“จินเหยียว..นี่เจ้าเรียกข้าว่าจินเหยียวงั้นรึ!”
จินเหยียวไม่สนใจเสียงร้องเรียกของเย่ซิงเฉินและดวงตาของนางก็จับจ้องอยู่เพียงแค่ใบหน้าของหลิงเสี่ยวเท่านั้น
“เหตุใดข้าจึงรู้สึกราวกับเคยพบเจ้ามาก่อน..เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร บอกข้าที.. หลิงหยุนคือใครกัน? และใครคือหยิงชิงเฉวียน? เหตุใดข้าจึงรู้สึกคุ้นเคยกับสองชื่อนี้นัก?”
“โอ๊ย..ข้าปวดหัว! เหตุใดข้าจึงคิดอะไรไม่ออก”
จินเหยียวยกมือขวาขึ้นกุมศรีษะไว้พร้อมกับขมวดคิ้วทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น และดูเหมือนนางกำลังพยายามที่จะนึกให้ออก แต่เพราะนางจำอะไรไม่ได้เลย ยิ่งคิดนางจึงยิ่งปวดศรีษะ แววตาของจินเหยียวนั้นบ่งบอกว่านางกำลังเจ็บปวดอย่างมาก!
หลิงหยุนสังเกตเห็นว่า..มือข้างขวาของจินเหยียวที่ยกขึ้นกุมขมับนั้น เป็นสีเขียวคล้ำน่าเกลียดราวกับซากศพ!
เมื่อได้ยินหลิงเสี่ยวบอกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นก็คือจินเหยียว..เลือดในกายของหลิงหยุนก็ถึงกับเดือดพล่าน และพ่อของเขาก็ไม่ได้จำผิดแน่!
เมื่อได้เห็นจินเหยียวผู้ที่ใช้ชีวิตตัวเองปกป้องเขาจนต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หลิงหยุนก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างที่สุด และเวลานี้เพลิงโทสะในใจของหลิงหยุนก็ได้เผาลนจิตใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
“จินเหยียว..เจ้าคือจินเหยียวไงล่ะ!”
หลิงเสี่ยวที่ตื่นเต้นดีใจมากยิ่งกว่ารีบพุ่งเข้าไปหาจินเหยียวทันที แต่เมื่อเห็นดวงตาที่ดุร้ายไม่เป็นมิตรของนาง เขาก็ถึงกับหยุดชะงักทันที!
หลังจากที่หลิงเสี่ยวได้พยายามบอกกับนางว่านางคือจินเหยียวแล้วตัวเขาเองก็ได้พยายามสงบจิตสงบใจ พร้อมกับระงับความตื่นเต้นดีใจ และความรู้สึกเจ็บปวดใจเอาไว้.. “น้องจินเหยียว..นี่เจ้าจำไม่ได้แม้กระทั่งข้างั้นรึ ข้าก็คือหลิงเสี่ยว.. ท่านพี่หลิงของเจ้ายังไงเล่า!”
“หยิงชิงเฉวียนก็คือนายหญิงของเจ้าเจ้ากับนางเติบโตมาด้วยกัน และรักใคร่กันดั่งพี่น้อง แล้วนางก็เป็นผู้ที่สั่งให้เจ้านำหลิงหยุนออกมาจากพรรคมารยังไงล่ะ!”
“จินเหยียว..เจ้าดูสิ! เจ้าถามว่าหลิงหยุนเป็นใครไม่ใช่รึ หลิงหยุนอยู่ตรงนี้แล้ว เขาก็เป็นลูกชายของหยิงชิงเฉวียนที่เติบโตมาด้วยกันกับเจ้ายังไงเล่า? และตอนนี้เขาก็โตเป็นหนุ่มแล้ว!”
หลิงเสี่ยวพูดพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางหลิงหยุนแทนและด้วยเกรงว่าจินเหยียวจะไม่เชื่อ เขาจึงรีบพูดต่อว่า..
“น้องจินเหยียว..เจ้าจำได้หรือไม่ ครั้งนั้นเจ้านำลูกหยุนแอบหนีออกมาจากพรรคมาร แต่ได้ถูกซือกงถูไล่ล่า และเพื่อต้องการปกป้องหลิงหยุน เจ้าก็ไม่ลังเลที่จะใช้ปราณปีศาจระเบิดร่างตัวเอง และลากซือกงถูตกลงไปที่หน้าผาด้วยกันกับเจ้า จนกระทั่งเจ้ากลายมาเป็นอย่างเช่นทุกวันนี้!” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้..หลิงเสี่ยวก็ยกมือขึ้นชี้ไปทางซือกงถูที่มีไอสีดำพวยพุ่งปกคลุมร่างกายอยู่ตลอดเวลา!
“หลิงหยุน.. ซือกงถู..”
จินเหยียวมองตามนิ้วของหลิงเสี่ยวไปอย่างช้าๆนางหยุดมองหน้าหลิงหยุนครู่หนึ่ง แล้วจึงไปหยุดอยูที่ใบหน้าของซือกงถู
“ซือกงถู..มันชื่อซือกงถูงั้นรึ ข้าลืมชื่อของมันไปนานมากแล้ว แต่จิตใต้สำนึกของข้าบอกอยู่เสมอว่าข้าต้องฆ่ามันผู้นี้ให้ได้! มันคือคนถ่อยชั่วช้า.. ข้าจึงเฝ้าตามไล่ล่ามันอยู่ตลอดเวลา..”
“แต่ข้าก็ไม่เคยเอาชนะมันได้เลย..”
จินเหยียวเอาแต่พึมพำกับตัวเองดวงตาของนางนั้นเหม่อลอยราวกับคนไร้จิตวิญญาณ..
หลิงหยุนได้เห็นก็รู้สึกสะท้อนใจยิ่งนัก..เขาเข้าใจดีว่าเหตุใดจิตใต้สำนึกของจินเหยียวจึงต้องการสังหารซือกงถูให้ได้ นั่นเพราะในระหว่างที่ตกลงสู่หน้าผานั้น นางคิดเพียงแค่ว่าหากซือกงถูไม่ตาย นางจะต้องตามหา และฆ่าซือกงถูให้ได้! ด้วยเหตุนี้..แม้ว่าจะสูญเสียความทรงจำ และเสียสติไปแล้ว จิตใต้สำนึกของจินเหยียวจึงฝังใจว่าต้องตามหาคนผู้นี้ และฆ่ามันให้ได้!
จินเหยียวทำทุกอย่างก็เพื่อให้สำเร็จตามคำสั่งของหยิงชิงเฉวียนและเพื่อต้องการปกป้องหลิงหยุน!
จินเหยียวได้ใช้ชีวิตของตนเองแลกชีวิตของหลิงหยุนมา!
แต่แล้วจู่ๆจินเหยียวก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมศรีษะไว้ด้วยความเจ็บปวด
“แต่..แต่ข้าจำอะไรไม่ได้เลย!”
“โอ๊ย..ข้าปวดศรีษะยิ่งนัก!”
หลิงหยุนตัดสินใจก้าวไปยืนขวางระหว่างทั้งสองฝ่ายไว้และไม่ว่าศัตรูจะจู่โจมมาทางใด หลิงหยุนก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถปกป้องได้ทั้งหลิงเสี่ยว และจินเหยียว..
จากนั้นหลิงหยุนจึงหันไปพูดกับจินเหยียวอย่างอ่อนโยน“ท่านป้าจินเหยียว.. ท่านอย่าได้หวาดกลัวไป มีข้าอยู่ที่นี่ด้วย จะไม่มีใครหน้าใหนที่จะทำร้ายท่านได้!”
หลิงหยุนไม่เร่งรัดจินเหยียว..เขารู้ว่านางเสียสติ และไม่สามารถจดจำเรื่องราวในอดีตได้ เขาจึงพูดให้นางรู้สึกเชื่อมั่น และไว้ใจตนเองก่อน
จินเหยียวมองร่างของหลิงหยุนที่พุ่งออกมาด้วยความหวาดระแวงนางเห็นเช่นนั้นจึงรีบกระโดดถอยหนีทันที แต่หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหลิงหยุน นางก็หยุดชะงัก!
ระหว่างนั้น..หลิงหยุนก็พูดกับจินเหยียวต่อทันที “ท่านป้าจินเหยียว.. ท่านอย่าเพิ่งครุ่นคิดอะไรในตอนนี้เลย! เวลานี้ท่านเพียงแค่ป่วยเท่านั้น ได้โปรดเชื่อข้า.. ข้าสามารถรักษาอาการป่วยของท่านได้! ตอนนี้ขอให้ท่านหยุดคิดเรื่องอื่นๆก่อน..”
แววตาของจินเหยียวยังคงเหม่อลอยในขณะที่ถามหลิงหยุนกลับไปว่า“เจ้าบอกว่าข้าป่วยงันรึ”
หลิงหยุนพยายามที่จะผูกสัมพันธไมตรีกับจินเหยียวเขาจึงเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้า.. “เจ้ารักษาข้าให้หายได้จริงๆงั้นรึ”
หลิงหยุนพยักหน้าอีกครั้งและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “ท่านป้าจินเหยียว.. ได้โปรดไว้ใจข้า.. ข้าสามารถรักษาท่านให้หายได้อย่างแน่นอน!”
และหลิงหยุนก็ไม่ได้พูดโกหกเลยแม้แต่น้อย..เมื่อครั้งที่เปิดคลินิกสามัญชนนั้น เขาก็เคยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตมานานหลายปีจนหายเป็นปกติ เวลานี้เขาอยู่ในขั้นปฐมชี่แล้ว การรักษาจินเหยียวจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก!
เพียงแต่เวลานี้ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งและมีฝีมือล้ำเลิศ กองกำลังของหลิงหยุนที่จะมาสมทบก็ยังมาไม่ถึง เขาจึงไม่สามารถทำการรักษาจินเหยียวให้หายขาดในคราวเดียวได้ แต่อย่างน้อยหากสามารถทำให้นางฟื้นคืนสติได้ชั่วครู่ก็ยังดี..
“ท่านป้าจินเหยียว..ท่านดูข้าให้ดี!”
หลิงหยุนร้องบอกจินเหยียวพร้อมกับเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมาจากนั้นจึงใช้คมกระบี่กรีดที่ข้อมือของตนเองอย่างรวดเร็ว.. เลือดสีแดงไหลออกมา..หลิงหยุนไม่สนใจความเจ็บปวด เขาเรียกยันต์บำบัดระดับหกออกมาปิดไว้ที่บาดแผลต่อหน้าทุกๆคน จากนั้นจึงร้องตะโกนสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์
ยันต์บำบัดระดับหกออกฤทธิ์ทันทีบาดแผลที่ข้อมือของหลิงหยุนหายไปในพริบตา และไม่หลงเหลือแม้แต่ร่องรอยแผลเป็น..
เมื่อซือกงถูกับซือกงวู่ฉิงเห็นเช่นนั้นทั้งคู่ต่างก็ตกอกตกใจอย่างมาก สองพ่อลูกต่างก็หันไปมองหน้ากัน และในที่สุดทั้งคู่จึงเข้าใจแล้วว่า เหตุใดหลิงเสี่ยวจึงกลับฟื้นคืนสภาพได้อย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้!
ฉายาหมออมตะของหลิงหยุนนั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลืออีกเช่นกัน!
“ท่านป้าจินเหยียว..ท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าข้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับยกข้อมือที่ไร้บาดแผลอวดจินเหยียวเพื่อที่จะทำให้นางมั่นใจ และเชื่อใจในตัวเขามากขึ้น “จริงด้วย..เจ้ารักษาได้จริงๆด้วย! ข้าจะเชื่อฟังเจ้า!”
และในที่สุด..จินเหยียวก็เป็นฝ่ายกระโดดเข้าไปหาหลิงหยุนด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจ!
“หึ..ข้าไม่ปล่อยให้เจ้ารักษาหญิงบ้าผู้นี้แน่!”
ซือกงถูได้เห็นทักษะทางการแพทย์ของหลิงหยุนและเมื่อเห็นว่าเขาจะทำการรักษาให้กับจินเหยียว จึงรีบพุ่งร่างที่มีไอดำปกคลุมเข้าขัดขวางทันที
ซือกงถูกระโดดเข้าไปใกล้หลิงหยุนพร้อมกับซัดฝ่ามือปีศาจที่เกิดจากการใช้พลังเหนือธรรมชาติเข้าใส่ทันที พลังปราณสีดำรูปฝ่ามือนั้นได้เปลี่ยนเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ และพุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว..
“เงาธนู..จัดการกับมัน!”
หลิงหยุนอ้าปาก..และกระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งออกจากปากของหลิงหยุน และขยายใหญ่ขึ้นก่อนจะพุ่งเข้าจู่โจมฝ่ามือสีดำนั้นทันที! ไอลีนโนเวล
ปัง! ภายใต้การควบคุมด้วยพลังจิตของหลิงหยุน..กระบี่เหินเงาธนูพุ่งเข้าตัดฝ่ามือสีดำนั้นขาดออกเป็นสี่ท่อน ก่อนจะพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของซือกงถูอย่างรวดเร็ว!
หลิงหยุนไม่จำเป็นต้องปกปิดสองพ่อลูกเรื่องกระบี่เหินเพราะเขาเชื่อว่านักฆ่าที่ย้อนกลับมานั้น คงได้บอกเรื่องนี้กับซือกงถูและลูกๆของเขาทั้งสองคนแล้ว!
เมื่อเห็นว่ากระบี่เหินของหลิงหยุนได้ทำลายฝ่ามือปราณปีศาจได้แล้วและกำลังพุ่งตรงมาหาตนเอง ซือกงถูก็ไม่กล้ารับมือ และรีบกระโดดถอยหลังหลบทันที!
แววตาของซือกงถูที่จ้องมองหลิงหยุนนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ!
หลิงหยุนเพียงแค่ต้องการให้ซือกงถูถอยห่างออกไปเท่านั้นและต้องการให้เขาหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายอีก ไม่ได้เพื่อไล่ล่าเอาชนะ หลังจากที่ซือกงถูยอมถอย หลิงหยุนจึงเรียกกระบี่เหินกลับมา แล้วจึงหันไปพูดกับจินเหยียวต่อ.. “ท่านป้าจินเหยียว..ซือกงถูเป็นศัตรูของพวกเรา! เมื่อข้ารักษาท่านให้หายแล้ว พวกเราจึงค่อยร่วมมือกันฆ่ามันอีกที เช่นนี้ดีหรือไม่”
ทางด้านหลิงเสี่ยวและเย่ซิงเฉินนั้น ก็ได้แต่นิ่งเงียบ และกำลังลุ้นระทึกจนเหงื่อตก..
“ดีๆ”
จินเหยียวเห็นหลิงหยุนเล่นงานซือกงถูเมื่อครู่ในที่สุดจึงยอมเชื่อว่าหลิงหยุนนั้นอยู่ฝ่ายเดียวกับตนเอง!
“ท่านป้าจินเหยียว..ท่านถือศิลาก้อนนี้ไว้ในมือก่อน!”
หลิงหยุนได้โอกาสจึงรีบเรียกศิลากลั่นวิญญาณออกมาจากแหวนพื้นที่และยัดลงไปบนฝ่ามือของจินเหยียวทันที!
และเมื่อฝ่ามือของจินเหยียวสัมผัสกับศิลากลั่นวิญญาณดวงตาเหม่อลอยของนางก็เปลี่ยนเป็นตกใจ..
นอกเหนือจากศิลากลั่นวิญญาณแล้วด้วยจิตหยั่งรู้อันทรงพลังในขั้นพลังชี่ของหลิงหยุนเขาจึงสามารถทำให้จินเหยียวมีสติกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว
ระหว่างนั้นหลิงหยุนก็เรียกยันต์ชำระใจระดับหกออกมาและจัดการแปะไว้ที่กลางหน้าผากของจินเหยียว และร้องสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์ทันที
“ท่านป้าจินเหยียว..ท่านไม่ต้องหวาดกลัวไป เชื่อข้า.. ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี!”
ทันทีที่หลิงหยุนร้องสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์ยันต์ชำระใจก็หายเข้าไปกลางหน้าผากของจินเหยียว และได้เปลี่ยนเป็นพลังชีวิตพุ่งตรงเข้าตรงจุดหว่างคิ้วของจินเหยีวทันที!
จากนั้นหลิงหยุนก็ลุกขึ้นยืนเพื่อป้องกันซือกงถูที่จ้องที่จะจู่โจมเข้ามาตลอดเวลาสายตาของมันจับจ้องอยู่ที่ร่างของจินเหยียวเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง..
ยันต์ชำระใจที่หายเข้าไปกลางหว่างคิ้วนั้นได้เริ่มออกฤทธิ์ทันทีดวงตาของจินเหยียวค่อยๆ เปลี่ยนจากเหม่อลอยมาเป็นคนปกติมาขึ้น และเวลานี้แววตาของจินเหยียวก็เริ่มกระจ่างใส.. หลิงเสี่ยวเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งออกจากการปกป้องของมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดและตรงเข้าไปหาาจินเหยียวทันที!
“ห๊ะ!ท่านพี่หลิง!”
จินเหยียวจ้องมองหลิงเสี่ยวพร้อมกับร้องเรียกออกมาจิตใจของนางกลับมามีสติ และสามารถจดจำหลิงเสี่ยวได้ในทันที!
“จินเหยียว..เจ้าคงทุกข์ทรมานมาก!”
ร่างของหลิงเสี่ยวสั่นสะท้านดวงตาพยัคฆ์คู่นั้นเอ่อไปด้วยน้ำตา เขาเดินตรงเข้าไปหาจินเหยียว และค่อยๆยื่นมือที่ั่สั่นเทิ้มนั้นไปจับไหล่ที่บอบบางของจินเหยียววไว้..
“ท่านพี่หลิง..ท่านคือท่านพี่หลิงจริงๆ!”
แววตาของจินเหยียวเริ่มกระจ่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายใต้การทำงานของศิลากลั่นวิญญาณควบคู่ไปกับยันต์ชำระใจ ในที่สุดนางก็จดจำหลิงเสี่ยวได้!
“จินเหยียว..ใช่แล้วข้าเองหลิงเสี่ยว! ท่านพี่หลิงที่ไม่เอาใหนของเจ้ายังไงล่ะ!” หลิงเสี่ยวพึมพำออกมา..
จากนั้น..ร่างของจินเหยียวก็สั่นเทิ้ม น้ำตาไหลพร่างพรูออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง และโผเข้าหาอ้อมแขนของหลิงเสี่ยวทันที!