บทที่ 609 งานเลี้ยงครั้งสุดท้าย (4)

The Novel’s Extra

บทที่ 609 งานเลี้ยงครั้งสุดท้าย (4)

“คุณก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ยียองจุน จริงจัง ด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวเขาเริ่มบ่นเรื่องที่เข้าใจยาก

“แต่เบลล์รู้ เขารู้ว่าโลกนี้เป็นนิยายที่เขียนโดยชายคนหนึ่ง….ใช่แล้วเป็นนิยาย นิยายบัดซบและไร้ค่านั่น โลกที่ฉันต้องการจะได้มามันไม่คุ้มค่ากับ ‘ชายผู้นั้น’ แม้แต่ปีศาจที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่มีค่าในสายตาของผู้ที่มาจากโลกที่สมบูรณ์แบบและไร้ซึ่งเวทย์มนตร์…”

ยียอนจุนยังคงพึมพำราวกับว่าเขาเสียสติ จินซาฮยอค พยายามที่จะรับเบาะแสใดๆที่เธอสามารถหาได้แต่ในท้ายที่สุดเธอก็เลิกและถอนหายใจ

“คนโง่ดูเหมือนบาอัลกินสมองของคุณไปแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณได้รับจากความโลภและพยายามที่จะได้อะไรจากความโลภของคุณเอง”

“ความโลภ…ถูกต้อง ตัวละครอย่างฉันเองก็กล้าที่จะครอบครองโลก….”

“หุบปาก.”

จินซาฮยอค รวบรวมพลังเวทมนต์ไว้ในมือของเธอ เธอพยายามจะฆ่า
ยียอนจุน และแล้ว ทันใดนั้นใบหน้าของเบลล์ก็โผล่ขึ้นมาในความคิดของเธอ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเขาบอกว่าเขารู้ความจริงมี ‘2’ แต่เขาเสียชีวิตในขณะที่รักษาหนึ่งของพวกเขากับตัวเอง ความจริงนั้นแน่นอนว่า มันจะไหลไปที่หัวของ บาอัล ในฐานะที่เป็นปีศาจไม่มีข้อสงสัย บาอัล ได้ดูดซับความทรงจำของเจ้าของร่างเก่าไปแล้ว

“…เฮ้อออ.”

จินซาฮยอค ดึงพลังเวทมนต์ของเธอกลับและมองเข้าไปในดวงตาของ ยียองจุน

“บอกฉันอย่างช้าๆและละเอียด คุณได้ยินอะไรจากบาอัล ไม่ว่าเขาจะค้นพบอะไรเขาก็ไม่น่ากลัวอะไรแล้ว”

“บาอัลโกรธมาก”

“ไม่ ไม่มีมนุษย์คนใดที่กลัวมด ความโกรธเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความกลัว”

บางคนอาจเกลียดมด แต่ไม่มีใครโกรธพวกมัน ในทำนองเดียวกันไม่มีเหตุผลใดที่บาอัลจะโกรธมนุษย์ เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ยียองจุน หลับตาและลืมตาขึ้นมา ใบหน้าที่แข็งกระด้างของจินซาฮยอค อยู่ตรงหน้าเขา

“ไม่เป็นไร ถ้าเธออยากได้ยินมากขนาดนั้น ฉันจะบอกเธอ…”

ยียอนจุนเริ่มอธิบายความทรงจำที่เขาได้รับจาก บาอัล

*************************************************************************

[นอกปราสาท บาอัล]

– ฮาจิน? มันเป็นคุณจริงๆเหรอ?

อีเวนเดล ตอบ ผมเขียนกลับทันที

– แน่นอนว่าเป็นฉัน เธอทำได้ดีมั้ย อาแฮอินปฏิบัติต่อเธอดีใช่ไหม?

– อืม! มันเจ๋งจริงๆ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง

ลายมือของ อีเวนเดล นั้นเรียบร้อยและสะอาด เมื่อเห็นว่าเธอโตขึ้นเท่าไร ผมก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่

– ฉันสร้างมันขึ้นมาเอง แต่จอมเวทในโลกนี้ช่วยฉันส่งมันออกไป

ในขณะนั้นจอมเวทก็พูดขึ้นมา

“น่าสนใจมากจริงๆ ฉันไม่คิดว่ามันจะทำงานได้ดีขนาดนี้”

ใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงสัญลักษณ์ของความสุขหรือความภาคภูมิใจ
ออกมาแม้แต่น้อย

“คุณไม่มีความสุขหรือไง”

“มันไม่เหมือนที่ฉันทำมาก ฉันทำไปโดยไม่มีจุดหมาย นายเป็นคนหนึ่งที่สร้างมันขึ้นมาอย่างไร้สาระ ฉันไม่เห็นนายทำการคำนวณใดๆ ฉันไม่เห็นด้วยซ้ำว่านายทำอะไรเพื่อคําภีร์”

“…อืม.”

ผมเกาที่หลังคอ ผมไม่ได้พูดอะไรมาก นั่นเป็นเพียงความอัปยศเท่านั้น ผู้เขียนร่วมกล่าวว่ามันเป็นสิทธิพิเศษของผู้สร้าง…แม้ว่าผมจะเรียก
ตัวเองว่าผู้สร้างไม่ได้ในตอนนี้

“อย่างไรก็ตามนายช่วยพิสูจน์สิ่งที่ฉันไม่แน่ใจ การเดินทางข้ามมิตินั้นเป็นไปได้ ฉันสามารถข้ามมิติและไปสู่โลกอื่นได้….”

ในขณะที่ชิมูรินกำลังบ่นอยู่ผมรู้สึกว่ามีกลุ่มคนหนึ่งกำลังเข้ามาหา
พวกเรา ผมหันหน้าไปในทิศทางนั้น

“ฮะ?”

เรเชล,ยุนซึงอา,แชนายอน,อียอนฮาน…ผู้คนที่ผมคุ้นเคยเคยใช้อาวุธ
ไล่ผี ผมรีบสวมหมวกและหน้ากากของดอกบัวดำอย่างรวดเร็วจากนั้นก็หยิบธนูออกมา

“…ระวังเจน พวกนั้นกำลังมา”

“หืม ฉันควรจะเปลี่ยนเป็นใคร…?”

เจนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็น ชอคจุนกยอง เธอเกร็งกล้ามเนื้อน้อยๆของเธอและมองมาที่ผม

“มันเป็นยังไงบ้าง ~”

เจนยิ้มอย่างหวานๆด้วยใบหน้าของ ชอคจุนกยอง ผมรั้งตัวเองไม่ให้อ้วกออกมา

“อย่าพูดและอย่ายิ้มอย่างนั้น…มันทุเรศ”

“อ่า แน่นอน ~ แน่นอน ~”

แชนายอน และคนอื่น ๆ มาถึงหลังจากนั้นเล็กน้อย พวกเขาหยุดเดินเมื่อพวกเขาเห็นเรา

“…พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?”

ยุนซึงอาเป็นคนแรกที่พูด ข้างหลังเธอเรเชลและแชนายอนมองดู
พวกเราอย่างสงสัย แล้วเจนก็ยิ้มอย่างหยิ่งๆ

“ไม่มีอะไรมาก. พวกเธอกำลังพยายามเข้าปราสาทนี้ด้วยงั้นเหรอไม่?”

“เฮ้ย หมูป่าอ้วน ใครคือคนที่อยู่ข้างๆคุณ”

แชนายอน ถามขณะที่เธอจ้องมองมาที่ผม เจนยักไหล่เหมือนคำตอบนั้นชัดเจน

“ก็ ดอกบัวดำไงมองไม่เห็นเหรอ?”

ผมคว้าคันธนูขึ้นมาเพื่อยืนยันตัวตนของผม แต่ทันใดนั้นทุกคนก็หยิบอาวุธขึ้นมาทันที

“ทำไมคุณยกคันธนู? วางมันลง!”

“คุณอยากต่อสู้งั้นเหรอ”

เสียงที่ไม่เป็นมิตรของยุนซึงอาดังขึ้นและพลังธาตุของเรเชลก็ลอยไปมาในอากาศ ผมรู้สึกอยากจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผม แต่ผมบังคับตัวเองเอาไว้ จนกระทั่งผมใจเย็น ผมต้องเป็นดอกบัวดำต่อไป

ผมพูดออกมา “คุณสามารถเข้าไปข้างในได้เพื่อนของคุณอยู่ข้างใน พวกเราไม่มีความปรารถนาที่จะขัดขวางพวกคุณ”

หน้ากากของผมเปลี่ยนเสียงของผม ผมสร้างอีกหนึ่ง [Messenger] ด้วยการตั้งค่าแบบแทรกแซงและโยนมันให้กับ ยุนซึงอา กระดาษพุ่งไปเร็วกว่ากระสุน แต่ยุนซึงอาก็จับอย่างง่ายดายด้วยนิ้วของเธอ

“นี่อะไรน่ะ?”

“มันจะให้คุณติดต่อฉันได้ง่ายๆ ติดตัวมันไปกับคุณ ฉันจะปกป้องคุณและคิมซูโฮจากที่นี่”

“…ปกป้อง?”

ยุนซึงอา ขมวดคิ้ว ผมพยักหน้า

“คุณคาดหวังให้พวกเราเชื่อคุณได้ยังไง”

“คุณไม่จำเป็นต้องทำถ้าคุณไม่ต้องการ คุณจะรู้เมื่อคุณเข้าไป”

“… .”

ยุนซึงอาจ้องมองไปที่กระดาษอย่างสงสัย ในขณะเดียวกันผมมองไปที่
ชิมูริน ชิมูริน ยิ้มเยาะและเสกคาถาทันที ตามที่คาดหวังจากจอมเวท
ผู้ยิ่งใหญ่แสงไฟปะทุขึ้นและพวกเราก็หายตัวไปไกล

“สมบูรณ์แบบ”

“สมบูรณ์แบบ? ฉันล่าช้าจากการร่ายคาถาไปนานมากเพราะอยากดูสถานการณ์สนุกๆ”

“ก็ไม่เป็นไรเพราะเราส่ง Messenger ให้พวกเขาแล้ว”

ตราบใดที่ผมสามารถติดต่อพวกเขาได้ผมก็จะปกป้องพวกเขาได้
ผมหยิบ [กุญแจลึกลับ] และ [ลูกศรแห่งอเธน่า] ออกมา ตอนนี้ถึงเวลาทำงานของผมแล้ว

“มาดูกัน….”

วิธีที่จะทำลายปราสาทของบาอัล ผมไม่รู้ว่า จินซาฮยอค รู้เรื่องนี้หรือไม่ แต่ผมมีวิธีหนึ่งในการทำให้สำเร็จ

[คุณต้องการหลอมรวม [กุญแจลึกลับ]และ[ลูกศรแห่งอเธน่า] หรือไม่?]
[คำเตือน โอกาสประสบความสำเร็จต่ำมากกว่าดาวตกจากฟ้า]

ด้วยการใช้ทักษะการสังเคราะห์Lv.10 ของผมและพลังเวทย์ของรอยสักผมสามารถหลอม [กุญแจลึกลับ] และ [ลูกศรแห่งอเธน่า] ลูกศรที่ได้จะเป็นศรที่สามารถแยกโลกได้เป็นชิ้นๆ

[การสังเคราะห์ล้มเหลว]
[[กุญแจลึกลับ] และ [ลูกศรแห่งอเธน่า]]

“…หาาาาาาา?”

เพล๊ง
เสียงแหลมที่ทรงพลังดังขึ้ง [กุญแจลึกลับ] และ [ลูกศรแห่งอเธน่า] ถูกหักครึ่งหนึ่งและก็กลายเป็นฝุ่นไป

“… .”

ผมกระพริบตาซ้ำๆและมองดูสิ่งที่เหลืออยู่ เหมือนปลาคาร์พที่ติดอยู่ในบ่อน้ำแข็ง ผมได้แต่จ้องมองไปที่ซากศพ

“ไม่จริง…บ้าน่า?”

เสียงพึมพำดังออกมาจากปากของผม

“เห้ย เกิดอะไรขึ้นกับไอเท็มของฉัน!”

ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทำให้ผมระวังตัว อาการจิตแปรปรวนกำลังมาหาผม รู้สึกเหมือนผมกำลังฝันผมรวบรวมเศษชิ้นส่วนที่แตกหักและใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องจากนั้นผมใช้การสังเคราะห์อีกครั้ง

[การสังเคราะห์ล้มเหลว]

…ไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น

ขาของผมล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง