บทที่ 329
เผื่อเผชิญหน้ากับคำสารภาพของต่งรั่งหลิน เย่เฉินก็พูดอย่างเฉยเมยกลับไปว่า “ไปพบคนเลวพอดิบพอดีน่ะ ก็แค่จัดการให้เป็นระเบียบ เธออย่าเก็บไปคิดเลย”
ต่งรั่งหลินกล่าวอย่างจริงจังว่า “ถ้าอย่างนั้นก็รู้สึกขอบคุณนายเป็นมากๆเลย!”
ท้ายสุด ต่งรั่งหลินก็เขยิบไปนั่งข้างเย่เฉิน ยื่นมือออกมากอดแขนของเย่เฉินไว้ในอ้อมแขนของเธอ
ทั้งสองสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น แขนของเย่เฉินก็สัมผัสได้ถึงผิวอันเนียนนุ่มในทันที
ร่างกายของเย่เฉินรู้สึกตึงเครียดทันที รีบพูดออกไปว่า “รั่งหลิน อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวชูหรันเห็นเข้า”
ต่งรั่งหลินยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “งั้นถ้าชูหรันไม่เห็น ก็แปลว่าทำได้งั้นสิ?”
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น……” เย่เฉินกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
ต่งรั่งหลินกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับพูดว่า “ก็ฉันอยากกอด ถ้าชูหรันเห็นก็จะดีมาก จากนั้นพวกนายก็จะหย่ากัน แบบนี้นายก็จะได้มาคบกับฉันได้ไง”
เย่เฉินถามอย่างชอบธรรมว่า “เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?เธอเป็นเพื่อนสนิทของชูหรันนะ!”
ต่งรั่งหลินก็ตอบอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ว่าคุณกับชูหรันไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรัก แต่แต่งเพราะปู่ของหล่อนให้ทำ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอยอมแต่งงานกับคุณและฉันก็รู้ด้วยว่าพวกคุณสองคนไม่ได้มีอะไรคืบหน้าทั้งนั้น ไม่มีความสัมพันธ์เชิงสามีภรรยากัน!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ต่งรั่งหลินก็อดพูดด้วยอารมณ์ไม่ได้ว่า “ไหนๆพวกคุณก็ไม่มีมีอะไรที่เป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้ว ทำไมถึงยังยื้ออีกฝ่ายอยู่ได้?รีบๆหย่าแล้วไปตามหารักแท้ของตัวเองกันได้แล้ว มันไม่ดีกว่าเหรอ?มันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาใครทั้งนั้น!”
เย่เฉินโบกมือไปมา “ความรู้สึกที่ฉันมีต่อชูหรัน เธอไม่เข้าใจหรอก”
ต่งรั่งหลินถาม “งั้นความรู้สึกที่ฉันมีให้คุณล่ะ คุณเข้าใจไหม?”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันเข้าใจ แต่ฉันตอบรับเธอไม่ได้ ขอโทษ”
“ทำไมกันล่ะ?!”ต่งรั่งหลินพูดอย่างน้อยใจว่า “ทำไมคุณถึงยอมแต่งทั้งๆที่ไม่มีความจริงอะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังไม่เต็มใจที่จะปล่อยการแต่งงานนี้ไป แล้วไปตามหารักแท้ล่ะ?”
เย่เฉินกระซิบว่า “ครั้งที่แล้วฉันก็พูดชัดเจนกับเธอแล้วนะ เราสองคนไม่เหมาะสมกัน ถึงแม้ว่าฉันกับชูหรันจะหย่ากัน พวกเราก็คบกันไม่ได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่มีทางหย่ากับชูหรันแน่นอน เธออย่ามาเสียเวลากับฉันเลยมันไม่มีความหมายอะไรหรอก”
ต่งรั่งหลินตะคอกกลับมาว่า “เสียเวลาฉันก็เต็มใจ เพราะฉันชอบคุณ!”
เย่เฉินพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “เธอนี่มันโง่จริงๆ แทนที่จะมาเสียเวลากับฉัน ไปคบหากับผู้ชายที่ยังไม่แต่งงานที่ยังไม่มีแฟนไม่ดีกว่าเหรอ”
ดวงตากลมโตของต่งรั่งหลินนั้นมีน้ำปกคลุมอยู่ เธอสำลักน้ำลายแล้วพูดว่า “เย่เฉิน ทั้งหัวใจของฉันมีแต่คุณ ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณช่วยฉันไว้ ฉันก็ตกหลุมรักคุณเข้าให้แล้ว หลังจากผ่านหลายสิ่งอย่างมาจนถึงตอนนี้ ฉันก็เริ่มรักคุณมากขึ้นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว….”
ขณะที่พูดใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อ พูดอย่างจริงจังว่า “เมื่อคืนฉันฝันถึงคุณด้วย…..”
“ฝันถึงฉันเหรอ?” เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ “ฝันว่าอะไรงั้นเหรอ?”
ต่งรั่งหลินกล่าวว่า “ฉันฝันว่านายกับฉันกลับไปตระกูลต่ง พวกเราแต่งงานกัน จากนั้น…..”
“จากนั้นอะไร?” เย่เฉินถาม
ต่งรั่งหลินหน้าแดงและพูดพึมพำว่า “จากนั้นฉันก็มีลูกชายตัวอ้วนน่ารัก…..”
เย่เฉินเม้มปาก และกล่าวว่า “ความฝันนั้นตรงข้ามกันกับความจริง…”
ต่งรั่งหลินกล่าวในทันทีว่า “หรือจะมีลูกสาวก็ได้นะ ฉันก็ชอบเหมือนกัน”
เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของต่งรั่งหลิน เย่เฉินปวดหัวเสียจริง
เย่เฉินจึงต้องตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “รั่งหลิน พวกเราเป็นแบบนั้นไม่ได้จริงๆ…..เธอไม่เคยเข้าใจฉันเลย…..”
ดวงตาของต่งรั่งหลินนั้นดูขุ่นมัวเล็กน้อยและพูดว่า “เข้าใจก็ค่อยๆเข้าใจก็ได้ ถึงแม้ว่าคุณกับชูหรันจะไม่หย่ากันก็ไม่เป็นไร ฉันจะแอบรักคุณต่อไป แอบรักคุณไปตลอดชีวิตของฉัน ฉันเต็มใจ…”