ไม่ลืมที่จะดูว่าราชาฉลามดำบาดเจ็บตรงไหน ช่วงเวลาที่นางกำลังตรวจสอบ นางตกใจทันที ราชาฉลามดำที่มีชื่อเสียงด้านการฝึกตนประเภทเพาะกาย ร่างกายของเขาแข็งแกร่งและฝึกฝนมานานนับพันปี แต่ในตอนนี้กระดูกทั้งหมดแตกหักและผิวหนังไม่สามารถยึดเกาะกับสิ่งใดได้อีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าเขาตายตกไปอย่างโหดร้าย!
แม่มดเปลือยกายแทบที่จะไม่เชื่อสายตาของตนเอง อสูรกายระดับสูงสุดของขั้นที่ห้าซึ่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นสมบูรณ์! เขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะกลายเป็นศพและอยู่ตรงหน้าของนาง ในตอนนี้จะไม่ให้นางหวั่นใจได้อย่างไร!
ซ่งจงหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ไอ้บัดซบนี้ถูกทุบตีจนตายด้วยมือของข้า ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะยั่วยุข้าต่อ ข้าก็จะยอมเคลื่อนไหวแขนขาอีกครั้ง!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ทั้งหมดตื่นตัวทันที! แม้ทั้งหมดจะรู้ว่าราชาฉลามดำตายตกไปในมือของซ่งจง แต่ทุกสิ่งนั้นยังน่าตกใจอยู่ดีเพราะสาเหตุที่ราชาฉลามดำตายไม่ใช่เพราะสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ตายเพราะถูกประหารโดยหมัดของซ่งจงเท่านั้น! ซ่งจงนั้นไม่ได้เป็นผู้ฝึกตนสายฟ้างั้นหรือ?
แม่มดเปลือยกายหน้าซีดทันทีและความเย่อหยิ่งทั้งหมดของนางได้หมดไป นางรีบกล่าวอ้อนวอนอย่างรวดเร็ว “ศิษย์น้องซ่ง ทาสผู้นี้รู้ความผิดของตนเองแล้วได้โปรดเมตตาข้าด้วย!”
“เหอะ แล้วเจ้ามีความเมตตาต่อซูหยู่และซูหยุนหรือไม่?” ซ่งจงตอบกลับอย่างเยือกเย็น
“เรื่องนั้น… คือว่า…” สำหรับแม่มดเปลือยกายที่ได้ยินเช่นนั้น นางพูดอะไรไม่ออก แต่นางไม่ต้องการที่จะเลียนิ้วเท้าของซ่งจง มันจะกลายเป็นความอัปยศในชีวิตที่เหลือของนางและไม่สามารถทำให้นางเชิดหน้าของตนเองขึ้นมาพบผู้ใดได้อีก
อย่างไรก็ตามซูหยู่และซูหยุนนั้นเป็นคนใจอ่อน ช่วงเวลาที่นางเห็นว่าแม่มดเปลือยกายนั้นน่าสงสารเพียงใด พวกนางไม่สามารถอดทนต่อไปได้พร้อมกับขอร้องซ่งจงทันที “ศิษย์น้องซ่ง อา ไม่สิ! พวกเราควรจะเรียกเจ้าว่าศิษย์พี่ซ่ง!”
ทั้งคู่พบว่าซ่งจงนั้นเข้าสู่ระดับปฐมภูมิขั้นสมบูรณ์แล้วและอยู่สูงกว่าพวกนาง ดังนั้นจึงรีบเปลี่ยนสรรพนามทันที “ฮ่าฮ่า ไม่ต้องคิดมากหรอกว่าจะเรียกข้าอย่างไร!” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาหัวเราะและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ได้ พวกเราไม่สามารถขัดขืนกฎได้!” ซูหยู่และซูหยุนกล่าวออกมา “ศิษย์พี่ซ่ง แม้ว่าหัวหน้าจะทำผิดแต่ดูเหมือนว่าการที่ท่านจะให้นางทำเช่นนั้นออกจะมากเกินไป! ท่านสามารถละเว้นได้หรือไม่?”
“เหอะ! เจ้าทั้งสองนั้นใจอ่อนเกินไปแล้ว!” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ลืมมันไป ถ้าหากเจ้าทั้งสองอ้อนวอนแทนนาง ข้าจะยอมปล่อยนางไปสักครั้ง แต่ว่าในการต่อสู้นางได้หลบหนีและทิ้งกลุ่มไป ข้าจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับนางสักหน่อย ไม่เช่นนั้นกลุ่มคงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในอนาคต!”
“เรื่องนั้นพวกเรารู้ดี แต่พวกเราต้องการให้ท่านเปลี่ยนวิธีลงโทษ! สิ่งใดก็ได้ที่ไม่สร้างความอัปยศให้แก่นาง!” ทั้งสองกล่าวออกมา
“ย่อมได้!” ซ่งจงพยักหน้า จากนั้นเขาหันหน้ามาหาแม่มดเปลือยกายพร้อมกล่าวว่า “นังสารเลว เป็นเพราะซูหยู่และซูหยุนที่ขอร้องแทนเจ้า ในครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าจะต้องถูกแขวนและโบยร้อยครั้งเพื่อสั่งสอนถึงการกระทำที่เจ้าหลบหนีการต่อสู้ ตกลงหรือไม่!”
“ตกลง ข้าตกลง!” แม่มดเปลือยกายกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว การถูกโบยนั้นดีกว่าการเลียนิ้วเท้าซ่งจงมากนัก
อย่างไรก็ตามเมื่อซ่งจงได้จบเรื่องนั้นไปแล้ว เขากล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “เจ้าไม่ควรจะมีความสุขเร็วเกินไป ข้านั้นจำคำพูดของเจ้าในวันนี้ได้ดี ถ้าหากเจ้ายังกล้าที่จะท้าทายข้าอีกครั้ง แน่นอนว่าเจ้าจะต้องเลียนิ้วเท้าของข้าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง และไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถอ้อนวอนแทนเจ้าได้! เข้าใจไหม?”
“เข้าใจ ข้าเข้าใจแล้ว ทาสผู้นี้เข้าใจแล้ว! ข้าจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน!” แม่มดเปลือยกายอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร แม้ว่าสภาพของนางจะน่าสงสาร ซ่งจงนั้นรู้ดีว่านางไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย นางจะต้องสร้างเรื่องอีกแน่นอน จาดนั้นเขาเลิกคิดอะไรและโบกมืออย่างไม่สนใจ “หิน ดำเนินการลงโทษนางด้วยการโบยหนึ่งร้อยครั้ง ไม่ต้องแสดงความเมตตาแต่อย่างใด!”
“ตกลง!” หลังจากที่ซ่งจงนั้นได้ช่วยชีวิตเขาไว้ถึงสองครั้ง แน่นอนว่าหินนั้นยืนอยู่ข้างซ่งจงอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เขาได้ยินคำสั่งของซ่งจง เขาคว้าคอของแม่มดเปลือยกายพร้อมกับปิดผนึกวิชาของนางอย่างรวดเร็วและไม่ลังเลสิ่งใด จากนั้นเขาแขวนนางไว้และหยิบแส้ของตนเองออกมา เขาไม่แสดงความสงสารแม้แต่น้อยตั้งแต่ที่ซ่งจงอนุญาตให้เขาปลดปล่อยทุกอย่างได้ ซ่งจงนั้นสั่งให้เขาโบยนางหนึ่งร้อยครั้ง แน่นอนว่าถ้าหากไม่มีใครมองอยู่ เขาจะทำมากกว่านั้น!
ในตอนสุดท้าย ร่างกายของแม่มดเปลือยกายนั้นเต็มไปด้วยเลือดและกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา แต่เสียงร้องของนางนั้นหาได้นับเป็นสิ่งใด หลังจากที่หินโบยนางเสร็จแล้ว เขาปลดผนึกการฝึกฝนของนางและปล่อยนางทิ้งไว้เช่นนั้น แม่มดเปลือยกายปลดปล่อยตนเองพร้อมกับแบกรับความเจ็บปวดนั้นไว้
ในขณะที่แม่มดเปลือยกายกำลังถูกลงโทษ ซ่งจงนั้นถามหญิงสาวทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องราวของมู่ซื่อหรง ไม่ต้องสงสัยเลยหลังจากที่มู่ซื่อหรงตื่นขึ้นมา ความคิดของนางเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนและสาปแช่งซ่งจงอย่างรุนแรง นางหนีออกไปโดยไม่ปรึกษาใคร ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่านางอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามซ่งจงคาดเดาไว้แล้วว่านางน่าจะกลับบ้าน
สำหรับตอนจบของเรื่องนี้ ซ่งจงนั้นเตรียมใจมานานมากแล้วและไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใด เขาปลดปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างไม่สนใจและเริ่มถามเกี่ยวกับข่าวคราวล่าสุดภายในทะเลตะวันออก
ตามที่คิดไว้ ซ่งจงได้รู้ตัวแล้วว่าเขาได้สร้างปัญหามากมายให้กับซูหยู่และซูหยุน อย่างแรกคืออินทรีย์สายฟ้าถูกปลดออกจากตำแหน่งในจักรวรรดิทะเลตะวันออกเนื่องจากนางได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับพวกพ้อง
แม้ว่าเรื่องตำแหน่งจะไร้สาระสำหรับนาง แต่ใบหน้าของนางถูกฉีกอย่างไม่เหลือชิ้นดี เพื่อที่จะฟื้นคืนภาพลักษณ์ของตนเอง หญิงสาวผู้นี้กระทำตนราวกับคนบ้า นางออกสำรวจทะเลตะวันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าผู้ใดที่ได้พบกับนาง ไม่อาจหลบหนีความตายได้
ในเวลาหนึ่งเดือน มีผู้ฝึกตนราวห้าร้อยคนตายตกไปเพราะนาง เหล่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ทำได้เพียงการส่งจดหมายเตือนถ้าหากต้องออกเดินทางสู่ทะเลให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ หลายทีมไม่มีกำลังใจที่จะออกไปทำภารกิจและเริ่มละทิ้งทุกอย่าง ทุกคนมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนอยู่ในบ้านเพียงอย่างเดียว
สำหรับภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งหมดทำได้เพียงกัดฟันและทำมันต่อไปแม้ว่าจะมีความตายรออยู่เบื้องหน้า แน่นอนว่าในตอนนี้มีใครหลายคนกำลังสาปแช่งซ่งจงอยู่ในทุกลมหายใจของพวกเขา
อย่างไรก็ตามก็มีหลายคนที่ปฏิบัติตัวอย่างดีกับซ่งจง ไม่ใช่เพียงผู้ฝึกตนที่ได้ถูกช่วยเหลือไว้จากอินทรีย์สายฟ้า แต่เป็นเหล่าบุคคลที่ต้องสูญเสียทีมของตนเองไปเมื่อพบเจอกับอินทรีย์สายฟ้า และเหล่าผู้คนที่ชื่นชมในความสามารถของซ่งจงที่สามารถเผชิญหน้ากับอินทรีย์สายฟ้าได้อย่างเท่าเทียม
อีกทั้งซ่งจงยังช่วยเหลือผู้คนไว้มากมาย สิ่งนี้ทำให้กลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกส่งจดหมายพิเศษมาเพื่อขอบคุณเขา และยกให้เขาเป็นต้นแบบในทะเลตะวันออก ดังนั้นทั้งหมดจึงคิดว่าถ้าหากซ่งจงกลับมา เขาจะต้องได้รับการยกย่อง!
แน่นอนว่าเหล่าผู้ฝึกตนปีศาจนั้นคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องไร้สาระ โดยเฉพาะเรื่องที่ซ่งจงจะกลับมา ผู้คนส่วนมากคิดเพียงมันเป็นสิ่งที่กล่าวเพื่อปลอบใจคนตายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ซ่งจงได้กลับมาแล้ว และได้ยินว่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกจะมอบรางวับให้กับเขา เขาอดรู้สึกสั่นไหวในใจไม่ได้พร้อมคิดกับตนเอง การที่กลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกนั้นกล่าวยกย่องเขาเช่นนี้ ของรางวัลจะต้องไม่ใช่ขยะ เนื่องจากทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ใช่เพียงซ่งจงช่วยเหลือผู้ฝึกตนทั้งห้าสิบคน แต่หนึ่งในนั้นคือนักรบที่อยู่ในระดับจินตัน